CF:บทที่ 570 ตื่นกลัว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 570 ตื่นกลัว

 

เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินกลับมาจากนอกแล้ว, จี้ก็ได้เตือนเขาว่าดาวเทียมสอดแนมนั้นได้พบอะไรขึ้นมาอีก

 

เมื่อดูภาพในวิดีโอแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไป เขานั้นตกใจมาก

 

"เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ในอนาคต นอกจากมนุษย์แล้วไม่น่าจะมีการค้นพบอารยธรรมอื่นๆในทางช้างเผือกแล้วสิ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมั่นใจว่าในอนาคตนั้น, ไม่มีอารยธรรมอื่นที่ถูกค้นพบรอบๆกาแลคซี่นี้, ไม่อย่างนั้นสงครามในตอนยุคมืดคงไม่จบลงแบบโศกนาฏกรรมเช่นนั้นแน่

 

จากรูปที่ส่งมาจากดาวเทียมนั้น, รูปของดวงดาวที่มีการพัฒนาโดยอารยธรรมหนึ่ง, และดูเหมือนว่าจะดำเนินการมานานมากแล้วด้วย

 

หรือจะให้พูดอีกอย่างก็คือ, มีอารยธรรมอื่นที่ได้มาทำการพัฒนาดวงดาวเหล่านี้อยู่, ซึ่งทำให้อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าเป็นกองกำลังที่กำลังสู้รบอยู่กับสหพันธรัฐอวกาศ

 

ซึ่งอาจจะเป็นอารยธรรมพาลอสที่ได้มาหลับซ่อนตัวและพัฒนาอยู่ที่นี่ก็เป็นได้, ถึงเขาจะไม่รู้เหตุผลก็เถอะ, แต่อาจจะถูกพบโดยสหพันธ์เข้าแล้วจึงได้สู้รบกันก็ได้

 

เขาอยากที่จะไปเห็นดาวเหล่านั้นแบบชัดๆ, แต่น่าเสียดายที่ดาวเทียมสอดแนมนั้นทำได้แค่ถ่ายรูปกลับมาเท่านั้น

 

แต่ทว่า, ไม่นานนักอู๋ฮ่าวเหรินก็ได้ปฏิเสธความคิดที่ว่าดาวดวงนี้ได้ถูกพัฒนาโดยอารยธรรมพาลอสทิ้งไป เพราะว่ากองกำลังที่กำลังสู้อยู่กับสหพันธรัฐอวกาศอยู่นั้น, ยานรบของพวกเขาได้รับความเสียหายอยู่ด้วย

 

เมื่อดูซากยานรบ, อู๋ฮ่าวเหรินก็ยืนยันได้ว่าเป็นยานรบรุ่นแรกๆ และใกล้เคียงกับรุ่นที่ทำสงครามกับสหพันธ์ในโลกอนาคตด้วย, เป็นยานรบของอารยธรรมชั่วร้าย

 

และปัญหาคือ, ดาวที่พวกเขาพัฒนานั้นอยู่ไม่ไกลจากโลกมนุษย์เสียด้วย, ซึ่งทำให้อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกกลัวขึ้นมา

 

ถ้าอารยธรรมที่ชั่วร้ายนี้ค้นพบโลกเข้า, คงไม่มีมนุษย์โลกอีกต่อไปแน่

 

ไม่เคยมีสงครามเช่นนี้มาก่อนในอนาคต, อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าน่าจะเป็นเพราะตัวตนของเขาแน่ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดสงครามครั้งนี้

 

"เป็นไปได้ว่าเป็นเพราะอารยธรรมพาลอสนั้นได้นำพายานรบของสหพันธรัฐจักรวาลเข้ามา, แล้วจากนั้นกองยานของสหพันธ์ก็ได้พบกับกองทัพของอารยธรรมชั่วร้ายที่กำลังพัฒนาดวงดาวอยู่ที่นี่เข้า จึงได้เกิดการต่อสู้ขึ้นมา"

 

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง, อู๋ฮ่าวเหรินก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมถึงได้มียานรบมากมายอยู่ใกล้ๆทางช้างเผือกนี้

 

ดาวเทียมสอดแนมได้ทำการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า, แต่แล้วก็พบกับยานอวกาศจำนวนมากที่อยู่ตรงหน้าของสหพันธ์, อู๋ฮ่าวเหรินจึงสั่งให้จี้ควบคุมดาวเทียมสอดแนมเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างระวัง

 

มองดูความโหดร้ายของยานอวกาศเหล่านั้นที่อยู่ในอวกาศ, อู๋ฮ่าวเหรินก็เข้าใจได้ถึงความโหดร้ายของสงครามอวกาศ, ในขณะเดียวกันเขาก็พบว่าในช่วงยุคสมัยนี้, สหพันธรัฐจักรวาลเองก็ยังไม่ได้มีอาวุธที่ทรงพลังสำหรับคนใช้

 

เพราะว่า, เมื่อดูจากความเสียหายของยานรบแล้ว, มีแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากยานรบด้วยกันเท่านั้น, ไม่มีความเสียหายที่เกิดจากอาวุธคนใช้อยู่เลย

 

เมื่อดาวเทียมสอดแนมได้เคลื่อนที่้เข้าใกล้ไปอีก, ก็พบกับทั้งสองฝ่ายที่กำลังรบกันอยู่, ซึ่งกองทัพของสหพันธ์และอารยธรรมชั่วร้ายนั้น กำลังสู้รบกันอยู่ในเขตวงแหวนอุกกาบาต

 

แน่นอนว่า, อารยธรรมชั่วร้ายนั้นรู้จักพื้นที่แถวนี้ดีกว่าทางสหพันธ์, พวกเขาใช้วงแหวนอุกกาบาตนี้ในการต่อสู้กับทางสหพันธ์

 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์นี้, สหพันธรัฐอวกาศเองก็ไม่ได้โจมตีอย่างผลีผลาม, แต่ทำการตั้งรับอยู่ที่นี่ แล้วส่งยานรบออกไปเพื่อสำรวจสถานการณ์ของวงแหวนอุคกาบาตนี้, ขณะเดียวกันก็ยิงโจมตีไปสุ่มๆเพื่อกดดันไม่ให้อารยธรรมชั่วร้ายหลบหนีไปได้

 

มองดูยานรบที่อยู่กันอย่างแน่หนา และยานแม่ขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขตดาวนี้, ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินนั้นเข้าใจว่าพลังของการสู้รบในปัจจุบันของสหพันธ์นั้นดูถูกไม่ได้เลย

 

ถ้ากำลังรบนี้บุกเข้ามาโจมตีโลกล่ะก็, ไม่ว่าเขาจะขอยืมยานรบมาจากระบบซองแดงมากขนาดไหนก็เปล่าประโยชน์

 

ถ้าเกิดมีอารยธรรมไหนที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการก่อกวนการสื่อสารขึ้นมา, ยานรบทั้งหมดที่เขามีก็จะกลายเป็นแกะที่รอถูกเชือดเท่านั้น

 

"จี้, ให้ระบบศูนย์กลางสมองกลทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่พวกเรามีและดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"

 

"ได้ค่ะ"

 

หลังจากที่ทำการเฝ้าดูสถานการณ์ของยานรบของสหพันธ์อยู่นั้นเอง, อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้ให้ดาวเทียมสอดแนมเคลื่อนที่เข้าไปอีก, เพราะถ้าเกิดถูกตรวจพบขึ้นและดาวเทียมสอดแนมนี้ถูกพัง, เขาคงได้อดดูสงครามที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้แน่

 

เคลื่อนที่ดาวเทียมสอดแนมอย่างระวังในวงแหวนอุคกาบาต, เขาจำเป็นที่จะต้องเห็นให้ได้ว่าเป็นอารยธรรมชั่วร้ายตามที่เขาคิดจริงๆหรือไม่

 

หลังจากที่มองดูยานรบของอารยธรรมชั่วร้ายแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินก็มั่นใจแล้วว่าสันนิษฐานของเขานั้นถูกต้อง, แต่ในตอนที่เขาเห็นคนจากอารยธรรมชั่วร้ายนั้นเอง

 

เขาก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัวเลยทีเดียว

 

"มันจะบังเอิญไปรึเปล่า?"

 

เพราะเมื่อไม่นานมานี้, ได้มีแขกไม่ได้รับเชิญได้หลบหนีออกจากโลกไปด้วยแคปซูลหลบหนี, เขาได้ส่งยานอวกาศออกไปล่าล่าพวกเขาแต่สุดท้ายก็หนีไปได้อยู่ดี

 

เดิมทีอู๋ฮ่าวเหรินก็กังวลว่าคนๆนั้นจะต้องย้อนกลับมาและนำพาเอาหายนะมาให้โลก

 

เขาไม่คาดคิดว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่หนีรอดไปได้ครั้งนั้น, จะเป็นคนในอารยธรรมชั่วร้าย, และดูเหมือนว่าตอนนั้นยานอวกาศของอารยธรรมชั่วร้ายนั้นจะเกิดอุบัติเหตุแล้วฝ่าเข้ามายังระบบสุริยะ และก็พบกับอันตรายและลงจอดที่บนโลก

 

แน่นอนว่า, ถ้าหมอนั่นหนีรอดไปได้อย่างปลอดภัย ก็คงไปบอกให้อารยธรรมชั่วร้ายรู้แล้วเอายานรบมายึดครองโลกและให้มนุษย์เป็นทาสแน่

 

เมื่อคิดถึงสถานการณ์แล้ว เขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมา, แต่โชคดีที่แคปซูลกู้ภัยอันนั้นถูกยิงตก

 

แต่ทว่า, เมื่อจี้ได้เตือนเขาหลังจากที่ผลการวิเคราะห์ออกมา, เมื่อเขาดูผลการวิเคราะห์แล้ว สีหน้าของเขาก็รู้สึกดีขึ้นมา

 

"ผลการวิเคราะห์นี้เป็นจริงอย่างงั้นเหรอ?"

 

"ใช่แล้วค่ะ, หลังจากที่วิเคราะห์ดูแล้วสามรอบ, ก็พบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะผิดพลาดไม่ถึง 5% ค่ะ"

 

หัวใจของอู๋ฮ่าวเหรินที่เต็มไปด้วยความกลัวเมื่อซักครู่, กลับกลายเป็นว่ามนุษยชาตินั้นโชคดีที่ดูเหมือนว่าคนพวกนั้นจะตายเกือบหมด

 

จากการวิเคราะห์ด้วยศูนย์กลางสมองกล, ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด มนุษยชาติน่าจะต้องถูกทำลายโดยอารยธรรมพาลอส

 

เพราะว่าเขาได้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ไป, ทำให้อารยธรรมพาลอสเข้ามายังทางช้างเผือกเร็วขึ้น, ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังรู้ตำแหน่งของโลกอีกด้วย

 

แต่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น, ที่คนพวกนี้ดูเหมือนจะไปยั่วสหพันธรัฐจักรวาลเข้า, ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนแผนการเดินทางไป, และยังไม่ได้เข้ามายังโลกมนุษย์ในทันที

 

แต่กลับอาศัยอยู่รอบนอกทางช้างเผือกแทน, และถูกขวางเอาไว้โดยกองยานของสหพันธ์, ในตอนนี้กองทัพของสหพันธ์ได้ปะทะอยู่กับอารยธรรมชั่วร้ายอยู่, พวกเขาจึงได้ใช้โอกาสนี้ในการเข้ามายังทางช้างเผือก

 

ยิ่งไปกว่านั้น, จากการวิเคราะห์นี้แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ถึง 50% ที่อารยธรรมชั่วร้ายนั้นจะได้ข้อมูลของโลกนี้ไปแล้วด้วย

 

แต่น่าเสียดายที่, ก่อนที่พวกเขาจะได้ค้นหาโลก, พวกเขากลับถูกพบโดยกองยานของสหพันธ์ที่กำลังไล่ตามอารยธรรมพาลอสเข้าเสียก่อน, จากนั้นการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายจึงได้เริ่มขึ้น

 

อาจจะพูดได้ว่า, ประวัติศาสตร์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากสืบเนื่องมาจากตัวตนของเขา

 

ในเวลานี้, เขานั้นคือตัวตนที่ส่งผลอย่างมากกับประวัติศาสตร์ของสหพันธรัฐจักรวาล, และประวัติศาสตร์ทั้งหมดก็ได้ผิดไปจากเดิม เมื่อเขาได้รับระบบซองแดงมา

 

อู๋ฮ่าวเหรินเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา, เพราะเขาคิดว่ามันอาจจะเป็นไปได้ ถ้าเขาเอาอาวุธจำนวนมากที่ไม่สมควรจะอยู่ในเวลานี้ออกมาจากอนาคต, อารยธรรมชั่วร้ายคงจะบุกมาโจมตีโลกได้ทันทีเพราะพลังของกฏแน่

 

แล้วผลของมันก็แทบไม่ต้องคิดเลยว่ามนุษยชาติคงได้จบสิ้นลงด้วยการรุกรานของอารยธรรมชั่วร้ายแน่

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้, เขารู้ดีว่ามนุษยชาตินั้นไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงการพัฒนาไปแบบนี้ได้แล้ว

 

"อืม, มันน่าจะเป็นเพราะอิทธิพลของพลังแห่งกฏ, แต่โชคยังดีที่ว่าผลของมันยังไม่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก, ยังมีโอกาสที่จะหาทางแก้ได้"

 

อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกว่าตัวเองยังโชคดีที่รู้เรื่องนี้ได้ไว, ไม่อย่างนั้นคงได้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นแน่

 

เมื่อเขาได้ลองคิดเกี่ยวกับมันดูแล้ว, ในตอนที่เขาแก้ปัญหาเรื่องของอารยธรรมพาลอสได้แล้ว, เขาก็น่าจะพาผู้คนไปติดต่อกับสหพันธรัฐจักรวาลเสียที

 

ถึงแม้ว่าเขาอยากที่จะหลีกเลี่ยงการติดต่อ, และรอให้พัฒนามาจนแข็งแกร่งได้เสียก่อนค่อยไปติดต่อกับสหพันธ์, แต่น่าเสียดาย จากสถานการณ์นี้แล้วเขาคงไม่อาจที่จะเก็บเป็นความลับได้อีกต่อไปแล้ว

 

"จี้, เรื่องของยานรบทั้ง 5 ลำเป็นอย่างไรบ้าง?"

 

"พวกเราได้ตัวพวกเขาแล้วค่ะ, พวกเขายอมแพ้ทันทีที่ได้เห็นกองยานรบของเราค่ะ"

 

"งั้นเหรอ, ถ้างั้นก็สุภาพกับพวกเขาหน่อย, บางทีพวกเราอาจจะใช้ประโยชน์จากพวกเขาในการเข้าไปติดต่อกับสหพันธรัฐอวกาศก็ได้"

 

ในความคิดของอู๋ฮ่าวเหริน, เขามีแผนแล้วว่าจะติดต่อกับทางสหพันธรัฐอวกาศอย่างไรดี



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น