CF:บทที่ 299 ผู้ป่วยมาแล้ว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 299 ผู้ป่วยมาแล้ว


การยิงครั้งแรกของหุ่นชีต้านั้นดูไม่เหมือนจะเป็นการโจมตี แต่ดูเหมือนการยืนยันมากกว่า


พอเห็นการโจมตีนั้นยังมีความคลาดเคลื่อน ความผิดหวังก็แสดงออกมาทางสีหน้าพวกเขา


เมื่อหุ่นยนต์โจมตีพลาดถึงสามครั้งติดกันพวกเขาก็คิดว่ามันล้มเหลวอีกแล้ว


“อาจารย์ วิธีการของพวกเราผิดงั้นหรือ? นั่นมันใช่สิ่งที่คุณอู๋บอกหรือ?”


“บางที่มันอาจจะไม่ได้ผิดพลาด เราต้องรอ ฉันคิดมาตลอดเลยว่าอาการของหุ่นในวันนี้ผิดไปจากการทดสอบที่ผ่านมา”


เจิ้ง หมิงจุนพยักหน้าและเริมศึกษาข้อมูลของการทดสอบหุ่นยนต์อย่างละเอียดเพื่อหาคำตอบ


ตอนนี้ หุ่นยนต์กำลังประมวลผลข้อมูลและคำนวณข้อมูลที่ถูกต้องของการโจมตีคลาดเคลื่อน ดังนั้นหลังจากการยิงในแต่ล่ะนัดหุ่นยนต์ก็จะหยุดไปสองสามวินาทีเพื่อปรับปรุงข้อมูล


โปรแกรมปรับปรุงข้อมูลที่อู๋ ฮ่าวเหรินให้มาก็เริ่มแสดงผลในตอนนี้ หุ่นยนต์เริ่มประมวลผลข้อมูลที่ปรับปรุงมาทั้งหมดเพื่อทำให้แน่ใจว่าอุปกรณ์จะทำงานได้อย่างราบรื่น


ไม่เช่นนั้น การประมวลผลจำนวนมากจะทำให้โปรแกรมภายในหุ่นยนต์ขัดข้องไปชั่วขณะ และกรณีนั้นตอนที่หุ่นยนต์ต่อสู้มันจะหยุดเคลื่อนไหวกระทันหัน


“มันเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว!”


ดูข้อมูลใหม่แล้ว โจว ซูหงก็ตะโกนอย่างตื่นเต้นเขารู้ว่ามันจะสำเร็จ การยิงของหุ่นยนต์ตรงหน้าพวกเขาเหมือนกับคนที่คุ้นเคยกับสิ่งแปลกใหม่


“เข้าใกล้ความสำเร็จเข้าไปทุกแล้ว หุ่นยนต์กำลังปรับปรุงตัวเอง!”


ไม่ช้าเจิ้ง หมิงจุนก็คิดออกว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นได้ชัดว่าหุ่นยนต์ในการทดสอบกำลังปรับเปลี่ยนข้อมูลการยิงภายใต้องศาต่างๆ หุ่นตัวหน้ายิงไม่โดนเป้าหมาย มันก็น่าจะปรับข้อมูลใหม่อยู่


ไม่กี่นาทีถัดมา พวกเขาก็จ้องมองการเคลื่อนไหวและการยิงที่แม่นยำและเด็ดขาดของหุ่นยนต์ในจอคอมพิวเตอร์


หากศัตรูไม่มีอาวุธพิเศษที่ยับยั้งหุ่นในสนามรบได้ มันจะกลายเป็นการสังหารหมู่เพียงฝ่ายเดียวแน่นอน


“อาจารย์ ความถี่ในการโจมตีและความคล่องตัวสูงแบบนี้ ถ้าอานุภาพของอาวุธพลังงานสูงกว่านี้อีกสักนิด ถ้าทีมของหุ่นยนต์พุ่งเข้าใส่ตำแหน่งของรถถังศัตรู ตราบเท่าที่มีพลังงานพอมันก็น่าจะกวาดล้างรถถังของศัตรูได้แน่”


โจว ซูหงพยักหน้า ในสงครามภาคพื้นดินถ้าไม่ได้ใช้อาวุธพลังทำลายล้างสูง จะไม่มีทางกันหุ่นยนต์นี้ได้เลย โดยเฉพาะหลังจากที่พุ่งเข้าตำแหน่งของศัตรูได้แล้วมันก็จะไม่ได้เป็นหุ่นยนต์จู่โจม แต่ยังเป็นหุ่นยนต์นักล่า


“จัดการข้อมูลไว้ หุ่นยนต์นี้น่าจะใช้ในการสู้รบจริงได้แล้ว”


เมื่อฉางเห็นวิดิโอการสู้รบของหุ่นชีต้าแล้ว เขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตื่นเต้น


“เยี่ยมเลย เอาเทคโนโลยีและทรัพยากรทั้งหมดที่จัดหาได้แก่พวกเขา ให้พวกเขาได้ศึกษาหุ่นนี้อย่างเต็มกำลัง แล้วก็ให้พวกเขาเริ่มผลิตหุ่นนี่ด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อเตรียมนำไปทดสอบสู้รบจริงได้เลย”


ไม่สงสัยเลยทำไมเขาถึงตื่นเต้นขนาดนี้ หุ่นยนต์นี้แข็งแกร่งกว่าครั้งล่าสุดที่เขาเห็นหลายเท่านัก ถ้าเอามันไปใช้ในการรบจริงศัตรูจะต้องหวาดกลัวจนตายอย่างแน่นอน เมื่อมันผลิตออกมาจะต้องขู่บางประเทศได้แน่


อู๋ ฮ่าวเหรินดูวิดิโอที่พวกเขาส่งมาเพียงแค่ศึกษามัน เขาก็ไม่มีความสนใจอีก


เห็นภาพสงครามโลกในอนาคตที่หุ่นนี้ถูกส่งไปยังสนามรบเพียงจำไม่มากนัก


ต่อให้หนึ่งในหุ่นจำนวนยี่สิบตัวที่เขามีถูกเอาออกไป เขาก็สามารถฆ่าหุ่นทุกตัวได้อยู่ดี


แน่นอนว่าหุ่นนี้ทรงพลังอย่างมากบนโลก มันยากมากที่จะโจมตีหุ่นยนต์โดยไม่ใช้อาวุธที่รัศมีกว้าง


ถ้ามอบคำสั่งโจมตีให้กับหุ่นยนต์แล้ว ต่อให้สัญญาณการติดต่อจะถูกขัดขวาง หุ่นยนต์ก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งได้อยู่ นอกจากนี้ระบบปัญญาภายในก็ใช้วัสดุพิเศษในการป้องกัน


กรณีนี้มีทางเดียวคือใช้อาวุธคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทำลายแกนแม่เหล็กของหุ่นยนต์โดยตรงจนหุ่นยนต์ไม่สามารถทำงานได้


แต่ในสนามรบ ถ้าใช้อาวุธแบบนี้มันก็อาจจะทำลายอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งฝั่งตนและฝั่งศัตรู กรณีนั้นศัตรูก็สามารถจัดการเขาได้แน่


ปัจจุบัน ไม่มีประเทศไหนที่ระบุได้ว่ามีอาวุธคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แต่ก็มีสัญญาณว่าอเมริกาเริ่มพัฒนาอาวุธเช่นนี้ในขั้นต้นและดูเหมือนจะประสบความสำเร็จอยู่บ้าง


อู๋ ฮ่าวเหรินละข้อมูลพวกนี้ไปและเริ่มใช้จอคอมพิวเตอร์แสดงอาวุธที่ต้องศึกษาบนเกาะของเขา


“จี้ อาวุธบนโลกนั้นมีไม่มากนักเราควรจะมุ่งเน้นไปที่การวิจัยอาวุธนอกอวกาศและยานอวกาศ”


“ถูกต้อง ที่จริง ตราบใดที่เราสามารถพัฒนาอาวุธทางทะเลและพัฒนาหุ่นรบบนบกได้ เราก็แก้ปัญหาได้”


อู๋ ฮ่าวเหรินกำลังจะสร้างหุ่นรุ่นที่สาม ซึ่งใช้เทคโนโลยีฟิวชั่น เขากำลังจะไปเอาวัตถุดิบนิวเคลียร์ที่เขาต้องการจากทะเล


แน่นอนว่าถ้ามันมีโอกาสในอนาคต เอายานรบและเกราะทรงพลังมาจากระบบซองแดงมาไว้ก่อนจะดีกว่า


ในตอนเย็น อู๋ ฮ่าวเหรินได้รับสายจากคุณแฟรงค์ ผู้ป่วยปริศนาที่ค่อยๆแช่แข็งได้มาถึงจีนแล้ว และจะส่งตัวให้กับบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปในเร็วๆนี้


หลังจากวางสายของคุณแฟรงค์ไปไม่นาน เขาก็ได้รับสายจากพ่อบ้านนามว่าดีแลน


“สวัสดีครับ ขอสายคุณอู๋หน่อยครับ”


“นี่ผมพูดเอง คุณเป็นใครกัน?”


“ผมชื่อดีแลนเป็นพ่อบ้าน คุณแฟรงค์น่าจะโทรหาคุณเพื่ออธิบายธุระของเราแล้ว”


“คุณคือคนที่จะส่งผู้ป่วยที่ค่อยๆแช่แข็งมารักษาสินะ คุณไปที่บริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปได้เลยผมจะรออยู่ที่นั่น”


หลังจากมื้อเย็น เขาก็บอกอู๋ ฮ่าวเหรินว่ามาถึงบริษัทแล้ว ตอนที่เขาเห็นคนเหล่านั้นก็พบว่ามีมากันกว่าเจ็ดคน


พ่อบ้านที่ชื่อว่าดีแลนนั้นเป็นชายชรา เขาดูเป็นคนระมัดระวังและมั่นคง เขาน่าจะเป็นพ่อบ้านที่ฝึกมาโดยเฉพาะของตระกูลขุนนาง


ตามข้อมูลที่จี้หามาให้ เขาคงจะเป็นพ่อบ้านมืออาชีพของตระกูลบูร์บงและยังเป็นคนที่ซื่อสัตย์ที่สุดอีกด้วย


“สวัสดีคุณอู๋ ขอบคุณสำหรับการให้การรักษา นี่เป็นของขวัญสำหรับคุณ หวังว่าคุณจะรับมันไว้” พ่อบ้านกล่าวอย่างสุภาพด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล


อู๋ ฮ่าวเหรินเห็นของขวัญที่เป็นรถโบราณที่เขาบอกว่าจะแลกเปลี่ยนไว้


“ขอบคุณ ผมจะรับของขวัญนี้ไว้ ไม่ต้องเป็นห่วงตราบเท่าที่อาการป่วยของคุณหนูของคุณไม่เลวร้ายมากก็มีความหวังที่จะรักษาได้สูง คุณไปพักในที่ที่คุณจัดหาไว้ก่อนสักคืนแล้วผมจะตรวจคุณหนูของคุณให้ในวันพรุ่งนี้”


เขามองดูที่แดฟเน่ เจ้าหญิงตัวน้อยที่เป็นผู้ป่วยแช่แข็งที่มีดวงดาอันงดงาม ผิวขาวรูปร่างผอมบางราวกับตุ๊กตาในหนัง อาการนั้นยังดีกว่าที่เขาคิดไว้มาก


เห็นได้ชัดว่า การบำรุงรักษาที่ตระกูลจัดหาให้เจ้าหญิงตัวน้อยนี้อาจจะดีกว่าที่นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ฮอว์กิ้งได้รับเสียอีก


หลังจากได้ยินคำพูดของอู๋ ฮ่าวเหรินแล้ว ดีแลนก็ยิ้มและมองที่อู๋ ฮ่าวเหรินอย่างตื่นเต้น แต่ไม่ช้าเขาก็เก็บอารมณ์ตื่นเต้นนั้นลง เขาอย่างจริงใจกับอู๋ ฮ่าวเหรินว่า “ขอบคุณท่านมาก ผมหวังว่าการเดินทางมาจีนครั้งนี้จะเป็นการเดินทางที่ดี”


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น