CF:บทที่ 563 จุดเริ่มต้นของการรวมประเทศครั้งใหญ่

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

ท้องฟ้าของเมืองทะเลทรายยังไม่สว่างไสว, และผู้คนในเมืองทะเลทรายยังคงหลับไหลกันอยู่

บนท้องฟ้าที่ควรจะเต็มไปด้วยดวงดาว, กลับถูกปกคลุมด้วยความมืด, ถ้ามีใครมองขึ้นมาในเวลานี้ ก็จะพบว่าสิ่งที่ปกคลุมท้องฟ้านี้ไม่ใช่เมฆดำ แต่ว่าเป็นยานบินขนาดใหญ่ที่ยาวถึง 100 เมตร

ยานบินเหล่านี้อยู่รวมตัวกันกองบินขนาดใหญ่, ที่ปกคลุมท้องฟ้าเกือบครึ่งของเมืองทะเลทรายเอาไว้, ในเวลานี้ ในพื้นที่ๆกำลังอยู่ในการพัฒนาของเมืองแห่งท้องฟ้านั้น, มีโรงงานขนาดมหึมาที่เปิดประตูทิ้งเอาไว้อยู่ แล้วจากนั้นก็มีหุ่นยนต์จำนวนนับไม่ถ้วนบินออกมาจากโรงงานเหล่านั้น

หุ่นยนต์เหล่านี้บินมายังยานบินขนาดมหึมา, และไม่นานก็บรรจุอยู่เต็มยานบิน

จากนั้น, กองยานบินนี้ก็ได้บินออกจากเมืองท้องฟ้าไป, และแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยๆจำนวนมาก, แล้วบินแยกย้ายไปยังจุดต่างๆบนโลก

ยังไม่จบเพียงเท่านั้น, บริเวณนอกโลก, ก็ได้มียานขนส่งที่มีขนาดถึง 10,000 เมตรก็ได้มุ่งหน้ามายังโลก

ในทวีปยุโรป, และทวีปอเมริกาใต้ และประเทศอื่นๆที่ได้ประกาศไปว่าจะเข้าร่วมกับฟิวเจอร์กรุ๊ปและร่วมเป็นสหภาพมนุษย์, เหล่าผู้นำที่ยังรู้สึกอยู่ไม่สุขเพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาได้เลือกไปนั้นมันถูกหรือผิดกันแน่

แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น, ไม่อย่างนั้นประเทศก็จะเป็นอัมพาต, หากพวกเขาไม่รีบตัดสินใจล่ะประเทศคงได้เจอกับวิกฤติแน่

พวกเขานั้นหมดหนทาง, เครื่องบริโภคจำนวนมากที่จำเป็นในแต่ละวันนั้นพวกเขาต้องนำเข้ามา, การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของทั้งโลกเช่นนี้ทำให้พวกเขาต้องตกใจ, และต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนเครื่องบริโภคจำเป็นเหล่านี้

และในตลาดระหว่างประเทศ, จากสถานการณ์ในปัจจุบันของสิ่งของจำเป็นในยังชีพนั้น, แม้แต่เงินก็ไม่สามารถหาซื้อได้, เพราะประเทศทั้งหมดต่างก็ต้องกักตุนเพื่อแก้ปัญหาภายในประเทศของตัวเอง

วิกฤติของเศรษฐกิจในครั้งนี้, ทุกๆประเทศต่างก็พยายามกักตุนสิ่งของจำเป็นต่างๆเอาไว้และปฏิเสธที่จะส่งออก

และด้วยเหตุผลที่พิเศษนี้ ปัญหาก็ได้เพิ่มขึ้นมาในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ

"ท่านนายก, ข่าวดี! ข่าวดี! ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ได้ติดต่อมายังพวกเราแล้ว..."

เจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงจากประเทศเล็กๆแหน่งที่สูง ก็รู้สึกตื่นเต้นและรีบวิ่งออกไปจากห้องเพื่อที่จะไปที่ห้องประชุม

ผู้คนในห้องประชุมนั้น, หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้พวกเขาต่างก็ลุกขึ้นยืนในทันที และมีบางคนที่สีหน้าบ่งบอกว่าตื่นเต้นมากอีกด้วย

พวกเขามารวมตัวกันที่นี่เพื่อรอฟังข่าวของฟิวเจอร์กรุ๊ป, ถ้าทางฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่ติดต่อกลับมา พวกเขาก็คงขายหน้าแย่, และพวกเขาจะไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนได้

"เร็วเข้า, เร็วเข้า ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปตอบกลับมาว่าอย่างไรบ้าง?"

"ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ขอให้พวกเราส่งประชาชนไปยังบริเวณนี้, และพวกเขาจะช่วยพวกเราด้วยการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่, ฮ่าๆ, ในที่สุดพวกเราก็แก้ไขปัญหาตามที่พวกเราสัญญาไว้กับประชาชนเสียที"

"ดีมาก, ในที่สุดพวกเราก็วางใจไปได้เปราะนึง, เอาพวกเรามัวรออะไรกันอยู่? เริ่มดำเนินการได้"

"ท่านนายกครับ, ในข้อมูลของฟิวเจอร์กรุ๊ป, แจ้งมาว่าพวกเขาจะให้เวลาคนของเราแค่ 1 เดือนในการปรับตัว แล้วหลังจากนั้นเขาก็จะบังคับใช้กฏหมายของสหภาพมนุษย์อย่างเข้มงวดตามที่ประกาศไว้ในเว็บไซต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปในอีก 1 เดือนให้หลัง"

"ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร, ให้นักกฏหมายของประเทศเราทำการศึกษากฏหมายพวกนั้น, กฏหมายส่วนใหญ่ก็น่าจะใกล้เคียงกับประเทศ, มีเพียงบางกฏหมายที่เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น"

"ก็ดีอยู่ครับ, แต่ว่า...."

"แต่ว่าอะไร?"

"ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปได้บอกอีกว่าประชาชนที่จะเดินทางมายังเมืองใหม่นี้จะต้องสวมอุปกรณ์สมองกลด้วย, ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ยืนยันตัวตนของผู้อยู่อาศัยในเมืองใหม่ได้, ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ได้สวมอุปกรณ์สมองกลแล้ว, ก็จะถูกจับตาดูโดยสมองกลอยู่ตลอดเวลาด้วยครับ

ราวกับว่าเขารู้เรื่องนี้มานานแล้ว, ซึ่งเขาก็ไม่ได้ตกใจอะไร แล้วก็ผงกหัว

แต่ทว่า, สำหรับบางคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้กลับมีสีหน้าที่บูดเบี้ยวขึ้นมา, หลังจากที่สวมอุปกรณ์สมองกลแล้ว ก็หมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะอยู่ภายใต้การดูแลของฟิวเจอร์กรุ๊ป, ซึ่งมันทำให้พวกเขารู้สึกไม่สะดวกสบาย

แต่พวกเขาก็เข้าใจว่าตราบเท่าที่พวกเขาไม่ทำอะไรที่ผิดกฏหมายและอาชญากรรม, ก็จะไม่มีใครมาตรวจสอบเรื่องส่วนตัวของพวกเขา, และไม่มีใครที่สามารถเจาะระบบของสมองกลของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ด้วย

"แจ้งข่าวนี้ในประชาชนได้รับทราบ และให้พวกเขาเลือกด้วยตัวเอง, ใครที่ต้องการจะไปใช้ชีวิตในเมืองใหม่จะต้องทำตามกฏของฟิวเจอร์กรุ๊ป, ส่วนใครที่ไม่เห็นด้วยก็ให้อาศัยอยู่ในเมืองเก่านี้ต่อไป"

"รับทราบครับ"

เกิดเรื่องแบบเดียวกันในประเทศอื่นๆที่เข้าร่วมกับสหภาพมนุษย์, สำหรับเรื่องที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะสร้างเมืองที่ทันสมัยขึ้นมานั้น, พวกเขารู้สึกตื่นเต้นและรู้ว่าการพนันครั้งนี้ของพวกเขาถูกต้อง

แต่ทว่า, การอยู่อาศัยในเมืองใหม่นั้นจะต้องอยู่ในภายใต้การดูแลของฟิวเจอร์กรุ๊ป, ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกไม่สะดวกสบายเท่าไร

แต่ก็เปล่าประโยชน์ที่จะประท้วงอะไร และทำได้แต่ก้มหน้ายอมรับความจริงเท่านั้น

เมื่อยานบินขนาดใหญ่ได้มาถึงบนท้องฟ้าของประเทศเหล่านี้, ผู้คนมากมายที่ได้ทราบข่าวต่างก็วิ่งออกมาจากที่อยู่ของตัวเองและมุ่งหน้าสู่เมืองใหม่

พวกเขาอยากที่จะเห็นว่าเมืองใหม่ที่กำลังจะสร้างขึ้นมา และดูเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของฟิวเจอร์กรุ๊ป

มีหุ่นยนต์ตัวหนึ่งบินออกมาจากยานบินแล้วจากนั้นยานบินก็ได้บินขึ้นสู่ท้องฟ้า

หลายๆประเทศเคยเห็นยานขนส่งขนาดมหึมานี้ผ่านทางดาวเทียม, ขณะที่พวกเขากำลังตื่นตะลึงอยู่นั้น อารมณ์ของพวกเขาก็เริ่มยุ่งเหยิงขึ้นมา

ในตอนแรก, ที่พวกเขาได้เห็นยานรบนั้น ก็คิดว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปคงไม่สามารถที่จะขุดหาทรัพยากรจากดาวอื่นๆในอวกาศได้จริง

แต่ตอนนี้ได้เห็นยานขนส่งขนาดมหึมาแล้ว, พวกเขาก็เข้าในได้ทันทีว่ายานอวกาศของฟิวเจอร์นั้นมีความสามารถที่จะขนส่งในระยะไกลได้แล้ว

จากเหตุการณ์ในตอนนี้, คงไม่มีอะไรที่จะสามารถจำกัดการพัฒนาของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้แล้ว และพวกเขาต่างก็ตัดสินใจเลือกทางในอนาคต

ในสถานที่ๆเมืองใหม่กำลังจะก่อสร้างนั้น, ก็มีเหล่าหุ่นยนต์ยู่ที่นั่นแล้ว, หลังจากที่ตู้คอนเทนเนอร์ขนาดมหึมาที่บรรจุทรัพยากรเอาไว้ที่อยู่ในตู้ได้ถูกปล่อยลง, ผู้คนที่มาที่นี่ต่างก็รู้สึกตื่นเต้น

ภาพเหล่านั้นได้ถูกส่งออนไลน์ออกไป, และมีผู้คนที่มาดูวิดีโอนี้และประหลาดใจยิ่งกว่าคราวของยานรบเสียอีก

หลายคนคิดว่าถ้าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นปล่อยหุ่นยนต์เหล่านั้นออกมา ก็คงจะยึดครองโลกนี้ทั้งโลกได้อย่างง่ายดาย

ในเวลานี้, พวกเขารู้สึกว่าต่อให้ปราศจากซึ่งยานรบ, ฟิวเจอร์กรุ๊ปก็คงจะยึดครองโลกนี้ได้อยู่ดี

แล้วจากนั้น, ความเร็วในการก่อสร้างของหุ่นยนต์เหล่านั้นก็ทำให้ผู้คนต้องตกตะลึง, ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา, จากเดิมทีเป็นแค่พื้นที่กว้างๆ กลับถูกแทนที่ด้วยสิ่งก่อสร้างแปลกๆเสียแล้ว

ในท้องฟ้า, ก็มีเหล่าหุ่นยนต์ที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่, เพื่อสร้างระบบกันสะเทือนของเมือง

เมื่อพวกเขาพบว่าเหล่าหุ่นยนต์วิศวกรรมของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นสามารถสร้างเมืองที่จุได้ 200,000 คนในเวลาเพียงแค่ 1 อาทิตย์เท่านั้น, พวกเขาก็อ้าปากหวอพอที่จะเอาไข่ใส่เข้าไปได้เลยทีเดียว

ถ้าไม่ใช่ว่าต้องการที่จะสร้างเมืองนี้แบบห่วงใยสิ่งแวดล้อมล่ะก็, บางทีอาจจะใช้เวลาแค่ 2 วันในการสร้างเมืองๆหนึ่งขึ้นมาด้วยซ้ำ

และสิ่งที่พวกเขาคิดไม่คิดที่สุดคือ, เมื่อที่สร้างขึ้นมาโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะไม่เหมือนกันและจะมีสิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์ที่แต่ต่างกันออกไป

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว, ประเทศต่างๆก็เริ่มอดใจรอไม่ไหว, เพราะพวกเขาพบว่าถ้าพวกเขารอไปมากกว่านี้, ต่อให้ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปจะไม่ได้เปลี่ยนนโยบายอะไรด้วย, แต่ผู้คนในประเทศคงได้เจอปัญหาอะไร

ในหนึ่งวันนั้น, มีประเทศมากมายที่ได้ตัดสินใจแล้วว่า, จะเข้าร่วมกับฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นสหภาพมนุษย์ด้วย

ประเทศส่วนใหญ่นั้นยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะเลือกนั้นมักเป็นประเทศมหาอำนาจ, แล้วสิ่งที่ทำให้ประเทศเหล่านั้นต้องประหลาดใจคือ, ประเทศอย่างกรีก, บราซิล, เนเธอแลนด์และแอฟริกาใต้, ก็ได้เป็นกลุ่มที่ 2 ที่ประกาศเข้าร่วมสหภาพมนุษย์

ประเทศเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบให้โลกในระดับหนึ่ง, และพวกเขาเองก็เป็นประเทศที่สำคัญในโลกอีกด้วย, หลังจากที่ได้เห็นการก่อสร้างเมืองใหม่แล้ว, พวกเขาก็ได้ตัดสินใจกันทันที

การหลอมรวมโลกให้กลายเป็นหนึ่งนั้นได้เริ่มต้นขึ้่นในวันนี้, และหลายๆประเทศที่ยังไม่ได้เข้าร่วมสหภาพมนุษย์นั้นยังคงยืนเป็นกลางอยู่