CF:บทที่ 740 มนุษย์ในอนาคตลงมือ

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 740 มนุษย์ในอนาคตลงมือ

 

ในโลกอนาคต, นักวิจัย, ชาวไร่, ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์, และคนอื่นๆ, กลุ่มคนในระบบซองแดงนั้นพวกเขาได้ของที่ต้องการมาจากอู๋ฮ่าวเหรินและแต่ละคนต่างก็ตื่นเต้น

 

คนเหล่านี้ไม่คิดว่าสมบัติที่แต่ละอารยธรรมกำลังรวบรวมอยู่นั้นจะหามาได้ง่ายถึงขนาดนี้

 

แน่นอนว่า, ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอู๋ฮ่าวเหริน, หากปราศจากเขา พวกเขาเองก็คงไม่ได้สมบัติเหล่านี้มาเช่นกัน

 

อารยธรรมต่างๆนั้นคงจะไม่เข้าใจถึงคุณค่าที่แท้จริงของสมบัติเหล่านี้

 

ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์มองดูลูกบอลโปร่งใสที่มีขนาดเป็นสองเท่าของลูกบาสเก็ตบอลแล้วพูดขึ้น "เฮ้, ฉันเคยได้แต่เห็นเจ้าสิ่งนี้ในวิดีโอมาก่อนเท่านั้น, แต่ในเวลานี้ฉันก็ได้มันมาครอบครองแล้ว"

 

พ่อค้าพลังงานก็ได้ลำพึงลำพันขึ้นมา "ของดีก็จริง, แต่ก็ยุ่งยากมากที่จะเปิดมันออกมา"

 

"ยุ่งยากแล้วยังไง, คุณลองคิดถึงสิ่งที่จะได้ตอนที่พวกเราได้เปิดเจ้าสมบัตินี้ออกมาแล้วดูสิ, มันคือสมบัติที่ไม่รู้จบเลยล่ะ" เจ้าแห่งรถลอยฟ้าก็พูดขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน

 

สุดหล่อโคตรเจ๋งก็พูดขึ้นมาบ้าง "ถ้าพวกเราเอาสมบัติพวกนี้มา, จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นกับทางฝั่งของอู๋ฮ่าวเหรินเหรอ? ถ้าปราศจากสมบัติเหล่านี้แล้ว, อารยธรรมนั้นไม่สามารถแข็งแกร่งได้เลยนะ"

 

"ฮ่าๆ, เปลี่ยนสิ ตั้งแต่เจอกับหมอนั่นนั่นแหละ, การเปลี่ยนแปลงก็ได้เกิดขึ้นไปแล้ว, มันไม่สำคัญแล้วถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเพิ่มอีก

แล้วก็อย่าลืมว่า, หมอนั่นได้บอกไว้ว่าเมื่อใดที่มนุษยชาติแข็งแกร่งพอแล้ว, เขาก็จะบอกตำแหน่งของช่องทางข้ามจักรวาลที่อยู่ในแผนที่ดวงดาวให้กับพวกเรา, พวกเราช่วยพวกเขาให้ได้เจอกับสถานการณ์นั้นกันเถอะ"

 

ชาวไร่ก็พูดขึ้นมา "อืม, อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย, และอย่าเพิ่งรีบดีใจด้วย, มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่จะเปิดเจ้าสมบัตินี่ออกมาได้, ถึงแม้พวกเราจะสามารถหาวัตถุดิบส่วนใหญ่มาได้แล้วก็เถอะ, แต่วัตถุดิบหายากบางอย่างนั้น, พวกเราไม่มีหนทางเลย, นอกจากนี้ยังมีอย่างอื่นที่จะต้องทำนอกจากวัตถุดิบของสมบัติชิ้นนี้อีก"

 

คนอื่นๆต่างก็นิ่งไปและมองดูสิ่งที่อู๋ฮ่าวเหรินได้ให้พวกเขามา, สีหน้าของพวกเขานั้นก็ไม่สู้ดีขึ้นมา

 

การมีสมบัติอยู่มากมายเกินไป, ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลด้วย

เมื่อได้มาแล้วแต่หากไม่คิดที่จะแกะออกมานั้น ถือได้ว่าเป็นความผิด

 

ซึ่งพวกเขารู้ดีว่าสมบัติทั้ง 4 ชิ้นนี้, เมื่อใดที่พวกมันถูกเปิดออกมา, จะสามารถช่วยให้มนุษยชาติสามารถสร้างกลุ่มผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาได้เลยทีเดียว

 

นอกจากนี้, มันยังสามารถใช้เพิ่มระดับของวิทยาการและเทคโนโลยีของมนุษยชาติได้ และอาจจะสามารถทำให้มนุษยชาติสามารถกลายเป็นอารยธรรมชั้นสูงได้เลย

 

"ในเมื่อพวกไม่สามารถหาวัตถุดิบล้ำค้ามากมายมาได้ล่ะก็, พวกเราก็น่าจะหาใครบางคนที่สามารถหามาได้, และผมเองก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะใช้สิ่งนั้นกัน"

 

ในอนาคตนั้น, อารยธรรมต่างๆได้มารวมตัวกันเพื่อที่จะต่อต้านเจ้าตัวทำลายล้าง, และป้องกันไม่ใช่เจ้าตัวทำลายล้างหนีออกไปจากที่นั่นได้

 

ในเวลานี้, อารยธรรมที่อ่อนแออย่างโลกนั้นย่อมที่จะถูกกดขี่โดยอารยธรรมที่แข็งแกร่งกว่า

 

เมื่อเผชิญเข้ากับสถานการณ์นี้, มนุษยชาตินั้นทำได้แค่ยอมรับอย่างเงียบๆ, ผู้ซึ่งไม่สามารถทำให้อารยธรรมของตัวเองแข็งแกร่งพอได้

 

มันเป็นความจริงที่ต้องกลายเป็นผู้ตามอยู่ตลอดเวลา

 

กลุ่มคนเหล่านี้ก็ได้หารือเรื่องนี้ในระบบซองแดงอยู่เป็นเวลานาน, และไม่นานนักก็ได้ส่งต่อข้อมูลบางอย่างโดยผ่านสุดหล่อโคตรเจ๋ง

 

จากนั้น, ทางสหภาพมนุษย์ก็ได้ทำการส่งตัวแทนไปพบกับคนในกลุ่มนี้, หลังจากที่คุยกันอยู่นาน ก็ได้ทำการเซ็นสัญญาข้อตกลงกัน

 

ไม่นานนักหลังจากที่ตัวแทนของสหภาพได้กลับไปยังสหภาพมนุษย์แล้ว, ทางสหพันธรัฐก็ได้ตกใจกับข้อมูลเหล่านี้

 

จากนั้น, พวกเขาจึงได้ส่งคนไปติดต่อกับคนในกลุ่มซองแดงเป็นเวลายาวนานอีกครั้ง

 

หลังจากที่ทำการยืนยันข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ได้แล้วนั้น, ก็ได้ทำการส่งตัวแทนของของมนุษยชาติเดินทางออกไป

 

อารยธรรมทอสส์ คืออารยธรรมชั้นสูงที่อยู่ในโลกอนาคต, และเป็นอารยธรรมที่ทรงพลังมากอารยธรรมหนึ่ง

 

อารยธรรมนี้เองก็เป็นอารยธรรมที่มีส่วนร่วมในการต่อต้านเจ้าตัวทำลายล้างอีกด้วย     

 

อย่างไรก็ตาม, อารยธรรมทอสส์นั้น, เป็นอารยธรรมที่ขี้เหนียวมาก, หลังจากที่พบว่าการต่อต้านเจ้าตัวทำลายล้างนั้นใช้ทรัพยากรมาก, พวกเขาจึงได้มากไล่บี้เอาทรัพยากรจากอารยธรรมที่อ่อนแอกว่า

 

และน่าเสียดายที่, สหภาพมนุษย์คืออารยธรรมที่อ่อนแอที่ถูกเลือกโดยอารยธรรมทอสส์, และจากนั้นสหภาพมนุษย์ก็ได้ถูกกดดันอย่างหนักโดยอารยธรรมทอสส์

 

เทร็น, ผู้ที่รับผิดชอบด้านการติดต่อสื่อสารกับสหภาพมนุษย์, ได้พบเจอเรื่องแปลกๆเข้าในวันนี้

 

 

ผู้นำของสหภาพมนุษย์ผู้ซึ่งหลีกเลี่ยงเขาตลอดนั้น จู่ๆก็ติดต่อเข้ามาหาเขาและยังชวนเขามาเจรจาเรื่องของการสนับสนุนด้านทรัพยากร

 

โดยไม่ลังเล, เขาตอบตกลงในเรื่องนี้และได้เตรียมตัวสำหรับการเจรจาเรื่องของทรัพยากรกับสหภาพมนุษย์

 

เขานั้นกระตือรือร้นมาก, แน่นอนว่าเขาเป็นคนที่ชอบอะไรแบบเร่งด่วน

 

เย่เสวี่ยและเอบรัมส์ได้เป็นตัวแทนของการเจรจาในครั้งนี้, พวกเขาต่างก็รู้ดีถึงความสำคัญของการเจรจาในครั้งนี้, และพวกเขาก็รู้ดีถึงความสำคัญในการเจรจาในครั้งนี้, และพวกเขายังรู้ด้วยว่าคนที่มาเจรจาในครั้งนี้ไม่ใช่แค่เทร็น, แต่ยังเป็นคนในระดับสูงของอารยธรรมทอสส์ด้วย

 

นี่คือภารกิจที่อันตรายมาก, ซึ่งแม้อารยธรรมทอสส์นั้นจะน่ารำคาญเพียงใดก็ตาม, แต่พวกเขาก็จะต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ

 

หลังจากที่ถูกอารยธรรมทอสส์นั้นกดดันอย่างหนัก, ทรัพยากรของสหภาพมนุษย์นั้นก็เหลือไม่มากแล้ว

 

ดังนั้นหลังจากที่ได้พบกับเทร็น, พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะมอบข้อมูลบางอย่างให้กับเขาไป

 

"พวกเราต้องการที่จะพบกับคนที่สามารถตัดสินใจได้จริงๆในอารยธรรมทอสส์, คุณไม่สามารถที่จะตัดสินใจในการเจรจาครั้งนี้ได้แน่"

 

เทร็นมองดูตัวแทนจากอารยธรรมมนุษย์ทั้งสองคนอย่างดูหมิ่นและคิดว่าทั้งสองคนนี้คงจะเป็นบ้าไปแล้ว

 

เขาวางข้อมูลนั้นลงโดยไม่อ่านแล้วพูดขึ้น "ถ้าพวกคุณมีปัญหาอะไร, ก็พูดกับผมมาได้เลย, แต่ถ้าคุณไม่มีปัญหาอะไร, ก็ได้โปรดเตรียมทรัพยากรตามในรายการนี้ด้วย, มันยังมีเวลาเหลืออยู่ที่จะส่งมาให้ครบ, และผมไม่คิดว่าพวกคุณต้องการที่จะยั่วโมโหอารยธรรมทอสส์ของพวกเราด้วย"

 

เย่เสวี่ยและเอบรัมส์ไม่ได้โมโหแต่อย่างใด, พวกเขารู้ดีว่าตัวแทนจากอารยธรรมทอสส์นั้นเป็นคนที่หยิ่งยโสมาก, จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะพูดเช่นนี้ออกมา

 

"คุณคิดว่าคุณควรที่จะอ่านข้อมูลนั่นก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะให้พวกเราพบกับคนใหญ่คนโตของอารยธรรมทอสส์ของคุณหรือไม่?"

 

"อืม"

 

เทร็นรู้สึกงุนงงเล็กน้อย, ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจเรื่องของเอกสารนี้เลย, แต่เมื่อเขาได้เห็นท่าทีของมนุษย์ทั้งสองคนนี้แล้วจึงได้ทำให้เขาสงสัยขึ้นมา

 

เขานั้นรู้จักมนุษย์เหล่านี้ดีมาก, ถ้าพวกเขาไม่มั่นใจ พวกคงจะไม่ทำอะไรแบบนี้แน่

 

เพราะพวกเขาน่าจะรู้ดีว่าถ้าเกิดทำให้เขาโกรธขึ้นมา, พวกเขาจะต้องส่งทรัพยากรมาให้มากขึ้นเท่านั้น

 

หลังจากที่ลองคิดดูแล้ว, เขาก็หยิบเอาข้อมูลขึ้นมาและลองอ่านดู, ในตอนแรกพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันมีอะไรที่ผิดปกติเท่าไร

 

แต่เมื่อเขาอ่านไปได้ครึ่งหนึ่ง, เขาก็เริ่มสงบใจไว้ไม่อยู่, และรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมา สีหน้าของเขาปรากฏถึงความไม่น่าเชื่อ

 

เขาไม่ได้อ่านต่ออีกเพราะเขานั้นเริ่มรู้สึกกลัวข้อมูลนี้, ถ้ามันเป็นเรื่องจริง เขาย่อมรู้ดีว่าจะต้องมีบางอย่างที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นแน่

 

"พวกคุณไปได้ข้อมูลเหล่านี้มาได้อย่างไร?"

 

"ฮ่าๆ, อย่าถามพวกเราดีกว่าว่าพวกเราได้มาได้อย่างไร, สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้คือพวกเรามีข้อมูลทั้งหมดนี้ต่างหาก, ว่ายังไง คุณพอที่จะติดต่อกับคนระดับสูงในอารยธรรมทอสส์ให้ผมได้หรือยัง"

 

"คุณจะต้องรออยู่ที่นี่ซักวันสองวันก่อนเพื่อที่จะได้นำข้อมูลนี้ไปให้เบื้องบน, มันอาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อยถึงจะมีการตอบกลับมา"

 

"พวกเราไม่ได้รีบ"

 

เย่เสวี่ยและเอบรัมส์พูดอย่างใจเย็น, พวกเขารู้ดีมากเกี่ยวกับความสำคัญของข้อมูลนี้สำหรับอารยธรรมทอสส์แล้ว

 

ถ้าไม่จัดการเรื่องนี้ให้ดีๆแล้ว, อารยธรรมทอสส์คงได้เดือดร้อนแน่ๆ

 

แน่นอนว่า, ถ้าอารยธรรมทอสส์รู้ว่าต้นตอของเรื่องนี้มาจากอารยธรรมมนุษย์แล้วล่ะก็, พวกเขาจะต้องตามหาต้นตอของเรื่องนี้ในอารยธรรมมนุษย์แน่ๆ

 

เทร็นได้ออกไปส่งข้อมูลนี้ให้กับหัวหน้าของเขา, การดูแลของตัวแทนจากโลกทั้งสองคนนี้ก็ถูกรับรองในระดับสูงสุด

 

แต่น่าเสียดายที่, วันเหล่านี้จะเป็นวันที่อารยธรรมชั้นต่ำกว่าจะกลายเป็นผู้ที่กดดันอารยธรรมทอสส์ให้ส่งทรัพยากรของพวกเขากลับมาแทน

 

อารยธรรมอื่นๆเองก็พบว่ามีตัวแทนจากอารยธรรมมนุษย์ที่เป็นอารยธรรมในระดับเดียวกับพวกเขานั้น, กลับถูกปฏิบัติดีกว่า พวกเขาจึงได้เริ่มค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น