CF:บทที่ 696 โปรไฟล์ระดับสูง
สงครามภายในเขตแดนโหยวโรหลานนั้นเชื้อเชิญให้เหล่าอารยธรรมที่อยู่ในละแวกนั้นให้เข้ามา
ภายในกลุ่มดาวที่แสนไกล ยานรบกำลังลอยออกจากรอยแตกขนาดใหญ่ของอวกาศ
ถ้าอู๋ฮ่าวเหรินอยู่ที่นี่ เขาคงจะรับรู้ได้ทันทีจากการสังเกตุว่ายานรบนั้นเป็นของอารยธรรมพาลอส
“ท่านนายพล เรามาถึงอย่างปลอดภัยครับ”
“ดีมาก ตามคำแนะนำของเหล่าปรมาจารย์ กระจายกำลังออกเป็น 10 กลุ่ม ติดตั้งอุปกรณ์พวกนี้ลงไปในตำแหน่งที่พวกเขาว่าไว้”
“รับทราบ!”
นายพลแห่งพาลอสนั้นมองไปยังฟากฟ้าระยิบระยับด้านนอกด้วยอารมณ์ดี
เมื่อไหร่ก็ตามที่งานนี้สำเร็จ งานต่อไปก็จะง่ายขึ้นไปอีก เมื่อเหล่าสิ่งมีชีวิตแห่งการทำลายล้างเข้าไปยังจักรวาลได้...เขาเชื่อมันมาโดยตลอด ว่าสิ่งมีชีวิตดั้งเดิมในอวกาศจะต้องถูกกำจัดโดยสิ่งเหล่านั้นแน่ๆ
เมื่อได้เทียบกับความล้าหลังของพันธมิตรจักวาลแล้ว ห้วงอวกาศลึกที่พาลอสตั้งอยู่นั้น มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสูญพันธุ์และล่มสลายของเหล่าอารยธรรมในอดีตมากกว่าเป็นไหนๆ
และภายใต้การล่มสลายของเหล่าอารยธรรมระดับสูงนั้น เหล่าเผ่าพันธุ์ประหลาดก็ได้ถือกำเนิดขึ้น ดูเหมือนว่าการเกิดของพวกมันแต่ละครั้ง จะเป็นเหตุให้เกิดการล่มสลายด้วย
หลังจากที่มีเผ่าพันธุ์แห่งการทำลายล้างมากมายถือกำเนิดขึ้น ในการที่จะช่วยให้ตัวพวกเขาเองนั้นอยู่รอด เหล่าอารยธรรมระดับสูงทั้งหลายจำเป็นต้องปิดผนึกเหล่าเผ่าพันธุ์อันเป็นอันตรายแก่อวกาศเอาไว้
พวกเขานั่นมุ่งมั่นในการทดลองการข้ามผ่านบาร์เรียร์อวกาศให้ได้้ และท้ายสุด พวกเขาก็เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเหล่าอารยธรรมระดับล่าง หลังจากที่เหล่าสัตว์ร้ายถูกปลดปล่อย สิ่งต่อไปก็เพียงแค่รอเท่านั้น
ในตอนนั้น พวกเขาก็จะคอยหาช่องทางในตำนาน ที่จะสามารถครอบครองจักรวาลได้ทั้งหมดไปด้วย
อู่ฮ่าวเหรินนั้นไม่รู้เลยว่าอารยธรรมพาลอสในยุคของเขานั้นสามารถเข้ามายังพันธมิตรจักวาลได้ด้วยรอยแตกเล็กๆของบาร์เรีย
แน่นอนว่าการที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น มันทำให้อัตราการตายเพิ่มขึ้นอย่างสูง
ถ้าสิ่งที่พาลอสเฝ้าทำอยู่สำเร็จเมื่อไหร่ เมื่อนั้นพันธมิตรจักวาลได้พบกับวิกฤตแน่
ในขณะที่อู๋ฮ่าวเหรินกำลังซ่อนตัวอยู่ในดาวเคราะห์ และมองไปยังสถานการณ์ภายในเขตแดนโหยวโรหลานด้วยดาวเทียมสอดแนม
ตั้งแต่ที่สงครามถูกประกาศก้องขึ้นระหว่างสองฝ่าย สงครามนั้นได้ขยายตัวออกไป และมันทำให้เหล่าอารยธรรมโดยรอบนั้นถูกดึงให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสงครามนี้ด้วย
ชาวบลูแมนที่อยู่ภายในการควบคุมของคาร์ลนั้น เป็นสิ่งที่อู๋ฮ่าวเหรินเป็นห่วงมากๆ เพราะเขาไม่คิดว่าทั้ง 7 อารยธรรมจะช่วยเขาปกป้องชาวบลูแมนได้
นั่นเพราะว่าพวกเขานั้นเหมือนเตรียมพร้อมจะโจมตีชาวบลูแมนไปด้วยเลย ถึงแม้จะมีคำสั่งที่บอกว่าห้ามให้ชาวบลูแมนตายออกมาแล้วก็ตาม แต่ในเมื่อตอนนี้ชาวบลูแมนอยู่กับคาร์ล มันต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแน่ๆ
ภายในกลุ่มซองแดง กลุ่มของผู้คนกำลังให้คำแนะนำและพยายามหาทางที่จะช่วยชาวบลูแมนให้ได้
“ปัญหามันอยู่ที่ว่าตอนนี้พวกบลูแมนถูกจับตัวไปแล้วโดยพวกคาร์ล และพวกนั้นก็น่าจะไม่ปล่อยบลูแมนออกมาง่ายๆด้วย” นักขุดแร่พูด
ชาวไร่ถาม “แล้วถ้ามีพวกอารยธรรมระดับสูงเข้ามาเกี่ยวล่ะ? พวกเราจะสามารถบังคับให้คาร์ลปล่อยบลูแมนออกมาได้ไหม?”
“วิธีนี้สามารถลองได้นะ ฉันคิดว่ามันฟังดูดีเลย”
อย่างไรก็ตาม อู๋ฮ่าวเหรินนั้นรู้สถานการณ์นี้ดี อันตราความสำเร็จของวิธีนี้นั้นไม่สูงมากนัก
ยิ่งไปกว่านั้น คาร์ลที่อยู่ในสถานะสงครามเช่นนี้ มันทำให้พวกเขาไม่น่าจะเกรงกลัวต่อแรงกดดันของพวกอารยธรรมระดับสูงแล้วด้วย
“ไม่ ทางเดียวที่จะช่วยชาวบลูแมนได้ก็คือต้องเชิญชวนให้พวกอารยธรรมระดับสูงเข้ามามีส่วนร่วมกับสงครามครั้งนี้ให้ได้”
“มันยากมากๆเลยนะที่จะให้อารยธรรมระดับสูงมาเข้าร่วมสงครามแบบนี้” นักธุรกิจพลังงานพูด
“ในกรณีนี้ หากทำได้ก็ต้องรับค่าใช้จ่ายที่สูงมากๆด้วย มันเหมือนนายจะลากเอาอันตรายเข้ามาหาตัวเองมากกว่า”
“อันที่จริง มันค่อนข้างจะไร้ค่าเลยนะ” ชายชุดเกราะพูด
ถ้าตัวของอู๋ฮ่าวเหรินกลายเป็นที่จับตามองของพวกอารยธรรมต่างๆในพันธมิตรจักวาลเพราะเรื่องนี้ มันจะดูไม่มีเหตุผลที่จะปกป้องชาวบลูแมนขึ้นมาทันที
“ในเมื่อเราไม่สามารถหาอารยธรรมระดับสูงที่อยู่ในการดูแลของเราได้ มันจะดีกว่าถ้าส่งผลประโยชน์บางอย่างเป็นรางวัลสำหรับกองกำลังที่สามารถช่วยบลูแมนได้นะ” คนเมาพูด
อู๋ฮ่าวเหรินได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะคิดอะไรออก มันเหมือนแสงไฟวิ่งผ่านในหัวอย่างรวดเร็ว
“นี่มันเป็นความคิดที่ดีเลยนี่ เพราะงั้นฉันจะเอาแผนที่ดวงดาวของเขตแดนที่ยังไม่พัฒนาไปเป็นของรางวัล เอาล่ะ งานนี้ต้องมีชื่อเสียงกันหน่อย อย่างน้อยๆก็ต้องให้ทุกๆคนในพันธมิตรจักวาลรู้”
“นี่มันเป็นความคิดที่แย่มากๆเลยไม่ใช่เหรอไอ้หนุ่ม?”
มองไปยังรอยยิ้มของอู๋ฮ่าวเหริน
กลุ่มคนเหล่านั้นต่างก็รู้ได้ทันทีว่าคนๆนี้กำลังจะไปคัดคนออกบ้างแล้ว
ส
“ฮ่าๆๆ ฉันจะไปเตรียมการก่อน บางทีครั้งนี้อาจจะทำให้มนุษย์สามารถเข้ามาอยู่ในพันธมิตรจักวาลเร็วขึ้นโดยไม่ต้องห่วงปัญหาใดๆก็ได้”
เมื่อออกจากกลุ่มซองแดงมา อู่ฮ่าวเหรินก็วางโครงสร้างความสัมพันธุ์ของเขากับคาร์ลและเหล่าบลูแมนลงไปในโครงข่ายการสื่อสารของพันธมิตรจักวาล
ภายในนามของฟิวเจอร์กรุ๊ป เขาส่งข้อความประนามคาร์ลออกไป
แต่เดิมแล้ว ทุกๆคนต่างก็เป็นกังวลเกี่ยวกับสงครามคาร์ลครั้งนี้ ดังนั้นแล้วการกระทำนี้ของอู๋ฮ่าวเหรินจะถูกพบเจอได้เร็วขึ้น
“มันแปลกๆ สงครามระหว่างคาร์ลและอารยธรรมรอบด้านพวกนี้ดูเหมือนจะมีอะไรที่เกี่ยวของกับฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่นะ แล้วทำไมคนพวกนี้ถึงมาเริ่มเคลื่อนไหวตอนนี้เนี่ย?”
“อ่า ก็เกี่ยวแหละ ไม่ได้คิดเลยว่าพวกนั้นจะออกมาประณามคาร์ลถึงเรื่องบลูแมน ชนวนสงครามครัง้นี้มาจากบลูแมนสัญญาที่จะเข้าร่วมกับเขตแดนของฟิวเจอร์กรุ๊ป แถม 1 ในนั้นยังเป็นพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปอีก”
“ฮ่าๆๆ ตลกดี พวกหน้าใหม่นั่นอยากจะให้คาร์ลปล่อยพวกบลูแมนไม่งั้นจะงัดกับคาร์ลงั้นเหรอ”
บางคนที่ได้เห็นข่าวแจ้งที่มาจากอู๋ฮ่าวเหรินก็คิดว่ามันเป็นเรื่องตลก การที่เขาจะเอากองกำลังของตัวเองเข้าชนกับอารยธรรมที่เตรียมพร้อมสำหรับการพัฒนาเป็นอารยธรรมระดับสูงแล้วแบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตายเลย
บางคนก็ยังสงสัยว่าอู๋ฮ่าวเหรินแห่งฟิวเจอร์กรุ๊ปอาจจะมีปัญหากับสมองก็ได้
สภากลางที่พบการโต้ตอบนี้ของฟิวเจอร์กรุ๊ป พวกเขาเองก็ไม่อาจจะเข้าใจได้ถึงจุดประสงค์ของอู๋ฮ่าวเหรินผู้ประกาศข่าวนี้ออกมา
เหล่าคนที่คุ้นเคยกับอู๋ฮ่าวเหรินอย่างมิสต์ เซาโตรและลูโอก้าต่างก็รีบติดต่อไปยังอู๋ฮ่าวเหรินกันก่อนเพื่อถามถึงสถานการณ์
อู๋ฮ่าวเหรินตอบอย่างเรียบง่ายว่าชาวบลูแมนเหล่านั้นตกลงที่จะย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ ณ เขตแดนของเขาแล้ว แต่นั่น พวกนั้นไม่ยอมปล่อยให้คนเหล่านี้เข้ามา ถ้าไม่ช่วยพวกเขาตอนนี้แล้วอนาคตจะมีใครกล้าย้ายเข้ามาอาศัยในเขตแดนเขาไหม?
การที่ต้องมานั่งฟังอู๋ฮ่าวเหรินอธิบายนั้น หลายๆคนต่างก็พูดไม่ออกกัน
เมื่อข่าวนี้เข้าถึงหูคาร์ล พวกเขาเองก็ไม่ได้สนใจอู๋ฮ่าวเหรินอยู่แล้ว ยิ่งสำหรับฟิวเจอร์กรุ๊ปที่อู๋ฮ่าวเหรินเปิดคนเปิด คาร์ลมองว่า พวกเขาสามารถกำจัดออกไปได้ไม่ต่างกับเห็บหมัดที่เกาะแข้งเกาะขา
การใช้กำลังเช่นนี้มันขึ้นอยู่กับบัญชีของอู๋ฮ่าวเหรินด้วยซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็แทบจะเทหมดหน้าตักเพื่ออารยธรรมระดับกลางพวกนั้นแล้ว
อู๋ฮ่าวเหรินรอถึง 3 วันก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เขาเรียกร้องให้คาร์ลปล่อยตัวบลูแมนออกมาไม่งั้นเขาจะเริ่มดำเนินการขั้นต่อไป
ประกาศนี้มันทำให้ผู้คนเริ่มหันมาสนใจแล้วว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะทำอะไรต่อไป
“ฮ่าๆๆ นี่มันสนุกดี ฉันไม่รู้ว่าพวกฟิวเจอร์กรุ๊ปจะทำอะไรต่อ พวกนั้นจะส่งทหารไปสู้กับคาร์ลเหรอ?”
“ส่งทหาร? ถ้าจำไม่ผิด ที่นี่ไม่มียานรบเลยนะ แน่นอนว่าถ้าจะพูดถึงกองทัพของพันธมิตรจักวาลที่ร่วมมือกันอยู่ บางทีพวกนี้อาจจะพาชาวบลูแมนออกมาจากคาร์ลนั่นก็ได้นะ”
“จิ๊ส์ นี่คิดว่ากลาโหมของสัมพันธมิตรเปิดขึ้นมาเพราะเขาหรือไง ถึงได้จะทำอะไรก็ได้น่ะ”
“นี่มันก็แค่ตัวตลกที่อยากจะเรียกร้องความสนใจนั่นแหละ เมื่อไหร่ที่สงครามระหว่างคาร์ลและอารยธรรมโดยรอบจบ เขาก็จะเจอปัญหาใหญ่แล้ว นี่มันฆ่าตัวตายชัดๆ”
“...”
ไม่มีใครคิดว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นทำถูกแล้ว ทุกคนต่างคิดว่าสมองเขาต้องได้รับการกระทบกระเทือนมาแน่ๆถึงได้เคลื่อนไหวแบบนี้
และเมื่อทุกคนได้เห็นเรื่องตลกของฟิวเจอร์กรุ๊ป อู๋ฮ่าวเหรินก็ประกาศมาตรการของเขาต่อพวกคาร์ลทันที
ทันทีที่ข้อมูลเหล่านี้ถูกปล่อยออกไป มันก็ทำให้พันธมิตรจักวาลแทบจะปั่นป่วนกันให้หมด
0 ความคิดเห็น