RC:บทที่ 420 มังกรทมิฬเลื่อนระดับ
“ฉันทนไม่ไหวแล้ว...” หลินเฟิงพูดไม่ทันจบ ร่างของเขาก็ทรุดล้มลงไปกับพื้น
กรรร!!
จังหวะต่อมา เสียงของมังกรก็ดังกระหึ่มขึ้นมา เสียงของมันก้องกังวาลไปทั่วถ้ำ เสียงที่ฟังดูเกรียงไกร เก่าแก่ และพร้อมจะทำลายล้างทุกอย่าง ราวกับเสียงครวญจากโบราณกาลกำลังเดินทางสู่ปัจจุบัน
ชายชุดดำที่กำลังพุ่งเข้ามานั้น ทำได้เพียงแค่ครึ่งทางจู่ๆร่างนั้นก็โดนแรงบางอย่างสั่งให้หยุด
เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายนี้ เสียงของมังกรคำรามที่ดังขึ้นมาเองก็ชัดเจนเช่นกัน เขาบ่นเบาๆ “กลิ่นอายนี่...เสียงร้องนี่...ราชาทมิฬงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว ข้าเอง!” เสียงของมันดังขึ้นมาจากปากของหลินเฟิง
และทันใดนั้นร่างของหลินเฟิงก็มีเกล็ดมังกรสีดำกระจายออกมาจากกลางอก ก่อนจะลามไปยังแขน ขาแล้วก็ใบหน้าและกลางหลัง จนทั้งตัวถูกหุ้มไปด้วยเกล็ดมังกรสีดำ
ร่างนั้นค่อยๆยืนและลืมตาขึ้น แสงสีทองเปล่งออกมาจากร่างของหลินเฟิงและหยุดร่างของชายชุดดำเอาไว้
“ไม่เจอกันนานเลยนะ” เสียงที่ฟังดูมีอายุและทรงพลังเปล่งออกมาจากปากของหลินเฟิง
“ไม่ใช่ว่าเพิ่งเจอกันไปหรือไง?” ชายในชุดดำตอบกลับ
หลินเฟิงฟังและแสยะยิ้มก่อนจะพูดด้วยเสียงที่เกรียงไกร “นี่คือครั้งแรก ที่เราได้พบกันจริงๆ”
เขาพูดก่อนที่ความแข็งแกร่งระดับมหาศาลจะระเบิดออกมา ความแข็งแกร่งระดับ SSS นั้นข่มให้ผู้ที่ได้ชมเกรงกลัวตามๆกันไป ควบคู่ไปกับลมหายใจแห่งโบราณกาลยิ่งทำให้มันดูต่างออกไปจาก SSS ปกติ
ในตอนนั้นที่หน้าผากของหลินเฟิง เขามังกรทั้ง 8 ก็งอกออกมาจากสองฝั่งหัว และถ้าไม่ได้ใส่ใจมอง คุณอาจจะคิดได้ว่ามันคือหัวมังกรที่สวมลงมาบนร่างมนุษย์ไปแล้ว
“โอ้? ความแข็งแกร่งกลับมาเป็นระดับ SSS ตอนต้นแล้วเหรอ?” ชายลึกลับคนนั้นมองย้อนกลับไปด้านหลังของเขาเพื่อหาบางสิ่งบางอย่าง และเขาก็พบศพ 2 ศพที่นอนกองอยู่กับพื้น
ทั้งสองคนนั้นคือคนที่หลินเฟิงฆ่าเพื่อชิงเลือดบริสุทธิ์ของมังกรทมิฬ เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็เข้าใจถึงสถานการณ์ปัจจุบันทันที
“แต่ถึงนายจะกลับมาเป็น SSS ตอนต้นแล้ว ยังไงซะนายก็ยังเป็นได้แค่ตั๊กแตนตำข้าวในสายตาฉันอยู่ดีนั่นแหละ!” ชายชุดดำเอ่ย
“งั้นเหรอ?” หลินเฟิงพูดพร้อมแสยะยิ้ม
ทันใดนั้นชิปทั้งสามที่อยู่บริเวณหว่างคิ้วของเขาก็เปล่งแสงขึ้นมา ถ้าหากสังเกตุดีๆก็จะพบว่าชิปทั้ง 3 นั้นเริ่มมีรอยร้าวแล้ว
“หือ?” เห็นดังนั้นชายชุดดำก็ขมวดคิ้วและเริ่มรู้สึกไม่ดีเสียเท่าไหร่
ครู่ต่อมาร่างกายของหลินเฟิงก็หยุดนิ่งไป จากนั้นชายชุดดำก็ได้พบว่าร่างนั้นค่อยๆกระจายออกและหายไปในที่สุด
“ไม่ดีแล้ว!” ชายชุดดำนั้นต้องการที่จะหนี แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกหนาวขึ้นมาจากกลางสันหลัง
กรงเล็บคมกริบของมังกรตะปบเข้าที่หลังของเขา รอยเล็บข่วนก่อให้เกิดแผลลึกถึง 5 รอย เลือดของเขาไหลกระฉูดออกมาก่อที่ทั่วทั้งร่างจะกระเด็นไปกระแทกกับกำแพงหินตรงหน้า
“เป็นไปได้ยังไงกันน่ะ!?” ชายชุดดำค่อยๆไหลลงไปกองกับพื้นก่อนจะพูดขึ้นด้วยความตกใจ
ในตอนนี้เขารู้แล้วว่าหลินเฟิงนั้นแข็งแกร่งจริงๆ หากแต่ถ้าจะให้พูดตรงๆ ควรจะบอกว่าความแข็งแกร่งนั้นมาจากมังกรทมิฬมากกว่า เพราะหลินเฟิงนั้นกำลังอยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว ร่างกายของเขาตอนนี้ถูกมังกรทมิฬควบคุมอยู่ทั้งหมด
มังกรทมิฬนั้นมีทักษะการต่อสู้ที่สูงกว่าหลินเฟิงเอาเสียมากๆ ถึงแม้ว่าเขาจะควบคุมร่างมนุษย์ได้ไม่เท่ากับร่างของมังกรก็ตาม แต่มันก็มากพอที่จะทำให้ชายชุดดำตรงหน้านี้ไม่สามารถโต้กลับได้ แล้วไหนจะความเร็วและการตอบสนองที่น่ากลัวนั่นอีก
เมื่อเขาลงไปกองกับพื้นแล้ว เขาก็รู้สึกได้ถึงอันตรายอีกครั้งและคราวนี้ความรู้สึกนั้นมันอยู่ตรงหน้าเขาเลย
วินาทีต่อมา ร่างของหลินเฟิงก็มาปรากฎอยู่ตรงหน้าเขา ร่างนั้นเริ่มต่อยและรุมสะกำเขาที่ซึ่งแทบจะโต้ตอบไม่ทันก่อนที่จะหายไปและปรากฎตัวในมุมอื่นๆรอบๆตัวเขา
ชายชุดดำพยายามจะต่อยกลับไปยังร่างนั้นแต่ว่าหมัดของเขากับทำได้แค่ต่อยเงา เมื่อรู้ตัวอีกทีหน้าอกของเขาก็โดนหมัดที่เต็มไปด้วยเกล็ดมังกรซัดเข้ามาเต็มๆเสียแล้ว
*ผั้วะ!*
ด้วยเสียงของหมัดปะทะกับทรวงอกรุนแรงนั้น มันทำเอาร่างของชายชุดดำลอยตามแรงพร้อมกับกระอักเลือดออกมาผ่านหน้ากากสีดำของเขาในทันที ร่างของเขากระเด็นไปปะทะหินอีกครั้งก่อนจะตกลงมากองกับพื้น
หลินเฟิงจับหน้ากากสีดำบนหน้าของชายคนนั้นไว้และต้องการที่จะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของอีกฝ่าย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ใบหน้าของคนๆนี้เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกๆคนในโลกแห่งกำลังด้วยว่า ผู้ที่ครอบครองพลังระดับ SSS ขั้นสุดยอดนั้นเป็นอย่างไร
ผู้ที่มีระดับเป็นถึงขั้นสุดยอดของ SSS เช่นนี้ไม่ควรถูกโลกลืม
อย่างไรก็ตาม เมื่อหลินเฟิงจับมัน ชายชุดดำนั้นก็รีบกันหน้าเขาไว้ด้วยมือก่อนทำให้หลินเฟิงไม่สามารถนำหน้ากากสีดำนั้นออกมาได้
“ไม่น่าภิรมณ์เอาซะเลยนะ คิดว่าฉันทำอะไรนายไม่ได้งั้นเหรอ?” ชายชุดดำพูดพร้อมทั้งปล่อยพลังมหาศาลออกมาจากทั้งร่าง กลิ่นอายของความแข็งแกร่งนั้นทำให้มังกรทมิฬต้องตกใจ จากนั้นหว่างคิ้วของชายตรงหน้าก็เปล่งแสงพร้อมกับปล่อยร่างของบางสิ่งบางอย่างออกมา
มังกรทมิฬรับรู้ได้ถึงอันตราย มันรีบถอยกลับมากว่า 10 เมตรเพื่อมองดูสิ่งที่ปรากฎตัวออกมา ร่างขนาดใหญ่ที่ซึ่งมีหางคมและยาวฟาดหางมันลงไปกับพื้นรุนแรง หากมังกรทมิฬตอบสนองช้ากว่านี้แม้แต่วินาทีเดียวบางทีเขาอาจจะกลายเป็นศพไปแล้ว
วินาทีต่อจากนั้น แมงป่องพิษตัวใหญ่ที่มีหางถึง 9 หางก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของชายลึกลับคนนั้น ตัวมันไม่ได้ใหญ่มากและทั่วทั้งตัวก็เป็นสีม่วง หางยักษ์ทั้ง 9 นั้นกระดกยกอยู่ในอากาศและที่ปลายหางแต่ละหางนั้นมีเหล็กในคมกริบประดับอยู่
ตรงหน้าของเจ้าแมงป่องนั้นมีก้าม 2 อันที่กำลังขูดกันไปมาอยู่ มันคมมากๆและดูเหมือนมันจะตัดทุกๆสิ่งให้ขาดเป็นสองท่านได้ง่ายๆ น่ากลัวจริงๆ
ชายชุดดำยืนขึ้นพร้อมกับบิดคอไปมาจนเกิดเสียงกระดูกบดกัน ในตอนนั้นกลิ่นอายที่มาจากตัวเขานั้นมันน่ากลัวกว่าเดิมเสียอีก และกลิ่นอายนั้นมันก็ทำเอามังกรทมิฬตะลึงด้วย
ถ้านี่ยังเป็นยุคที่มังกรทมิฬเรืองอำนาจ แน่นอนว่าชายคนนี้รวมถึงเจ้าแมงป่องนี่ไม่ใช่ศัตรูที่ควรกลัวเลย เขาสามารถชนะทั้งคู่ได้ง่ายๆ
แต่เพราะเป็นเวลานี้ เวลาที่ความแข็งแกร่งของเขานั้นอยู่แค่ระดับ SSS เท่านั้น แม้จะได้พลังของชิปทั้ง 3 มาช่วยเรื่องความเร็ว แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นยังคงไม่พอที่จะล้มชายชุดดำนี่ได้
“มึนอะไรอยู่น่ะ? รีบๆไปฆ่ามันสิ!” ชายชุดดำตะโกนบอกทุกๆคนที่เอาแต่ยืนดู
ได้ยินคำสั่งของชายชุดดำทุกคนก็เริ่มพุ่งเข้าโจมตี SSS ทั้ง 7 คนกับพวก SS ที่เหลืออีกหลายคนเลย
ทางด้านกระดูกโลหิตพวกนั้นนั้นไม่ได้เกรงกลัวความเจ็บปวดหรือความตาย พวกมันฆ่า SS 1-2 คนได้ในเวลาอันสั้น อีกฝั่งหนึ่ง ทางฟากงูกยักษ์ที่มาแค่หัวนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทั่วบริเวณแห่งนี้มีแต่ซากศพเต็มไปหมดแล้ว
แต่เดิมพรรคพวกของหลินเฟิงก็น้อยอยู่แล้ว มาในตอนนี้มันยิ่งน้อยลงกว่าเดิมเสียอีก ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป อีกไม่นานเหล่า SS ได้สังเวยชีวิตกันที่นี่จนหมดแน่
0 ความคิดเห็น