CF:บทที่ 693 อารยธรรมคาร์ล
นายพลจิลเลียดนั้นไม่อยากจะเชื่อข่าวจากคนที่อยู่เบื้องล่าง
“นี่มาจากคนที่ชื่ออู๋ฮ่าวเหรินจริงๆงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้วครับ เราจะตอบกลับไปอย่างไรดีครับ?”
“รอก่อน คนๆนี้บ้าไปแล้วหรือไง? นี่เขาคิดจะมาเก็บพวกชาวบลูแมนตอนนี้เนี่ยนะ”
จิลเลียดนั้นประหลาดใจ ก่อนหน้านี้ก็ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจพวกชาวบลูแมน แต่มาในตอนนี้เขากับต้องการช่วยเหลือบลูแมนพวกนี้
ไม่เข้าใจจริงๆ เขาทำได้เพียงรายงานเพราะไม่สามารถจัดการกับเรื่องชาวบลูแมนนี้ได้
“ท่านนายพลคังเชนคนที่ชื่ออู๋ฮ่าวเหรินส่งข้อความมาครับ จะจัดการอย่างไรดี”
เมื่อคังเชนได้อ่านเนื้อความของข้อความที่อู่ฮ่าวเหรินส่งมา ทั่วทั้งส่วนกลางของคาร์ลก็พากันตกตะลึง
“พวกนายมั่นใจนะว่านี่มาจากอู๋ฮ่าวเหรินที่โด่งดังในพันธมิตรจักวาลตอนนี้น่ะ?”
“มั่นใจครับ เขาจะมาถึงเร็วๆนี้”
“บ้าเอ้ย นี่เป็นว่าเป็นดาวเคราะห์เล็กๆ ที่ยึดไปแล้วจะไม่มีปัญหาอะไร แล้วทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นว่ามันดึงดูดความสนใจของชายคนนั้นมาได้?”
จริงๆแล้วพวกเขาก็ไม่ได้กลัวอู๋ฮ่าวเหรินหรอก แต่ถ้าเกิดพวกเขานั้นโด่งดังขึ้นมา และผู้คนมากมายจับตามองเขา พวกเขาจะอยู่ไม่สุขเอา
การที่อู๋ฮ่าวเหรินทำเช่นนี้มันช่วยเรียกแขกให้พวกเขาแน่ๆอยู่แล้ว และมันจะทำให้พวกอารยธรรมที่สูงกว่าเข้ามาก่อกวนได้ด้วย
คาร์ลที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญที่ซึ่งกำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นอารยธรรมระดับสูงนั้น หากโดนพวกที่อยู่สูงกว่าอยู่แล้วเข้ามาทำอะไรซักอย่าง แม้จะแค่นิดเดียวก็รุนแรงพอที่จะทำให้พวกเขาล่มสลายได้เลย
“ถ้ามาแบบนี้ นายลองส่งคนไปยืนยันสถานการณ์ ถ้ามันเป็นเขาจริงๆ ก็หาทางจับเขาให้ได้ก่อน”
“รับทราบ ท่านนายพลคังเชน”
อู๋ฮ่าวเหรินที่เข้ามาในเขตแดนโหยวโรหลานแล้ว เขาสังเกตุดูว่าคาร์ลได้ทำอะไรไว้บ้างตลอดทาง นั่นทำให้เขาพบว่าเผ่าพันธุ์เล็กๆมากมายต้องถูกกวาดล้างโดยคาร์ล
ภายใต้ความกดดันของคาร์ล หลายเผ่าพันธุ์ภายในเขตแดนโหยวโรหลานต้องยอมจำนนให้กับพวกเขาพร้อมทั้งยอมรับข้อตกลงต่างๆ
นอกจากนั้น พวกคาร์ลเองก็เป็นพวกที่มีความโหดร้ายอยู่ด้วย พวกนั้นมันเหมือนเหล่าโจรในคราบอารยธรรมระดับกลาง
หากยึดตามธรรมเนียมของพันธมิตรจักวาล สงครามยึดพื้นที่เช่นนี้ หากใครก็ตามที่ไม่อยากถูกตั้งกฏโดนอีกฝ่าย สามารถเคลื่อนย้ายออกจากเขตแดนนั้นๆได้
แต่ตลอดทางที่ผ่านมา อู๋ฮ่าวเหรินพบซากยานอวกาศมากมายไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ที่ล่องลอยอยู่ในท้องฟ้าระยิบระยับ ยานพวกนี้น่าจะเป็นยานขนส่งวัตถุดิบขนาดใหญ่ที่ขนวัตถุดิบมาเต็มที่เผอิญหลุดเข้ามาในวงโคจรนี้พอดี
ไม่มีวัตถุดิบใดๆหลงเหลือแล้ว แสดงว่าพวกคาร์ลที่กำลังก่อสงครามนั้นได้เก็บโกยวัตถุดิบเหล่านั้นไปด้วย
ยานอวกาศของอู๋ฮ่าวเหรินโดนสะกัดกั้นไว้ถึง 3 ครั้ง แต่เขาก็สามารถหนีรอดมาได้เพราะศักยภาพของยานอวกาศของเขาเอง
มองไปยังยานอวกาศของคาร์ลที่พยายามเข้ามาขัดขวางเขา พวกนั้นช่างเหมือนพวกโจรดวงดาวเลย
เป็นโจรกันไปทั้งอารยธรรมแล้วหรือไง
ภายในกลุ่มซองแดง กลุ่มของผู้คนกำลังมองดูภาพที่อู๋ฮ่าวเหรินถ่ายมาพร้อมกับอธิบายเรื่องต่างๆให้ฟัง
“พวกคาร์ลน่ะ ค่อนข้างจะเหี้ยมโหดกว่าอารยธรรมอื่นๆ พวกนั้นไม่ยอมให้เผ่าพันธุ์ไหนหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว”
“พวกมันใช้กองทัพของตัวเองปลอมตัวเป็นพวกโจรที่คอยปล้นดาวต่างๆ ปล้นยานที่หลงเหลือ แล้วก็ขโมยเอาวัตถุดิบทั้งหมดไป จริงๆแล้วนี่คงเป็นสิ่งเดียวที่อารยธรรมอย่างคาร์ลสามารถทำได้ระหว่างที่กำลังจะยกระดับตัวเองเป็นอารยธรรมระดับสูงแหละ”
“ช่างมันไปเถอะ นายไม่สามารถหยุดยั้งการไล่ล่าแบบนี้ได้หรอก ถึงนายจะไปบอกสภากลางจักวาล มันก็ไม่ได้ผลอะไร ทางเดียวที่จะจัดการปัญหานี้ได้คือนายต้องแข็งแกร่ง”
อู๋ฮ่าวเหรินพยักหน้า เขารู้ดีถึงความโหดร้ายของพันธมิตรจักวาลมันเป็นอย่างไรจากการกระทำของคาร์ล นี่ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่าเมื่อไหร่ที่เขาแสดงศักยภาพของกองกำลังที่แข็งแกร่งต่อหน้าสัมพันธมิตรอวกาศ อารยธรรมมนุษย์ก็คงจะเข้าร่วมได้เมื่อนั้น
จิลเลียดผู้ที่ซึ่งไกลออกมาจากบลูสตาร์ เขาต้องตกใจเมื่อได้ยินข่าวว่ายานอวกาศทั้งสามของเขาไม่สามารถจับกุมตัวอู๋ฮ่าวเหรินมาได้
“คาดไม่ถึงจริงๆ ดูท่าว่ายานอวกาศของคุณอู๋จะไม่ธรรมดาซะแล้ว!”
อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้คิดเลยว่าเหตุผลที่เขาโดนดักจับถึง 3 ครั้งนั้นเพราะเขาไปติดต่อกับจิลเลียดเข้า
ในตอนนั้นเขากำลังติดต่อกับอารยธรรมระดับกลางทั้ง 5 ที่อยู่ด้านนอก
“นายแน่ใจนะว่าเราได้รับการแจ้งเตือนจากคาร์ลน่ะ?”
“แน่ใจ ข้อมูลที่เราได้มา เหมือนว่าพวกคาร์ลกำลังจะโชว์เขี้ยวเล็บของตัวเอง พวกนั้นคงไม่รู้ว่าอารยธรรมของพวกเรากำลังร่วมมือกันเพราะเหตุผลนี้”
“ยังไงก็ตาม คุณอู๋และอีก 2 อารยธรรมที่กำลังลังเลก็จะร่วมกับพวกเราด้วยสินะ”
“อืม มาทำตามข้อตกลงกันเถอะ”
อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้คาดคิดเลยว่าเขาจะได้รับข่าวดีเช่นนี้ ดูเหมือนว่าพวกคาร์ลนั้นจะยโสตัวเองหน้าดู ถึงขนาดส่งข้อความแจ้งเตือนแบบนั้นออกไปยังอารยธรรมรอบๆ แบบนี้จะเรียกบังคับให้สู้ก็คงไม่ได้แล้วมั้ง ทำตัวเองแล้วนี่
เพราะถ้าหากสิ่งนี้ไม่เกิดขึ้น บางทีคาร์ลอาจจะสามารถยกระดับได้สำเร็จและแสดงศักยภาพไปแล้วก็ได้
ในตอนนี้เขาอยู่ที่นี่แล้ว เมื่อคาร์ลได้ลงมือทำสิ่งนี้ลงไป นั่นหมายถึงจุดจบของพวกเขาจะต้องเป็นโศกนาฏกรรมแน่นอน
ทางด้านศูนย์บัญชาการของคาร์ล ในตอนนี้เหล่ากลุ่มคนกำลังคุยกันเรื่องสงครามครั้งถัดไป ถ้าหากเขาต้องการจะขยายอาณาเขต พวกเขาไม่สามารถเลี่ยงสงครามได้
พวกอารยธรรมระดับเล็กนั้นไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ เพราะงั้นไม่ต้องสนใจก็ได้ แต่ในการเผชิญหน้ากับอารยธรรมระดับกลางทั้ง 9 นั้น สิ่งที่ควรจะใส่ใจและระมัดระวังที่สุดก็คือการรวมตัวกันของพวกเขาต่างหาก
ครั้งหนึ่งเมื่ออารยธรรมทั้ง 9 รวมตัวกัน แผนการรุกรานของคาร์ลยังต้องถูกล้มเลิก
เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินเข้าใกล้บลูสตาร์เขาก็ได้พบเข้ากับกัปตันจิลเลียด
“กัปตันจิลเลียด ทำไมถึงส่งยานรบไปสะกัดกั้นชาวบลูแมนที่กำลังจะอพยพเอาไว้ ถ้าตามธรรมเนียมของสภากลางจักวาลได้กล่าวไว้ ชาวบลูแมนเหล่านั้นมีสิทธิ์ที่จะเลือกย้ายออกจากดาวบลูสตาร์เพื่อไปยังเขตแดนอื่นได้”
“คุณอู๋ นับเป็นเกียรติที่ได้พบ คุณผ่านอุปสรรคมากมายที่ขวางทางมาจนได้ น่าเสียดายที่เราไม่อาจให้คุณเข้ามารุกล้ำเขตแดนที่คาร์ลควบคุมอยู่ได้ แต่ถ้าคุณมากับเรา เราคงจะให้คุณอยู่ในเขตแดนของเราได้ซักพัก”
“ฉันมาที่นี่เพื่อต่อรองเกี่ยวกับความสงบสุขของพวกนายต่างหาก ถ้ายอมปล่อยพวกบลูแมนออกไป ฉันก็รับประกันได้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือถ้าไม่งั้นแล้ว อารยธรรมของพวกนายก็คงจะต้องรับผลที่ตามมากันเอง”
“พูดตรงๆก็คือ ฉันมาเพื่อเตือนนายว่าอย่าทำอะไรโง่ๆ ไม่งั้นนายจะเสียใจในภายหลัง”
“ฮ่าๆๆ นี่คุณกำลังเล่นตลกงั้นเหรอ คุณอู๋? เอาล่ะ กองยานทั้งหลาย ออกไปตามหายานอวกาศของคุณอู๋ให้เจอ จากนั้นก็เชิญเขาเข้าไปคุยกันที่ศูนย์บัญชาการของพวกเราด้วยล่ะ”
รู้อยู่แล้วตั้งแต่ก่อนมา และมั่นใจได้ว่ามันไม่ใช่การคุยแน่ๆ แต่อู๋ฮ่าวเหรินก็อยากจะใช้โอกาสนี้ในการลองอะไรนิดหน่อย และดูเหมือนสถานการณ์นี้จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ด้วย
อู๋ฮ่าวเหรินติดต่อไปยังอารยธรรมระดับกลางทั้ง 9 ให้รออยู่ด้านนอก
“ตามสะดวก”
“งั้นได้เลยคุณอู๋ ไปกันดีกว่า”
กองยานจากซีซ่าร์นั้นไม่ได้เคลื่อนไปไหน เพราะพวกเขาเหมือนไพ่ตายสุดท้ายหากอารยธรรมระดับกลางที่ติดต่อไว้ไม่สามารถตอบโจทย์ได้
อารยธรรมระดับกลางทั้ง 7 ส่งข่าวออกไปยังโลกด้านนอกในรูปแบบฟอร์มของพันธมิตรแบบใหม่
จากนั้นพวกเขาก็ร่วมประท้วงกับทางสภากลางจักวาลของสัมพันธมิตร ส่วนเนื้อหาที่ประท้วงนั้นก็คือการที่อารยธรรมคาร์ลขัดขวางการย้ายถิ่นฐานของอารยธรรมระดับเล็กภายในเขตแดนโหยวโรหลาน
เมื่อเจ้าหน้าที่ของอารยธรรมคาร์ลที่อยู่ในสภากลางรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็รีบแจ้งไปยังศูนย์บัญชาการทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
กลุ่มของผู้ปกครองแห่งคาร์ล หลังจากที่ได้ยินข่าว พวกเขาก็ทำสีหน้าน่ารังเกียจกัน
พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องการประท้วงของอารยธรรมระดับกลางเสียเท่าไหร่ แต่พวกเขากังวลเรื่องการรวมตัวกันของอารยธรรมระดับกลางเหล่านั้นมากกว่า
นี่มันเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดที่คาร์ลเคยเจอเลย และมันมีผลกระทบต่อการกระทำต่อๆไปด้วย
0 ความคิดเห็น