CF:บทที่ 516 สัตว์ผู้พิทักษ์

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 516 สัตว์ผู้พิทักษ์

 

ทุกๆคนตกอยู่ในความเงียบกันพักหนึ่ง, และถามอย่างสงสัยว่าอะไรที่ฆ่าคนพวกนั้น

 

"ชาวไร่, ในเมื่อคุณพอจะเดาเหตุการณ์, ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะรู้ว่าใครฆ่าคนพวกนี้?"

 

"ใช่, บอกที, ผมเห็นคนมากมายจากหน่วยรบของอารยธรรมชั้นสูง แต่ก็ต่อต้านอะไรไม่ได้เลย"

 

ในขณะนั้นเอง มนุษย์ชุดเกราะกลับเป็นคนตอบแทน: "มันน่าจะเป็นสัตว์ผู้พิทักษ์, ถึงแม้ผมจะไม่ได้เห็นผลต้นกำเนิดก็เถอะ, แต่ผมเคยได้ยินมาว่ามีสัตว์ผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งคอยปกปักรักษาสมบัติชิ้นนี้อยู่, แต่ผมก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสัตว์ผู้พิทักษ์นั่นจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้"

 

"ลุงเจ้าแห่งศิลป์, โชคดีนะครับเนี่ยที่คุณตัดสินใจหนีออกมาได้ทันการ, ไม่อย่างนั้นคุณคงได้ตายที่นั่นด้วย"

 

"ทำไมถึงไม่หนีและจะตายรึ? ตราบเท่าที่ไม่เข้าไปที่ดาวนั้น ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรไม่ใช่รึ"

 

"ถ้าคุณลองมองที่ซากอุกกาบาตรอบๆดาวดวงนั้นในวิดีโอดีๆ, คุณจะเข้าใจว่าทำไมผมถึงพูดอย่างนั้น

 

ทุกๆคนต่างก็ตั้งในดูวิดีโอนั้นอีกครั้ง แม้แต่เจ้าแห่งศิลป์, เมื่อเขาได้ยินชาวไร่พูดว่าเขาอาจจะตายที่นั่นถ้าเขาไม่หนีออก มันทำให้เขาไม่เข้าใจนิดหน่อย

 

แต่ทว่า, เมื่อเขาดูวิดีโอนั้นอีกครั้ง, สีหน้าของเขาก็ซีดขึ้นมาทันที ราวกับว่าเขากำลังกลัวมันอยู่, ถ้าเขาหนีออกมาไม่ทันการ เขาก็อาจจะตายอยู่ที่นั่นด้วย

 

ในวิดีโอนั้น, ซากอุกกาบาตที่ลอยอยู่รอบๆดาวเคราะห์นั้นมันไม่ใช่อุกกาบาต, แต่เป็นซากกลุ่มก้อนสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งมากที่ถูกทิ้งเอาไว้

 

มันเป็นความจริงที่ว่าอุกกาบาตเหล่านี้เกิดขึ้นจากซากศพ, หรือพูดอีกอย่างก็คือซากศพของสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก, ที่ถูกทิ้งสะสมเอาไว้หลายปี

 

"มันดูน่าสยดสยองเกินไปแล้ว, แล้วที่ถูกฆ่าไปนั่นเป็นสิ่งมีชีวิตอะไรรึ?"

 

"ดูแล้วนั่นน่าจะเป็นโครงกระดูกของสัตว์ประหลาดดารา, ผึ้งเพชรฆาตดาราก็เช่นกัน, มีแม้แต่มดดารา แต่กระดูกของมันน่าจะผุพังหมดละ"

 

"อุกกาบาตยักษ์นั่นน่าจะเป็นมังกรโบราณ, ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันตายมานานขนาดแล้ว"

 

"ตอนนี้เข้าใจรึยังว่าทำไมผมถึงได้บอกว่าถ้าเจ้าแห่งศิลป์ไม่รีบหนีออกมา, เขาได้ตายแน่ๆ"

 

"เข้าใจแล้ว, สิ่งที่ฆ่าพวกสัตว์ประหลาดพวกนี้ได้น่าจะอยู่ทั่วเขตดาวนี้"

 

"ผมสงสัยแล้วว่า, สัตว์ผู้พิทักษ์นั้นเป็นสัตว์ชนิดไหนกันนะถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้"

 

ในเวลานี้เอง, ที่ชาวไร่พูดขึ้นมา: "จากในวิดีโอ, จะเห็นสัตว์ผู้พิทักษ์อยู่สองชนิด, เป็นอสูรดารากับอสูรปีศาจ, ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสัตว์ดาราชนิดไหนก็ตาม, ก็จะเป็นการดีที่สุดที่จะรีบซ่อนตัวจากมันให้ไวที่สุดทันทีที่ได้เจอมัน"

 

เมื่อได้ยินพูดถึงสัตว์ดาราสองชนิดนี้แล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้รีบค้นหาข้อมูลพวกมัน แล้วหน้าของเขาก็ซีดเผือดอีกรอบ

 

ก่อนหน้านี้, เขาเคยคิดว่าเขาจะออกตามหาผลต้นกำเนิดบ้างถ้าเขามีโอกาส, แต่เมื่อเห็นคำอธิบายถึงสัตว์ดาราทั้งสองชนิดนี้แล้ว, เขาก็ทิ้งความคิดนั้นทันที

 

ตราบเท่าที่สิ่งมีชีวิตพวกนี้ยังมีตัวตนอยู่, การที่เขาจะไปตามหาผลต้นกำเนิดนั้น ก็ไม่ต่างอะไรไปจากเอาชีวิตไปทิ้ง, พวกมันทั้งแข็งแกร่งและน่ากลัว

 

"ถ้าต้องเจอกับสัตว์ดาราทั้งสองชนิดนี้, ใครที่คิดจะขโมยผลต้นกำเนิดนี่, ก็ไม่ต่างกับไปรนหาที่ตายล่ะนะ" สุดหล่อโคตรเจ๋งพูดขึ้นบ้างอย่างเท่ห์ๆ

 

แต่ทว่า, ในคำพูดของเขานั้นแฝงไว้ด้วยความกลัว ซึ่งแน่นอนว่าเขาเองก็กลัวสัตว์ดาราทั้งสองชนิดนี้

 

"ถ้าเป็นเช่นนี้, ก็คงไม่มีใครกล้าที่จะไปขโมยผลต้นกำเนิดนี้หรอกมั๊ง?"

 

"ฮ่าๆ, อย่าดูถูกพวกเหล่าคนโลภมากไป, คนพวกนั้นน่ะอีกไม่นานก็คงไปที่ดาวเคราะห์นั้นเพื่อแย่งชิงผลต้นกำเนิดอย่างสุดกำลังแน่"

 

"ก็เหมือนกับพวกที่ไปตายนั่นแหละ, พวกเขาต่างก็อยากที่จะเสี่ยงโชค" นักธุรกิจพลังงานกล่าว

 

แม้แต่อู๋ฮ่าวเหรินเองก็ยังรู้สึกเย้ายวน และอดไม่ได้ที่จะไปแย่งชิงผลต้นกำเนิดมา, มันเป็นสัญชาตญาณ, ที่ว่าเมื่อพบเจอเข้าสิ่งที่ดีๆ ไม่ว่าใครก็อยากที่จะครอบครองมัน

 

แต่ทว่า, เขาคงจะต้องอดกลั้นสัญชาตญาณนี้ไว้, เพราะเขานั้นรู้ดีว่าถ้าเขาได้ไปที่นั่นก็ผลสรุปคงออกมาได้แค่รูปแบบเดียว, นั่นคือตาย

 

อสูรดารานั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับ, เพราะมีตำนานในยุคอนาคตที่เล่าว่า, ถ้าได้ทำสัญญากับอสูรดาราแล้ว จะได้รับพลังของสัตว์ดาราที่จะก้าวข้ามผ่านมิติได้โดยไม่ต้องกังวลถึงอันตรายได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น, เมื่อตอนอสูรดารายังเป็นเด็กนั้น มันจะยังไม่มีแข็งแรงมากนัก, แต่ทว่าเมื่อมันโตแล้ว หากมีใครเข้าไปกวนมันล่ะก็ได้เจอเรื่องเศร้าแน่

 

เพราะอสูรดารานี้มันมีพลังที่สามารถควบคุมมิติได้, มันสามารถโจมตีและทำลายศัตรูได้จากภายในของสิ่งมีชีวิตได้ในทันที

 

จากในวิดีโอ, ยังมีสัตว์ผู้พิทักษ์อีกอย่างนั่นคืออสูรปีศาจ, สิ่งมีชีวิตนี้น่ากลัวมาก เพราะมันสามารถฆ่าคนได้, ด้วยวิธีการที่โหดร้ายในทุกๆความหมาย

 

การเติบโตของอสูรปีศาจนี้เป็นไปได้ยากกว่าอสูรดารา, เพราะมันสามารถตายได้ทุกเมื่อ, แม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับมันก็ตาม, สัตว์ชนิดนี้มันจะตายของมันเอง

 

อสูรปีศาจที่โตเต็มวัย, ถ้าคุณไม่รู้วิธีที่จะฆ่ามันล่ะก็, อย่าไปแหย่มันจะดีที่สุด, เพราะสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มีความจำที่ดีและชอบการล้างแค้นมาก

 

หมอกเลือดที่เห็นในวิดีโอนั้นก็น่าจะดูคล้ายกับอสูรปีศาจมาก

 

อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าถ้าเขามีเวลาว่าง, เขาก็น่าจะหาอ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับสัตว์ดาราพวกนี้เพิ่มเติม เพื่อที่จะได้รู้สถานการณ์ก่อน

 

เจ้าแห่งศิลป์เองก็พูดขึ้นบ้าง: "ถ้าคุณจะไปที่เขตดาวใหม่นี้, ก็พยายามอย่าไปแบบสะเปะสะปะ, มีสถานการณ์เสี่ยงตายแบบนี้เกิดขึ้นอยู่ทุกที่, ถึงแม้จะมีสมบัติมากมายรออยู่ก็ตาม, แต่ก็อันตรายมากด้วยเช่นกัน"

 

สุดหล่อโคตรเจ๋งเองพูดขึ้นมาเช่นกัน "ผมไม่เหมือนกับคุณลุงหรอก ที่จะไปไหนมาไหนคนเดียว, กองกำลังของผมไปที่นั่นเพื่อส่งกำลังบำรุงทางทหารเท่านั้น, มีอยู่ไม่กี่ที่หรอกให้ผมไป, แต่ทว่า, ก็ได้เจอสมบัติมากมายในเขตดาวซินซิ่งอยู่นะ, ผมได้ยินมาจากหลายคนว่าไปได้มาจากที่นั่น"

 

"ตระกูลของผมเองก็ได้เปิดเส้นทางค้าขายที่นั่นอยู่, ผมได้ยินมาว่าที่นั่นมีภูเขาแร่พลังงานมากอยู่ที่นั่น" นักธุรกิจพลังงานกล่าว

 

ยิ่งอู๋ฮ่าวเหรินได้ยินเรื่องพวกนี้มากขึ้นเท่าไร, เขาก็ยิ่งอยากจะไปที่เขตดาวนั้นเร็วยิ่งขึ้น

 

แน่นอนว่า, ดวงดาวที่อยู่นอกแผนที่ออกไปนั้นเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยโอกาส

 

แต่น่าเสียดาย, ที่สถานการณ์ของเขาในปัจจุบันนั้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไปยังเขตดาวนั้นได้

 

"ในอนาคต, ถ้าพวกคุณได้ข้อมูลเกี่ยวกับเขตดาวใหม่นั้น พวกคุณช่วยเล่าให้ผมฟังบ้างนะ, ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามีผลประโยชน์มากมายอยู่ที่เขตดาวใหม่นั่นมากมายจริงๆ"

 

"ฮ่า ฮ่า, ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณแผนที่ดวงดาวของนายนะเจ้าหนู, มันเป็นเรื่องยากที่จะท่องอวกาศไปในเขตดาวใหม่โดยไม่รู้อะไรได้ ไม่อย่างนั้นแล้ว มันคงจะไม่สำรวจกันได้รวดเร็วแบบนี้หรอก, ว่าแต่ว่านายพอจะมีภาพแบบเก่าของแผนที่ดวงดาวบ้างไหม?"

 

"ภาพต้นฉบับ? คุณจะเอาของแบบนั้นไปทำอะไรเหรอครับ?"

 

"ข้าได้ยินมาว่าแผนที่ดวงดาวน่ะ มันไม่มีอยู่แค่นั้นน่ะสิ, ถ้าเป็นแผนที่ดวงดาวของจริงน่ะ จะต้องเอาแผนที่ต้นฉบับมารวมเข้ากับแผนที่ดาวเขตใหม่, ก็จะได้แผนที่ดวงดาวเขตนั้นที่สมบูรณ์น่ะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินตกใจ, ถ้าข่าวนี่เป็นความจริง แผนที่ดวงดาวที่เขามีอยู่นี้ก็จะเป็นของที่มีค่ามากขึ้นมาทันที

 

แน่นอนว่า, แผนที่ดวงดาวต้นฉบับที่เขาพบนั้น มันทำมาจากวัสดุที่พิเศษมาก

 

เมื่อเขารู้ข่าวนี้, แน่นอนว่าอู๋ฮ่าวเหรินไม่คิดที่จะให้แผนที่ต้นฉบับนี้แก่ใคร, เพราะเขาจะออกท่องดวงดาวทีหลัง เพื่อออกตามหาของที่เขาต้องการ

 

"ผมไม่มีหรอกครับแผนที่ต้นฉบับน่ะ, ภาพถ่ายแผนที่ทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่ผมเจอมาจากซากยานอวกาศที่ตกน่ะครับ"

 

เมื่อได้ยินคำตอบที่อู๋ฮ่าวเหริน, ทุกคนต่างก็รู้สึกเสียดาย, เพราะถ้ามีแผนที่ต้นฉบับล่ะก็ มันก็จะมีผลประโยชน์มากมายถ้าเกิดได้เข้าไปยังเขตดวงดาวนั้น

 

"อืม, ถ้างั้นคุยเรื่องอื่นเถอะ, เจ้าแห่งเรดาร์ คุณไปที่อารยธรรมพาลอสใช่มั๊ย คุณก็น่าจะรู้สถานการณ์ของทางนั้นบ้างสินะ, คุณช่วยเล่าสถานการณ์ของทางนั้นให้ฟังบ้างได้มั๊ย?"

 

"ได้สิ, ได้ ผมได้ยินมาว่าการอุบัติของเขตดาวใหม่นี้เกิดมาจากอารยธรรมนี้นี่แหละ, ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่ามันจะมีอะไรที่เกี่ยวของกับอารยธรรมมนุษย์ด้วย" เจ้าแห่งเรดาร์ลังเลอยู่พักนึงก่อนจะพูดขึ้นต่อ "ผมจะเล่าเรื่องให้พวกคุณฟังอย่างหนึ่ง, จริงๆมันก็ไม่ใช่ความลับอะไรหรอกนะ


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น