CF:บทที่ 739 วางแผนเสร็จสิ้น
โดยไม่ทันรู้ตัว, อู๋ฮ่าวเหรินก็อยู่บนโลกมาได้ 2 เดือนแล้ว, ใน 2 เดือนที่ผ่านมานี้ระดับของวิทยาการและเทคโนโลยีได้พัฒนาแบบก้าวกระโดดข้ามไปอีกขั้น
ในเวลานี้, สถานีอวกาศที่อยู่นอกโลกก็ได้ขยายขนาดออกไปถึง 10 เท่า, ในทุกๆวันจะมียานอวกาศและยานขนส่งจำนวนมากบินไปมาระหว่างโลกและสถานีอวกาศ
ยานอวกาศของผู้บุกเบิกกลุ่มแรกก็ได้แล่นออกไปแล้ว, พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นอดีตประเทศต่างๆ
กองกำลังที่ก่อตั้งขึ้นมาโดยประเทศเหล่านี้นั้นฉลาดนัก, ไม่ใช่ว่าทุกขุมกำลังออกบุกเบิกดาวไปในทิศทางเดียวกันหมด, แต่ละกองกำลังกลับมุ่งหน้าไปในคนละทิศทางที่ตัวเองเลือกเอาไว้
แน่นอนว่า, ยานรบของฟิวเจอร์กรุ๊ปและสหภาพมนุษย์นั้นต่างก็วุ่นวายกันอย่างมาก, พวกเขาต้องบินออกไปไกลมากเพื่อคอยรักษาความปลอดภัยของนักบุกเบิกเหล่านี้
ถึงแม้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นจะได้วางอุปกรณ์เครือข่ายขนาดใหญ่เอาไว้แล้ว, แต่ก็มีโอกาสที่จะพบกับสัตว์ดาราได้, ถ้าเป็นสัตว์ดาราที่มีปัญญาหน่อย, ก็ไม่ต้องกังวลอะไรเท่าไร
แต่ถ้าไปเจอกับสัตว์ดาราที่ไม่มีปัญญาและดุร้ายขึ้นมาล่ะก็, อู๋ฮ่าวเหรินก็กังวลว่าพวกสัตว์พวกนั้นจะทำอันตรายมนุษยชาติแน่
เพื่อที่จะปกป้องระบบสุริยะ, อู๋ฮ่าวเหรินได้สร้างป้อมปราการทั้ง 8 ขึ้นมารอบๆระบบสุริยะ, ในบรรดาป้อมปราการเหล่านี้, มีอาวุธล้าสมัยไปแล้วที่เขาได้มาจากในอนาคต
ถึงแม้ว่าอาวุธเหล่านี้จะถูกโละทิ้งไปแล้วในอนาคต, แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรที่จะนำมาใช้จมยานแม่ของอารยธรรมต่างๆในยุคสมัยของเขา
เมื่อต้องเผชิญกับการพัฒนาแบบก้าวกระโดดในด้านวิทยาการและเทคโนโลยีแล้ว, ถึงแม้ว่ามนุษยชาติจะยังไม่สามารถปรับตัวได้ทันก็ตามที, แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับและเรียนรู้มันให้ได้
ส่วนคนที่ยอมรับไม่ได้ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกไปตลอดชีวิตได้ไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนคนที่ยอมรับได้ก็จะสามารถเลือกเส้นทางอื่นๆได้, และทางฟิวเจอร์กรุ๊ปก็พร้อมที่จะสนับสนุนพวกเขา
อย่างไรก็ตาม, ใน 2 เดือนที่ผ่านมานี้, หลังจากที่อู๋ฮ่าวเหรินได้ทำการสั่งงานต่างๆกับเรื่องของการศึกษาด้านวิทยาการและเทคโนโลยีแล้ว, เขาก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรเรื่องนี้อีก
เขายุ่งวุ่นวายอยู่กับการสร้างมนุษย์, และการวางมาตรการป้องกันที่ชายแดนของทางช้างเผือก, และแก้ปัญหาเรื่องของชาวโครน่า
ผลลัพท์ของการสร้างมนุษย์นั้นก็ประสบความสำเร็จดี, และท้องของหลิงเมิ่งเสวี่ยก็ป่องขึ้นมาแล้ว, และได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของการปกป้องของทั้งครอบครัว
ในเรื่องนี้, อู๋ฮ่าวเหรินได้ถูกบังคับให้ศึกษาเรื่องของการดูแลผู้หญิงท้อง, เช่นเดียวกับการฝึกฝนด้านการทำอาหาร
จริงๆแล้ว, เขาได้บอกกับครอบครัวของเขาไปแล้วว่า ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยนั้น, หลิงเมิ่งเสวี่ยนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงอะไร, แต่น่าเสียดายที่ การต่อต้านของเขาเมื่อเจอกับของทั้งครอบครัว ในที่สุดเขาก็ต้องยอมแพ้
สุดท้าย, อู๋ฮ่าวเหรินต้องใช้เวลาไป 3 วันกับการอ่านหนังสือทุกอย่างที่เกี่ยวกับการดูแลผู้หญิงท้อง, จากนั้นเขาก็ได้เข้าไปในกลุ่มเชฟในซองแดง, เพื่อเรียนรู้การทำอาหารเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
ในเวลานี้, ถึงแม้ว่าความสามารถของเขาจะยังดีไม่เท่าระดับเชฟ, แต่ก็น่าจะมีฝีมือดีกว่าพ่อครัวระดับกลางๆแล้ว
ส่วนเรื่องของการวางกำลังป้องกันชายแดนของทางช้างเผือกนั้น, ก็เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว
แผนที่ดวงดาวที่โม่เก๋อขอมานั้น เขาได้เอาไปให้ผู้หญิงที่เขาชอบและอารยธรรมที่เขาอาศัยอยู่
อู๋ฮ่าวเหรินได้ทราบภายหลังและพบว่าเป็นอารยธรรมชั้นสูง, และเป็นอารยธรรมชั้นสูงที่ขึ้นชื่อมากในเรื่องของความสวยงามที่รู้จักกันทั่วในอนาคต
อารยธรรมชั้นสูงที่มีงานอดิเรกชื่นชอบสิ่งที่สวยงาม, และโม่เก๋อเองถึงแม้ว่าเขาจะดูดีก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอสำหรับอารยธรรมฉวนเหม่ที่ชื่นชอบสิ่งสวยงาม
เพื่อทดแทนในสิ่งที่เขาขาดหายไป และเพื่อที่จะให้เป็นที่ชื่นชอบของสาวงามชาวฉวนเหม่, เขาจำเป็นที่จะต้องโชว์ด้านอื่นให้เห็น
ซึ่งได้ยินมาว่าเรื่องในครั้งนี้ได้ผลตอบรับที่ดี, สาวงามคนนั้นก็ได้ตกลงและยินดีที่จะคบกับเขา
นอกจากอารยธรรมนี้แล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินยังได้เลือกอารยธรรมอื่่นๆตามสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม, อู๋ฮ่าวเหรินได้ทำการติดต่อไปยังอารยธรรมเหล่านี้ในนามของเขาเอง, แล้วจากนั้นก็ได้ทำการแลกเปลี่ยนของบางอย่างที่พวกคนในระบบซองแดงต้องการจากอารยธรรมเหล่านั้น
ราวกับว่าพวกคนในระบบซองแดงกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ในอนาคตเมื่อพวกเขาได้ของที่ต้องการไป
และสุดท้ายเรื่องของชาวโครน่า, ในเวลานี้ค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อยและเกินการควบคุมของเขา
เขตดาวแอชลี่ย์, ซึ่งอยู่ไกลออกไปจากทางช้างเผือก, เป็นเขตดาวที่ๆชาวโครน่าอาศัยอยู่
ในเวลานี้, ไม่ไกลจากเขตดาวนี้,
ถัดจากรูหนอนที่มืดมิด, มีป้อมปราการทหารที่ทรงพลังสร้างเอาไว้
และด้านนอกของป้อมปราการนั้น มีสถานีอวกาศชั่วคราวขนาดใหญ่สร้างเอาไว้อยู่ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น, สถานีอวกาศชั่วคราวแบบนี้ไม่ได้มีเพียงแค่สถานีเดียว, แค่มองผ่านๆก็เห็นได้เลยว่าน่าจะมีอย่างต่ำถึง 30 สถานี
รอบๆสถานีอวกาศเหล่านั้น, จะพบยานรบมากมายและยานขนส่งจำนวนมาก
"ในเวลานี้สถานการณ์มันชัดเจนแล้ว, เมื่อไรพวกเราถึงจะไปทำลายอารยธรรมนั้นได้ซักทีนะ?"
"ใช่, อย่างที่นายว่า, พวกเราอดทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว, ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีอารยธรรมที่ชั่วร้ายเช่นนี้โผล่ขึ้นมาได้"
"ใช่แล้ว, ในครั้งจะต้องไม่มีใครที่แย่งชิงอะไรจากข้าไป, ข้าจะต้องทำลายอารยธรรมนั้นด้วยมือของข้าเอง"
"เจ้าหมายถึงความสามารถในการกวาดล้างอย่างเจ้าน่ะเหรอ? มันจะเป็นการดีกว่ามั๊งถ้าจะให้ฆ่าเป็นคนกำจัดพวกมันด้วยมือข้าเอง"
"เงียบ, เงียบ, ข้ารู้ว่าพวกเจ้าเกลียดอารยธรรมนี้, แต่ทว่าพวกเราจะต้องทำให้มั่นใจเสียก่อนว่าป้อมปราการที่นี่จะสามารถใช้การได้, แล้วพวกคุณจึงจะสามารถไปจัดการพวกเขาได้"
"ข้าได้ยินมาว่าป้อมปราการของที่นี่สามารถใช้ป้องกันได้แล้ว, และยิ่งไปกว่านั้นก็มียานรบจากหลากหลายอารยธรรมมาที่นี่ด้วย, คงไม่มีใครที่กล้ามาสู้กับพวกเราหรอก"
"นี่เป็นการทำเพื่อปกป้องพวกเจ้าเองไม่ใช่รึไง? แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก, เมื่อถึงเวลาพวกข้าจะไม่ห้ามพวกเจ้าแน่นอน"
"ก็ได้, งั้นพวกข้าจะไปปลอมตัวเป็นโจรสลัดอวกาศและไปยังอารยธรรมที่มีปัญหาละกัน"
"ขอพวกเราไปด้วยคนสิ"
"......"
ไม่นานนักผู้นำจากทั้ง 6 อารยธรรมก็มารวมตัวอยู่ในห้องประชุม, ซึ่งทั้งหมดนี้ตั้งใจที่จะไปหาอารยธรรมโครน่าที่เป็นปัญหา
และพวกเขาก็ได้ปลอมตัวเป็นโจรสลัดและออกไปโจมตีดาวที่ๆชาวโครน่าได้จับเผ่าที่มีปัญญาอื่นๆจับเป็นทาสเอาไว้เพื่อช่วยพวกเขา
หลังจากที่ทางสหพันธรัฐได้ทราบถึงสถานการณ์ในรูหนอนแล้ว, ก็ได้เตรียมพร้อมที่จะพัฒนาที่นี้, โดยมีอารยธรรมต่างๆได้เข้ามาร่วมด้วย, และพร้อมที่จะสู้รบในเขตดาวที่นี่แล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องของการก่อสร้างป้อมปราการ, อารยธรรมเหล่านี้คงได้เริ่มทำการกวาดล้างชาวโครน่าไปแล้ว
ในเวลานี้, ที่ดาวแม่ของชาวโครน่า, ซึ่งได้กลายเป็นดาวมืดไปแล้ว, และขุมกำลังต่างๆของชาวโครน่าทั้งหมดก็ได้มารวมตัวกันที่นี่เพื่อหารือในเรื่องของเหตุการณ์ในปัจจุบัน
"ยังสืบไม่พบอีกเหรอว่าพวกยานที่มาโจมตีดาวของพวกเรานั้น มาจากที่ไหนกัน?"
"ไม่ครับ, พวกเขาปรากฏขึ้นมาแล้วก็ไป และยานรบของพวกล้ำสมัยมาก, พวกเราไม่พบข้อมูลของพวกเขาเลยครับ, นอกจากนี้จากการเปรียบเทียบพบว่า, ยานรบเหล่านี้ไม่ได้เป็นของอารยธรรมที่พวกเราเคยโจมตีมาก่อนด้วยครับ"
"มันจะต้องไม่ได้เป็นยานรบจากอารยธรรมเดียวกันแน่ๆ, เพราะจากข้อมูลที่ได้รับมานั้น, ยานรบที่มาโจมตีดาวของพวกเรานั้น มีรูปร่างที่ต่างกันออกไปถึง 6 แบบ, ยิ่งไปกว่านั้นยานรบเหล่านี้ก็ทรงพลังมากอีกด้วย, พวกเราไม่สามารถจัดการพวกเขาได้เลยครับ"
"พวกเราควรจะปล่อยให้พวกเขาหยิ่งผยองแบบนี้ต่อไปเหรอ?"
ไม่มีใครที่ตอบกลับมา, เพราะว่าพวกเขารู้ดีว่าไม่มีทางเลย, ยานรบเหล่านี้ทั้งทรงพลังและเร็วมา, ไม่มีทางที่พวกเขาจะไล่ทันได้เลย
อาจจะพูดได้ว่าในช่วงที่ผ่านมานี้, ชาวโครน่านั้นกังวลกับเรื่องนี้มาก, จนทางกองทัพเองไม่มีเวลาที่จะไปสนใจปัญหาของชาวโครน่าที่เดินทางไปที่โลก
หลังจากที่ได้ทราบข่าว, ทางกองทัพก็ได้ส่งทีมสำรวจขนาดเล็กออกไปเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ถ้าชาวโครน่าที่ถูกจับอยู่ที่โลกนั้นได้รู้เรื่องนี้เข้าพวกเขาคงได้ลงไปทรุดแน่ๆ
ถ้าชาวโครน่าไม่เจอปัญหาอะไรอย่างที่เจออยู่ตอนนี้, พวกเขาก็คงที่จะสนใจปัญหาของที่นี่มากขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ
แต่ในเวลานี้ชาวโครน่านั้นกำลังเจอกับปัญหาใหญ่, นอกจากนี้โลกเองก็อยู่ห่างไกลมากกับเขตดาวของชาวโครน่าอีกด้วย, พวกเขาจึงได้จัดการกับปัญหาทางนี้แบบขอไปที
0 ความคิดเห็น