CF:บทที่ 546 ผู้พิทักษ์พรหมแดน
เมื่อเข้ามายังกลุ่มพิเศษ, กลุ่มนี้จะไม่เหมือนกลุ่มอื่นๆ, ผู้คนในกลุ่มนี้จะไม่ค่อยพูดคุยอะไรกันถ้าไม่มีเรื่องหรือธุระอะไรจริงๆจังๆ
ดังนั้น, แม้แต่ในเวลานี้กลุ่มนี้ก็ยังเงียบมาก เหมือนไม่มีคนอยู่
อู๋ฮ่าวเหรินนิ่งคิดอยู่ซักพักก่อนที่ส่งคลิปวิดีโอที่ได้รับมาออกไป, เขานั้นรู้ดีว่าตราบเท่าที่มีใครบางคนในกลุ่มนี้รู้จัก, จะต้องให้ความสนใจอย่างแน่นอน"
ไม่กี่นาทีต่อมา, ก็มีใครบางคนที่เห็นวิดีโอ
"เจ้าเด็กใหม่, ไปได้วิดีโอนี้ที่ไหนมา?"
"หืม, มันมีปัญหาอะไรงั้นรึ?"
"มีสิ, ปัญหาใหญ่มากด้วย, รอแปบนะ, ขอข้าเรียกคนมาก่อน"
"ไม่นานนัก, อู๋ฮ่าวเหรินก็พบว่าจำนวนผู้คนที่ออนไลน์อยู่ก็เพิ่มขึ้นมากว่า 20 คนเลยทีเดียว, และมีหลายคนที่เขาก็ไม่เคยพบมาก่อน
"หืม, เรื่องจริงเหรอเนี่ย?"
"น่าจะเรื่องจริง, แต่มันดูเหมือนเพิ่้งจะตื่นขึ้นมาไม่นานนี้เลย, แต่ไม่รู้เลยว่าผนึกถูกเปิดขึ้นที่ไหนรึเปล่า?"
"ครั้งใหม่มันจะเริ่มขึ้นแล้วเหรอ? มันก็นานมากแล้วนี่นะ, คงไม่น่าแปลกที่ผนึกต่างๆจะเริ่มเสื่อมคลายแล้ว"
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูผู้คนที่กำลังแชทกัน, ซึ่งเขาไม่เข้าใจเลยว่าหมายถึงอะไรกัน, และเขาก็ไม่กล้าถามออกมาด้วย, เพราะเขารู้ดีว่าบางคนในกลุ่มนี้เป็นพวกอารมณ์เสียง่ายมากด้วย
คราวก่อน, เขาก็โดนห้ามไม่ให้ดูข้อมูลต่างๆเพราะเขาถามสุ่มสี่สุ่มห้า, และโดนกีดกันไปหลายวัน
"เจ้าหนูน้อย, จากที่เห็นในวิดีโอ, จักรวาลที่เจ้าอยู่นั้นดูท่าจะยังอายุน้อยมาก, ถึงแม้จะไม่ทราบว่าผนึกพรหมแดนนั้นได้คลายตัวออกหรือเปล่า, แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับนายแน่ๆ"
อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้กังวลอะไรเท่าไร, เพราะนี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต, อย่างมากก็แค่เขาจะอดได้ของไฮเทคจากในโลกอนาคตเท่านั้น
แต่เขาก็ยังถามออกไป "คุณพอที่จะอธิบายให้ผมฟังหน่อยได้มั๊ยครับว่าเกิดอะไรขึ้น? คืออย่างงี้ครับพวกเราได้มุดรูหนอนเข้าไปยังเขตดวงดาวอื่น, และในขั้นตอนการสำรวจอยู่นั้น, พวกเราก็ได้พบอารยธรรมที่ทั้งแข็งแกร่งและแปลกประหลาด"
"ดูเหมือนว่าพวกคุณคงจะลำบากซักหน่อยแล้วล่ะ, ที่แข็งแกร่งจริงๆน่ะไม่ใช่อารยธรรมหรอก แต่เป็นกลุ่มผู้พิทักษ์พรหมแดนพวกนี้ต่างหาก, ตัวตนของพวกเขาถือเป็นเรื่องดีสำหรับพวกคุณ"
"ผู้พิทักษ์พรหมแดน, ช่วยบอกผมทีว่าอะไรคือผู้พิทักษ์พรหมแดนครับ?"
ไม่นานนัก, อู๋ฮ่าวเหรินก็พบว่ามีใครบางคนที่ส่งอะไรออกมาให้,
เป็นข้อมูลอธิบายถึงผู้พิทักษ์หรหมแดน, แต่ทว่าจากในคำอธิบายนั้น, อู๋ฮ่าวเหรินพบว่ามีข้อมูลสำคัญหลายๆจุดที่ไม่ได้บอกเอาไว้ด้วย
เจ้าสิ่งที่เรียกว่าผู้พิทักษ์พรหมแดนนี้คือผู้คนที่ถูกบังคับให้คอยรักษาเขตแดน, และเขตแดนนี้จริงๆแล้วมันคือส่วนที่ใช้เชื่อมต่อกันระหว่าง 2 จักรวาลเข้าไว้ด้วยกัน อาจจะเรียกว่าเป็นประตูเชื่อมต่อระหว่าง 2 จักรวาลก็ว่าได้
เขตดวงดาวที่สหพันธรัฐอวกาศกำลังทำการสำรวจอยู่ก่อนหน้านี้นั้น, จริงๆเป็นแค่จุดเชื่อมต่อระหว่างทั้งสองจักรวาลเท่านั้น, พวกเขายังไม่ได้เขาไปยังเขตจักรวาลอื่นตามที่ทำเครื่องหมายเอาไว้ในแผนที่เลย, จึงไม่น่าแปลกว่าทำไมพวกเขาถึงไม่พบอารยธรรมที่ทรงภูมิปัญญาเสียที
หลังจากที่เข้าใจแล้วว่าอะไรคือผู้พิทักษ์พรหมแดนแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินก็คิดว่าตัวตนของคนพวกนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ดีก็ได้
เพราะคนพวกนี้มีหน้าที่คอยรักษาเขตแดน, ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าไปยังจักรวาลอื่นเช่นกัน
ถ้าอารมธรรมจากจักรวาลอื่นเกิดแข็งแกร่งกว่าสหพันธรัฐจักรวาลขึ้นมา, และไม่มีผู้พิทักษ์พรหมแดนล่ะก็, พวกเขาคงได้มาโจมตีสหพันธรัฐจักรวาลแบบไม่ยั้งคิดแน่
แต่ทว่า, ด้วยตัวตนของผู้พิทักษ์จักรวาลเอง ก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่เข้ามายังสหพันธรัฐจักรวาลด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่า, นี่ก็เป็นเรื่องแย่ด้วยเช่นกันนั่นคือเป็นเรื่องยากมากสำหรับสหพันธรัฐจักรวาลที่จะผ่านผู้พิทักษ์พรหมแดนเพื่อเข้าไปยังจักรวาลอื่นด้วยเช่นกัน
ในเวลานี้, ความสำคัญของแผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาวจริงๆก็ได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว, เพราะแผนที่ดวงดาวนั้น มีช่องทางลับที่จะสามารถเข้าไปยังจักรวาลอื่นได้โดยไม่ต้องผ่านผู้พิทักษ์พรหมแดน
ดูเหมือนช่องทางลับนี้จะถูกฝืนเปิดออกมาโดยอารยธรรมย่าเถอในช่วงที่กำลังรุ่งเรือง เพื่อที่จะกำจัดการจำกัดขอบเขตของผู้พิทักษ์พรหมแดน
จะเห็นได้ว่าแม้แต่อารยธรรมย่าเถอที่แข็งแกร่งมากในยุคสมัยนั้น, แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะไปตอแยกับผู้พิทักษ์พรหมแดนได้, ซึ่งแสดงเห็นถึงความน่ากลัวของผู้พิทักษ์พรหมแดนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้, ข้อมูลนี้ยังทำให้อู๋ฮ่าวเหรินได้รู้ว่าแผนที่สมบัติดวงดาวทั้ง 108 ฉบับที่เขามีอยู่นั้นคือแผนที่ทั้ง 108 จักรวาลนั่นเอง
อู๋ฮ่าวเหรินพบว่าไม่มีบันทึกที่เขียนเอาไว้ถึงวิธีเข้าไปยังจักรวาลอื่นโดยผ่านผู้พิทักษ์พรหมแดนเลย, เขาจึงได้ถามกลับไป "แล้วมีวิธีที่จะเข้าไปยังจักรวาลอื่นโดยผ่านผู้พิทักษ์พรหมแดนไปได้มั๊ยครับ?"
"ดูเหมือนว่าจักรวาลของเจ้าถ้าไม่โดนหายนะมาก็ต้องเป็นจักรวาลที่เกิดใหม่จริงๆ, วิธีการน่ะง่ายมาก นั่นก็คือแข็งแกร่ง"
"แล้วผ่านไปได้ยากมากมั๊ยครับ"
"ลองคิดดูดีๆนะเจ้าหนู, อารยธรรมที่ครั้งหนึ่งเคยคิดเหมือนกับเจ้านั้นได้หายสาบสูญไปจากประวัติศาสตร์นานมากแล้ว, แม้แต่อารยธรรมที่แข็งแกร่งแบบย่าเถอก็ยังหนีชะตากรรมนี้ไม่พ้น"
อู๋ฮ่าวเหรินรู้ตัวแล้วว่าเขาคิดผิด, ถ้าลองคิดดูดีๆ ก็จะพบว่าพวกผู้พิทักษ์พรหมแดนนี้น่ากลัวมาก, การจะฝ่าเข้าไปนั้นไม่ต่างอะไรไปจากการรนหาที่ตายเลย
"ตราบเท่าที่ความแข็งแกร่งของแต่ละอารยธรรมหรือทั้งหมดรวมกันถึงในระดับๆหนึ่ง, พวกผู้พิทักษ์อารยธรรมพวกนั้นก็จะไม่ขวางคุณเข้าจักรวาลอื่นๆ, แน่นอนว่าการเดินทางจากจักรวาลที่ต่ำเพื่อไปยังจักรวาลที่สูงนั้น, มันไม่ง่ายเหมือนกับเดินทางจากจักรวาลที่สูงไปหาจักรวาลที่ต่ำหรอกนะ"
จักรวาลต่ำ, จักรวาลสูง?
อู๋ฮ่าวเหรินนิ่งไปชั่วขณะ, เขาเพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกว่าจักรวาลทีการแบ่งออกเป็นแบบนี้ด้วย, ทั้ง 108 จักรวาลถูกแบ่งออกเป็นระดับต่างๆด้วย
ทำให้เขานึกถึงตอนที่ได้การคุยกันของพวกคนในอนาคตว่าอารยธรรมสูงสุดนั้นจะไปยังเขตดาวอื่น, หรือก็คืออารยธรรมสูงสุดนั้นได้เข้าไปยังจักรวาลอื่นโดยผ่านผู้พิทักษ์พรหมแดนไป
เขายังรู้สึกสับสนนิดหน่อยเกี่ยวกับการแบ่งแยกความแข็งแกร่งของอารยธรรมที่ทรงภูมิปัญญา, ถ้าเป็นเช่นนั้นอารยธรรมสูงสุดของสหพันธรัฐจักรวาล, หลังจากที่ได้เข้าไปยังจักรวาลอื่นแล้ว, ก็มิอาจเรียกได้ว่าเป็นอารยธรรมสูงสุดอีกต่อไป
เขาส่ายหัว การจะมาคิดถึงเรื่องพวกนี้มันยังเร็วเกินไปสำหรับเขา, จากสถานการณ์ในปัจจุบันของโลกนั้น จะเรียกว่าเป็นอารยธรรมชั้นต่ำยังไม่ได้เลย
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูข้อความแชทของกลุ่มพิเศษ, ซึ่งส่วนใหญ่มักแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นการลับ, เขาจึงไม่สามารถมองเห็นได้
แต่ทว่า, จากข้อมูลบางอย่างที่มีให้เห็นได้นั้น, ทำให้เขาเข้าใจว่าตัวตนของผู้พิทักษ์พรหมแดนนั้น, ยังทำให้แม้แต่พวกคนในกลุ่มพิเศษนี้ยังตกใจได้
ดูเหมือนว่าจะเคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมานานมากแล้วด้วย, แล้วประตูพรหมแดนก็ได้ปิดตัวลง และผู้พิทักษ์พรหมแดนก็ได้หลับไหลลงเช่นกัน
ทันทีที่ประตูเขตแดนได้ถูกเปิดออกและผู้พิทักษ์พรหมแดนได้ตื่นจากการหลับไหล, มันเหมือนเป็นลางที่บอกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น
อู๋ฮ่าวเหรินรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้พิทักษ์พรหมแดนพวกนี้เอาไว้, แล้วกลับไปที่กลุ่มซองแดงของเขา และส่งข้อมูลนี้ออกไป
ไม่กี่วินาทีผ่านไป, ทั้งกลุ่มก็วุ่นวายขึ้นมาในทันที
"พ่อค้าโบราณ, ข้อความพวกนี้คือของจริงรึ?"
"ผมก็ยังไม่มั่นใจเหมือนกัน, เพราะข้อมูลพวกนี้ผมได้มาจากคนอื่นอีกทีน่ะ"
ในเวลานี้พวกเขากำลังถกเถียงกัน, ข้อความที่ถูกส่งออกไปนี้, ไม่กี่นาทีต่อมาก็ได้ส่งไปถึงสหพันธรัฐจักรวาล
ยิ่งไปกว่านั้นความเร็วของแพร่กระจายข้อมูลนี้ก็เร็วอย่างน่าทึ่ง, อู๋ฮ่าวเหรินกลายเป็นบุคคลมีชื่อเสียงอีกครั้ง, นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียงในสหพันธรัฐจักรวาล, และไม่ว่าใครก็รู้จักชื่อของเขา
ในขณะเดียวกัน, สภาของสหพันธรัฐจักรวาลก็ได้รับข้อมูลนี้เช่นกัน, และได้เริ่มการประชุมด่วนขึ้นเพื่อหารือในเรื่องของเนื้อหาของข้อมูลนี้
0 ความคิดเห็น