RC:บทที่ 69 ไก่แสนอร่อย
หลินเฟิงจ้องยังทีวีอย่างไม่วางตา ไม่สามารถละสายได้ลงได้เป็นเวลานาน
"เหมือนว่าโลกของเราไม่ง่ายอย่างที่คิด" หลินเฟิงควรจะรู้เมื่อเขาได้ต่อสู้กับลั่ว จิวชาน
ซึ่งในเวลานั้น หลินเฟิงใช้หมัดเพลิงซึ่งทรงพลังมากจนทำให้ลั่ว จิวชานได้รับบาดเจ็บสาหัส
แต่หลินเฟิงมักจะคิดว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาทั่วไปเสมอ
เมื่อเวลาผ่านไป หลินเฟิงพบว่าความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับสังคมและโลกนั้นกว้างขึ้นและยิ่งกว้างขึ้น และหลายสิ่งหลายอย่างก็ได้ล้มล้างความคิดเดิมๆ ของเขาก่อนหน้านี้ได้
"ลืมมันเสียเถอะ สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่ต้องคิดถึงมันเลยในตอนนี้ เราต้องก้าวไปตามทางของเราทีละขั้นๆ" หลินเฟิงบอกตัวเองในใจ
หลังจากปิดทีวี หลินเฟิงก็หรี่ตานอนลงบนเตียงชั่วครู่
ประมาณชั่วโมงหนึ่งต่อมา หลินเฟิงที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ก็ได้กลิ่นหอม ที่หอมหวานมากจนยากจะลืมเลือน เขาไม่เคยได้กลิ่นอาหารเช่นนี้มาก่อนเลย
หลินเฟิงรีบวิ่งเข้าไปยังครัวทันที เมื่อไปถึง ก็พบคน 2 คนยืนอยู่ คือ ลูกพี่ลูกน้องเขาและพ่อของเขา
"อ๊ะ ศรีภรรยาฉัน ตอนนี้ฝีมือช่างก้าวหน้า อาหารอร่อยเหาะทุกจานหรือเปล่าเนี่ย?" เขาเห็นคุณพ่อหลินยืนน้ำลายสอ
“โอ้ วันนี้พวกคุณทั้ง 3 เป็นอะไรไปเนี่ย ดูยังกะแมวตะกระแหน่ะ แม้ว่าวันนี้ไก่อร่อยจริงๆ แต่ก็ไม่ได้มากขนาดนั้น! ยังกับไม่เคยกินไก่กันมาก่อน”
"นี่ เมียจ๋า อย่าบอกนะว่ามันยังไม่สุก เอามาเร็ว ๆ ฉันหิว!"
พ่อหลินรอไม่ไหวที่จะใช้ชาม
"เอ้า มาแล้ว มาแล้ว ดูหมีสามตัวนี่สิ!"
เมื่อไก่มาถึง ทั้งสามคนก็อดใจไม่ไหว สวาปามไก่ลงคอ ไม่สนใจใครทั้งนั้น เมื่อมองไปยังทั้งสามคน แม่ของหลินเฟิงก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ แล้วก็ก้มกินไก่ด้วยเธอเอง
“ เอ๊ะ? ไก่ตัวนี้อร่อยจัง! มันนุ่มและไม่มันเลย!”
ในเวลานี้ แม่ของหลินเฟิงรู้เลยว่า ทำไมทั้งสามคนถึงหมกมุ่นอยู่กับการกิน เพราะในชั่วพริบตา ไก่ครึ่งหนึ่งก็ถูกกินไปแล้ว
ชั่วพริบตา มีเพียงพริกไทยและซุปที่เหลืออยู่ในหม้อ หลินเฟิงและลูกพี่ลูกน้องของเขาเอื้อมมือไปหยิบหัวไก่พร้อมกัน แต่ลูกพี่ลูกน้องของเขาไวกว่า สามารถฉกหัวไก่มาไว้ในชามตนเองและกินมันเข้าไป
"ป๊าดเข้าให้!" หลินเฟิงตบหัวลูกพี่ลูกน้องของเขา
"ไอ้ตัวเหม็น ปกติงานก็ทำน้อย ยังจะกินเยอะอีก!"
เมื่อไม่สามารถคว้าหัวไก่ตัวสุดท้ายได้จากลูกพี่ลูกน้อง หลินเฟิงจึงตดใส่ลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งทำให้พ่อกับแม่ของเขาขำขึ้นมาทันที
“เมียจ๋า ทำไมไม่ทำมากกว่านี้ง่ะ เธอจะได้กินได้มากๆ!” พ่อถามขึ้น
"ยังไม่พอเหรอคะ? ฉันทำไก่ไปตั้งครึ่งตัวแล้ว และในหม้อใหญ่ฉันก็กินไม่มาก พวกคุณทั้ง 3 แหละที่กินมันหมด! แต่ถ้าพ่อจะเอาอย่างงั้น รอพรุ่งนี้ละกันนะ!"
แม่ฉันทำไก่เพียงครึ่งตัว แม้จะครึ่งตัวก็ยังมากกว่า 3 จิน ฉันไม่คิดว่ามันจะหมดในพริบตาโดยคน 3 คน
หลังจากชิมไก่ฝีมือแม่ หลินเฟิงรู้สึกแปลกใจมาก มันมีรสชาติที่อร่อยกว่าไก่พื้นเมืองมาก เนื้อมันนุ่ม มัน แต่ไม่เลี่ยน มีรสหวานอร่อย ไก่พื้นเมืองดั้งเดิมสู้ไม่ได้เลย
“มันแค่เป็นไก่ตัวใหญ่ที่ได้กลายพันธุ์มาเป็นไก่สายพันธ์ใหม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ จะเอาไก่สองสามตัวไปที่ตลาด ดูซิว่าจะหาที่ดีๆ ขายมันได้ไหม!” หลินเฟิงครุ่นคิดในใจ
“เออ แต่ไงก็ตาม บอสเติ้งน่าจะรู้จักคนเยอะในเมือง สงสัยจังว่าจะขอให้เขาช่วยหาที่ขายไก่ให้ได้ไหม!”
หลินเฟิงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทันทีเพื่อโทรหาบอสเติ้ง
"ฮัลโหล ใครพูดน่ะ!"
โทรศัพท์หลินเฟิงโทรเข้ามา ดังแค่ 2 กรี๊ง อีกฝ่ายก็รับสาย
"พี่เติ้ง นี่ผมเองเสี่ยวเฟิง!"
"โอ้ เสี่ยวเฟิงเหรอ มีอะไรให้ช่วยหรือ?"
“พี่เติ้ง คืองี้นะ ผมมีไก่ฟ้าพันธุ์ใหม่ ผมอยากหาที่ที่จะขายพวกมันน่ะครับ ผมคิดว่าพี่น่าจะรู้จักคนมากกว่าผม พี่ช่วยผมหาที่ขายไก่ให้ผมได้ไหม! "
บอสเติ้งยังเป็นเจ้าของร้านขายผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ร้านก็มีอยู่หลายสาขา บอสเติ้งย่อมรู้จักคนเยอะกว่าหลินเฟิง
หลินเฟิงนั้น เกิดในครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่ของเขาเป็นเกษตรกร แม่ของเขาไม่ได้เรียนหนังสือ พ่อก็เรียนไม่จบชั้นประถม ญาติก็ไม่ใช่คนร่ำรวย ดังนั้นหลินเฟิงจึงต้องขอความช่วยเหลือจากบอสเติ้ง
ถ้าบอสเติ้งไม่รู้จักเขา เขาก็แค่นำไก่ไปขายที่ตลาด!
“ไก่ฟ้าสายพันธุ์ใหม่เหรอ ฉันไม่รู้จักเลย หน้าตามันเป็นยังไง ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้ ราคามันไม่ใช่น้อยๆ นะ!” บอสเติ้งกล่าว
ไก่ฟ้าป่าจริงๆ เนื้อมันนั้นไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังดีต่อสุขภาพด้วย มันจึงเป็นที่ชื่นชอบของคนสูงศักดิ์บางกลุ่ม
มันไม่เหมือนกับไก่ที่เลี้ยงตามฟาร์ม ที่ไก่ตามฟาร์มนั้นไม่เพียงแต่ต้องขุนอาหารให้ เนื้อที่ได้ยังมีคุณภาพไม่ดีด้วย!
"ฉันรู้จักเจ้าของร้านอาหารร้านหนึ่งในเมือง โรงแรมนี้มีระดับนะ คุณสามารถส่งองุ่นมาในวันพรุ่งนี้ และนำไก่สิบตัวมาด้วย ฉันจะให้คุณลองดู แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไก่คุณแล้วล่ะ ว่ามันดีหรือเปล่า!"
"ตกลงครับพี่เติ้ง ขอบคุณครับ!" หลินเฟิงกล่าวอย่างเร่งรีบ
ตราบใดที่มีโอกาส หลินเฟิงเชื่อว่าไก่ของเขาจะทำให้ผู้ที่ได้ลิ้มลองยกนิ้วให้
หลังจากคุยกันเสร็จ หลินเฟิงวางหูอย่างสุขล้น แล้วหลับไปพร้อมกับความคาดหวัง
เช้าวันถัดมา หลินเฟิงและลูกพี่ลูกน้องจื้อเฉิง เลือกองุ่น 200 จินเพื่อส่งให้บอสเติ้ง
ขณะนี้มีต้นองุ่นแปดต้นในหลังบ้าน ซึ่งแต่ละต้นสามารถผลิตองุ่นได้ 200 ถึง 300 จิน
ผลผลิตที่ดีเช่นนี้ช่างน่าพิศวงนักเมื่อเกิดขึ้นในหลังบ้าน
สิ่งที่น่าแปลกใจคือ โดยเฉลี่ยแล้ว องุ่นสามารถให้ผลผลิตได้มากที่สุดปีละหนึ่งหรือสามครั้ง หลินเฟิงรู้สึกว่าองุ่นของเขาให้ผลผลิตเป็นวงจรได้ไม่สิ้นสุด
ถ้าเก็บผลวันนี้ วันมะรืนมันก็จะโตขึ้นอีก มันจึงสามารถเก็บผลผลิตได้ 3 วันครั้ง ช่างให้ผลผลิตที่ดีจริงๆ
ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นขององุ่นของหลิน แม้มันจะให้ผลผลิตที่ดี แต่ก็ยังไม่สามารถสนองความต้องการของตลาดในปัจจุบันได้
คราวนี้ แทนที่จะขี่จักรยาน หลินเฟิงนั่งบนรถสามล้อลูกพี่ลูกน้องจื้อเฉิง เพื่อขนลากไก่ฟ้าสายพันธุ์ใหม่สิบตัวและองุ่นจิน 200 จิน
ไก่เหล่านี้เป็นตัวเต็มวัย แต่ละตัวหางยาว ขันเสียงสูง มีขนที่งดงาม สวยมาก สวยมากกว่าไก่ฟ้าพันธุ์แท้
ไก่แต่ละตัวดูสะอาดสอ้านหมดจด แข็งขันมีชีวิตชีวา และไม่มีสิ่งสกปรกติดอยู่ หลินเฟิงคิดว่ามันดีเกินที่จะใช้เป็นแค่ไก่ประดับ
ในไม่ช้า หลินเฟิง และ จื้อเฉิง ก็มาถึงร้านขายผลไม้ของบอสเติ้ง เมื่อมองจากระยะไกล หลินเฟิงเห็นทางที่ทอดยาวที่คดเคี้ยว
หลินเฟิงคุ้นชินกับวิวนี้ เขาคาดว่าน่าจะมีคนรออยู่อย่างน้อยประมาณ 40 หรือ 50 คนรอหลินเฟิง แต่ตอนนี้มันยังเช้าอยู่ บางคนอาจยังมาไม่ถึง ไม่งั้นคนน่าจะมีมากกว่านี้
"อ้า เซียวเฟิง มาถึงสักที ดูคนพวกนี้สิ เขามารอองุ่นจะเธอทุกเข้าเลยนะ ฉันน่ะ ต้องบอกว่าองุ่นของเธอเลอเลิศจริงๆ! เธอควรขยายการผลิตอย่างไวเลย!"
ทันทีที่บอสเติ้งเห็นหลินเฟิง บอสเติ้งก็กล่าวชื่นชมองุ่นของเขาและเร่งให้เขาขยายผลผลิตให้มากขึ้น
"พี่เติ้ง ผมก็คิดเสมอแหละเรื่องการขยายผลผลิต แต่องุ่นของผมต่างจากคนอื่น ดังนั้นผมต้องฟูมฟักมันอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อให้ได้องุ่นคุณภาพสูงแบบนี้ ดังนั้นผมจึงรีบ ... "
0 ความคิดเห็น