CF:บทที่ 505 สงครามที่น่ากลัว
"พวกคุณได้ยินเรื่องของตาแก่คนที่อาศัยอยู่ในกลุ่มดาวทางเหนือของเขตดาวไหม, ได้ข่าวว่าเขาทำสงครามทำลายล้าง จนเกิดสตาร์เบิร์สเกิดขึ้น?"
"ชิ, ข่าวแพร่กระจายไปไกลแล้วเหรอเนี่ย, ตาแก่นั่นมันบ้า, หมอนั่นก็แค่อยากจะแก้ไขความผิดพลาดของตัวเองเท่านั้นแหละ, ถ้าเขาไม่สามารถแก้ไขปัญหาการพังทลายของกลุ่มดาวทางเหนือได้, ก็ไม่ต่างอะไรจากตายล่ะนะ"
มีบางคนที่ได้โยนวิดีโอเข้ามาในกลุ่ม, แล้วจากนั้นก็พูดขึ้น "ดูนี่สิ, ตาแก่นั่นมันก็ทำได้แค่ผายลมเท่านั้นแหละ, เขาวิ่งหนีหางจุกตูดออกไปจากจักรวาลนั้นพร้อมครอบครัวแล้ว, ถ้าเขามัวแต่รอให้พลังแห่งกฏทำงานละก็, คงได้แต่รอความตายเท่านั้นแหละ...."
"บ้าเอ๊ย, นี่มันโหดร้ายชะมัดยาด, ตาแก่นี่คงไม่ได้บ้าทำอะไรขนาดนั้นเพื่อสมบัติซักชิ้นเดียวหรอกใช่มั๊ย?"
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูวิดีโออีกรอบ, แล้วรู้สึกพูดอะไรไม่ออก, มองดูดาวต่างๆที่ตาแก่คนนั้นได้พังไปราวกับไข่แตก, และมีรอยแยกเกิดขึ้นมาในหมู่ดาวที่ถูกพลังทลายและกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง
มีผู้คนที่พยายามวิ่งหนีเอาชีวิตรอด, แต่น่าเสียดายที่เมื่อต้องเจอกับรอยแยกของดวงดาวแล้ว, ถ้าไม่สามารถหนีไปด้วยระบบจัมพ์ข้ามดวงดาวระยะไกลแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรไปจากยืนรอความตายนั่นแหละ
เมื่อต้องเผชิญเข้ากับสงครามแบบนี้, สงครามในยุคอนาคตของสหพันธรัฐจักรวาลนั้นก็เป็นเหมือนกันไปหมด, มันเป็นสงครามที่โหดร้ายที่เกิดขึ้นเพียงเพราะคนๆเดียว
มีใครบางคนที่พูดขึ้นมา "นั่นมันก็แค่ข้อแก้ตัว, ข้าได้ยินมาว่าตาแก่นั่นมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่, และความลับนี้ก็ได้ตกไปถึงหูของเจ้าของกลุ่มเขตดาวเหนือเข้า, ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ความลับนี้ไปข่มขู่ตาแก่นั่น, ก็อย่างที่รู้ นิสัยของตาแก่นั่นน่ะนะ..."
"ฉันไม่รู้หรอกนะว่าตาแก่นั่นจะเลือกยอมตายมากกว่ายอมแพ้รึเปล่า, แต่นี่มันเหมือนกับไปรนหาที่ตายชัดๆ, ที่น่าสงสารก็คือพวกคนที่อาศัยอยู่ในกลุ่มเขตดาวเหนือนี่แหละที่ต้องมาลำบากเพราะหายนะนี้และมันคงจะดีถ้าเอาชีวิตรอดออกมาได้ แม้จะมีโอกาสน้อยนิดก็ตามทีเถอะนะ"
"ไอ้สารเลวนิโคลัส ยูริเวอร์, ออกมาเดี๋ยวนี้, ออกมาหาข้า! ไหนแกบอกว่ามันทำลายได้แค่ดาวดวงเล็กๆไง? ทำไมมันถึงทำให้เขตดาวเหนือหายไปครึ่งนึงได้หา?"
"เวรจริง, ตาแก่นี่เชื่อที่ยูริเวอร์พูดด้วยว่ะ, ของที่เจ้าหมอนี่มันขายน่ะ มันก็ไม่มีปัญหาอะไรสำหรับช่วงเวลานั้นล่ะนะ, ตาแก่นี่ก็ดันไปซื้ออาวุธทำลายล้างมาจากยูริเวอร์ได้อีกนะ ก็คงพูดได้ว่าตาแก่นี่อ่อนหัดไปหน่อยนะ"
"ฮ่าๆ, ยูริเวอร์มันอาศัยอยู่ในจักรวาลโกลาหลนี่นะ, ไม่มีอะไรที่ธรรมดาที่นั่นอยู่แล้ว"
สักพักยูริเวอร์ก็โผล่ออกมาจริงๆ, คนๆนี้เหมือนจะเป็นคนดังในกลุ่มพิเศษนี้
"อย่าโวยวายน่า, เรื่องในครั้งนี้จะมาโทษผมไม่ได้หรอกนะ, ผมก็บอกไปแล้วไงว่าอย่าใช้ในที่ๆมีพลังงานหนาแน่นสูง, ตาแก่คุณเล่นเอาไประเบิดตรงบริเวณคริสตัลดวงดาว, คุณน่าจะดีใจด้วยซ้ำนะที่พลังทำลายมันเบากว่าที่ผมคำนวณไว้เสียอีก, มิเช่นนั้นแล้ว, ทั้งกลุ่มดาวเขตเหนือคงได้สว่างไสวโชติช่วงไปแล้ว
ตาแก่เองก็คงเป็นฝ่ายผิดเองด้วย,
แล้วตาแก่เสียงเย็นก็รีบออกจากห้องแชทไป, เขาน่าจะกำลังหนีเพื่อเอาชีวิตรอดอยู่ในขณะนี้
ถึงแม้เขาจะไม่ได้ทำลายไปทั้งเขตเหนือ, แต่มันก็เกือบจะเหมือนกัน, แต่ถ้ามันเป็นอย่างหลังขึ้นมาจริงๆ, สถานการณ์นี้คงได้โศกนาฎกรรมแน่
มองดูภาพที่ประกฏในวิดีโอ, อู๋ฮ่าวเหรินไม่คิดว่าสิ่งที่ทำให้เกิดการทำลายล้างระดับนี้เป็นแค่อาวุธจริงๆ
"ตาแก่, ให้ผมช่วยอะไรคุณมั๊ย? สถานการณ์ของคุณตอนนี้ดูไม่ค่อยดีเลยนะ"
"ไปไกลๆเลย, แกคิดที่จะฉวยโอกาสล่ะสิ, ถ้าแกคิดจะช่วยข้าจริงๆ ข้าขออาวุธที่ใช้ช่วยชีวิตได้ดีกว่า"
"ฮ่าๆ, ถ้าเช่นนั้นคุณก็หนีช้าลงนิดนึงนะ, ผมได้เตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไว้ในตรงทางหนีของคุณแล้ว, คุณก็เก็บเอาไปใช้ละกันนะ"
"ไอ้ผีเลือด, แกเองก็ต้องร่วงตามลงไปด้วย, ถ้าข้ารอดไปได้, ข้าจะตามล่าแกในจักรวาลของแกให้ได้เลย, คอยดูเหอะ, แกจำคำพูดของข้าวันนี้ไว้ให้ดี
"ใครกันแน่ที่จะร่วง, คิดจะไปเทียบชั้นกับผีเลือดอย่างงั้นเหรอ, ดูเหมือนว่าฉันจะได้ทำธุรกิจแล้วล่ะ, ฉันจะได้ขายตัวทำปฏิกิริยาซ่อมแซมอวกาศในราคาสูง, เอาล่ะวะ ใครมาก่อนได้ก่อนเน่อ"
"บ้าจริง พวกแกนี่ไม่มีอะไรดีกันเลยจริงๆใช่มั๊ย, ทั้งที่ข้าทำเงินให้พวกแกมากมายขนาดนั้นแท้ๆ แต่กลับไม่คิดจะช่วยฉันกันบ้างเลย, ชะตากรรมทำไมถึงไม่ยุติธรรมเลยถึงได้ปล่อยให้ตาแก่นี่รอดได้นะ"
"....."
แน่นอนว่า, ตาแก่คนนี้เองก็น่าจะอยู่ที่ดาวภัยพิบัตินั้นด้วย, และน่าจะเจอกับภัยพิบัติทำลายล้างตอนที่เขาไปถึงที่นั่นแล้ว
และแน่นอนว่า, ภัยพิบัตินั้นไม่มีผลอะไรกับเขา, แต่กับคนอื่นแทน, ความสามารถเหล่านี้ช่างน่ากลัว, พวกเขานั้นมีรัศมีของตัวเอกเป็นของตัวเอง, และไม่สามารถที่จะถูกฆ่าได้ง่ายๆด้วย
ในเวลานี้เองที่มีใครบางคนได้รู้สึกตัวถึงอู๋ฮ่าวเหริน, ในฐานะคนมาใหม่ ก็มันถูกลืมโดยคนอื่นเสมอ
"คุณมาอีกแล้วเหรอ, สหายตัวน้อย, วันนี้คุณมีคำถามอะไรอีกรึเปล่า?"
อู๋ฮ่าวเหรินนิ่งคิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะถามถึงข้อมูลเรื่องของแผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาว
"คุณลุงค้อนสงคราม, คุณพอจะรู้จักแผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาวไหม?"
"แผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาวเหรอ?" รอแปบนะ, เหมือนข้าจะเคยมีงานพิมพ์ของมันอยู่"
"ค้อนสงคราม, เจ้าโง่, ยังต้องคิดด้วยเหรอ, แผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาวมันก็คือแผนที่ขุมทรัพย์ลับของจักรวาล, ฉันได้ยินมาว่าถ้าสามารถรวบรวมแผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาวนี้ได้ครบ ก็จะสามารถรู้ได้ถึงความลับทั้งหมดของแผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาว, และได้รับสมบัติลับของจักรวาลนี้ด้วย"
"ข้ารู้เรื่องนั้นอยู่แล้วโว้ย, แต่มันก็เป็นแค่ตำนาน, อารยธรรมที่ทรงพลังเคยใช้แผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาวนี้มาก่อน, แล้วผลของมันเป็นอย่างไรนั้น ก็คงไม่ต้องพูดถึง"
"อย่าลืมว่าแผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาวนั้นมีอะไรข้องเกี่ยวกับอารยธรรมอาร์ต, พวกเขานั้นเคยทำการศึกษาแก่นแท้ของกาล-อวกาศมาก่อนจะกระทั่งได้แผนที่ขุมทรัพย์จักรวาลมา"
อู๋ฮ่าวเหรินต้องการที่จะบอกว่าเขานั้นมีแผนที่ขุมทรัพย์จักรวาลนี้อยู่ในมือ, แต่เมื่อเห็นที่ข้อความที่พวกนี้แชทกันแล้ว, เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดออกไป
แน่นอนว่า, ความลับของแผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาวนี้มันน่าจะต่างจากของที่อยู่ในโลกอนาคต, จากข้อมูลที่ได้จากคนเหล่านี้แล้วแผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาวอันนี้ห่างไกลจากของอารยธรรมที่ถูกทำลายไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น, มีความลับใหญ่บางอย่างซ่อนอยู่, ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอะไรคือจุดเริ่มต้นของจักรวาล, และอะไรคือกฏของจักรวาล, แต่ทว่าจากข้อมูลที่รวบรวมมาได้ช่วงนี้, ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินเข้าใจว่ากฏของจักรวาลนั้นโหดร้ายมาก และจุดเริ่มต้นของจักรวาลนั้นคือสิ่งที่ดี
แล้วอีกอย่าง, เขาก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้คนในกลุ่มพิเศษนี้กันแน่
จากข้อมูลที่เขาได้รับมา, คนเหล่านี้น่าจะไม่ได้อยู่ในจักรวาลเดียวกันแน่, หรืออีกอย่างก็คือ, มีจักรวาลมากมายที่อยู่ในท้องฟ้ากว้างใหญ่นี้, และมีเส้นทางติดต่อกันระหว่างจักรวาลที่ใกล้เคียงกัน
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เขานึกถึงแผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาวขึ้นมา, ซึ่งน่าจะเหมือนกับจักรวาลนี้, และเส้นทางของแผนที่ดวงดาวนี้ก็น่าจะเป็นเส้นทางของจักรวาลด้วยเช่นกัน
เขาส่ายหัวและวางข้อมูลพวกนี้ลง, อู๋ฮ่าวเหรินนั้นรู้ดีว่าเรื่องนี้มันห่างไกลเขาเกินไป, จากสถานการณ์ของเขาในปัจจุบัน, เขาไม่มีความสามารถที่จะสำรวจข้อมูลพวกนี้ได้
หลังจากที่ถอนตัวออกมาจากกลุ่มพิเศษ, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้เข้าไปยังกลุ่มเชฟ, ในช่วงที่ผ่านมานี้, คนในกลุ่มนี้ได้เงียบกันไปเป็นเวลานานเพราะสงครามที่เกิดขึ้น
ในช่วงนี้, จึงได้เริ่มมีคนมากมายที่กลับมาอีก, แต่อู๋ฮ่าวเหรินก็ยังไม่คุ้นเคยกับคนเหล่านี้อยู่ดี, อาจเป็นเพราะมีปัญหาบางอย่างในด้านการสื่อสาร
แต่ทว่าจากข้อมูลของคนเหล่านี้, เขาก็เข้าใจได้อย่างนึงว่า, ในสงครามครั้งล่าสุดนี้ มีเชฟได้ตายไปเป็นจำนวนมาก
ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าท่านผู้เฒ่าหอยเม่นเองก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก, และไม่ปรากฏตัวมาเป็นเวลานานแล้ว
แน่นอนว่า, เขาเองก็คิดเป็นห่วงคุณลุงชาวจีน, เพราะเขานั้นไม่ได้โผล่มาเป็นเวลานานแล้วเช่นกัน, แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้เป็นห่วงเขามากนัก
หลังจากที่อยู่ในกลุ่มเชฟได้ซักชั่วโมงหนึ่ง, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้ออกจากกลุ่มเชฟไป, เขามาอยู่ในกลุ่มเชฟนี้ก็เพื่อที่จะเรียนรู้วิธีจัดการกับพืชพิเศษเหล่านั้น
ในอนาคต, อาหารของมนุษย์นั้นได้เปลี่ยนไปอย่างมาก, ถ้าต้องการที่จะทำอาหารเหล่านั้น, ก็จำเป็นที่จะต้องทดลองหลายๆอย่างก่อน
ซึ่งเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำแบบนั้น, เพียงแค่เขาถามคำถามในกลุ่มเชฟนี้ ก็จะมีเชฟมากมายที่พร้อมจะช่วยเขาแก้ไขปัญหาเหล่านี้
มีบางคนที่ได้มอบความสามารถบางอย่างแก่เขา, ซึ่งเป็นความลับเฉพาะของเชฟคนนั้น, ยากต่อการแพร่งพราย
0 ความคิดเห็น