CF:บทที่ 769 กองทัพมังกรดำ

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 769 กองทัพมังกรดำ

 

หลังจากที่เถียนต้าและแมนเทิลออกไป, ฝานซิงหลุนก็ไม่รอช้ารีบนำเอาข้อมูลมาและไปเข้าพบกับผู้อาวุโสฝานซูจิตอีกครั้ง

 

เมื่อผู้อาวุโสได้เห็นข้อมูลที่อู๋ฮ่าวเหรินให้มา, เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนระดับนี้ที่มาขอความร่วมมือกับพวกเขาเช่นนี้

 

"มันจะไม่มีปัญหาอะไรใช่มั๊ย?"

 

"ผมคิดว่าไม่นะครับ, ถึงชายที่ชื่ออู๋ฮ่าวเหรินนั้นจะลึกลับมาก, และในปัจจุบันจะไม่มีใครรู้ว่าเขานั้นเป็นตัวแทนจากอารยธรรมไหน, แต่ดูจากวิทยาการที่เขาใช้ในการสร้างสิ่งนี้นั้น, เห็นได้ว่าเขาทรงพลังมาก, ถ้าเขาต้องการที่จะจัดการกับทั้งอารยธรรมของอาตริกร้านั้น, มันก็ไม่น่าเป็นเรื่องยากเลย"

 

"ถ้าอย่างนั้น, ก่อนอื่นก็ลองตรวจสอบกองกำลังมาดจิล่าที่มีปัญหากับเขากันก่อนเถอะ"

 

"เข้าใจแล้วครับ, ผมจะไปตามสืบให้ครับ, แต่ว่านะครับ ดูเหมือนว่ากองกำลังที่ว่านี้ดูเหมือนจะมีส่วนร่วมในการปิดล้อมและกดดันตระกูลของพวกเราด้วยนะ, ดูเหมือนพวกเขาจะมีส่วนร่วมซะเยอะเลยด้วย"

 

"ก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง, พวกเราจะได้มีเหตุผลที่จะฆ่าพวกนี้เพิ่มขึ้นไปอีก"

 

เมื่อเขาออกมาจากห้องลับ, ฝานก็เริ่มเคลื่อนไหวทันทีอย่างรวดเร็ว

 

อันดับแรก, เขาลองสืบเรื่องของความขัดแย้งระหว่างอู๋ฮ่าวเหรินกับมาดจิล่าดูก่อน

 

ในขณะเดียวกัน, เขาก็เริ่มใช้กำลังพลของทั้งตระกูลฝานเต๋อหัวเข้าปะทะกับองค์กรต่างๆที่ต้องการจะยึดเอาผลประโยชน์ของตระกูลฝานเต๋อหัวไป

 

แต่น่าเสียดาย, ที่ไม่มีความคืบหน้าอะไรในการตามสืบเรื่องของความขัดแย้งระหว่างอู๋ฮ่าวเหรินกับมาดจิล่าเลย

 

แต่ถึงแม้สายสืบที่เขาส่งออกมาจะไม่พบอะไรที่เกี่ยวข้องกับอู๋ฮ่าวเหรินเลยในปัจจุบัน, แต่ทว่าเขาก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นการพัฒนาในเขตดาวบลู

 

เมื่อเขาได้ห็นสิ่งต่างๆที่อู๋ฮ่าวเหรินได้ทำมาก่อนจากในวิดีโอ, เขาก็พบว่าตัวตนของอู๋ฮ๋าวเหรินนั้นไม่ธรรมดาเลย

 

หลังจากที่ได้อ่านเรื่องของการพัฒนาในเขตดาวบลูแล้ว, เขาก็รู้สึกอึ้งขึ้นมาในทันที, เพราะจากที่เขาเคยรู้มาที่นี่น่าจะเป็นเขตดาวส่วนบุคคลที่เพิ่งบุกเบิกมาไม่นานแท้ๆ, แต่นี่มันอะไรกัน!

 

เขตดาวบลูนั้นมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก, มีขนาดเพียงแค่ 1 ใน 10 ของเขตดาวทั้งหมดของชาวอาตริก้าด้วยซ้ำ, แต่ทว่าการก่อสร้างเขตดาวบลูนั้นกลับล้ำหน้ากว่าการก่อสร้างในเขตดาวพาบูเสียอีก

 

เทคโนโลยีที่ใช้นั้นล้ำหน้าเสียยิ่งกว่าอารยธรรมชั้นสูงเสียอีก, และไหนจะความสามารถของชาวบลูแมนอีก

 

และถ้าชุดเกราะคือสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับอู๋ฮ่าวเหริน และทำให้อู๋ฮ่าวเหรินกลายเป็นเป้าหมายของใครต่อใครแล้วนั้น

 

ฐานการผลิตยานรบที่สร้างขึ้นมาใหม่ในเขตดาวบลูนั้นทำให้ฝานซิงหลุนนั้นรู้สึกถึงพลังที่อู๋ฮ่าวเหรินครอบครองอยู่และทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมา

 

เพราะฐานการผลิตยานรบที่สร้างขึ้นมาใหม่นั้นล้ำสมัยเสียยิ่งกว่ายานรบของอารยธรรมชั้นสูงเสียอีก

 

ยิ่งไปกว่านั้น, พวกเขายังสามารถผลิตยานรบที่ทรงพลังได้อีกด้วย, ซึ่งแม้แต่ที่อารยธรรมอาตริก้าเองก็ไม่สามารถผลิตขึ้นมาได้

 

หลังจากที่รู้สึกได้ถึงพลังของอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว, เขาถึงได้เข้าใจว่าอู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้ต้องการยึดตระกูลฝานเต๋อหัวเลยแม้แต่น้อย

 

เป้าหมายเดียวของเขาก็คือติดต่อกับตระกูลฝานเต๋อหัวเพื่อให้ช่วยกำจัดกองกำลังมาดจิล่าเท่านั้น, แต่เขาก็ไม่พบความขัดแย้งอะไรระหว่างเขาคนนั้นกับกองกำลังมาดคิล่าเลย

 

"ช่างมันเถอะ, ไม่ว่าเขาจะมีความขัดแย้งอะไรกับพวกนั้นหรือไม่, หากว่ามันจะสามารถช่วยกู้วิกฤติของฝานเต๋อหัวได้แล้วล่ะก็"

 

ฝานซิงหลุนรีบเรียกรวมสมาชิกทั้งหมดของตระกูลให้มารวมตัวกัน, และเริ่มจัดแจงเตรียมปฏิบัติการต่อไปของตระกูลฝานเต๋อหัวทันที

 

แน่นอนว่า, ในปฏิบัติการนี้กองกำลังมาดจิล่านั้นจะเป็นเป้าหมายหลักของตระกูลฝานเต๋อหัว

 

ในอารยธรรมอาตริกร้านั้น, กองกำลังต่างๆที่มาร่วมกันจัดการกับตระกูลฝานเต๋อหัวนั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มารวมตัวกัน, แต่ก็ได้มีการติดต่อกันอย่างลับๆ

 

สำหรับตระกูลฝานเต๋อหัวนั้น, เป็นสิ่งกองกำลังเหล่านี้หิวกระหายมานานแล้ว

 

เดิมทีพวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรตระกูลฝานเต๋อหัวมาก่อน, แต่หลังจากที่ผู้อาวุโสของฝานเต๋อหัวได้ฆ่าเปรูไป, และเข้าควบคุมตลาดพลังงานทั้ง 80% ของอารยธรรมอาตริกร้าไป

 

ผลประโยชน์ขนาดมหึมา, เช่นเดียวกับผลตอบแทนที่จะได้รับจากการเป็นเจ้าแห่งตลาดพลังงานนั้นที่จะมาสู่ตระกูลฝานเต๋อหัวนั้น, ทำให้กองกำลังมากมายต่างก็ต้องอิจฉา

 

ทำให้เหล่าผู้มีอิทธิพลในอารยธรรมอาตริกร้ามีความคิดที่ยิ่งใหญ่ที่จะใช้แผนการที่พิเศษโดยเฉพาะกับตระกูลฝานเต๋อหัว

 

สถานการณ์เช่นนี้, ด้วยการร่วมมือกันของเหล่าผู้มีอิทธิพล, ก็ได้ทำให้พวกเขาจับมือเป็นพันธมิตรกัน, จนทำให้ฝานเต๋อหัวในเวลานี้ต้องจนมุมโดยฝีมือของพวกเขาแล้ว,

และพวกเขาก็เตรียมพร้อมสำหรับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่แล้ว

 

ในการร่วมมือกันอย่างลวกๆเพื่อต่อต้านตระกูลฝานเต๋อหัวนี้, กองกำลังมาดจิล่านั้นก็ไม่ได้เข้าร่วมอยู่ในกลุ่มตัวใหญ่ด้วย

 

เพราะว่าในเวลานี้, อิทธิพลของมาดจิล่านั้นยังไม่ทรงพลังมากนัก, อาจจะเรียกได้ว่าเพิ่งกลายมาเป็นผู้มีอิทธิพลในอารยธรรมอาตริกร้าด้วยซ้ำ

 

อย่างไรก็ตาม, จากการสืบของอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว, พบว่ากองกำลังนี้ได้เริ่มมีสัญญาณบอกว่ากำลังมีการวิจัยที่ชั่วร้ายในอนาคตแล้ว

 

ดังนั้นเขาจึงได้ไม่ลังเลที่จะลงมือจัดการกับกองกำลังนี้

 

สถานที่แห่งหนึ่งบริเวณชายแดนของพื้นที่ใจกลางเมืองของดาวพาบู, ที่ๆเป็นแหล่งองค์กรใต้ดินได้มารวมตัวกัน

 

ในเวลานี้, ฝานไห่ สมาชิกของตระกูลฝานเต๋อหัว, ได้กำลังทำการเจรจากับกองทัพมังกรดำซึ่งเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในองค์กรใต้ดินอยู่

 

เดิมที, เขาคิดที่จะใช้เทคโนโลยีที่อู๋ฮ่าวเหรินให้มาในการจัดการกับปัญหาโดยปราศจากการพึ่งองค์กรใต้ดิน

 

แต่ถ้าพวกเขาต้องการที่จะทำข้อแลกเปลี่ยนกับอู๋ฮ่าวเหริน และจัดการกับกองกำลังมาดจิล่าให้สำเร็จได้นั้น, พวกเขาจำเป็นที่จะต้องยืมมือกองกำลังนี้

 

ในสถานที่ๆแสงมืดๆทึมๆนี้, บริเวณใต้ดินที่สับสนวุ่นวายแห่งนี้นั้นเป็นที่ๆเต็มไปด้วยอันตราย

 

มีบางคนที่เป็นที่มีหมายจับของอารยธรรมอาตริกร้าเดินไปมาอยู่บนถนนแห่งนี้เพื่อดูสินค้าที่วางขายอยู่รอบๆ

 

และในมุมมืดที่อยู่ไม่ไกล, ก็จะมีเสียงลมหายใจและเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดสลับไปมาอยู่ตลอดเวลา

 

ในห้องที่หรูหราแห่งหนึ่ง, ฝานไห่ได้มองดูหัวหน้าของกองทัพมังกรดำที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา, มีแผลเป็นที่ลึกไปถึงกระดูกอยู่บนใบหน้าของเขา, ซึ่งมันทำให้เขานั้นดูน่ากลัวมาก

 

เดิมทีแผลเป็นแบบนี้จะรักษาให้หายก็ไม่ใช่เรื่องยาก, แต่ผู้นำของกองทัพมังกรดำนั้นกลับต้องการให้ปล่อยเอาไว้แบบนี้

 

และเนื่องจากผู้นำทำเช่นนี้, ในกองทัพมังกรดำสมาชิกส่วนใหญ่จึงได้เก็บรอยแผลเป็นที่ส่งผลต่อการสู้รบเอาไว้ด้วย

 

"ตระกูลฝานเต๋อหัวของเจ้าจะมอบพลังงานให้กับทางกองทัพมังกรดำใช้เป็นเวลาหนึ่งปี, เพื่อแลกกับการที่พวกเราจะต้องจัดการกับกองกำลังมาดจิล่าอย่างงั้นเหรอ" เมื่อมังกรดำพูดเช่นนี้, และมองมาที่ฝานไห่

 

จริงๆแล้ว, มังกรดำนั้นหาได้อยากที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ระหว่างผู้มีอิทธิพลระดับต้นๆไม่, เพราะเขารู้ดีว่าหากเข้าไปยุ่งกับการแก่งแย่งชิงดีของพวกผู้มีอิทธิพลระดับต้นๆแล้ว, เขาคงได้ถูกจัดการอย่างง่ายดายแน่นอน

 

"ใช่แล้วครับ, และพวกเราก็จะจัดหาอาวุธและอุปกรณ์ที่จะช่วยพวกคุณเรื่องของเส้นทางอีกด้วย, สิ่งที่พวกคุณต้องทำคือจัดการกับกองกำลังนี้เท่านั้นครับ"

 

"พลังงานปีเดียวมันน้อยเกินไป, และข้าเองก็ไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมการแก่งแย่งชิงดีนี้ด้วย"

 

"อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธสิครับ, ผมได้ยินมาว่าพวกคุณกำลังมีปัญหาเพราะว่าพวกคุณได้ไปล่วงเกินกองกำลังหนึ่งเข้าไม่ใช่เหรอครับ?"

 

"หืม, นี่เจ้ากล้าข่มขู่ข้าอย่างงั้นเหรอ?" มังกรดำได้แผ่บรรยากาศที่เป็นอันตรายออกมา

 

อย่างไรก็ตาม, ฝานไห่นั้นไม่สนใจและพูดต่อว่า "ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่, ผมจะขู่คุณเรื่องที่น่าเบื่อแบบนั้นไปทำไม, ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะพวกคุณกองทัพมังกรดำ, ผู้ซึ่งใกล้ชิดกับกองกำลังมาดจิล่ามากที่สุด และพวกเราก็จำเป็นที่จะต้องจัดการกับกองกำลังนี้ให้ได้โดยไว พวกเราคงไม่มามองหาพวกคุณหรอกแบบนี้หรอก"

 

มังกรดำนั้นรู้สึกโกรธขึ้นมา, เขานั้นกำลังที่จะโมโห แต่ว่าเขากลับถูกหยุดโดยคนที่อยู่ข้างๆเขา

 

"สนับสนุนด้านพลังงานปีเดียวมันไม่พอจริงๆ, พวกเราจำเป็นต้องการสนับสนุนอย่างน้อย 3 ปีจากตระกูลฝานเต๋อหัว, แน่นอนว่าในทางกลับกัน, พวกเราก็จะช่วยพวกเจ้าจัดการปัญหานี้ให้, และในสามปีนี้พวกเราก็จะช่วยพวกเข้าจัดการปัญหาให้อีก 3 อย่าง"

 

เขาคือจิ้งจอกดำ, เป็นหน่วยหนึ่งของกองทัพมังกรดำ, ถ้าปัญหาของกองทัพมังกรดำนั้นไม่รีบแก้ไขโดยไว, พวกเขาเองก็เสี่ยงที่จะถูกกำจัดเช่นกัน

 

มันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับฝานเต๋อหัวที่จะผ่านความอันตรายนี้และช่วยกองทัพมังกรดำแก้ไขปัญหานี้ไปพร้อมกัน



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น