CF:บทที่ 716 วางมาดใหญ่โต
อู๋ฮ่าวเหรินกำลังพิจารณาเรื่องต่างๆอยู่ที่ดาวบลูสกายซึ่งเป็นดาวหลักของเขตดาวบลูแมน, ในเวลานี้มียานอวกาศลำหนึ่งจอกอยู่ที่สถานีอวกาศขนาดมหึมานอกดาว
จากด้านหน้าของสถานีอวกาศทางฝั่งซ้ายจะเป็นฐานผลิตยานอวกาศขนาดยักษ์, ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับดาวบลูสกายทั้งดวง
คนจากภายนอกทุกคนที่เดินทางมายังดาวบลูสกาย, หลังจากที่มาถึงสถานีอวกาศแล้ว, จะต้องรออยู่ที่ชั้นตรวจสอบพิเศษในสถานีอวกาศอยู่ก่อนซักระยะและชมดูฐานการผลิตขนาดยักษ์ไปพลางๆ
ในปัจจุบัน, การพัฒนาของเขตดาวบลูแมนนั้นทำให้ใครหลายคนต่างก็รู้สึกผิดที่พวกเขาไม่เลือกที่จะเข้าร่วมกับเขตดาวบลูแมนในตอนนั้น
ในอดีต, ถ้าใครอยากที่จะเข้าร่วมกับเขตดาวบลูแมน, ก็สามารถเข้าร่วมได้ทันทีที่ลงชื่อเสร็จสิ้น, แต่ในเวลานี้ถ้าใครอยากที่จะเข้าร่วม, ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้ว
หากปราศจากซึ่งความสามารถแล้ว, จะไม่จำเป็นสำหรับเขตดาวบลูแมนอีกต่อไป, ยิ่งไปกว่านี้นอกจากความสามารถด้านเทคโนโลยีแล้ว, นิสัยส่วนบุคคลก็ยังต้องตรวจสอบอีกด้วย
ในวันนี้, มีกลุ่มคนที่พิเศษได้เดินทางมาที่เขตดาวบลูแมน, นั่นคือชาวบลูแมนที่เลือกที่จะออกไปในเวลานั้นนั่นเอง
เมื่อพวกเขาได้รู้ถึงเรื่องบางอย่างในเครือข่ายนำแสงแล้ว, พวกเขาก็ทนนิ่งเฉยอยู่ต่อไปไม่ได้
ณ สถานีอวกาศดาวบลูสกาย, แลนทรี่ได้ออกมาต้อนรับชาวบลูแมนด้วยตัวเขาเอง
"โคโบ, ธอร์, ยินดีต้อนรับกลับมานะ"
เมื่อเห็นท่าทีของแลนทรี่, โคโบและธอร์ที่รู้สึกเป็นกังวลเมื่อสักครู่ ก็ได้เปลี่ยนท่าทีขึ้นมาแบบทันควัน
ทั้งสองคนหันมามองหน้ากันเองและคิดว่า, ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังอยากให้พวกเขานั้นกลับมาอยู่
แลนทรี่นั้นไม่เลยว่า, เพราะท่าทีของเขานั้นทำให้ทั้งสองคนนั้นมีท่าทีหยิ่งยโสขึ้นมา
"โอ้, เป็นแลนทรี่นี่เอง, ทำไมถึงเป็นนายคนเดียวที่มาพบกับพวกเราล่ะ?"
เมื่อได้ยินน้ำเสียงคำถามของโคโบ, แลนทรี่ก็คิ้วขมวดขึ้นมา และคิดว่ายังไงพวกเขาก็ยังเป็นคนในเผ่าเดียวกัน, และจนสงบอารมณ์โกรธลงไป
"พวกเขาไม่ได้มา เพราะติดงานอื่นกันอยู่น่ะ"
"ยังจะมีอะไรที่สำคัญไปว่าพบกับพวกเราอีกงั้นเหรอ?" ธอร์พูดขึ้นมาอย่างยโส
จากการตรวจสอบของเขานั้น, สองคนนี้ที่กลับมา, ก็เพราะต้องการที่จะกลับมาอาศัยอยู่ที่เขตดาวบลูแมนนี่, แต่ท่าทีกลับแตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด!
หรือว่าคนจากหน่วยข่าวกรองจะทำงานผิดพลาดกัน?
"ทั้งสองคน, ในเมื่อพวกคุณกลับมากันแล้ว, ผมจะโชว์การพัฒนาดาวบลูสกายให้พวกคุณได้เห็นละกัน"
เมื่อเห็นแลนทรี่พูดด้วยโทนเสียงต่ำๆแล้ว ก็ยิ่งทำให้ทั้งสองคนหยิ่งยโสมากขึ้นไปอีก
พวกเขาผงกหัวอย่างภาคภูมิใจต่อแลนทรี่ "ก็ดีนะ, นำทางเลย, พวกเราเองก็อยากที่จะเห็นสภาพในปัจจุบันของดาวบลูสกายเหมือนกัน"
แลนทรี่ไม่ได้พูดอะไรต่อ, ก่อนอื่น, เขาพาทั้งสองคนไปที่ชั้นชมวิวเพื่อให้ดูฐานการผลิตยานอวกาศขนาดยักษ์ด้านนอกก่อน
จากนั้นจึงพาพวกเขาลงไปที่ดาวบลูสกายเพื่อชมอาคารพิเศษต่างๆ และไปชมฐานการผลิตต่างๆในดาวบลูสกาย
ตลอดการเดินชม, โคโบและธอร์ต่างก็ตกใจ, แต่ก็ยังแสดงทีท่าหยิ่งยโสอยู่
"ข้าคิดว่าที่นั่นเป็นสถานที่น่าสนใจทีเดียว, แลนทรี่พาพวกเราไปที่นั่นหน่อยได้ไหม?" ธอร์พูดขึ้นมาและชี้ไปที่อาคารพิเศษหลังหนึ่ง
เมื่อแลนทรี่มองเห็นสถานที่ที่ธอร์หมายถึง นั่นคือฐานการผลิตอาวุธนั่นเอง, ซึ่งมันได้ทำให้เขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกขึ้นมา
"ที่นั่นมันค่อนข้างพิเศษ, ฉันจะต้องรายงานต่อเบื้องบนก่อน"
"วุ่นวายจริงเลยน้า"
เมื่อทั้ง 3 คนเดินมาที่ประชาสัมพันธ์ของอาคารพิเศษนี้, พวกเขาพบว่ามีคนที่กำลังรอเข้าไปด้านในอยู่เช่นกัน, แต่ก็ไม่ใช่ฝูงชนอะไร
หลังจากแลนทรี่แยกตัวออกไป, โคโบกับธอร์ก็ได้ไปนั่งรอตรงที่ว่างๆ, และหันไปมองดูคนที่อยู่ในห้องประชาสัมพันธ์ด้วยสายตาราวกับว่าพวกเขาคือผู้ที่อยู่เหนือกว่า
ในเวลานี้, มีใครคนหนึ่งได้เดินเข้ามาหาพวกเขาแล้วถาม "พวกคุณทั้งสองคนเป็นชาวบลูแมนอย่างงั้นเหรอ?"
"ใช่แล้ว, มีอะไรให้พวกผมช่วยอย่างงั้นเหรอ?"
"ทั้งสองคน, ชื่อของผมคืออาร์ชแมน, มาจากอารยธรรมขนาดกลางที่ชื่อคาโรลคาเรน, ได้ยินมาว่าชาวบลูแมนนั้นมีอำนาจที่สูงในเขตดาวบลูแมนนี้, พวกคุณพอที่จะแนะนำท่านแลนทรี่้ที่เป็นชาวบลูแมนของพวกคุณให้ผมหน่อยได้มั๊ย?"
"แลนทรี่น่ะ, ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรสูงมากในหมู่ชาวบลูแมนหรอกครับ, ถ้าคุณต้องการที่จะพบกับเขา, บางทีพวกผมอาจจะช่วยคุณได้"
มันฟังดูน่าสนใจมากเมื่อได้ยินว่าคนๆนี้มาจากอารยธรรมคาโรลคาเรน, โคโบและธอร์เมื่อพวกเขาได้ยินชื่อของอารยธรรมนี้, ซึ่งเป็นอารยธรรมที่แข็งแกร่งมากในบรรดาอารยธรรมขนาดกลางในสหพันธรัฐจักรวาล
ถ้าเกิดสามารถสร้างความสัมพันธ์กับคนๆนี้แล้ว, บางที่พวกเขาอาจจะได้อยู่ในที่ดีๆก็ได้
อาร์ชแมนพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น "พวกคุณสามารถช่วยได้จริงๆเหรอ? เยี่ยมเลย, คือพวกเราจ้องการที่จะส่งคนของพวกเรามาที่นี่เพื่อมาขอศึกษาเทคโนโลยีน่ะ, ไม่ต้องกังวลนะหากพวกคุณสามารถช่วยพวกเราเรื่องนี้ได้, พวกเราอารยธรรมคาโรลคาเลนจะต้องตอบแทนพวกคุณอย่างสมน้ำสมเนื้อแน่นอน"
"คุณพอจะเจาะจงให้ชัดๆหน่อยได้มั๊ยว่าค่าตอบแทนนั่นคืออะไร?" โคโบถามขึ้นมา, ด้วยแววตาที่เป็นประกาย
เขาไม่คิดว่าจู่ๆจะมีโอกาสงามๆเช่นนี้โผล่เข้ามา, แค่จัดการให้ชาวคาโรลคาเรนได้เรียนรู้เทคโนโลยี, ในความคิดของพวกเขานั้นไม่น่าใช่เรื่องยากอะไรเลย
"ดูนี่สิ, นี่คือรางวัลที่พวกเราเสนอจะให้" ท่าทีของอาร์ชแมนนั้นเปลี่ยนเป็นดูเคารพพวกเขาขึ้นมา
เพราะเขารู้ว่าแม้แต่อารยธรรมชั้นสูงมากมายก็ยังต้องการที่จะส่งตัวแทนมาที่นี่เพื่อที่จะศึกษาเทคโนโลยีจากที่นี่ไป
แต่น่าเสียดาย, ที่จนถึงตอนนี้ จากที่ได้ยินมายังไม่มีอารยธรรมไหนที่ทำได้สำเร็จ
เมื่อเห็นรายการที่อาร์ชแมนจะยอมจ่ายให้นั้น, หัวใจของโคโบและธอร์ต่างก็เต้นอย่างรวดเร็ว, ทั้งสองคนหันมามองหน้ากันเอง, ถ้าพวกเขาทำได้สำเร็จ, พวกเขาอาจจะสามารถกอบโกยผลประโยชน์นี้ไว้เองได้
"คุณอาร์ชแมน, วางใจเถอะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราช่วยคุณเอง, ส่วนเรื่องของผลประโยชน์พวกนี้"
"พวกคุณวางใจได้หากพวกคุณยอมช่วยพวกเราจัดการเรื่องนี้, พวกเราจะส่งผลประโยชน์พวกนี้ให้ทันที, แล้วพอสำเร็จผมก็จะส่วนที่เหลือมาให้พวกคุณทีหลัง"
"ถ้าอย่างนั้นก็ยินดีเลย, คุณช่วยส่งของมาให้ที่ยานลำนี้เลยทีนะ"
อาร์ชแมนนั้นคงจะดีใจกระโดดโลดเต้นไปแล้ว หากว่าเขาไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์และคนจากอารยธรรมอื่นๆอยู่ด้วย
เขาคิดว่า, เขาได้พบกับคนที่มีตำแหน่งสูง, และไม่ใช่คนของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่ซื่อตรงอีกด้วย
ในเวลานี้แลนทรี่ได้เดินกลับมา, เขาได้ถามกับคุณจี้ผู้ลึกลับของบริษัทนี้ และตอบตกลงเห็นด้วยกับการร้องขอของเขา
"โคโบ, ธอร์, ตามผมมาสิ, ได้รับอนุญาตแล้วผมจะพาพวกคุณดูรอบๆเอง"
ในเวลานี้, อาร์ชแมนก็ได้พบกับชาวบลูแมนที่มีความสำคัญมากที่สุดในฟิวเจอร์กรุ๊ป แลนทรี่เขาจึงมีอารมณ์ที่ดีมาก
เมื่อเห็นทั้งสองคนเดินออกไปพร้อมกับแลนทรี่, อาร์ชแมนก็ได้เรียกพวกเขา, "ทั้งสองคน, ผมด้วยสิ"
"อื้ม"
แลนทรี่หันกลับมามองที่อาร์ชแมนอย่างสงสัย และกำลังรอการอธิบาย
"ฮ่าๆ, แลนทรี่ คนๆนี้เป็นเพื่อนของพวกเราที่เพิ่งเจอกันน่ะ, คุณคิดว่าคุณจะสามารถพาเขาไปพร้อมกับพวกเราด้วยได้ไหม?"
"อืม, มันมีนโยบายอยู่นะ, คุณจะไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต"
อาร์ชแมนรีบพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว "ผมมีบัตรผ่านอยู่, ผมมี"
ก็เห็นเขาได้หยิบเอาสมุดเล็กๆขึ้นมา, ซึ่งเป็นใบอนุญาตให้เข้าเยี่ยมชมสถานที่ได้
เมื่อพบว่าเขามีบัตรผ่าน, แลนทรี่ก็ผงกหัวและพูดขึ้นมา "คุณจะมากับพวกเราก็ได้, แต่เมื่อคุณเข้ามาด้านในแล้ว จะต้องทำตามกฏอย่างเคร่งครัดนะ"
เมื่อธอร์ได้ยินที่แลนทรี่พูด, เขาก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมานิดหน่อยแล้วพูดขึ้น "แลนทรี่, อาร์ชแมนเป็นเพื่อนของพวกเรานะ, อย่าบ่นมานักเลยน่า"
พวกเขาไม่ปล่อยให้แลนทรี่พูดอะไรไปมากกว่านี้, แล้วพวกเขาก็ไปพาอาร์ชแมนเดินเข้าไปข้างใน
แลนทรี่เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว, เขาก็ทำได้แค่เดินตามหลังพวกเขาไปข้างในตาม
แน่นอนว่าโคโบและธอร์นั้นคิดว่าสถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนบ้านของพวกเขาไปแล้ว, และไม่ได้สนใจที่จะทำตามกฏของการเยี่ยมชมที่นี่เลยแม้แต่น้อย
เหล่าผู้ดูแลที่อยู่ข้างใน, เมื่อเห็นแลนทรี่เดินตามมาด้วย, พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา, ซึ่งทำให้ทั้งสองคนนั้นหยิ่งยโสมากขึ้นไปอีก
เมื่อเห็นการแสดงออกเช่นนี้, ในสายตาของอาร์ชแมนแล้วมันทำให้หัวใจของเขารู้สึกยินดีมากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม, เมื่อทั้งสองคนกำลังพาอาร์ชแมนเดินเข้าไปในพื้นที่แกนกลางของจริงของที่แห่งนี้, แลนทรี่ก็ได้รีบมาโผล่ข้างหน้าและขวางทั้ง 3 คนเอาไว้
"นายกำลังทำอะไรอยู่แลนทรี่, นายมาห้ามพวกเราทำไม?" โคโบพูดถามแลนทรี่กลับไปด้วยเสียงอันดัง
แต่ก็ช่วยไม่ได้, เพราะพวกเขาสัญญากับอาร์ชแมนไว้แล้วว่าจะพาเขานั้นเดินชมที่นี่อย่างไม่สนใจอะไร, แต่ในเวลานี้พวกเขากลับถูกหยุดโดยแลนทรี่, พวกเขาจึงคิดที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการรักษาหน้าของพวกเขาเอาไว้
0 ความคิดเห็น