RC:ตอนที่ 443 การรวมตัวครั้งใหม่

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:ตอนที่ 443 การรวมตัวครั้งใหม่

"เพราะการปรับปรุงและพัฒนาความสามารถในการต่อสู้ของสัตว์ร้ายแบบลับ ๆ ทำให้ฉันโดดเด่นและสร้างปาฏิหาริย์มากมาย! นอกจากนี้เพราะฉันได้จัดเตรียมองุ่นวิเศษของแกและผลไม้อื่น ๆ ให้กับกองทัพซึ่งเป็นผลดีต่อการต่อสู้ ภายในครึ่งปี ฉันชนะการต่อสู้หลายครั้งดังนั้นฉันจึงมาถึงตำแหน่งนี้อย่างรวดเร็ว” เอ้อร์โกวซือพูดขณะดื่ม

“ เรื่องทั้งหมดเป็นความโชคดีของแก แกไม่ต้องขอบคุณฉัน อีกอย่างเยาวชนผู้รักชาติอย่างเราควรให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับสิ่งต่าง ๆ เช่นปกป้องประเทศของเรา!” หลินเฟิงหยิบขวดไวน์ขึ้นมาแล้วเทลงถ้วยสำหรับเขา

"ยังไงก็ขอบคุณทุกคน ฉันจะทำเพื่อแกก่อน ถ้าแกต้องการอะไรหลังจากนี้ แกสามารถพูดได้ในฐานะพี่ชาย ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นไปบนภูเขาหรือลงไปในทะเลไฟ" เอ้อร์โกวซือพูด

“ อย่างไรเราก็เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน เราต้องช่วยเหลือกันแน่นอน” หลินเฟิงกล่าวว่า

ในเวลานี้เจ้าจ๋อและตู๋กังต่างก็พยักหน้าและยกแก้วขึ้นมาชนกัน ไวน์กระฉอกออกมาและส่งกลิ่นหอมของไวน์อบอวลไปทั่วห้อง

หลังจากหลายปีที่ผ่านมาหลินเฟิงคนเดิมและพวกเขาเองก็ต่างเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ในเวลานี้อาจกล่าวได้ว่าไม่ใช่ตัวละครธรรมดา หลินเฟิงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก คนที่รวยที่สุดสามารถอธิบายปัญหามากมาย

และเจ้าจ๋อก็ไม่ธรรมดา ตอนนี้เป็นถึงผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของหลินกรุ๊ปโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาเปิดตัวสามผลการวิจัยใหม่มีชื่อเสียงอย่างมากขึ้นในโลก

เอ้อร์โกวซือไม่ใช่เล่นๆ แม้เขาเป็นเพียงแค่ทหาร เนื่องจากความพยายามและโอกาสของเขาเอง ทำให้เขาประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย ต่อมาด้วยความช่วยเหลือของหลินเฟิงตอนนี้เขาก็ถึงจุดที่เรียกได้ว่าเป็นยอดขุนศึกที่ต้องกล่าวขวัญถึง

ถ้าคุณอยากจะพูดถึงสิ่งที่ดีที่สุด บางทีทุกคนอาจจะพูดว่ามันเป็นตู๋กัง ในความเป็นจริงมันไม่ใช่เพราะตู๋กังเป็นหัวหน้าใหญ่ เพราะถ้าหลินเฟิงต้องการสร้างสถานีเก็บขยะถังบำบัดน้ำเสียหรือสิ่งอื่น ๆ ทั่วโลก เขาก็ไม่สามารถทำได้หากไม่มีตู๋กัง

ดังนั้นตอนนี้หลินกรุ๊ปก็มีบริษัทก่อสร้าง ซึ่งเทียบเท่ากับการดำรงอยู่โดยทั่วไปของบริษัทย่อยของหลินกรุ๊ปและตู๋กังเป็นหัวหน้าของบริษัทย่อย

อาจกล่าวได้ว่า บริษัทย่อยนี้เป็นเหมือนแผนกวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของเจ้าจ๋อ มันสามารถเรียกได้ว่าแผนกก่อสร้าง

ดังนั้นในเวลานี้ทุกคนในห้องเป็นคนที่มีอิทธิพลมาก อย่างไรก็ตามพวกเขาทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับหลินเฟิง ท้ายที่สุดไม่ว่าความสำเร็จของพวกเขาคืออะไรพวกเขาก็ประสบความสำเร็จด้วยความช่วยเหลือของหลินเฟิง

พวกเขาทำตัวดีมากในโรงเรียนมัธยมและตอนนี้ก็ผ่านไปหลายปีแล้วในความรู้สึก ซึ่งก็ดีขึ้นไปตามธรรมชาติ

"หลินเฟิงขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่เรามี ให้เราดื่มให้แก” ตู๋กังซึ่งเป็นคนฉลาดที่สุดยอมเปิดปากของเขาเสียที

หลินเฟิงมองไปที่เขา ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ก็สามารถมองเห็นความสำนึกบุญคุณในสายตาของเขาได้ ท้ายที่สุดแล้วตู๋กังดูเป็นคนที่น่าสงสารมานาน พ่อของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก และแม่ของเขาป่วยหนักมาก เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเดินหน้าต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลานั้นทีมวิศวกรรมของพวกเขาพากันไปตกปลาเป็นเวลาสามวันและกว่าอวนจะแห้งก็สองวัน ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ได้ทำงาน แต่พวกเขาไม่สามารถรับงานได้ อาหารและเสื้อผ้าเหล่านั้นบางครั้งก็แก้ยากเกินไป

ในเวลานั้นเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีโอกาสที่ยิ่งใหญ่เช่นในวันนี้ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่พูดมากนัก แต่ความกตัญญูของเขาต่อหลินเฟิงก็หาที่เปรียบมิได้

“ เอาเถอะ อย่าพูดอะไรเลย ดื่มให้หมดแก้ว!” แล้วบางคนก็เริ่มดื่ม

หลังจากผ่านไปนาน หลายคนก็เมาเล็กน้อย แต่นอกเหนือจากเจ้าจ๋อที่หน้าแดงแล้ว แต่สามคนก็ยังดูมีแรงดีอยู่ แม้ว่าไวน์นี้จะไม่เลวนัก แต่ก็ไม่สามารถทำให้หลายคนเมาได้

"หลินเฟิง อันที่จริงแล้วคราวนี้ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับหวังหานในความสุขใหญ่ยิ่งของเขา” อย่างไรก็ตามเมื่อสี่คนนั้นดื่มจนเรื่องจะเมาเหมือนกัน เอ้อร์โกวซือก็เอ่ยปากพูด

“ เกิดอะไรขึ้น? แกสามารถบอกฉันได้ว่าภารกิจหลินเฟิงนั้นคืออะไร”

"เนื่องจากสงครามที่ตึงเครียดเมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันได้รับการกระตุ้นจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ฉันหวังว่าตัวเองจะแสดงทักษะลับของการรวมร่างสัตว์วิญญาณเพื่อความแข็งแกร่งของกองทัพจีนตอนเหนือและแม้กระทั่งกองกำลังทหารจีนทั้งหมดสามารถเติบโตได้สัก 30% ถึง 50% " เอ้อร์โกวซือบอกแก่เขา

ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เอ้อร์โกวซือคุยกับหลินเฟิงเกี่ยวกับปัญหานี้ เป็นเวลานานแล้วที่หลินเฟิงศึกษาวิธีลับในการรวมร่างกับสัตว์วิญญาณและส่งมอบให้กับเอ้อร์โกวซือ

ในช่วงเวลานี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอ้อร์โกวซือขอให้เขาถามซ้ำอีกครั้งถึงวิธีการลับในการต่อสู้ของหลินเฟิงและแม้กระทั่งขอให้เอ้อร์โกวซือเชิญเขาไปยังทิศเหนือโดยตรงเพื่อพูดคุยอย่างละเอียด อย่างไรก็ตามในเวลานั้นหลินเฟิงยุ่งตลอดเวลาและหลินเฟิงมักปฏิเสธการชวนของมู่ซินซินดังนั้นเขาจึงปฏิเสธซ้ำ ๆ

เพราะผู้อาวุโสไป๋เคยบอกหลินเฟิงว่าพ่อของมู่ซินซินเป็นผู้มีอำนาจและเขาก็เป็นทหารใหญ่ที่มีหมัดหนัก เจ้านายของเอ้อร์โกวซือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพ่อเขา ในเวลานั้นจุดแข็งของหลินเฟิงเองก็ไม่ดี ถ้าเขาไปที่นั่นมันจะเป็นการทำธุรกรรมที่ไม่เป็นธรรม

แม้แต่พ่อของมู่ซินซินก็อาจดูถูกหลินเฟิงซึ่งผู้อาวุโสไป๋บอก ดังนั้นหลินเฟิงจึงถูกลากไปและไม่ได้ไปทางเหนือ

ยิ่งไปกว่านั้นมู่ซินซินไม่ได้ติดต่อกับหลินเฟิงมากนัก แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังคงอยู่ที่นั่น หลินเฟิงรู้ดี

อย่างไรก็ตามมู่ซินซินไม่เคยพูดถึงพ่อของเธอกับหลินเฟิงและเธอก็ยังต้องการหลีกเลี่ยงครอบครัวของเธอจากทุกสิ่งเหล่านี้หลินเฟิงอาจเดาได้หลายอย่าง

หลินเฟิงรู้ความรู้สึกของมู่ซินซินเอง เนื่องจากเธอไม่เคยพูดถึงพ่อแม่ของเธอหรือพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวเหตุผลส่วนใหญ่ก็เหมือนที่หลินเฟินคิด ดังนั้นเมื่อหลินเฟิงมีข้อมูลเพียงพอ เขาสามารถไปนั่งกับพ่อของเขาและพูดคุยกันอย่างเชื่องช้าได้

เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงไม่ตอบเขาเขาจึงพูดต่อว่า: "ถ้าแกเพิ่มผลไม้วิเศษเหล่านั้นให้กับทักษะการรวมร่างสัตว์วิญญาณ ประสิทธิภาพการรบของกองทัพจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยหนึ่งเท่าหรือหลายเท่า"

เมื่อเห็นเอ้อร์โกวซือกระตือรือร้น หลินเฟิงก็รู้ว่าเขาคิดอะไร แต่เขาไม่รู้เรื่องของหลินเฟิง เพราะเขาไม่รู้ว่าหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของเขาคือพ่อของมู่ซินซิน

"รออีกสองสามวันฉันจะจัดการเรื่องนี้แล้วฉันจะไปทางทิศเหนือกับแก" หลินเฟิงกล่าวว่า

"จริงเหรอ?" เอ้อร์โกวซือกล่าวด้วยความประหลาดใจ

"จริงสิ ! มีสิ่งอื่น ๆ ที่จะพูดคุยกับผู้นำของแกและเรามีสิ่งใหม่ที่จะขายให้แก” หลินเฟิงตอบในเชิงบวก

"อะไรนะ" เอ้อร์โกวซือรู้สึกมีความสุขและแสดงความอยากรู้อยากเห็น

หลินเฟิงหัวเราะแล้วมองไปที่เจ้าจ๋อก่อนพูดว่า "ให้เจ้าจ๋อคุยกับแก! เขาเป็นคนสนับสนุนสิ่งเหล่านี้อย่างดี

"เจ้าบ้า พูดจาตลก นี่ถ้าเขาไม่มีเงินสักพันล้าน ฉันคงจะไม่ทำอะไรสักอย่างในชีวิตของฉัน! เอาล่ะ ฉันจะแสดงมันให้ดูตรงๆ!" เจ้าจ๋อเอาสองสิ่งโดยตรงจากวงแหวนมิติ.

สิ่งแรกคืออะไรสักอย่างที่ดูเหมือนชิป เมื่อเอ้อร์โกวซือคนนี้เห็นแล้ว ในเวลานั้นมันเป็นครั้งแรกที่หลายคนได้มีโอกาสเห็น เมื่อเจ้าจ๋อแสดงมันต่อหน้าหลินเฟิง พวกเขาก็ต้องประหลาดใจ

นี่คือชิปพรสวรรค์!