CF:บทที่ 276 ค้นพบประโยชน์ของมะเร็งโดยบังเอิญ

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 276 ค้นพบประโยชน์ของมะเร็งโดยบังเอิญ

 

ในสายตาของใครหลายคน, อู๋ฮ่าวเหรินนั้นเป็นอัจฉริยะที่ชาญฉลาดมาก, แต่ทว่า หลายคนเองก็รู้ดีว่าอัจฉริยะคนนี้นั้นถูกจัดอยู่ในประเภท "คนโง่ที่มีเงินเยอะ" ด้วย

 

เมื่อดูจากเงินบริจาคให้กับองค์กรสาธารณประโยชน์ต่างๆที่บริจาคให้โดยฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว, มีบางคนได้เคยคำนวนจำนวนเงินทั้งหมดที่บริจาคไป เอาไว้ในเว็บบอร์ดของบริษัทซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินได้มากกว่า 1 พันล้านหยวน

 

ซึ่งจริงๆแล้วในเว็บบอร์ดของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะมีหมวดสาธารณประโยชน์อยู่ ซึ่งในนั้นจะมีข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนเงินที่บริจาคองค์กรสาธารณประโยชน์ต่างๆออกประกาศในนั้นทุกวัน, ทั้งนี้ก็เพื่อทุกคนสามารถตรวจสอบและป้องกันการใช้เงินที่ผิดขององค์กรสาธารณประโยชน์ด้วย

 

และเมื่อดูไปที่โครงการก่อสร้างหยวนหมิงหยวน, ซึ่งได้มีข่าวรายงานออกมาแล้วว่าโครงการนี้นั้นใช้เงินไปต่ำกว่า 30 พันล้านหยวน

 

ในสายตาของใครหลายคนแล้ว, เขาเป็นอัจฉริยะที่มีเงินเยอะและชอบโปรยเงินแบบตามใจอยาก

 

ดั้งนั้น, เมื่อข่าวเรื่องที่ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปจะก้าวเข้าสู่วงการแพทย์นั้นได้ถูกรายงานข่าวออกไป, ไม่นานนักก็ได้กลายเป็นที่ดึงดูดความสนใจของบางสถาบันวิจัย

 

การวิจัยนั้นเป็นการเผาผลาญเงิน ซึ่งกว่าจะมีผลงานการวิจัยออกมาได้นั้น พวกเขาจำเป็นที่จะต้องถมหลุมที่ไร้ก้นนั่นให้ได้เสียก่อน

 

บางสถาบันวิจัยการแพทย์ก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวหลังจากที่ทราบว่ามีโครงการที่อู๋ฮ่าวเหรินกำลังศึกษาอยู่, พวกเขานั้นไม่สนหรอกว่าเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พวกเขาวิจัยกันอยู่นั้นจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่อู๋ฮ่าวเหรินต้องการวิจัยอยู่หรือไม่, พวกเขารีบรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แล้วจากนั้นก็ทำการดัดแปลงอะไรบาง ก่อนที่จะส่งข้อมูลพวกนั้นออกไป

 

จุดประสงค์ของคนพวกนี้นั้นไม่มีอะไรวุ่นวายเลย, ก็แค่เอาข้อมูลไปแล้วพยามยามขอเงินลงทุนมาจากฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ตัวเขานั้นถูกจัดให้เป็นคนโง่ใช้เงิน, ซึ่งในเวลานี้ เขากำลังหมกตัวอยู่ในห้องแล็บ และกำลังปวดหัวกับอุปกรณ์ลดการจะเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

 

"จี้, เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเจ้าอุปกรณ์นี้ทำไมถึงคำนวนผลไม่ได้ซักทีนะ?"

 

"คาดว่าน่าจะมีข้อบกพร่องอยู่ที่อุปกรณ์, แต่ฉันคิดว่าปัญหาแบบนี้ น่าจะมีส่วนช่วยอย่างมากกับโครงการฟื้นฟูร่างกายของคุณนะ จึงได้ไม่มีข้อมูลให้ทำการดัดแปลง"

 

เมื่อได้ยินจี้อธิบาย, อู๋ฮ่าวเหรินก็ถึงกับอึ้งและถามกลับไป "ช่วยยังไงรึ?"

 

"จากคุณสมบัติของเซลล์มะเร็งนั้น คือมีการเพิ่มจำนวนเซลล์แบบไม่จำกัด และวิธีการฟื้นฟูร่างกายที่พวกเรากำลังศึกษาอยู่นั้นก็ต้องการการเพิ่มจำนวนของเซลล์ด้วย เมื่อมองในรูปแบบนี้แล้วก็อาจทำให้ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูร่างกายได้"

 

อู๋ฮ่าวเหรินผงกหัว, แน่นอนว่า การฟื้นฟูร่างกายนั้นต้องการความสามารถในการเพิ่มจำนวนของเซลล์ และปล่อยให้ร่างกายนั้นฟื้นฟูร่างกายที่เสียหายให้กลับคืนมา

 

"ดูเหมือนว่าถ้าเซลล์ธรรมดานั้นถูกปล่อยให้สามารถเพิ่มจำนวนตัวเองแบบไม่จำกัดได้, มันก็จะไม่ต่างอะไรไปจากเซลล์มะเร็งอย่างงั้นสินะ"

 

"จากแผนดั้งเดิมของเรา

คือการเข้ายังยั้งเซลล์มะเร็ง แล้วจากนั้นก็กำจัดมันผ่านอุปกรณ์ตัวอื่น, แล้วถ้าเราเข้าควบคุมเซลล์มะเร็งนี้และเปลี่ยนให้เซลล์มะเร็งกลายเป็นเซลล์ที่มีสุขภาพดีล่ะ?"

 

สมองของอู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกรวนๆเล็กน้อย, ถึงแม้ว่าเขาจะได้อ่านข้อมูลอย่างมากมายในหลายวันมานี้, แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำความเข้าใจได้ว่าจี้นั้นต้องการจะทำอะไร?

 

ถึงแม้ว่าเราจะสามารถควบคุมเซลล์มะเร็งได้ก็จริง, แต่เราจะสามารถปล่อยให้เซลล์มะเร็งนั้นเจริญเติบโตและหล่อยให้ฟื้นฟูร่างกายได้จริงๆเหรอ?

 

เดี๋ยวนะ, มันอาจจะได้ผลก็ได้, อู๋ฮ่าวเหรินนิ่งคิดซักพักก่อนที่จะเริ่มค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับเซลล์มะเร็งอีกครั้ง

 

ไม่นานนักก็พบสิ่งที่ถูกเรียกว่า cAMP (ไซคลิก อะดีโนซีน โมโนฟอสเฟต)ในนั้น ซึ่งพวกมันมีอยู่ในเยื่อหุ้มเซลล์ของทุกคน, ซึ่งเจ้าตัว cAMP นี้จะสามารถเปลี่ยนให้เซลล์มะเร็งกลายเป็นเซลล์ปกติได้

 

"จี้, ถ้าพวกเราสามารถควบคุมเข้าcAMPนี้ได้ พวกเราก็จะสำเร็จตามวัตถุประสงค์ตามที่นายพูดงั้นสินะ?"

 

"ใช่แล้ว, จากเทคโนโลยีที่อยู่ในฐานข้อมูลของฉัน, ถ้าฉันสามารถที่จะควบคุมการกลายพันธุ์ของ proto-oncogene ได้ก็จะต่อต้านไม่ให้เกิด oncogene ได้ค่ะ, ดังนั้นแล้วการป้องกันเซลล์ธรรมดาให้กลายมาเป็นเซลล์มะเร็งนั้น, มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับยาในอนาคต, แค่ใช้เจ้าเครื่องนี้ฆ่าเซลล์มะเร็งทิ้งเท่านั้น, นั่นคือสาเหตุที่ว่าทำไมฉันถึงได้ไม่ดัดแปลงมันยังไงล่ะ"

 

"ถ้าอย่างนั้น, ทำไมคนในโลกอนาคตถึงไม่ใช้เทคโนโลยีนี้ในการฟื้นฟูร่างกายกันล่ะ?"

 

อู๋ฮ่าวเหรินเกิดความสงสัย ด้วยวิธีนี้มันน่าจะง่ายกว่า 3 วิธีที่ผ่านมาทั้งหมด แล้วทำไมถึงไม่ใช้วิธีนี้นั้นกัน

 

"มันเคยถูกใช้ไปแล้ว, แต่พวกเขาไม่ได้เปลี่ยนให้เซลล์ธรรมดากลายมาเป็นเซลล์มะเร็ง, แต่กลับใช้ยากระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายทำงานแทนค่ะ, แต่สรุปคือ มันใช้ได้จริงค่ะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินทำการโอนย้ายข้อมูล, และเปรียบเทียบการฟื้นฟูร่างกายด้วยเซลลล์มะเร็ง และพบว่าไม่ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้จริง

 

การเพิ่มจำนวนเซลล์แบบไม่จำกัดของเซลล์มะเร็งนี้เมื่อเทียบกับเซลล์ธรรมดา ถ้าเซลล์ธรรมดานั้นสามารถที่จะเพิ่มจำนวนเซลล์แบบไม่จำกัดได้แล้วนั้น มันก็จะกลายเป็นสิ่งที่ถูกเรียกว่าเซลล์มะเร็ง

 

"จี้, เราสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้โดยไม่มีปัญหาอะไรใช่มั๊ย?"

 

"มันมีปัญหาน้อยมาก, อีกทั้งพวกเราไม่จำเป็นต้องศึกษาเทคโนโลยีสภาพในครรภ์มารดาอีกต่อไปด้วย, ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยเทคโนโลยีนี้พวกเราจะไม่ต้องกังวลเรื่องของการเสื่อมสภาพจากการฟื้นฟูร่างกายอีกด้วย, และด้วยเทคโนโลยีนี้จะสามารถควบคุมการเจริญเติบโตของเซลมะเร็งได้ด้วยอุปกรณ์นี้ ทำให้เซลล์มะเร็งนั้นสามารถเจริญเติบโตได้ตามสถานการณ์ที่เราตั้งค่าเอาไว้"

 

จี้ได้ทำการจำลองภาพการเจริญเติบโตฟื้นคืนของร่างกายให้ดู, อู๋ฮ่าวเหรินพบว่าด้วยเทคโนโลยีนี้ อาจจะดีกว่าการฟื้นฟูด้วยวิธีเลียนแบบครรภ์มารดาเสียอีก

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ถ้าเทคโนโลยีนี้ถูกใช้ มันก็จะไม่ทำให้เด่นมากจนเกินไปด้วย, มันสามารถที่จะประกาศได้ว่าเทคโนโลยีนี้ค้นพบโดยบังเอิญจากตอนกำลังศึกษาการรักษาโรคมะเร็งอยู่

 

"ตอนนี้ดูเหมือนว่าถ้าพวกเราจะทำให้สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ในการฟื้นฟูร่างกายได้จริง พวกเราจะต้องมีการทดลองจำนวนมากมายเพื่อกำหนดระยะการควบคุมการเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็งให้ได้เสียก่อน"

 

"ใช่แล้ว"

 

แล้วก็ข้อได้เปรียบอีกอย่างของเทคโนโลยีนี้คือ, ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะพลาด, แต่มันก็สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งพวกนี้ได้ด้วยเทคโนโลยีการรักษาเซลล์มะเร็งได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น, มันจะมีปัญหาตามมามากมายถ้าจะต้องเตรียมยากระตุ้นการฟื้นฟูพิเศษสำหรับการใช้เทคโนโลยีการฟื้นคืนร่างกายในครรภ์มารดา, แต่ตอนนี้, สิ่งที่คุณต้องการคือยาเสริมอาหารสำหรับการฟื้นฟูร่างกายและยาใช้สำหรับยับยั้งเซลล์มะเร็ง

 

อู๋ฮ่าวเหรินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปหาจื่อหยง เอาต้องการที่จะให้คนๆนี้ช่วยเขาแก้ปัญหาเรื่องยาก่อน

 

แล้วก็, เขาต้องการหนูทดลองเพื่อมาทดลองเรื่องของเซลล์มะเร็งด้วย

 

"เรื่องหนูกับยาไม่น่าจะมีปัญหา, เดี๋ยวผมจะติดต่อไปหารัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขให้และถามดูว่าเขาพอจะช่วยนายได้บ้างมั๊ย แล้วก็เจ้าหนุ่มไม่คิดจะบอกอะไรผมเรื่องนี้หน่อยเหรอ นายกำลังวิจัยเรื่องการรักษามะเร็งอยู่เหรอ?" จื่อหยงพูดถามเขาอย่างไม่มั่นใจ

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรจึงบอกไป: "ใช่, แต่ตอนที่ผมกำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ ผมก็พบว่าเซลล์มะเร็งนั้นก็มีประโยชน์เหมือนกัน"

 

จื่อหยงคิดว่าเขานั้นคงฟังผิดไป, เขาเพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกว่าเซลล์มะเร็งนั้นมีประโยชน์, คนๆนี้บ้าไปแล้วงั้นเหรอ!

 

"คุณบอกว่า มันมีประโยชน์อย่างงั้นเหรอ?"

 

"เซลล์มะเร็งนั้น มีความสามารถเพิ่มจำนวนเซลล์ได้อย่างไม่จำกัดที่ทรงพลังมากด้วย, หลังจากที่ผมลองศึกษาดูก็สามารถพูดได้ว่าเซลล์มะเร็งนั้นมีประโยชน์จริงๆครับ

 

เมื่อจื่อหยงได้ยินเข้าอีกรอบ, เขาก็คิดว่า ถ้าฉันไม่ได้บ้า, ฉันก็คงบอกว่ามะเร็งนั้นมีประโยชน์เหมือนกับฮ่าวเหรินแน่ ดูเหมือนที่เขาบอกว่าคนอัจฉริยะก็คือคนบ้า, น่าจะเป็นเรื่องจริง

 

เมื่อคนจากกระทรวงสาธารณสุข, ได้รับสายโทรศัพท์จากจื่อหยง พวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อทราบว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นกำลังศึกษาเซลล์มะเร็งอยู่ สมองของอัจฉริยะนั้นมันช่างแตกต่างจากคนธรรมดาเสียจริงๆ

 

อย่างไรก็ตาม, พวกเขานั้นได้รับทราบเรื่องมาจากเบื้องบนแล้ว, มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่พวกเขาจะต้องให้การช่วยเหลืออู๋ฮ่าวเหรินแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน

 

อู๋ฮ่าวเหรินที่ยังอยู่ในห้องแล็บนั้นกำลังคิดถึงเรื่องของการยับยั้งเซลล์มะเร็งอยู่นั้น ถึงแม้ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะให้พวกเขามาบ้าง แต่ก็คงจะไม่มากอะไร แล้วยังมีเรื่องของวัตถุดิบทำยาเสริมอาหารอีก, ซึ่งจำเป็นต้องสั่งซื้อมาเป็นจำนวนมาก

 

เขาคิดที่จะโทรไปหาลู่เผิงเฟยเพื่อไปสั่งซื้อยาและวัตถุดิบพวกนี้ แต่เขาก็คิดว่าเขาควรจะสั่งซื้อของพวกนี้ในนามของฟิวเจอร์กรุ๊ปดีไหม? เพราะอาจจะมีใครบางคนที่อาศัยโอกาสนี้กักตุนสินค้าก็เป็นได้

 

เขานั้นไม่ได้กลัวว่าราคาจะพุ่งสูงขึ้นหรอก, แต่เขาไม่ต้องการให้ผู้ป่วยแบกรับราคาที่สูงขึ้นจากการเกร็งกำไรของคนพวกนั้น

 

จากในกรณีนี้เขาจึงคิดที่จะหาใครบางคนมาช่วยเขาซื้อยาและวัตถุดิบพวกนี้แทน, เขาคิดว่าอาจจะเกิดปัญหาได้ถ้าเขาวานให้จื่อหยงช่วย เพราะสุดท้ายแล้วเขาคงให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นคนจัดการให้, เจ้าหน้าที่พวกนั้นเชื่อถือไม่ค่อยได้

 

แต่ขณะที่เขากำลังคิดจะโทรหาหลี่เหวินหัวอยู่นั้น, จู่ๆเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีคนหนึ่ง ที่ไม่คิดจะหวังผลกำไรเข้าตัวเป็นแน่อีกคน


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น