RC:บทที่ 209 งูหลามหินยักษ์

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

ผู้ใช้พลังระดับ A ผู้นี้นั้นชื่อว่าตงฟาง เย่วจิง ผู้มีพลังมาแต่เดิมประจำตระกูลตงฟาง เขาแข็งแกร่งเอามากๆจนมาถึงระดับ A ในที่สุด ตำแหน่งที่เขาอยู่นั้นดีเลิศรวมถึงการดูแลจากครอบครัวตงฟางก็เช่นกัน

ถ้าเขามาช่วยตงฟาง เซียงโดยไม่ได้รับเชิญมาก่อนหน้านี้ล่ะก็เขาคงปล่อยชายหนุ่มคนนี้ไป แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้แล้วเมื่อได้เห็นกริชนั่นในมือของหลิน เฟิง ใบมีดเงาเลือด

นั่นเป็นวัตถุทางจิตวิญญาณที่ถึงแม้จะเป็นแค่อาวุธวิญญาณระดับต่ำก็ตาม แต่ในพวกผู้มีพลังระดับ A ก็ยังหาไม่ได้เลย เพราะสิ่งนี้นั้นเป็นสิ่งที่หายากมากจนแม้แต่ผู้ที่มีพลังระดับ A บางคนที่มีพลังแข็งแกร่งสุดๆเท่านั้นหรือมากกว่านี้เท่านั้นที่จะครอบครองสิ่งนี้ได้

แม้ว่าตำแหน่งของตงฟาง เย่วจิงในตระกูลตงฟางจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเต็งของตระกูลทั้งสิบเลยทีเดียว รวมถึงในพลังระดับ A ด้วยแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอาวุธวิญญาณใดๆให้กับตัวเองแสดงให้เห็นว่าอาวุธวิญญาณนั้นหามาได้ยากแค่ไหน

ดังนั้น กลุ่มของผู้คนที่ไล่ตามหลิน เฟิงไปนั้น ตงฟาง เย่วจิงจึงเป็นแนวหน้า ตามมาด้วยตงฟาง เซียง ในบรรดาผู้มีพลังระดับ B ขั้นสูงสุดนั้นเขาถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดเลยก็ว่าได้

ตงฟาง เซียงถือว่าเป็นผู้มีทักษะสูง รวมถึงตำแหน่งของเขาในตระกูลตงฟางนั้นก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้กับตระกูลทั่วๆไปนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงกลายมาเป็นหนึ่งในสมาชิกต้นกล้าของตระกูลตงฟาง สมาชิกแต่ละคนในตระกูลทั้งสิบนั้นล้วนมีมากกว่าหมื่นคน แต่จำนวนสมาชิกต้นกล้านั้นกลับมีไม่ถึง 100 คน และถ้ายิ่งเป็นสมาชิกต้นอ่อนล่ะก็จะยิ่งน้อยลงไปกว่านี้อีก ไม่ถึงสิบคนเลยด้วยซ้ำ

สิ่งที่ว่ามานี้เห็นได้จากที่ว่าทำไมตงฟาง เซียงถึงได้หยิ่งจองหองนัก เพราะความสามารถของเขานั้นอยู่ในระดับสูงท่ามกลางสมาชิกต้นกล้าด้วยกันนั่นเอง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทางตระกูลให้ค่าเป็นอย่างสูง

ในขณะที่พวกนั้นตามติดหลิน เฟิงไปอย่างบ้าคลั่งนั้นเอง มีเพียงหวู่ เย่วเท่านั้นที่ไม่ได้ตามไปด้วย เพราะจ้าว หลงและลั่ว จิ้วชานต่างเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ แถมเขาเองก็ไม่ได้คุ้นเคยกับคนจากตระกูลตงฟางด้วย แถมตอนนี้จ้าว หลงก็ตายไปแล้ว เขาเลยไม่สามารถเสี่ยงชีวิตที่จะตามหลิน เฟิงไปได้อีกแล้ว

หวู่เย่วเดินมาตรงที่จ้าว หลงกับลั่ว จิ้วชานอยู่ ก่อนจะมองร่างที่ไร้ลมหายใจทั้งสอง เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะรู้สึกไงดี

แม้จะไม่ชอบจ้าว หลง แต่เขาเองก็พึ่งพาจ้าว ป๋อในเรื่องเงินทองกับทรัพยากรอยู่ แต่ในตอนนี้ เมื่อจ้าว หลงเสียชีวิตไปแล้ว เขาก็คงอยู่แบบเดิมได้ยากแล้ว

“กลับกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะส่งพวกนายสองคนกลับบ้านเอง แล้วก็จะออกจากกลุ่มเฟิงไห่ด้วย หลิน เฟิงเป็นคนที่เราไม่อาจไปเทียบด้วยได้หรอก ไม่ช้าก็เร็ว เขาคงกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งไปไหนต่อไหนแล้วล่ะ” หวู่เย่วถอนใจ

ตอนที่เขาเห็นหลิน เฟิงครั้งแรก เขาเป็นแค่เด็กที่เพิ่งจะอยู่ในระดับ C เอง ในตอนนั้น เขารู้สึกเลยว่าตนสามารถบดขยี้หลิน เฟิงได้ด้วยมือข้างเดียวนี่ล่ะ

แต่พอผ่านไปไม่นาน ทุกๆครั้งที่เขาเจอหลิน เฟิง พละกำลังของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างน่ากลัว

ตอนนี้ เขาเลยประเมินได้ว่าถ้าหลิน เฟิงต้องการฆ่าเขา ก็สามารถทำได้แทบไม่ต้องเปลืองแรงเลย

ฉะนั้น ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะหนีไป หวู่เย่วคิดในใจ จากนั้นเขาก็ทำการอันเชิญสัตว์คู่ใจของเขาออกมา ค้างคาวดำตัวหนึ่งบินออกมาพลางใช้กรงเล็บทั้งสองข้างคว้าตัวจ้าว หลงกับลั่ว จิ้วชานขึ้นมา ก่อนจะบินกลับไป

หวู่เย่วตัดสินใจส่งตัวจ้าว หลงและลั่ว จิ้วชานกลับไปเดี๋ยวนั้นเลย เพราะหลิน เฟิงนั้นก้าวหน้าไปได้ไกลและเร็วมากจนเขารู้สึกไม่สบายใจ

ไม่กี่วันต่อมา หวู่เย่วจึงได้รู้ว่าการตัดสินใจของเขานั้นถูกต้อง

อีกฝั่งหนึ่งนั้น หลิน เฟิงวิ่งโดยใช้วิชาย่ำเงาไปตลอดทาง วิ่งตัดผ่านความมืดไปมา ส่วนข้างหลังของเขานั้น ก็มีมังกรดำและมังกรแสงตามมาด้วย เผื่อในกรณีที่หลิน เฟิงเจอเหตุไม่คาดฝัน

ข้างหลังพวกเขาก็คือพวกตงฟางที่นำโดยตงฟาง เย่วจิงและตงฟาง เซียง ความเร็วของพวกเขาเองก็ไม่น้อย ห่างจากหลิน เฟิงเพียง 600 - 700 เมตรเท่านั้น

“เดินหน้าต่อเลย อีกไม่กี่นาที ฉันจำได้ว่าตรงหน้าจะมีภูเขาที่มีพืชขึ้นหนา ซึ่งเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับเราที่จะหนี” หลิน เฟิงกล่าวกับหวัง หานและจื้อเฉิง

ในตอนนั้นเอง จื้อเฉิงกำลังขี่อยู่บนหลังของมังกรดำ ส่วนหวัง หานนั้นอยู่บสัตว์คู่ใจของเขาอย่างต้าเผิงทอง แล้วอีกอย่าง พลังวิญญาณของพวกมันในตอนนี้ก็ริบหรี่เต็มทน

“ปล่อยพลังโจมตีถ่วงพวกมันไว้” หลิน เฟิงว่าขึ้น

โฮก

มังกรแสงคำรามลั่น ก่อนจะรวบรวมบอลแสงเพื่อยิงออกไปจัดการพวกที่กำลังตามมา

คลื่นแสงแห่งความมืด

มังกรดำหันขวับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะอ้าปากขึ้น คลื่นแสงลูกใหญ่ออกมาจากปาก

พลังโจมตีของมังกรแสงและมังกรดำนั้นให้ความรู้สึกเหมือนเติมเต็มและขัดแย้งในตัวเอง พลังของของมันหมุนเป็นเกลียววนไปรอบๆก่อนจะพุ่งตัวไปปะทะคนที่ตามมาข้างหลังพวกนั้น

“ระวัง”

ตงฟาง เย่วจิงเป็นคนแรกที่จับการโจมตีเข้ามานี้ได้ เพียงแวบเดียวเท่านั้น ในขณะที่ตงฟาง เซียงตามหลังเขามาติดๆ

เมื่อเห็นสองพลังที่ประสานกันมาแบบนั้นกำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ตงฟางเซียงจึงรู้เลยว่าเขาไม่สามารถควบคุมศัตรูได้แล้วก่อนจะรีบหลบออกไป

ตงฟาง เย่วจิงและตงฟาง เซียงนั้นตอบสนองอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าคนที่ตามมาข้างหลังนั้นไม่ได้เก่งเหมือนพวกเขา หนึ่งในนั้นถูกพลังดังกล่าวโจมตีเข้าที่อกอย่างจัง

แล้วพลังสองพลังที่ผสานกันนั้นก็ระเบิดขึ้นในทันทีเมื่อถูกกับตัวมนุษย์ ระเบิดเข้าที่ซี่โครงขนาดใหญ่ตรงส่วนอกของชายคนดังกล่าวในทันที

แล้วชายคนดังกล่าวเองก็ยังไม่ทันได้เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ต้องตายเสียแล้ว ดวงตาเบิกโพลง จ้องไปที่หลิน เฟิง ก่อนจะล้มลงกับพื้นด้วยร่างที่ไร้ลมหายใจ

“ดีเลย เวลาปกติไม่เคยเห็นเลยนะเนี่ย พวกนายสองคนเวลารวมพลังกันแล้ว โคตรเจ๋งเป็นบ้าเลย” หลิน เฟิงเอ่ยชม

ความสว่างและความมืดเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันอยู่แล้วตามธรรมชาติ เมื่อใดก็ตามที่พลังสองอย่างนี้สัมผัสกัน จะก่อระเบิดที่รุนแรงและปลดปล่อยพลังออกมาหลายเท่าตัว

“ทุเรศสิ้นดี” ในตอนนั้นเอง เมื่อตงฟาง เซียงได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาก็โกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า ตาแดงก่ำ

คนพวกนี้เป็นคนที่ทางตระกูลของเขาจัดหามาให้ แถมแต่ละคนก็อยู่กับเขามาตั้งหลายปี

แล้วจู่ๆก็มาเสียชีวิตอย่างไม่ทันตั้งตัวแบบนี้อีก

“เร็ว ตามจับพวกมัน ฉันจะขย้ำแกไม่ให้เหลือซากเลย” ตงฟาง เซียงประกาศกร้าว

“นายน้อยครับ ดูเหมือนว่าข้างหน้าเราจะเป็นภูเขาที่มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น แถมพื้นที่ก็ชัน พืชขึ้นหนาเต็มไปหมด และถ้าพวกนั้นหนีไปได้ เราคงตามหาพวกเขายากขึ้นแล้วนะครับ” ในตอนนั้นเอง ผู้ใช้พลังระดับ B ขั้นสูงสุดคนหนึ่งก็ท้วงขึ้น

“หึ จะหนีงั้นหรือ ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก” ตงฟาง เย่วจิงมองไปยังภูเขาลูกข้างหน้า ก่อนจะว่าขึ้นพลางพ่นลมหายใจอันเย็นยะเยือกออกมา

“ฮึ่ม งูหลาม ออกมา” ในตอนนั้นเอง ตงฟาง เย่วจิงก็พ่นลมหายใจที่แสนจะเยือกเย็นออกมาทางจมูกอีกครั้ง โดยคราวนี้ปรากฏร่างของสัตว์วิญญาณขนาดใหญ่ออกมาจากคิ้วของเขาด้วย

นี่คือสัตว์คู่ใจของเขาเอง งูหลามหินยักษ์

งูหลามหินยักษ์เป็นสัตว์วิญญาณระดับสูงที่ทั่วร่างนั้นสร้างมาจากหิน ประกอบไปด้วยหินแต่ละก้อนประกบกัน ร่างของมันค่อยๆคลืบคลานออกมา

บนหัวของงูตัวนั้นมีเขาสองเขางอกขึ้นมาด้วย เป็นเขามังกร แล้วตัวมันเองก็มีเลือดของหยาหลงอยู่ด้วย ถึงแม้จะเทียบไม่ได้กับเลือดบริสุทธิ์อย่างมังกรแห่งแสงกับมังกรดำก็ตาม แต่ก็ถือว่าแข็งแกร่งกว่าสัตว์วิญญาณโดยทั่วไป

มังกรนั้นมีอยู่หลายชนิด โดยหลักๆเลยจะแบ่งเป็นสองประเภทก็คือมังกรสายเลือดบริสุทธิ์และมังกรสายเลือดผสมซึ่งถือว่าไม่ใช่มังกรจริงๆนั้นจะเรียกว่าหยาหลง

เผ่าพันธุ์หยาหลงนั้นจะอ่อนแอกว่าเผ่าพันธุ์มังกรบริสุทธิ์ พวกมันส่วนใหญ่ไม่คู่ควรที่จะมาแข่งกับเผ่าพันธุ์มังกรบริสุทธิ์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะร่างกายหรือวิญญาณหรือเลือด

แต่งูเหลือมหินยักษ์นั้นนับว่ามีสายเลือดของมังกรหินยักษ์อยู่เล็กน้อย กับคนอื่นๆ สายเลือดตรงนี้อาจจะแข็งแกร่งเอาการ แต่กับหลิน เฟิง พลังที่ทำให้ตกอยู่ใต้อำนาจตัวนี้กลับไม่ส่งผลใดๆ แถมมังกรทั้งสองตัวของหลิน เฟิงต่างหากที่กำลังจะทำให้พวกมันตกอยู่ภายใต้อำนาจแทน...