CF:บทที่ 531 ปฏิกิริยาหลังถูกจับ
ในเวลานี้, ณ เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในยุโรป มีกลุ่มเจ้าหน้าที่พากันเร่งรีบหนีออกจากที่นี่, เตรียมพร้อมกับประเทศของตัวเอง
ถึงแม้จะอยู่ไกลจากตะวันออกกลางมาก, แต่พวกเราก็ยังกังวลว่าจะถูกพบ ดังนั้นกลุ่มคนเหล่านี้จึงได้รีบหนี
หญิงสาวผมบลอนด์สุดเซ็กซี่คนหนึ่งเดินออกมาจากมุมมืดอย่างระมัดระวัง, ขึ้นรถจี๊บที่จอดอยู่ข้างถนนและรีบขับออกไปจากเมืองนี้
ที่เบาะหลังของรถจี๊บ, มีคนสองคนนั่งอยู่ เป็นชาวฝรั่งเศสอายุประมาณ 50
"เป็นอย่างไรบ้าง?"
"สถานการณ์ไม่ดีเลยค่ะ, ทหารของพวกเราทุกคนทั้งหมด ไม่มีใครหนีรอดออกมาได้เลยค่ะ"
ขณะที่เธอพูดอยู่, หญิงสาวสุดเซ็กซี่ก็ส่ายหัว และรถก็ส่ายไปมาตามหัวของเธอด้วย
"มันเป็นไปได้อย่างไร อาวุธของพวกเราใช้การไม่ได้เลยงั้นเหรอ?"
"ใช้การไม่ได้เลยค่ะ, อาวุธพวกนั้นใช้สู้กับหุ่นยนต์พวกนั้นไม่ได้เลยค่ะ, โดยเฉพาะยานอวกาศลำนั้น มันน่ากลัวมาก, พลังทำลายของมันสามารถทำลายยุทโธปกรณ์ต่างๆได้ในทีเดียวค่ะ"
คนที่นั่งอยู่ด้านหลังทั้ง 2 คนทำสีหน้าบูดเบี้ยว, และมองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนด้านนอก พวกเขารู้สึกคิดผิดที่มาเข้าร่วมปฏิบัติการณ์นี้
ทหารที่ถูกฝึกมาทั้งหมดพ่ายแพ้, และอุปกรณ์ต่างๆที่สูญสิ้นทรัพยากรจำนวนมากไปกับการวิจัยก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น
ซึ่งพวกเขานั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่า, ในเวลานี้ หุ่นยนต์กำลังบินมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว
สำหรับกลุ่มคนพวกนี้, อู๋ฮ่าวเหรินไม่คิดที่จะปล่อยไป พวกเขานั้นถูกหมายหัวไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
น่าเสียดายที่, จี้ไม่สามารถค้นหาตำแหน่งของฐานทัพลับได้, ไม่อย่างนั้นเขาคงฆ่าคนพวกนี้ทีเดียวทั้งหมดไปนานแล้ว
ณ ตะวันออกกลาง, ในเวลานี้มีคนมากมายต่างแหงนหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าในเวลานี้, ที่ซึ่งมียานอวกาศขนาดใหญ่ลอยตัวอยู่, ทำให้พวกเขารู้สึกทั้งตกใจและโชคดีในเวลาเดียวกัน
ในเวลานี้, ปัญหาเรื่องของกลุ่มแขกที่ไม่ได้รับเชิญในตะวันออกได้ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว, รอบๆเมืองในตอนนี้, มีหุ่นยนต์รุ่นใหม่มาประจำการแทนแล้ว
ทหารมากกว่า 10,000 นายที่มาเข้าร่วมการโจมตีในครั้งนี้นั้น, ซึ่งทั้งหมดถ้าไม่ถูกยิงตายก็ถูกเฝ้าอยู่ด้านนอกเมือง
"ผู้กองครับ, เป็นไปได้มั๊ยครับว่าพวกเราจะรอดออกไปได้?" หนึ่งในหมู่ผู้บุกรุกคนหนึ่งพูดถามขึ้นมา
พวกเขาไม่คิดว่าเมื่อต้องเผชิญกับหุ่นยนต์พวกนี้, จะไร้การต่อต้านโดยสิ้นเชิง, ทั้งๆที่อาวุธพลังงานควรที่จะเป็นสุดยอดอาวุธแล้วแท้ๆ, แต่สำหรับหุ่นยนต์พวกนี้ทำได้แค่สะกิดเท่านั้น
"ถ้าหุ่นยนต์พวกนี้ไม่ได้ฆ่าพวกเรา, ก็แสดงว่าชายคนนั้นยังไม่คิดที่จะฆ่าเรา
"แต่, มองดูสายตาคนพวกนั้นแล้ว, ราวกับว่าพวกเขาอยากจะกินพวกเราเลยนะครับ"
"ก็นะ, ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะหุ่นยนต์พวกนี้ คนพวกนั้นคงแห่มาฆ่าพวกเราไปนานแล้วล่ะ, จะว่าไงดีล่ะเป็นเพราะการรุกรานของพวกเรา, ทำให้พวกผู้ก่อการร้ายกลับมาในตะวันออกกลางและสังหารผู้คนเป็นจำนวนมากน่ะสิ"
เหล่าทหารที่ถูกจับ, มองดูผู้คนชาวตะวันออกกลางที่อยู่รอบๆ แล้วก็รู้สึกเป็นกังวล
ในโลกอินเตอร์เน็ท, เมื่อหุ่นยนต์ได้เข้าทำการจับกุมคนพวกนี้อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแล่บ, ทุกคนต่างก็ตกใจ
ทุกคนต่างคิดว่าจะมีการต่อสู้ที่ดุเดือดกว่านี้เกิดขึ้น, และจากผลสรุป, หุ่นยนต์ที่ทรงพลัง กับอาวุธที่ไฮเทค ทำให้ไม่สามารถตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย
"นี่คือพลังของฟิวเจอร์กรุ๊ปสินะ, มันช่างน่ากลัวจริงๆ, หุ่นยนต์พวกนั้นก็ไร้เทียมทานมาก, มีแม้กระทั่งยานอวกาศที่ทรงพลัง แบบนี้มันไร้เทียมทานเกินไปแล้ว!"
"บ้าจริง, คราวนี้ผมจะต้องเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปให้ได้เลย"
"ถ้าอย่างนั้น, คุณก็ควรที่จะเตรียมให้พร้อมนะ, ผมได้ยินมาว่าการคัดเลือกบุคลากรรอบสองใกล้จะเริ่มแล้ว, ซึ่งรอบนี้รับถึง 1 ล้านคน"
"เฮ้! พี่ชาย, คุณรู้เรื่องนี้มาจากไหน?"
"ฮ่าๆ, เพราะผมทำงานอยู่ในฟิวเจอร์กรุ๊ปน่ะสิ แล้วก็ได้ยินพวกคนในบริษัทเขาคุยกันอีกที"
"น่าอิจฉาพี่ชายจังเลยที่ได้ทำงานในฟิวเจอร์กรุ๊ป, พี่ชาย คุณช่วยเล่าเรื่องเรื่องในฟิวเจอร์กรุ๊ปให้น้องชายฟังหน่อยสิ"
ข่าวเรื่องของเมืองทะเลทราของฟิวเจอร์กรุ๊ปกำลังจะรับคนเพิ่มอีก 1 ล้านคนนั้น, กลายเป็นที่สนใจของผู้คนจำนวนมากในทันที
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากเข้าใจว่า คนที่เป็นผู้ครอบครองโลกใบนี้คือฟิวเจอร์กรุ๊ปนั่นเอง
และถ้าหากสามารถเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ตอนนี้, บางทีในอนาคตอันใกล้, พวกเขาอาจจะได้รับผลประโยชน์ที่มหาศาลก็เป็นได้
การท้าชิงเพื่อแย่งชิงเก้าอี้เพียง 1 ล้านที่นั่งก็กลายเป็นดุเดือดขึ้นมาทันที, ในครั้งก่อนมีคนจำนวนมากที่ได้เข้าร่วมการคัดเลือก แต่พวกเขาไม่ได้ตั้งใจมากนัก
ในขณะเดียวกัน, จำนวนผู้คนที่มาขอเล่นเกมอารยธรรมก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ, เพราะถ้าคุณทำผลงานได้ดีในเกม, คุณก็สามารถเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปได้เช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น, ยังพูดกันด้วยว่าคนที่ได้รับคัดเลือกจากเกมนั้น จะได้รับความสนใจให้เข้าร่วมฟิวเจอร์กรุ๊ปมากกว่าคนที่เข้าร่วมการประเมินเสียอีก
อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่คิดว่าการตอบโต้ในครั้งนี้จะส่งผลถึงขนาดนี้, ในเวลานี้ เขากำลังส่ายหัวให้กับสถานการณ์ในยุโรปบนจอมอนิเตอร์
คนพวกนี้กำลังหนีกันจริงๆด้วย, แต่ไม่คิดว่ามันสายไปหน่อยเหรอ
"จี้, ลงมือเลย, ผู้ที่เข้าร่วมทั้งหมดจะต้องถูกจับ และฐานทัพลับทั้งหมดจะต้องถูกทำลาย และจับเอาช่างเทคนิคทั้งหมดกลับมาด้วย"
"รับทราบค่ะ"
ในเมื่อพวกเขาสามารถพัฒนาอาวุธพลังงานขึ้นมาได้, ก็แสดงให้เห็นว่าคนพวกนี้มีความสามารถมาก, มันจะมีค่ากว่าถ้าให้คนพวกนี้มาทำงานวิจัยให้กับฟิวเจอร์กรุ๊ปดีกว่าอยู่ห้องแล็บพวกนั้น
ตามคำสั่งของอู๋ฮ่าวเหริน, เจ้าหน้าที่ในยุโรปที่กำลังหลบหนีจู่ๆก็พบว่ามีอะไรผิดปกติ
ถึงแม้พวกเขาจะระวังตัวมากและใช้เส้นทางลับในการหลบหนี, แต่ผลก็ยังเหมือนเดิม
เมื่อพวกเขาออกมาจากเส้นทางลับ, พวกเขาก็ถูกจับเป้าหมายด้วยดาวเทียมบนท้องฟ้าในทันที
แล้วจากนั้นหุ่นยนต์ก็ได้บุกเข้าหาพวกเขาอย่างรวดเร็วและจับทุกคนเอาไว้
ไม่นานนัก, ทั้งกลุ่มก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง, มีหลายคนที่รู้สึกกลัวเมื่อได้เห็นผลลัพธ์นี้
"ผมต้องการที่จะพบกับอู๋ฮ่าวเหริน, เขามาจับพวกเราไว้ทำไม? เขาคิดว่าตัวเขาเป็นเจ้าของโลกนี้อย่างงั้นเหรอ?" เจ้าหน้าที่อังกฤษที่อ้วนคนหนึ่งตะโกนออกมา
"หยุดตะโกนเถอะ, เปล่าประโยชน์"
"ข้าก็กะไว้นานแล้ว มันเป็นการเปิดเผยตัวเองมาเกินไปที่จะปล่อยวิดีโอออกไป, ตอนนี้จะพูดอะไรก็เปล่าประโยชน์แล้ว"
เมื่อคิดถึงการกระทำที่ไปยั่วท้าทายอู๋ฮ่าวเหรินของพวกเขา, ดูเหมือนมันจะกลายเป็นแค่เรื่องตลกไปเสียแล้ว, ซึ่งจริงๆแล้วอู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับพวกเขามาก, จึงได้ปล่อยให้พวกเขายึดเมืองแห่งสันติสุขไป
พวกเขาคิดว่าถ้าพวกเขาไม่ปล่อยวิดีโอยั่วโมโหออกไป, บางทีชายคนนั้นอาจจะไม่สนใจพวกเขาก็เป็นได้
แต่น่าเสียดายที่โลกนี้ไม่มียาแก้รู้สึกผิดให้ทาน, พวกเขาในตอนนี้จึงเป็นได้เพียงนักโทษเท่านั้น
ในเวลานี้, แต่ละประเทศที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ทำการติดต่อมายังฟิวเจอร์กรุ๊ปและพวกเขาต้องการที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
พลังของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นทำให้พวกเขารู้สึกกลัว
เจ้าหน้าที่บางคนที่ข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ถูกจับโดยพวกเขาและเตรียมที่จะส่งมอบให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ
เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินได้ทราบเรื่องนี้เข้า, เขายังรู้สึกสับสนเล็กน้อย, เพราะเขายังไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะสู้รบปรบมือกับประเทศเหล่านี้เลย, แต่พวกเขากลับกลัวกันเสียแล้ว
เขาไม่รู้เลยว่าจะทำให้ผู้คนกลัวได้ขนาดนี้ เพียงแค่เขาปล่อยกองทัพหุ่นยนต์ออกไปยังประเทศเหล่านี้เท่านั้น
แต่ทว่าเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินก็เริ่มเอาจริงขึ้นมาบ้างแล้ว, เขาพบว่าเรื่องในครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่อาจจะนำพาผลประโยชน์ที่เขาไม่คาดคิดมาด้วยก็เป็นได้
ในเวลานี้, เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเหล่าผู้นำถึงได้เป็นกังวลเรื่องนี้กันนัก, แน่นอนว่าพวกเขาน่าจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว
และเพราะอย่างนี้จึงทำให้เขาโมโหขึ้นมานิดหน่อย, พวกเขารู้อยู่แล้วแท้ๆ, แต่พวกเขากลับไม่ได้บอกอะไรเขาเลย, พวกเขาอาจจะต้องการทดสอบเขาก็ได้
ถ้าปัญหาในครั้งนี้ไม่สามารถแก้ไขได้, อู๋ฮ่าวเหรินก็คิดได้แต่ชะตากรรมที่น่าเศร้าของเขา
ตอนมา, อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้มอบหมายเรื่องนี้ให้ลู่เผิงเฟย และบอกให้เขาพาคนไปเจรจากับพวกคนเหล่านั้น
ส่วนพวกคนที่ถูกจับ, เขาคิดที่จะนำคนพวกนั้นมา, แล้วโยนพวกเขาไปทิ้งไว้ในดาวเคราะห์ซักแห่งเพื่อทำการทดลอง, และเตรียมแผนการอพยพครั้งต่อไป
-----------------------------------
0 ความคิดเห็น