CF:บทที่ 518 บริษัทที่พากันล้มละลาย
บนหน้าจอใหญ่มีข่าวที่จี้ได้พบมา, เป็นข่าวเกี่ยวกับบริษัทต่างชาติที่มีชื่อเสียงต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีไฮเทค
ซึ่งพาดหัวข่าวบอกว่า: บริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลกต่างพากันประกาศล้มละลายพร้อมกัน, และเศรษฐกิจโลกก็ได้ทรุดตัวลงอย่างหนัก
นอกจากนั้นยังมีบริษัทต่างๆอีก 20 บริษัทที่มีอยู่ในรายชื่อตามมา, ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทที่ติดอันดับ 500 บริษัทในโลก, ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทชั้นนำ
"เกิดอะไรขึ้น? ทำไมบริษัทอย่างกูเกิ้ล, แอปเปิ้ล, ไมโครซอฟท์ และบริษัทอื่นๆถึงพากันประกาศล้มละลายพร้อมกันแบบนี้?"
อู๋ฮ่าวเหรินไม่อยากจะเชื่อว่าบริษัทเหล่านี้จะพากันล้มละลายทั้งหมด, ถึงแม้ว่ายอดขายในอุตสาหกรรมของพวกเขาจะตกลง, แต่ก็ไม่น่าจะถึงกับทำให้ล้มละลายนี่นา, มันน่าจะยังเจรจากันได้
ไม่นานนัก, อู๋ฮ่าวเหรินก็พบเหตุผล, เขามองดูข่าวที่ปรากฏในเว็บไซต์ของบริษัทก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
เขาไม่คิดว่า ตัวเขาเองที่เป็นคนที่ทำลายบริษัทเหล่านี้, บริษัทเหล่านี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องจบบริษัทของตัวเอง
ผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกที่เมืองทะเลทรายได้ถูกผลิตออกมาแล้ว, เหล่าคนงานที่ได้เข้าร่วมในเมืองทะเลทรายต่างก็พากันกระตือรือร้นมากขึ้น
ผลิตภัณฑ์ชุดนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกมาบนเว็บไซต์ทันทีที่พวกมันผลิตออกมาเสร็จ
เมื่อต้องเจอกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปผลิตออกมา, บริษัทพวกนั้นต่างก็พากันสิ้นหวัง, เดิมทีพวกเขาได้ลงทุนลงแรงไปอย่างมากกับการทดลองใช้เทคโนโลยีที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้เผยแพร่ออกมาในการทำผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ขึ้นมา
และในตอนนี้, ทันทีที่ผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ปรากฏขึ้นมา, พวกเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าบริษัทของพวกเขานั้นหมดทางเยียวยาแล้ว
ในเวลานี้, มันไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์แค่ชิ้นหรือสองชิ้น, แต่เป็นแสนเป็นล้านชิ้น ซึ่งมาจากไลน์การผลิตที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว
จากข่าวที่ได้รับมาจากเมืองทะเลทราย มีโรงงานมากมายเกิดขึ้นในเมืองทะเลทราย, แต่เพราะปัญหาด้านบุคลากร, ทำให้ยังมีอีกหลายที่ที่ยังไม่ได้ก่อสร้าง
ถ้าโรงงานเหล่านั้นสร้างเสร็จพร้อมกัน, ผลิตภัณฑ์จะถูกผลิตออกมาอย่างมากมายกว่านี้
ยกตัวอย่าง, โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ของแอปเปิ้ล เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว, พวกมันก็เป็นได้แค่ขยะที่สิ้นเปลือง
ยิ่งไปกว่านั้น, ผลิตภัณฑ์ที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปผลิตขึ้นมานั้นไม่ต้องเสียเงินซื้อด้วย, ตราบเท่าที่พวกเขาผ่านการประเมินของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้, พวกเขาก็จะได้รับผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
จากในสถานการณ์นี้, พวกเขานั้นได้ถูกบีบตลาดของพวกเขาลง, นอกจากนี้พนักงานส่วนใหญ่ก็ลาออกจากงาน, เพื่อไปเรียนรู้เทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป ทำให้ค่าใช้จ่ายในการผลิตโทรศัพท์มือถือนั้นสูงขึ้นมากกว่าแต่ก่อน
ส่วนเรื่องการใช้หุ่นยนต์ในการผลิต
พวกเขาเองก็ได้คิดทดลองใช้, แต่ก็กลับกลายเป็นว่า เป็นงานที่ยากกว่าเดิม, ถ้าปราศจากอุปกรณ์เฉพาะและลำพังหุ่นยนต์อย่างเดียว การปรับแต่งก็จะไม่สามารถทำให้สมบูรณ์ได้เลย
ในเวลานี้, ผลกระทบจากฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นส่งผลทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องปิดตัวลง
"ไม่, ไม่, ถ้าเป็นอุตสาหกรรมเหล่านี้ล้ม ก็พอจะเข้าใจได้ ว่าพวกเขาโดนผลกระทบจากผลิตภัณฑ์พวกนั้น, แล้วเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทอินเตอร์เนทล่ะ?"
บริษัทอย่างกูเกิ้ลและไมโครซอฟท์ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัท IT, พวกเขาล้มได้อย่างไรกัน?
"จี้, คุณพอจะทราบเหตุผลมั๊ย?"
"พบเหตุผลแล้วค่ะ"
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูผลการสืบสวนของจี้ และสีหน้าของเขาก็พลันบิดเบี้ยว, การที่กูเกิ้ลล้มละลายนั้น ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินพูดอะไรไม่ออก
เว็บค้นหาอย่างกูเกิ้ลนั้นผู้ใช้ลดลงเรื่อยๆ ตั้งแต่เว็บไซต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ปรากฏขึ้นมา
และจากความรู้ที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้เผยแพร่ออกมา, ทำให้ผู้ใช้ลดลงจนกลายเป็นศูนย์
นอกจากนี้, ผู้คนส่วนใหญ่ก็เริ่มมาตัวกันในเว็บไซต์ของบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ป ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมพลเมืองเครือข่ายมากมาย
เช่นเดียวกันกับเรื่องของการวิจัยเรื่อง AI, เช่นเดียวกับการวิจัยเรื่องของเทคโนโลยีไร้คนขับ ซึ่งเทียบอะไรไม่ได้กับเทคโนโลยีเดียวกันของฟิวเจอร์กรุ๊ป
ด้วยเหตุนี้, บริษัทกูเกิ้ลจึงไม่สามารถรักษาคนมีความสามารถไว้ได้, เหล่าคนที่มีแรงบรรดาลใจและต้องการจะโชว์ผลงานต่างก็พากันพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้เข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปและเรียนรู้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพิ่มเติม
เมื่อปราศจากนักวิจัย, กูเกิ้ลก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปิดตัวเองลง
เช่นเดียวกับไมโครซอฟท์, ที่ดูเหมือนจะเป็นบริษัทที่โชคร้ายที่สุดแล้ว, ซึ่งดูเหมือนเขาจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย, แต่ใครจะรู้ เพราะระบบสมองกลของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นไม่ต้องการการดูแลรักษาด้วย
เป็นได้ทั้งคอมพิวเตอร์ที่ไม่ต้องการการติดตั้งใหม่, ซึ่งทำให้ระบบของไมโครซอฟท์นั้นไร้ค่าไปเลย
ในที่สุดหลังจากการปรากฏตัวของสมองกล, ไมโครซอฟท์ก็ได้ปิดตัวลงในที่สุด
ไม่ว่าพวกเขาจะทำอย่างไร, พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้ดีไปกว่าฟิวเจอร์กรุ๊ป
เมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้, บริษัทเหล่านี้จึงเลือกที่จะปิดบริษัทของตัวเองลง และรอวันที่จะกลับมาใหม่
บริษัทมากมายต่างก็พากันล้มพร้อมๆกัน, ซึ่งทำให้เป็นปัญหาที่ร้ายแรงมาก, และต่างประเทศถึงกับวุ่นวายมากในขณะนี้
ผู้คนจำนวนมากต่างก็พากันตกงาน, ผู้คนต่างก็อยากที่จะเข้าเล่นเกมอารยธรรมเพื่อฆ่าเวลามากขึ้น, แต่ตอนนี้ไม่มีโควต้าเข้าเล่นเกมอารยธรรมเหลือเลย
คนเหล่านี้, ต้องสูญเสียงานของตัวเองและกลายเป็นคนว่างงานและเริ่มเบื่อ, จึงได้ออกไปประท้วงกันบนถนน และเริ่มที่จะเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง
จำนวนอาชญากรในประเทศต่างๆก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างกะทันหัน, และในบางประเทศก็ถึงกับต้องออกกฏอัยการศึก
"ดูเหมือนว่าประเทศเหล่านั้นคงจะมาหาผมในเร็วๆนี้แน่"
พวกเขามาถึงแล้วค่ะ และกำลังหารือเรื่องนี้กับรัฐบาลจีนอยู่ค่ะ"
เมื่อได้ยินที่จี้พูด, อู๋ฮ่าวเหรินก็ยิ้มขึ้นมา, เพราะในปัจจุบัน มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
และถ้าพวกเขาไม่แก้ปัญหานี้โดยไว, จะมีหลายสิ่งหลายอย่างตามมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ, และโศกนาฎกรรมก็จะเพิ่มขึ้นตามมาเช่นกัน
เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินกลับมายังบริษัท, หวังหลานก็รอคอยเขาอยู่แล้ว
วันนี้หวังหลาน, สวมชุดกระโปรงสีม่วง, ถุงน่องไหม, และเสื้อคลุมบางๆ, ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินต้องหันเหลียวกลับไปมองบ่อย
ชุดนี้มันช่วยเน้นหุ่นที่เอวบางร่างน้อยของเธอให้เด่นออกมา, อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายของเธอ และนั่งลงในห้องออฟฟิศเพื่อปกปิดพฤติกรรมเขาเมื่อสักครู่
เขานั้นพูดอะไรไม่ออก ดูเหมือนว่าหลังจากที่ได้ผ่านประสบการณ์ของชายกับหญิงไปแล้ว, มันทำให้เขานั้นรู้สึกตอบสนองเรื่องแบบนี้มากกว่าแต่ก่อน
มองดูหวังหลานที่เดินตามเขาเข้ามา, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้ถามกลับไป, "มีอะไรงั้นรึ?"
"ท่านประธานคะ, เอกสารนี้ต้องการให้คุณเซ็นค่ะ, แล้วก็มีข่าวมาจากเมืองทะเลทราย แจ้งมาว่าการคัดเลือกพลเมืองชุดแรกได้เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ, จะให้เริ่มทำการคัดเลือกพลเมืองชุดที่ 2 เลยมั๊ยคะ?"
อู๋ฮ่าวเหรินใช้นิ้วเคาะโต๊ะ, คิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดขึ้น "เริ่มการคัดเลือกชุดที่ 2 ได้เลย, แล้วทหารที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้วล่ะ?"
"ตอนนี้มีทหาร 200,000 นายได้ถูกส่งเข้าไปประจำการที่เมืองทะเลทรายแล้ว เริ่มทำการฝึกแล้วค่ะ, และได้ทำการคัดเลือกรอบใหม่แล้ว, จากการคำนวนของพวกเรา น่าจะใช้เวลาครึ่งปีเพื่อฝึกทหารให้ได้ 1 ล้านนายค่ะ"
อู๋ฮ่าวเหรินผงกหัว, ทหาร 1 ล้านนายก็น่าจะเพียงพอแล้ว กับการคุ้มกันทั่วโลก, และสถานที่อื่นๆ ในตอนนี้ก็ไม่ควรเพิกเฉย
"อืม, ถ้ามีคนจากทางรัฐมาหาผม บอกเขาว่าถ้าพวกเขาต้องการที่จะให้ช่วยแก้ปัญหาให้ ก่อนอื่นพวกเขาจะต้องเห็นด้วยกับเงื่อนไขในเอกสารนี้ก่อน"
หวังหลานไม่ได้ถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น, แต่ผงกหัวและหยิบเอกสารนั้นแล้วเดินออกไป
ตอนที่เธอยืนอยู่ในออฟฟิศนั้น, ทุกครั้งที่อู๋ฮ่าวเหรินมองเธอ ร่างกายเธอก็รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมา, ถ้าเธอรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เธอคงไม่บอกสัญญาว่าจะเป็นพี่สาวที่ดี, แถมเธอยังใส่ชุดแบบนี้มาทำงานอีก เธอรู้สึกละอายใจขึ้นมา
0 ความคิดเห็น