CF:บทที่ 277 การฟื้นตัวของหลิงเมิ่งเสวี่ย
หลิงเหยา, คนนี้กำลังร่วมมือกับทางกองทัพหลังจากที่เขารับสืบทอดธุรกิจของตระกูลต่อจากคุณปู่ของเขา, เขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ของเขาอยู่ในค่ายทหาร
สำหรับคนๆนี้, อู๋ฮ่าวเหรินนั้นคิดว่าเขานั้นต้องแบกรับภาระเอาไว้มากกว่าใครๆ, บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่สืบทอดมาในตระกูลหลิงก็เป็นได้
เขานั้นได้เริ่มศึกษาเรียนรู้จากปู่ของเขาตั้งแต่ตอนที่เขาจำความได้, พอเขาอายุได้ 18 เขาก็ได้เข้าสู่กิจการของตระกูลหลิง, และเมื่ออายุได้ 20 เขาก็ได้บริหารจัดการธุรกิจของตระกูลได้เรียบร้อยแล้ว
แน่นอนว่า, มันจะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับประวัติที่พิเศษของตระกูลหลิงด้วย เพราะคงไม่มีไอ้โง่ที่ไหนที่กล้ามาทำเรื่องไม่ดีกับตระกูลนี้แน่, เพราะถ้าหากมีใครกล้ามาสร้างปัญหากับตระกูลหลิง พวกเขาก็ควรจะรู้ถึงความอันตรายที่พวกเขาอาจโดนปืนจ่อเข้ามาที่หัวได้ตลอดเวลา
"สวัสดี, น้องเขย, คุณยังจำเบอร์โทรผมได้ด้วยเหรอเนี่ย? ไม่เห็นโทรมาหาผมบ้างเลยตอนที่มาที่ค่ายทหารเมื่อคราวก่อน"
เจ้าตัวร้ายพูดบ่นก่อน, ในคราวที่แล้วตอนที่เขาไปที่ค่ายทหารนั้น, เจ้าตัวร้ายรู้ว่าฉันกำลังมาแล้วก็รีบชิ่งหนีไปก่อน
"ไอ้หนู, ผมว่าเรายังไม่เคลียร์เรื่องนี้กันนะ, ผมได้ยินข่าวบางอย่างมาจากในค่ายทหาร นายรอผมไว้ให้ดี, คราวหน้าที่เราเจอกัน, ผมจะทำให้นายรู้ว่าความแข็งแร่งของผมจริงๆมันเป็นยังไง?"
"ไม่, ไม่, เดี๋ยวก่อนนะน้องเขย อย่างเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย, ผมได้ยินจากท่านย่ามาว่า น้องสาวของผมดูเหมือนจะอาการดีขึ้นแล้ว"
"เดี๋ยวนะ คุณว่าอะไรนะ? น้องสาวของคุณกำลังอาการดีขึ้นงั้นเหรอ?
หลิงเหยาพูดอย่างดีใจ, "ใช้แล้วครับ, ท่านย่าบอกว่าน้องสาวนั้นดูเหมือนจะแสดงอาการฟื้นตัวขึ้นมาแล้วครับ, ดูเหมือนจะคิดถูกจริงๆที่ให้ไปอยู่ที่หมู่บ้านซุยฉุย"
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นยังไม่เข้าใจ มันมีการตรวจอาการที่ผิดพลาดจากเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดอย่างงั้นเหรอ หรือว่าเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดนั้นมีส่วนช่วยในการรักษา?
เขาได้ให้อุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดกับหลิงเมิ่งเสวี่ย, ซึ่งเป็นรุ่นที่ฟังชั่นการทำงานทุกอย่างถูกเปิดใช้เอาไว้ รวมถึงฟังชั่นการรักษาด้วย
"เข้าใจแล้ว, เดี๋ยวผมกลับบ้านวันนี้, ผมจะแวะเข้าไปดูน้องสาวของคุณให้, แล้วก็ที่ผมโทรมาหาคุณตอนนี้, ผมอยากให้คุณช่วยผมซื้อวัตถุดิบและสมุนไพรบางอย่างให้หน่อย, คุณพอจะมีคอมพิวเตอร์ใกล้ๆไหม? เดี๋ยวผมจะส่งใบรายการไปให้"
"ได้สิ, รอแปบนะน้องเขย, ขอเวลาซัก 2 นาที"
หลังจากนั้นสักพักเขาก็ตอบกลับมา "โอเค, คุณส่งใบรายการมาที่อีเมล์ผมได้เลย"
หลิงเหยามองดูข้อมูลที่ถูกส่งมาโดยฮ่าวเหริน แล้วเขาก็สงสัย, เขาไม่รู้ว่าน้องเขยที่มากความสามารถคนนี้ต้องการที่จะทำอะไรกันแน่"
"น้องเขย, คุณกำลังทำอะไรใหญ่ๆอีกแล้วรึไง? คุณถึงต้องการวัตถุดิบพวกนี้มากถึงขนาดนี้?"
"เรื่องดีแน่นอน
เดี๋ยวอีกไม่นานคุณจะรู้, ตอนที่สั่งซื้อวัตถุดิบพวกนี้, อย่าให้ใครรู้นะว่าเป็นของที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปต้องการ มิฉะนั้นแล้ว มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับคุณที่จะสั่งซื้อของพวกนี้ได้ตามจำนวนที่ต้องการ"
"เข้าใจแล้ว, ไม่ต้องห่วงน้องเขย, ตระกูลหลิงของเราก็เป็นบริษัทเกี่ยวกับยาเช่นกัน, ถ้าผมเป็นคนซื้อวัตถุดิบกับสมุนไพรพวกนี้ มันไม่ใครสงสัยผมอย่างแน่นอน"
หลังจากที่คุยโทรศัพท์กับหลิงเหยาเสร็จ, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้ถามกับจี้, "จี้, เกิดอะไรขึ้นกับการฟื้นตัวของหลิงเหมิงเสวี่ย?"
"นี้คือข้อมูลที่ฉันสำรวจมา, ผลการตรวจสอบไม่มีอะไรเปลี่ยน, แต่เธอมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ มันน่าแปลก"
มองดูข้อมูล, อู๋ฮ่าวเหรินพบว่าไม่มีอะไรเปลี่ยน แต่ค่าการแปรผันของพลังจิตกลับเพิ่มขึ้นทีละน้อย, แปลก มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เมื่อไม่รู้อะไร, อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้ลองเข้าระบบซองแดงและถามหาผู้เชี่ยวชาญการแพทย์
"ผู้เชี่ยวชาญอยู่มั๊ย?"
"พ่อค้าของเก่า, มองหาผู้เชี่ยวชาญการแพทย์อยู่เหรอ ตอนนี้ขานั้นคงกำลังอยู่ในห้องแล็บแหละ, แล้วก็ มีข่าวร้ายจะมาบอกคุณล่ะ มีการยืนยันแล้วหลิงหยิ่งเสียชีวิตแล้ว"
"ตาย, หลิงหยิ่งตายแล้ว เธอตายได้อย่างไร? เกี่ยวข้องกับอารยธรรมพาลอสไหม?"
"เห็นบอกว่า การตายของเธอนั้นน่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับสิ่งที่เธอเอามาจากอารยธรรมพาลอส, ยิ่งไปกว่านั้น การหายตัวไปของอารยธรรมพาลอสเองก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย"
สมองของอู๋ฮ่าวเหรินกำลังพยายามจัดเรียงข้อมูลพวกนี้อย่างรวดเร็ว, และรู้สึกได้ว่าเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่
จะว่าไป, ตอนนี้เทพสงครามอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ? พอจะทราบข่าวของเขาบ้างไหม?"
"ได้สิ, เอาไปดูเองเถอะ"
อู๋ฮ่าวเหรินรีบเข้าไปดูในข่าวแล้วก็พบว่าเทพสงครามนั้นได้ไปถึงที่อารยธรรมพาลอสแล้ว แต่หลังจากที่อยู่ที่นั่นซักพัก เขาก็กลับมา, และจากนั้นทางสหพันธ์ก็ได้ประกาศข่าวเรื่องการเสียชีวิตของหลิงหยิ่ง
แน่นอนว่า, ข่าวนี้ได้ถูกแจ้งออกมาโดยตัวของเทพสงครามเอง และทางอารยธรรมวิญญาณเองก็ได้ยืนยันเรื่องนี้แล้วด้วย
แต่ทว่า, อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกเหมือนพบจุดแปลกๆของเวลาในข่าวนี้และพอคำนวนก็พบว่าเป็นเวลา 20 ปีพอดี, ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีข่าวที่พูดถึงด้วยว่าเทพสงครามนั้น, เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงอีก 20 ปี
เรื่องนี้ทำให้เขาสงสัยขึ้นมาว่าเรื่องของเวลานั้นไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญ และจะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับเวลาแน่ๆ"
20 ปีผ่านไป, เกิดอะไรขึ้นกับหลิงเจี๋ย, อาการของหลิงเมิ่งเสวี่ย, ประวัติศาสตร์ที่ผิดเพี้ยน, หลิงหยิ่ง, อารยธรรมพาลอส และเทพสงครามเป็นแน่
หลังจากที่อู๋ฮ่าวเหรินลองจับปมพวกนี้เข้าด้วยกัน, ถ้ามันเป็นจริงที่ว่าเหตุการณ์เมื่อ 20 ปีที่แล้วนั้นทำให้ประวัติศาสตร์มีการเปลี่ยนไปโดยฝีมือของอารยธรรมพาลอสแล้ว, หลิงเมิ่งเสวี่ยที่มีอาการดีขึ้นนั้นก็จะเกี่ยวข้องอะไรกับการตายของหลิงหยิ่งด้วยเช่นกัน
แล้วทำไมเทพสงครามถึงได้บอกว่าตัวเขานั้นสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีก 20 ปีด้วยนะ? มันจะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับช่วงเวลานั้นแน่ๆ
การหายตัวไปของอารยธรรมพาลอสนั้น, อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกว่า จะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้แน่, และตอนที่เทพสงครามได้พูดถึงเรื่องของเวลานั้น, เขาต้องการส่งข้อความนี้ถึงใครกันแน่
น่าเสียดายที่, เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่นกันแน่, เขาไม่สามารถที่จะเดาได้ว่าเทพสงครามนั้นกำลังส่งข้อความไปหาใคร, ซึ่งมันได้ทำลายเงื่อนงำของเขาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม, จากสถานการณ์ในปัจจุบัน หลิงเมิ่งเสวี่ยจะต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับหลิงหยิ่งเป็นแน่ มิฉะนั้นแล้วมันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ กับการประกาศเรื่องการเสียชีวิตของหลิงหยิ่งกับการฟื้นตัวของหลิงเมิงเสวี่ย
"พ่อค้าของเก่า, คุณกำลังตามหาผมอยู่เหรอ?"
"โอ้ คุณมาพอดีเลย, ผมต้องการจะถามคุณหน่อยว่า มันเป็นไปได้มั๊ยที่มีโอกาสที่จะหายจากโรคกาล-อวกาศที่คุณพูดถึงเมื่อคราวก่อนได้น่ะครับ?"
"ได้ยินคุณพูดถึงเรื่องของโรคกาล-อวกาศขึ้นมา, ฉันเคยได้ยินเรื่องของคนที่อยู่ในอารยธรรมเดียวกันกับพวกเราว่า เคยมีคนประสบโรคนี้มาก่อนเหมือนกัน" หินปีศาจที่จู่ๆก็พูดขึ้นมา
"อ๊า! หินปีศาจ, ฉันจำได้ว่ามีคนในอายธรรมของคุณเคยประสบโรคนี้มาก่อนเหมือนกัน, แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?"
"ตาย, แต่อารยธรรมของเราก็ได้ทำการศึกษาคนๆนั้นต่อ ซึ่งจริงๆแล้วเขาแค่วิญญาณหายไปเท่านั้น, ถ้าพวกสามารถหาวิญญาณกลับมาให้เขาได้ เขาก็น่าจะรอด"
"แต่จิตวิญญาณนั้น ไม่สามารถมีชีวิตรอดจากการเปลี่ยนแปลงของกาล-อวกาศได้, ต่อให้ไม่ถูกรบกวนจากพลังของอวกาศ, ก็ยังจะโดนจากผลของเวลาและในสุดท้ายก็จะหายไปอยู่ดี"
อู๋ฮ่าวเหรินอ่านคำอธิบายของสองคนนี้, แล้วเมื่อคิดถึงสถานการณ์ของตัวเอง จึงได้พูดถามกลับไป "มีอะไรที่พอจะใช้ป้องกันวิญญาณจากผลกระทบของอวกาศและเวลา ในตอนที่ใครที่ทดลองเรื่องพวกนี้บ้างไหม?"
"เรื่องแบบนั้นไม่เคยถูกค้นพบในสหพันธรัฐอวกาศมาก่อนเลยจนถึงปัจจุบัน, เช่นเดียวกับเรื่องของตัวตนของอวกาศ ที่ไม่มีใครกล้าฟันธงอะไร, เพราะจักรวาลนั้นกว้างใหญ่มาก และยังมีพื้นที่และดวงดาวอีกมากมายที่กำลังพัฒนา, บางทีที่ไหนสักแห่งในจักรวาลนี้อาจจะอาจจะรู้เรื่องพวกนี้ก็เป็นได้"
อุ๋ฮ๋าวเหรินส่ายหัวของเขา, ดูเหมือนว่าเขาคงจะต้องแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเองเสียแล้ว
ถ้าเขาสามารถเข้าไปในช่องเก็บของพิเศษของระบบซองแดงได้, ก็จะเป็นการยืนยันได้ว่าระบบซองแดงนั้น สามารถป้องกันจิตวิญญาณจากอิทธิพลของกาล-อวกาศได้
จากในกรณีนี้, ปัญหามากมายก็จะได้รับการแก้ไข, เมื่อคิดเรื่องนี้แล้ว, เขาก็พบว่าระบบซองแดงอาจจะมีกุญแจที่จะใช้บอกได้ว่าเทพสงครามนั้นต้องการที่จะทำอะไรกันแน่ก็ได้
เทคโนโลยีระบบซองแดงเองก็ได้มาจากอารยธรรมพาลอส, และข้อความ 20 ปีนั้นก็อาจจะการเตือนส่งถึงพวกคนบ้าของเทียนหยูกรุ๊ปที่กำลังศึกษาเรื่องระบบซองแดงอยู่ก็เป็นได้
อู๋ฮ่าวเหรินพบว่าเมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งสับสนมากขึ้นเท่านั้น, มันน่าจะมีเหตุผลที่ว่าเทียนหยูกรุ๊ปกับทางกองทัพของสหพันธ์มนุษย์นั้นจะต้องร่วมมือกันแน่, และยิ่งไปกว่านั้น การศึกษาเรื่องของระบบซองแดงนั้นจะต้องได้รับการหนุนหลังมาจากเทพสงครามเป็นแน่
ไม่ใช่ว่ามันน่าจะมีทางอื่นที่เป็นการเตือนได้ดีกว่าการพูดแบบนั้นหรอกเหรอ, พูดตรงๆหรือเป็นการส่วนตัวก็ได้นี่นา?
ตอนนี้ข่าวเรื่องที่เทพสงครามจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีก 20 ปีนั้นก็ได้แพร่กระจายไปทั่วสหพันธ์มนุษย์แล้ว, ซึ่งนั่นก่อให้เกิดผลที่แย่ตามมาแน่นอน
ช่างมันเถอะ, ไม่ว่าตาแก่นั่นจะกำลังวางแผนอะไรอยู่ก็ตาม เลิกคิดดีกว่า, ว่าแล้วอู๋ฮ่าวเหรินก็ออกมาจากระบบซองแดง
0 ความคิดเห็น