CF:บทที่ 300 รถโบราณแห่งเคงด้า

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 300 รถโบราณแห่งเคงด้า


พ่อบ้านดีแลนเจรจาตกลงกับฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว ดังนั้นหลังจากที่เข้าเขตที่พักของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วเขาก็กำชับเหล่าผู้ติดตามให้หยุดวุ่นวายและถามเรื่องต่างๆได้แล้ว


“ท่านครับ เขารับของขวัญของท่านและบอกว่าถ้าอาการของคุณหนูไม่หนักเกินไปก็ไม่มีปัญหาอะไรในการรักษา”


“เยี่ยมเลย ถ้ามีคำถามอะไรบอกฉันได้ทุกเมื่อ ฉันหวังว่านี่จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี”


“ครับท่าน”


หลังจากวางสายดีแลนก็เข้าไปในห้อง พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนว่า “คุณหนู คุณจะดีขึ้นในไม่ช้าและดีแลนผู้นี้จะพาคุณหนูไปสวนสาธารณะที่คุณหนูชอบสมัยยังเด็ก”


เดฟเน่ทำได้เพียงแต่กระพริบตาแทนคำพูดที่เธออยากพูดแต่ไม่สามารถทำได้


ดีแลนดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อจึงพูดว่า “ไม่ต้องห่วงคุณหนู บุรุษผู้นี้สามารถพิชิตมะเร็งได้และยังผลิตอุปกรณ์ตรวจสุดวิเศษได้ด้วย”


เขาเขย่าอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวะภาพบำบัดบนข้อมือให้ดูและพูดต่อว่า “ผมเชื่อว่าจะต้องมีความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในเทคโนโลยีการแพทย์แน่”


เดฟเน่กระพริบตาสองครั้งราวกับคิดอะไรบางอย่างอยู่ แต่เพราะอาการกล้ามเนื้อลีบทำให้สีหน้าของเธอไม่มีการเปลี่ยนแปลง


ขณะนี้อู๋ ฮ่าวเหรินอยู่ในห้องวิจัย กำลังแยกส่วนรถโบราณที่เขาเพิ่งได้มา ถ้าเขาอยากจะสร้างรถที่เหมือนกันขึ้นมาเขาก็ต้องรู้โครงสร้างภายในเสียก่อน


ชิ้นส่วนต่างๆถูกแยกออกมาอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ชิ้นส่วนที่แยกออกมาแล้ว หุ่นยนต์ที่อยู่ที่นั่นก็จะจัดการสร้างชิ้นส่วนแบบเดียวกันขึ้นมา เพื่อให้มั่นใจในความมั่นคงของชิ้นส่วน อู๋ ฮ่าวเหรินต้องจัดการกับร่องรอยพิเศษบางจุดบนชิ้นส่วนด้วย


แน่นอนว่าหลังจากที่คัดลอกรถแล้วจะไม่มีใครขับมันได้อีก ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะอยู่ในปัจจุบันนั้นแทบจะเป็นศูนย์


อู๋ ฮ่าวเหรินยุ่งอยู่กับการคัดลอกรถจนถึง 5 ทุ่มกว่า หลังจากที่เขามั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วเขาก็โบกมือและรถโบราณของจริงก็เข้าสู่ระบบซองแดง


ผ่านไปสักพัก อู๋ ฮ่าวเหรินก็ตะโกนลั่นห้องวิจัยว่า “เฮ้ย นี่มันล้อเล่นรึไง? รถนี่มีค่าแค่ร้อยเหรียญจักรวาลกว่าๆงั้นรึ นี่มันบ้าอะไรกัน?”


มันทำให้อู๋ ฮ่าวเหรินหงุดหงิดมาก รูปวาดและงานศิลปะลายมือมีการประเมินในซองแดงว่ามีราคาถึงล้านเหรียญพลังงาน รถนี่ไม่ค่าไม่เท่างานศิลป์พวกนั้นด้วยซ้ำ


“จี้ รู้ไหมว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้”


“มันน่าจะเป็นเพราะถูกตัดสินจากความต้องการในการสะสม มีนักสะสมของอย่างรถเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ราคาก็เลยต่ำไปด้วย”


“ถ้ารู้แบบนี้ ฉันคงให้รถเขาไปแล้ว”


อู๋ ฮ่าวเหรินยังคิดว่ามันมีราคา 67 ล้านเหรียญพลังงาน เหมือนว่าเขาอยากได้มากกว่านี้


ในการประเมินผลของระบบซองแดง ของเช่นทอง หยก และเพรชคือของที่มีค่าน้อยที่สุด


แน่นอนว่า ถ้าเป็นของที่ทำอย่างประณีตโดยช่างฝีมือชื่อดังมันก็อาจจะมีค่าเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย


กรณีนั้นก็ไม่ใช่ว่าวัตถุมีค่า แต่เป็นฝีมือการแกะสลักต่างหากที่มีค่า


มันแตกต่างจากการสะสมโบราณวัตถุในปัจจุบัน บนโลกสิ่งของที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสมบัติในยุคโบราณจะไม่มีทางด้อยค่าไปกว่าของในยุคปัจจุบัน


แต่ในระบบซองแดงของโลกอนาคต ของมีค่าหลายอย่างบนโลกนั้นไม่มีค่าอะไรเลย


ถ้าเขาอยากจะได้เงิน เขาสามารถเอาทองคำจากอนาคตมาเป็นภูเขาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนั่นจะทำให้ระบบการเงินของโลกต้องพังลง


หลังจากเห็นหน่วยพลังงานที่ใช้ยกระดับของเขาแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินก็ตัดสินใจจะยกระดับในวันพรุ่งนี้และให้รถกับจ้าวรถบิน


ในตอนเช้า อู๋ ฮ่าวเหรินออกมาจากห้องวิจัยและเดินตรงไปยังเขตที่พัก


ซึ่งขณะนี้ ดีแลนก็ได้มารออู๋ ฮ่าวเหรินที่หน้าบันไดอยู่ก่อนแล้ว


“อรุณสวัสดิ์ พ่อบ้านดีแลน”


“อรุณสวัสดิ์ครับคุณอู๋ ไม่ทราบว่าวันนี้ต้องทำการการตรวจร่างกายที่ไหนหรือครับ?”


“พาคุณหนูเดฟเน่ออกมาได้เลย เราจะไปที่ห้องการแพทย์ตรงนั้นเพื่อทำการการตรวจร่างกาย”


อุปกรณ์ซ่อมแซมเส้นประสาททั้งหมดอยู่ในห้องการแพทย์ แต่สารอาหารเหลวที่ต้องใช้อู๋ ฮ่าวเหรินจะเป็นคนเตรียมไว้เอง


มันยุ่งยากนิดหน่อยที่ต้องทำสารอาหารเหลวที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายมนุษย์ตามสภาพของร่างกาย


เมื่อเข้าไปในห้องการแพทย์ของอู๋ ฮ่าวเหรินแล้วดีแลนก็ตกตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าอุปกรณ์ในห้องนี้จะล้ำหน้าไปกว่าโรงพยาบาลส่วนตัวที่สร้างไว้สำหรับคุณหนูโดยตระกูลของเธอ


“คุณวางเธอลงบนเตียงนั้นนะ”


อู๋ ฮ่าวเหรินกดปุ่มแล้วเตียงก็ยกตัวขึ้นมาจากพื้น ในขณะเดียวกันผนังรอบๆก็เริ่มเปลี่ยนไป มองดูสิ่งที่เหมือนกับภาพในจอเงินแล้ว เหล่าคนรับใช้ติดตามหลายคนก็ชะงักไป


ดีแลนเองก็ชะงักไปด้วยสักพัก ก่อนที่เขาจะกลับมารู้สึกตัวและพบว่าอู๋ ฮ่าวเหรินกำลังรออยู่ เขาจึงย้ำกับเหล่าคำรับใช้ให้วางคุณหนูลงบนเตียง


“พวกคุณออกไปก่อน”


เมื่อได้ยินคำสั่งจากอู๋ ฮ่าวเหริน ดีแลนและคนอื่นๆก็รีบถอยออกมา เห็นอู๋ ฮ่าวเหรินกดจอคอมพิวเตอร์แล้วห้องก็ถูกคั่นออกจากกันด้วยกระจกที่เลื่อนขึ้นมาจากพื้นพวกเขาก็ต้องอึ้งไป


“คุณอู๋ เทคโนโลยีที่นี่ช่างล้ำสมัยจริง”


อู๋ ฮ่าวเหรินตอบระหว่างที่ดำเนินการบนจอคอมพิวเตอร์ไปด้วยว่า “ของพวกนี้ก็แค่เอาไว้ดูคนเท่านั้นแหละ ตอนที่ออกแบบห้องการแพทย์ มันแคบไปหน่อยผมเลยใช้วิธีนี้ขยายพื้นที่น่ะ”


ดีแลนพยักหน้า แน่นอนว่าเขาไม่ได้คิดโง่ๆว่าอู๋ อ่าวเหรินจะอยากให้พวกเขาช่วยสร้างห้องการแพทย์ให้ ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ เขาก็เข้าใจถึงความร่ำรวยของฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นอย่างดีอยู่แล้ว


ยอดขายของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวะภาพบำบัดในยุโรปคนอื่นอาจจะไม่รู้แน่ชัด แต่ตระกูลบูร์บงนั้นรู้อย่างชัดเจน ด้วยสิ้นค้านี้อย่างเดียวบุรุษผู้นี้ก็ทำเงินไปได้กว่า 8 แสนล้านดอลลาร์ในยุโรป


และยังเพิ่มขึ้นอีกตามจำนวนผู้ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าชีวะภาพบำบัดที่เพิ่มขึ้นทุกวัน


รายได้ขนาดนี้ถ้าให้คนอื่นรู้ ก็คงอยากกัดเศษ”เนื้อ”ของชายคนนี้แน่


อย่างไรก็ตาม หลังจากตรวจสอบอู๋ ฮ่าวเหรินแล้ว ตระกูลบูร์บงก็ต้องตัดใจยอมแพ้กับแผนการเดิมและเลือกที่จะเป็นมิตรที่ดีต่ออู๋ ฮ่าวเหริน


พวกเขาไม่คิดว่าอัฉริยะที่กล้าต่อกรกับอเมริกาจะเกรงกลัวตระกูลต้องห้ามอย่างบูร์บงเลย


“ผลกำลังออกมาแล้ว และมันอาจจะแย่สักหน่อย”


คำพูดของอู๋ ฮ่าวเหรินทำให้ดีแลนกังวล เขากลัวว่าอู๋ ฮ่าวเหรินจะรักษาเธอไม่ได้


“อาการกล้ามเนื้อลีบนั้นแย่มาก แม้ว่าคุณจะนวดเธอทุกวันมันก็ยังมีปัญหาใหญ่อยู่ สาเหตุหลักก็เพราะเนื้อร้ายและกล้ามเนื้อลีบ ถ้าซ่อมแซมเนื้อร้ายกับกล้ามเนื้อลีบในร่างกายเธอไม่ได้ ต่อให้ซ่อมแซมเส้นประสาทได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร”


ดีแลนถามอย่างใจจดใจจ่อ “คุณอู๋ คุณพอจะมีทางรักษาคุณหนูรึเปล่า? เราเข้าใจถึงอาการของคุณหนูแล้วแต่เราไม่มีทางรักษาเธอได้เลย”


“ในเรื่องของการรักษามันไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ระยะเวลารักษาอาจจะยืดเยื้อออกไปมาก ตามอาการในตอนนี้แล้วอาจจะต้องใช้เวลาสามเดือนในการพื้นฟูร่างกาย นอกจากนี้ก็อาจจะใช้เวลาอีกอย่างน้อยครึ่งปีกว่าเส้นประสาทจะฟื้นฟูสมบูรณ์”


ได้ยินคำพูดของอู๋ ฮ่าวเหรินว่าเขาสามารถรักษาได้ ดีแลนก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “เวลาไม่ใช่ปัญหาหรอก ถ้าคุณอู๋ขาดอะไรคุณบอกผมได้เลยแล้วผมจะหาทางจัดการให้คุณเอง”


“ผมก็มียาทุกอย่างที่ใช้รักษาอยู่นี่แล้ว แต่...”อู๋ ฮ่าวเหรินอึดอัด เขาดูเหมือนจะลืมอะไรอย่างหนึ่งไป


“แต่อะไรคุณอู๋ ไม่ต้องห่วงเลยตระกูลของคุณหนูยังมีอิธิพลอยู่บ้างในยุโรป ถ้าขาดอุปกรณ์อะไรเราจะหาทางเอามาให้คุณเอง”


อู๋ ฮ่าวเหรินดูที่ข้อมูลของสารอาหาร เขาลืมเรื่องนี้ไปในตอนนั้นได้ยังไง


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น