RC:บทที่ 351 ปีศาจหนวด

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

ในเวลานี้ไม่มีใครกล้าออกไปจากม่านแสงโดยไม่กังวลเลยเพราะถ้าออกไปพวกเขาจะต้องตายแน่ๆ อย่างไรก็ตามมีบางคนยังคงอยู่ในม่านแสงและโครงกระดูกก็เข้ามาทำอะไรพวกเขาไม่ได้ แต่เมื่อโครงกระดูกอยู่รอบล้อมไปทั่ว และโครงกระดูกที่ควรจะถูกทำลายทันทีที่เข้ามาใกล้ม่านแสงแต่ครั้งนี้กลับไม่เกิดอะไรขึ้น

เขาเห็นว่าถึงแม้พวกมันจะดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด แต่โครงกระดูกก็ยังวิ่งเรียงกันเข้ามาด้วยจำนวนที่มากมาย ทันใดนั้นม่านแสงทั้งหมดก็เริ่มหมุนอย่างช้าๆ ราวกับว่ามันจะถูกฉีกด้วยโครงกระดูกเหล่านี้

ผู้คนที่อยู่เบื้องหลังไร้กังวลทำงานหนักขึ้นเพื่อส่งมอบพลังทางจิตวิญญาณให้กับไร้กังวลในทันที แต่พวกเขาก็ยืนยัดได้เพียงชั่วขณะหนึ่งเพราะมีโครงกระดูกมากเหลือเกินและโครงกระดูกพวกนี้ก็รวมตัวกันได้หลายครั้ง พวกมันทรงพลังแม้แต่ม่านแสงสีทองของไร้กังวลก็ยังฆ่าพวกมันไม่ได้ในทันที

ในเวลาต่อมา! ปัง! ด้วยเสียงอันดัง ม่านแสงก็ถูกพวกโครงกระดูกฉีกทำลายและไร้กังวลก็ต้องกระอักออกมาเป็นเลือด ตู๋กังและอีกสามคนที่เห็นภาพนี้ พวกเขาก็รีบวิ่งเข้ามา ช่วยเขาให้ลุกขึ้นและพาเดินไปอยู่ในที่ปลอดภัย

จากการปรากฎตัวของปาเต๋าและตู๋กังทำให้พวกโครงกระดูกผ่านเข้ามาไม่ได้อยู่สักพัก ในระหว่างที่คนอื่นๆของตระกูลก็กำลังสู้กับพวกโครงกระดูก แต่ในเวลานี้โครงกระดูกนั้นแตกต่างไปจากเดิมหลายโยชน์ ซึ่งไม่น่าจะเป็นระดับที่มีอยู่จริงเลยสักนิด ดังนั้นอีกไม่นานเลือดก็ไหลออกไปตามโครงกระดูกและพวกมันก็ร่ำไห้คร่ำครวญทั่วพื้นที่

ในปราสาทหัวกะโหลก!

โซ่ขนาดใหญ่สี่เส้นก็ล็อคสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวไว้อย่างแน่นหนา สัตว์ประหลาดตัวนี้มีหนวดนับไม่ถ้วน เรามองไม่ออกเลยว่าหน้าตามันเป็นยังไง เห็นได้แค่เพียงหนวดที่โบกไปมาเท่านั้น

มีวงแหวนโลหะขนาดใหญ่เปล่งแสงอยู่ที่คอของมัน บนวงแหวนนั้นมีเส้นต่างๆมากมาย เมื่อไรก็ตามที่ปีศาจตัวนี้เคลื่อนไหว เส้นต่างๆที่วงแหวนจะเปล่งแสงแล้วปีศาจก็จะแผดเสียง เห็นได้ว่าที่วงแหวนโลหะขนาดใหญ่ที่แน่นหนานั้นมีห่วงโซ่ขนาดใหญ่สี่สีที่ต่างกัน โซ่สี่เส้นขนาดใหญ่นั้นมีสีฟ้า, ขาว, ดำและแดง สอดคล้องกับสีของผู้พิทักษ์สัตว์ร้ายทั้งสี่

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฆ่า ฆ่า! ฆ่าเพิ่มอีก ข้าต้องการเลือด ข้าต้องการวิญญาณ ฆ่าเพิ่มอีก ข้าจะได้หลุดไปได้และเป็นอิสระอีกครั้ง!” ปากของสัตว์ประหลาดส่งเสียงที่น่ากลัว

เมื่อเสียงเบาลงและดวงตาของโครงกระดูกก็เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันใด พวกมันฆ่าคนเพื่อเลือดอย่างโหดเหี้ยม ในเวลานั้นผู้คนต่างถอยห่างและรีบหนีไป

ทันใดนั้นในท้องฟ้าทั้งมังกร, เสือ, เต่า, นก ทุกตัวต่างก็ส่งเสียงออกมา มังกรดำมีปีกสีฟ้าเหลือบสีดำ 3 คู่ ด้านหลังของมัน มันเปิดปากกว้างและทันใดนั้นก็พ่นเปลวไฟที่แปลกและน่ากลัวออกมา

เปลวไฟเป็นครึ่งสีน้ำเงินและสีดำ เปลวไฟที่แตกต่างกันสองแบบให้พลังงานที่ทรงพลังมากกว่า เมื่อเปลวไฟผ่านไปโครงกระดูกทั้งหมดก็ถูกไฟไหม้เป็นเถ้าถ่าน

หลังจากที่ มังกรดำก็พ่นไฟเรียบร้อย หางใหญ่ก็สะบัดและดึงโครงกระดูกจำนวนมากขึ้นมาทันทีซึ่งทั้งหมดก็กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยและหายไป

จากนั้นมังกรดำก็บินขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง ปีกขนาดใหญ่กระพรืออย่างรุนแรง ทันใดนั้นก็มีลมแรง เพียงชั่วพริบตาก็เกิดพายุทอร์นาโดขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นสองจุด พวกมันตั้งใจหอบพวกโครงกระดูกขึ้นไปบนท้องฟ้าและชนกันในพายุทอร์นาโด พวกมันกลายเป็นฝุ่นผงและหายไป

เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนที่เห็นต่างก็ตกตะลึง ช่างเป็นมังกรที่ทรงพลังจริงๆ เพียงชั่วพริบตา โครงกระดูกที่น่ากลัวเหล่านี้ก็ถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น ไม่มีเหลือเลย

อ้า!!!

“ชิงหลง(มังกรเขียว)เหรอ? เจ้าฟื้นขึ้นมาได้ยังไง?” ร่างหนึ่งในปราสาทสีดำรู้สึกถึงลมหายใจของมังกรเขียวและตะโกนเสียงดังออกมา

แต่ช่วงเวลาต่อมาปีศาจก็ตอบว่า “ไม่ใช่ แกไม่ใช่มังกรเขียว แกมาจากไหน?”

มังกรดำได้ยินคำถามเหล่านี้แต่ไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับเงยหน้าขึ้นและจ้องไปที่ปราสาทสีดำขนาดใหญ่แทน ดูเหมือนว่ามันต้องการที่จะเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน!

ในเวลาเดียวกันร่างทั้งสามที่อยู่ข้างต้นได้ดูดซับพลังทั้งสามของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์บนท้องฟ้า

มีเพียงเสียงคำรามจากหลงจี้เทียนซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งตะวันตกแล้วร่างกายทั้งหมดก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ร่างกาย แขนและอื่น ๆ ทั้งหมดต่างขยายตัวอย่างรวดเร็ว ที่นิ้วงอกกรงเล็บที่แหลมคม และร่างของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นเสือขาว ครู่ต่อมาเสือขาวตัวใหญ่ที่มีปีกสองปีกก็ปรากฎตัวต่อหน้าโมอู๋ชาง เขามองเสือขาวและพยักหน้า

จากนั้นเขาก็มองไปที่ผู้คนทั้งสองทิศทาง ชายในองค์กรมืดก็เปลี่ยนไปในเวลานี้ หลังจากเสียงคำรามเต่าขนาดใหญ่ก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา ที่ด้านหลังของเต่ามีงูใหญ่ตัวหนึ่งพันอยู่รอบ ๆ นั่นคือเต่าดำ!

สำหรับผู้หญิงคนสุดท้าย เขาเห็นปีกสีแดงขนาดใหญ่คู่หนึ่งขึ้นมาบนหลังของเธอ มันกำลังลุกเป็นไฟ ในเวลาต่อมาเธอก็กางปีกออกเพื่อปกปิดใบหน้าของเธอ เขาเห็นว่าปีกใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆและไม่ยอมหยุดจนกระทั่งมีขนาดหลายสิบเมตร เมื่อเธอกางปีกออกผู้หญิงที่ถูกคลุมไว้ก็หายไป ในเวลานี้มีเพียงหงส์เพลิงที่น่าภูมิใจผู้ที่ค่อยๆลอยขึ้นๆสู่ท้องฟ้า

คนสามคนดูดซับพลังของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามและเปลี่ยนเป็นสัตว์ทั้งสาม การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นจากปีศาจสีดำที่อยู่ในปราสาทหัวกระโหลก

“บ้าจริง เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ทำไมพวกเจ้าต่างก็ฟื้นคืนชีพกันมา? มันน่าเสียดายที่ข้าขาดเลือดและวิญญาณไม่งั้นก็สามารถทำลายตราที่น่ารังเกียจนี้ได้ง่ายๆแล้ว!” ภายในปราสาทสีดำ ร่างสีดำก็คำรามออกมาเสียงดัง

แต่ในเวลานี้โครงกระดูกของเขาถูกทำลายด้วยฝีมือของมังกรดำ จึงมีเลือดและวิญญาณไม่พอสำหรับเขาเลย

“บ้าเอ๊ย โชคดีที่ข้าเตรียมตัวมาก่อนแล้ว! มา เหล่ามนุษย์ที่รักของข้าและจงมอบวิญญาณอันบริสุทธิ์และเลือดที่แสนอร่อยของพวกเจ้ามาให้ข้า!” ภายในปรสาทหัวกระโหลก ปีศาจก็ร้องออกมาอย่างน่ากลัว

“เยี่ยมเลย ท่านเรียกพวกเราแล้ว เหล่าผู้ศรัทธา จงมอบเลือดและชีวิตของพวกเจ้าและเราจะได้มีชีวิตอันเป็นนิรันดิ์!”

ที่ด้านข้างของปราสาทหัวกะโหลก ชายชราในชุดสูทสีดำและหมวกทรงสูงตะโกนเสียงแหบห้าว หลังจากที่พูดออกไปแล้ว ชายแก่ก็หยิบมีดออกมาและจ่อไปที่คอของเขา โดยไม่ลังเลเขากรีดมีดลงไปและสายเลือดก็ไหลออกมา

เมื่อคนอื่นๆได้เห็นต่างก็รีบเอามีดจ่อเข้าที่คอ แล้วแทงลงไปก่อให้เกิดเลือดที่ไหลนองไปทั่วพื้นและคนเหล่านี้ก็ตายไป ผู้คนหลายร้อยคนเสียชีวิตทันทีและเลือดที่ไหลดั่งน้ำหลากก็ถูกปราสาทสีดำดูดซับไว้ในทันที

ในเวลานี้ทั้งสามคนที่ได้กลายเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่และมังกรดำทั้งหมดต่างก็บินลงมา และทั้งสี่ก็ล้อมปราสาทสีดำขนาดใหญ่ไว้และจ้องมองมันอย่างใกล้ชิด

ในทันใดหลังจากสัตว์ร้ายทั้งสี่ลงมา ปราสาทสีดำขนาดใหญ่ก็สั่นสะเทือนทันที การสั่นสะเทือนที่รุนแรงทำให้เหล่าคนที่อยู่เบื้องล่างต่างก็โห่ร้องและรีบวิ่งหนีออกไปให้ห่าง