CF:บทที่ 639 การทำลายล้างกองโจรดวงดาว (4)

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

บนเรือรบ เมื่อพวกเขาจะได้เห็นฉากของสงครามจักรวาล ฉากของปืนและยอดเยี่ยมของการระเบิดของก้อนหิน ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกถึงความโหดร้ายของสงครามจักรวาล

หากสงครามประเภทนี้เกิดขึ้นในระบบสุริยะ โลกคงจะไม่รอดพ้น มันต้องการเพียงแค่การระดมยิงรอบเดียว ในการส่งโลกไปสู่นรกและกำจัดมนุษยชาติ

เห็นได้ชัดว่ามิสต์นั้นคุ้นเคยกับฉากประเภทนี้ ระหว่างที่มองดูการโจมตีของเรือรบเหล่านั้นเขาก็ยังคงแนะนำประสิทธิภาพของเรือรบเหล่านั้นให้กับอู๋ฮ่าวเหริน

แน่นอน อู๋ฮ่าวเหรินผู้ที่เคยได้เห็นฉากของสงครามอวกาศในอนาคต ก็สามารถพูดได้ถึงพลังทั่วไปของเรือรบเหล่านี้ว่าก็แค่งั้น ๆ

"ท่านนายพล มีการติดต่อมาจากวุฒิสมาชิกมาสโลว์"

"รับซะ"

"นายพลมิสต์ คุณสามารถสั่งหยุดปฏิบัติการได้หรือไม่?"

"โอ้ ทำไมล่ะ? ฉันตรวจสอบดูแล้ว มันเป็นพื้นที่เปิดโล่ง" มิสต์พูดอย่างรู้ทัน

ใบหน้าของมาสโลว์ดูน่าเกลียดเล็กน้อย เขาไม่สามารถพูดตรง ๆ ได้ อย่างไรก็ตามหากคุณใช้ประโยชน์จากผลประโยชน์ของผู้อื่น คุณก็ควรจะช่วยพวกเขาเสมอ

"นายพล คนจากตระกูลอัลตายินดีจ่ายดาวทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ให้สามดวงเพื่อหยุดปฏิบัติการฝึกฝนนี้"

มิสต์ไม่คาดคิดว่าตระกูลอัลตาจะกล้าขอให้สมาชิกสภาติดต่อมาหาเขาในเวลานี้ เพื่อเสนอผลประโยชน์ให้เขาและหยุดปฏิบัติการฝึกฝน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าจุดประสงค์ในตอนนี้ของพวกเขาคืออะไร

เขามองไปที่อู๋ฮ่าวเหรินที่อยู่ตรงนั้นและพูดอย่างจริงจังว่า "การฝึกซ้อมได้เริ่มขึ้นแล้วและเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดทันที"

"อืม ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะส่งข่าวต่อไปยังอัลตา"

มาสโลว์รู้สึกอาการปวดหัวและวางสาย เขาคิดว่ามิสต์นั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอู๋ฮ่าวเหริน มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเลือกหยุดปฏิบัติการ

ตอนนี้ดูเหมือนว่าการฝึกฝนที่ว่านี้ เพื่อต่อสู้กับโจรดวงดาวจริง ๆ

ทางด้านของอู๋ฮ่าวเหรินนั้น เขาเองก็ได้รับการติดต่อจากตระกูลอัลตาเช่นกัน

"ให้นายพลมิสต์หยุดการฝึกฝน ไม่เช่นนั้นคุณจะได้รับรู้ความโกรธของอัลตา" เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้รีบร้อนอย่างมาก เมื่อรับสายเขาก็ขู่อู๋ฮ่าวเหรินในทันที

"งี่เง่า ลาก่อน ไม่ต้องติดต่อมาหาฉันอีก ฉันหวังว่าเมื่ออัลตาเจอฉันอีกครั้ง คุณจะยังคงพูดเช่นนั้นได้"

"ดูเหมือนว่าพวกเขาก็ติดต่อคุณเช่นกัน"

อู๋ฮ่าวเหรินพยักหน้าและพูดว่า "ในเวลาแบบนี้คนโง่เหล่านี้ก็ยังคงคุกคามฉัน พวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อพวกเขาปล้นเรือขนส่ง มันเป็นพวกเขาที่จะต้องตาย"

“มันงี่เง่าจริง ๆ ฉันคิดว่ามันเป็นหายนะของพวกเขาที่กล้ายั่วยุคุณในครั้งนี้”

อู๋ฮ่าวเหรินยิ้มและเฝ้าดูเรือรบประจัญบานด้านนอกที่ซึ่งน่ากลัวยิ่งกว่าภัยพิบัติ

สมาชิกสภาพันธมิตรจักรวาลกำลังซักถามเกี่ยวกับการฝึกฝนทหารของนายพลมิสต์ในเวลานี้ พวกเขาได้รับแจ้งว่าการฝึกซ้อมครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นปฏิบัติการทำลายล้างพวกโจรดวงดาว

"ฉันเพิ่งได้ยินมาว่าบริเวณที่นายพลมิสต์ไปปฏิบัติการฝึกฝน ดูเหมือนจะเป็นรังของโจรดวงดาว คนพวกนั้นกลัวการฝึกฝนของนายพลมิสต์เลยพากันกลับไปที่รัง และตอนนี้พวกเขากลับถูกขังอยู่ในรัง"

“ อา! จริงงั้นเหรอ แล้วนั่นไม่ได้หมายความว่าในครั้งนี้กลุ่มโจรขี้ขโมยพวกนั้นจะถูกทำลายลงอย่างแน่นอนหรอกเหรอ นั่นเป็นกลุ่มขโมยที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอวกาศเลยนะ”

"ฮ่าฮ่า ฉันได้ยินมาว่ามันเกี่ยวข้องกับตระกูลอัลตา มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ที่ตระกูลอัลตามีความขัดแย้งกับผู้ชายตัวน้อยที่ชื่ออู๋ฮ่าวเหริน กลุ่มโจรดวงดาวหมาป่าปล้นผู้ให้บริการขนส่งวัสดุของหนุ่มน้อย ทำให้หนุ่มน้อยคนนี้ติดต่อให้มิสต์มาเพื่อช่วยเขาต่อสู้กับพวกมัน"

"ที่จริงฉันได้ยินมาว่าคนพวกนี้เลือกกินได้แย่มาก พวกเขาข่มขู่คนอื่นด้วยการคุกคามอย่างโจ่งแจ้ง"

“มีข้อสงสัยบางอย่าง เขารู้ได้อย่างไรว่ารังเก่าของกลุ่มโจรดวงดาวหมาป่าอยู่ที่นั่น? มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะ ใช่ไหม?”

“ไม่อย่างแน่นอน ฉันเพิ่งได้ยินว่าโจรสามดาวอีกสองที่เข้ามามีส่วนร่วมในการปล้นของของเขาก็ถูกล้อมและปราบปราม พวกเขาทั้งหมดอยู่ในรังเก่าและถูกล้อมรอบ”

“เป็นไปได้อย่างไร พวกโจรเหล่านี้เหมือนหนู พวกเขาหารังพวกมันเจอได้อย่างไร?”

"ใครจะไปรู้? อาจจะมีกองกำลังอันทรงพลังอยู่เบื้องหลังเขาก็ได้"

ตระกูลที่มีส่วนร่วมในการคุกคามอู๋ฮ่าวเหริน พบว่ากลุ่มโจรสามดาวทั้งหมดถูกล้อมไว้พร้อมกันและพวกมันทั้งหมดกำลังจะถูกทำลาย พวกเขาตกใจแต่พวกเขาก็เริ่มกลัวในเวลาเดียวกัน

"เกิดอะไรขึ้น? มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมรังของพวกเขาถึงถูกเปิดเผย?"

“อย่าถามเลยว่าทำไมมันถึงถูกเปิดเผย รีบหาวิธีกำจัดคนเหล่านั้นซะ มิฉะนั้นถ้าพวกเขาถูกจับได้และกิจการของเราถูกเปิดเผย คุณก็รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร”

คนเหล่านี้หยุดทะเลาะกันและเริ่มหาทางแก้ไขปัญหา พวกเขาสามารถละทิ้งโจรสามดาวได้และไม่อาจปล่อยให้ตระกูลเข้ามามีส่วนร่วมในปัญหานี้

“ฉันส่งคนไปแล้ว หากโจรดวงดาวยังอยู่ พวกเขาจะไม่เข้าร่วมกองทัพพันธมิตร อัลตา ตระกูลของคุณควรทำอะไรได้บ้าง? มันจะเป็นไปได้ไหมถ้าคุณจะส่งคนไปบุกทำลายกองทัพของมิสต์และฆ่าโจรดวงดาวเหล่านั้น"

“มันไม่เป็นไร ตราบใดที่ตระกูลของพวกเราไม่ยอมรับว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกับกลุ่มโจรดวงดาว พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะจัดการกับพวกเราได้ ตอนนี้เรามาพูดถึงเกี่ยวกับมันก่อน สิ่งต่อไปที่เราควรจะทำคือการจัดการกับมัน”

“คุณต้องสอนบทเรียนให้กับคนที่เนรคุณและให้เขาส่งมอบทักษะของเขามา และให้เขาเข้าใจถึงราคาที่ต้องจ่ายเมื่อทำให้เราขุ่นเคือง"

การเสียสละของกลุ่มโจรดวงดาวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อขุมพลังของพวกเขามากนัก แม้ว่าโจรดวงดาวจะถูกจับแต่ข้อกล่าวหาของพวกเขาก็ไร้ประโยชน์

ในรังเก่าของกลุ่มโจรดวงดาวหมาป่า เมื่อหมาป่าโดดเดี่ยวเห็นเรือรบที่อยู่ด้านนอก ใบหน้าของเขาซีดลงในทันที

"เป็นไงบ้าง? ติดต่ออัลตาได้แล้วรึยัง?"

"ไม่ หัวหน้า พวกเขาปิดกั้นสัญญาณ"

"ให้ตายเถอะ ทุกคนขึ้นเรือ เราหลบออกไปจากที่นี่"

หมาป่าโดดเดี่ยวรู้ดีว่าถ้าพวกเขาไม่รีบเคลื่อนไหวก่อนที่กองพันที่สามจะลงมือ พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว

ยอมแพ้ หมาป่าโดดเดี่ยวไม่ได้คิดถึงมันเลย เพราะการยอมแพ้หมายถึงความตาย มันไม่มีทางเลือกที่สองเลย และมันเป็นไปไม่ได้ที่หมาป่าผู้หิวโหยในตระกูลอัลตาจะปล่อยให้เขาตกไปอยู่ในมือของทหาร

"หัวหน้า นี่คือกองพันที่สามนะ เราจะสามารถหนีออกไปจริงเหรอ?"

เมื่อมองดูเรือรบที่เรียงรายหนาแน่นอยู่ด้านนอก คนของหมาป่าโดดเดี่ยวก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง พวกเขาไม่เคยคิดว่ากองพันที่สามจะพบรังของพวกเขา

“หากคุณไม่สามารถออกไปได้ คุณจะต้องตอบโต้ คุณควรเข้าใจดีว่าผลที่ตามมาของการถูกจับ เอาตัวประกันเหล่านั้นออกมาบางทีเราอาจมีโอกาส”

"ครับ หัวหน้า"

หลังคิดได้ว่ายังมีคนเหล่านั้นที่ยังไม่ได้ถูกฆ่าโดยพวกเขาอยู่บนดาวนี้ โจรดวงดาวทั้งหมดก็เริ่มมีความหวังในการหลบหนี

ในนานนัก มิสต์ก็ได้รับการติดต่อจากหมาป่าโดดเดี่ยว

"เรามีตัวประกันอยู่ในมือของเราหากคุณกล้าที่จะโจมตีอีกครั้งเราจะเริ่มฆ่าตัวประกัน เปิดทางให้ไวและปล่อยเราไปซะ"

เมื่อมองไปที่ตัวประกันในภาพ นายพลมิสต์ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้คาดคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น

หากเขาไม่รู้เรื่องนี้ เขาก็สามารถฆ่าตัวประกันเหล่านี้ไปพร้อมกับโจรดวงดาวได้ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามีตัวประกันอยู่ เขาไม่สามารถโจมตีโจรดวงดาวเหล่านี้โดยปราศจากศิลธรรมใด ๆ ได้

อู๋ฮ่าวเหรินพบปัญหาและพบว่าตามกฎหมายพันธมิตร ในกรณีนี้พวกเขาต้องช่วยตัวประกัน

"บอกพวกเขาว่าเราต้องทำให้แน่ใจว่าคนที่อยู่ในมือของพวกเขาเป็นตัวประกันที่แท้จริงไม่ใช่โจรดวงดาวปลอมมา ดังนั้นพวกเขาจะต้องส่งตัวประกันให้เราเพื่อระบุตัวตน ไม่เช่นนั้นฉันจะสั่งให้โจมตีต่อไป"

"รับทราบ ท่านนายพล ฉันจะแจ้งให้พวกเขาทราบ"

มิสต์มองไปที่อู๋ฮ่าวเหริน ถ้ามันเป็นตัวประกันจริง มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว

"นายพลมิสต์ ถ้าคุณล่าช้า ฉันจะหาวิธีอื่นมาแก้ไขปัญหานี้"

อู๋ฮ่าวเหรินไปด้านหนึ่งและแกล้งทำเป็นคิด แต่ในความเป็นจริงเขากำลังเข้าสู่กลุ่มซองแดงและขอความช่วยเหลือ