RC:บบที่ 433 ผลที่น่าอัศจรรย์ของลำดับห้าธาตุรวมวิญญาณ

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บบที่ 433 ผลที่น่าอัศจรรย์ของลำดับห้าธาตุรวมวิญญาณ


รัศมีของลำดับวิญญาณได้เปลี่ยนไปจากหนึ่งเมตรเป็นสองเมตร พลังวิญญาณแข็งแกร่งกว่าคราวล่าสุดสามถึงสี่เท่า แม้แต่หลินเฟิงเองก็ยังตกตะลึง


เพียงของวิเศษขั้นกลางห้าชิ้น ก็ทำให้หลินเฟิงรู้ว่าตนเองคิดถูก มันเพียงพอให้เขาสามารถดูดซับพลังสูงสุดระดับ a ได้


โดยไม่ต้องเอ่ยอะไร หลินเฟิงจึงนั่งลงตรงกลางวงแหวนวิญญาณและดูดซับพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งในนั้นอย่างบ้าคลั่ง


หลินเฟิงดูดซับพลังด้วยวิธีนี้จนเกือบครบหนึ่งชั่วโมงแล้ว พลังวิญญาณในของวิเศษระดับกลางห้าทั้งชิ้นก็หมดลงและกลายไปเป็นขยะ


หลินเฟิงคาดว่าภายใต้ผลของลำดับวิญญาณ พลังวิญญาณจากหินวิญญาณระดับกลางห้าก้อนจะเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า


"งั้นมาลองอีกทีด้วยของวิเศษขั้นสูง!" จากนั้น หลินเฟิงก็นำของวิเศษระดับสูงห้าชิ้นออกมาวาง ในตอนนั้นหลินเฟิงก็ช็อคยิ่งกว่าเดิม ของวิเศษที่ร้ายกาจของเขาแทบจะกลายเป็นของเหลว


โฮก!!!


มังกรดำกู่ร้องและบินออกมาจากหว่างคิ้วของหลินเฟิง


"เป็นพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งสุดยอด! เกือบจะเท่ากับหินวิญญาณหกก้อน! " มังกรดำประหลาดใจ


ต้องรู้กันก่อนว่าหินวิญญาณหกก้อนที่มังกรดำพูดถึงคือหินวิญญาณสีระดับศักดิ์สิทธิ์ห้าก้อนหรือหินวิญญาณสีระดับพระเจ้าหนึ่งก้อน พลังวิญญาณที่มันปลดปล่อยออกมานั้นร้ายกาจอย่างแท้จริง ดังนั้นเมื่อมังกรดำบอกว่าพลังวิญญาณนี้เทียบได้กับพลังวิญญาณของหินวิญญาณหกก้อนจึงถือได้ว่ามันน่าอัศจรรย์มาก


อย่างไรก็ตาม แม้หินวิญญาณห้าก้อนจะหมายถึงหินวิญญาณศักดิ์สิทธิ์หรือหินวิญญาณพระเจ้า พวกมันกลับสามารถปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมาได้อย่างไม่รู้จบแต่ทว่าปริมาณที่ปลดปล่อยออกมานั้นจะไม่มาก ราวกับว่าคุณมีทะเลแห่งหนึ่งแต่ไม่สามารถใช้ท่อน้ำขนาดสองนิ้วสูบออกได้หมดอย่างรวดเร็ว


"นายจงดูดซับพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นี่และดูว่าต้องใช้เวลานานมากแค่ไหน!" หลินเฟิงเอ่ย


"เยี่ยม! ขอบคุณนายท่าน! " มังกรดำกล่าวแล้วเปลี่ยนร่างให้เล็กลงเพื่อเข้าไปอยู่ในลำดับวิญญาณ จากนั้นก็ดูดซับพลังวิญญาณพวกนี้อย่างบ้าคลั่ง


หลินเฟิงไม่มีอะไรทำจึงเริ่มดูดซับพลังต่อ แม้หลินเฟิงจะบรรลุระดับ A สูงสุดแล้ว แต่สัตว์วิญญาณที่ทำพันธะสัญญากับเขาหลายตัวก็ยังไม่บรรลุถึงระดับ S ดังนั้นตบะของเขาก็เลยยังคงอยู่ที่ระดับ A สูงสุดเรื่อยมา


ถึงอย่างนั้น หลินเฟิงก็ค้นพบว่าแม้เขาจะไม่สามารถบรรลุได้จากการดูดซับพลังวิญญาณพวกนี้ แต่เขาสามารถบีบอัดพลังวิญญาณให้เล็กลงได้และมันจะทรงพลังมากยิ่งขึ้นเมื่อปลดปล่อยออกมา


พวกเขาดูดซับหินวิญญาณห้าก้อนจนพลังของพวกมันหมดเกลี้ยงและกลายเป็นกากเดนโดยใช้เวลาประมาณสามชั่วโมง 


จากนั้นหลินเฟิงต้องการลองใช้ของวิเศษระดับสูงสุดมากกว่าเดิม แต่เขากลับพบว่าเขาไม่มีของวิเศษระดับสุดยอดอยู่เลยนอกจากของวิเศษศักดิ์สิทธิ์เพียงห้าชิ้น


ดังนั้น ในตอนสุดท้าย หลินเฟิงจึงเอาหินวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ห้าชิ้นนั้นใส่เข้าไปในลำดับห้าธาตุ วินาทีต่อมา การก่อตัวของวิญญาณก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และรัศมีก็กว้างขึ้นกว่าเดิมจากสองเมตรไปเป็นสิบเมตรซึ่งดูเหมือนจะรับไม่ค่อยไหวนิดหน่อย


พลังวิญญาณพลุ่งพล่านไปเป็นวงกว้าง ในช่วงสั้นๆ ก็มีละอองพลังวิญญาณเกิดขึ้น พลังวิญญาณที่ร้ายกาจนั้นทรงพลังมากจนกลายเป็นละออง หลินเฟิงกับมังกรดำรู้สึกชุ่มช้ำไปทั้งตัว มันไม่ใช่น้ำเลยไม่ทำให้เปียกปอนแต่มันคือพลังวิญญาณเหลว


หลินเฟิงกับมังกรดำตกตะลึงและชะงักงัน จากนั้นสักพักมังกรดำก็มองไปยังหลินเฟิงและเอ่ย "นายท่าน มันเยี่ยมมาก เยี่ยมมากๆ ด้วยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ข้าสามารถสกัดส่วนสำคัญของมังกรเขียวได้ภายในสามเดือน ฟื้นฟูให้กลับมาเหมือนเมื่อก่อนหรือแม้กระทั่งก้าวข้ามความแข็งแกร่งที่เคยก่อนหน้านั้นไปได้เลย!"


เมื่อได้ยินคำกล่าวของมังกรดำ หลินเฟิงจึงมีความสุขมากๆ ยิ่งความแข็งแกร่งของมังกรดำฟื้นฟูขึ้นมาเร็วมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยหลินเฟิงได้มากเท่านั้น


"เยี่ยม งั้นฉันจะไม่เอาหินวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ออกจากลำดับวิญญาณแล้วกัน โชคดีที่นายสามารถดูดซับพลังวิญญาณอยู่ที่นี่ได้เลย งั้นก็สกัดส่วนสำคัญเลือดจากมังกรเขียวและฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้นะ" หลินเฟิงบอกมังกรดำ


"ขอรับ นายท่าน!" มังกรดำรับคำ


หลังจากนั้นหลินเฟิงก็ออกไปจากลานกว้าง และในวันถัดมา เขาก็ไปที่เมืองหลวงของรัฐซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของหลินกรุ๊ป


ปัจจุบันนี้ สำนักงานใหญ่หลินกรุ๊ปงดงามยิ่งกว่าคราวก่อนที่หลินเฟิงมา บริเวณรอบอาคารถูกหลินกรุ๊ปกว้านซื้อและใช้ประกอบธุรกิจต่างๆ และใช้ตามวัตถุประสงค์ต่างๆ มากมาย


ยกตัวอย่างเช่น หนึ่งในสามของพื้นที่ใช้เพื่อวิจัยเจ้าลิงและยังมีเจ้าลิงเป็นผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังมีนักวิจัยร่วมอุดมการณ์มากกว่า 30 คนที่ถูกจ้าง มีเพียงบริษัทของหลินเฟิงเท่านั้นที่แข็งแกร่งอย่างนี้


ตอนนี้ หลินเฟิงเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในสิบผู้ที่ร่ำรวยที่สุดแห่งจีนในอนาคต แม้แต่ตัวหลินเฟิงเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าเขานั้นยิ่งใหญ่มากแค่ไหน เขามีอุตสาหกรรมไวน์, อุตสาหกรรมผลไม้และอุตสาหกรรมอาหารอยู่ทั่วประเทศ


ทุกวันนี้ แม้แต่ในเมืองหลวง หากเอ่ยถึง "ไก่ฟีนิกซ์" และ "ไวน์ฟีนิกซ์"แล้ว ไม่มีใครไม่รู้จักว่าเป็นอุตสาหกรรมภายใต้หลินกรุ๊ป


วันนี้หลินเฟิงไปกับหวังหานในนามของหลินกรุ๊ป ตอนนี้หลินเฟิงไม่ได้แสดงตัวออกมา เขาแค่ไปดูงานอย่างเงียบๆ 


ไม่นานเขาก็มาถึงสถาบันวิจัยของเจ้าลิงที่ที่มีนักวิจัยในชุดกาวน์อยู่เป็นจำนวนมาก หลินเฟิงเดินเข้าไปหาและคุยกับเจ้าลิงอย่างเป็นกันเองแทนที่จะรบกวนพวกเขา


"สบายดีไหม? ช่วงนี้นายค้นพบอะไรดีๆรึเปล่า?" หลินเฟิงถาม


"นายมาที่นี่ได้ถูกเวลาเลย ฉันจะโชว์ผลการทดลองของพวกเราให้นายเห็น!" เพราะเหตุนั้น เจ้าลิงจึงเดินนำหลินเฟิงเข้าไปยังสถานที่ที่มีเครื่องมือเต็มไปหมด


หลังจากเดินอยู่สักพักก็หยุดลง เขาเดินเข้าไปในห้องระบบปิดที่ต้องระบุตัวตนในนั้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสแกนม่านตา, เครื่องสแกนนิ้ว ตลอดจนเครื่องสแกนใบหน้า


นี่คือสิ่งที่หลินเฟิงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และยังมีสิ่งระบุตัวตนอื่นๆที่เขามองไม่เห็นอยู่อีกหลายชนิดจนหลินเฟิงปวดหัวไปหมด!


หลังผ่านเครื่องสแกนจำนวนมากไป เจ้าลิงก็พาหลินเฟิงเข้ามาในห้องที่เต็มไปด้วยสิ่งของต่างๆ สิ่งแรกที่เจ้าลิงพาหลินเฟิงไปดูก็คือชิปที่เจ้าลิงเป็นผู้พัฒนา


"เจ้าบ้า นายเห็นไหม นี่คืองานวิจัยชิ้นแรกของฉัน ชิปอัจฉริยะ!" เจ้าลิงชี้ไปยังแผ่นชิปจำนวนมากและกล่าวกับหลินเฟิง


หลินเฟิงเหลือบมอง มันมีมากจริงๆ พวกมันมีอยู่หลายร้อยชิ้นและหลินเฟิงก็ประหลาดใจที่ได้เห็นว่าชิปพวกนี้ต่างไปจากชิปอันก่อนของเขา


เมื่อก่อน เจ้าลิงจะให้หลินเฟิงเห็นแค่ภาพชิปพวกนี้เท่านั้น แต่ในเวลานี้ ชิปแต่ละอันมีชื่อเป็นของมันเองและมีเครื่องหมายบนชิปตั้งแต่ C ไปจนถึง s  


"สัญลักษณ์นี้หมายถึงอะไร?" หลินเฟิงถาม


"C จนถึง s หมายถึงระดับของชิปพวกนี้ จาก C ไป s!" เจ้าลิงตอบ


"ต่างกันยังไงเหรอ?" หลินเฟิงถามขึ้นอีกครั้ง


"มันมีความแตกต่างตรงที่ ยิ่งระดับของสัตว์วิญญาณแตกต่างกันระดับความแข็งแกร่งก็จะยิ่งต่างกัน และพลังความสามารถก็จะต่างกันไปด้วย! ดังนั้น ฉันก็เลยแบ่งความสามารถจาก C ไปถึง s! ตามความสามารถที่หาได้ยาก ยิ่งทรงพลังมาก ระดับก็จะยิ่งสูงขึ้นตาม! "


"ระดับที่นายให้ฉันไปคราวล่าสุดคืออะไรล่ะ?" หลินเฟิงถาม


ในตอนนั้น หลินเฟิงใช้ชิปสามแผ่นเพื่อเพิ่มความเร็วในคราวเดียวกัน และความเร็วของเขาก็ช่างมากราวกับการเคลื่อนไหวของผู้มีพลังระดับ SSS 


"ทั้งหมดคือระดับ A ฉันมอบให้นายหลังทดสอบไปหลายร้อยรอบจนไม่เกิดปัญหาใดๆ บางตัวเป็นตัวกึ่งสมบูรณ์เพราะมันไม่ค่อยเสถียรและยังต้องพัฒนาเพิ่มอีก..."


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น