CF:บทที่ 462 เร่งการพัฒนา

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 462 เร่งการพัฒนา

เมื่อเกิดผลกระทบจากภาพยนตร์ของฟิวเจอร์กรุ๊ป หลายประเทศเริ่มหาวิธีรับมือกับการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศ

ที่ยุโรป เจ้าหน้าที่จากหลายประเทศมารวมตัวกันที่นี่ เพื่อหารือถึงวิธีการแก้ปัญหาของฟิวเจอร์กรุ๊ป

ที่ห้องประชุมใหญ่ทุกคนจ้องมองที่หน้าจอขนาดใหญ่ ผู้ชมของ อู๋ ฮ่าวเหริน ปล่อยภาพจากในภาพยนตร์

แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถดูภาพยนตร์ทั้งเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคลิปซึ่งบางเรื่องเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี

"คุณเห็นตึกนั่นไหม เราเปรียบเทียบตึกพวกนั้นกับเมืองที่เขาประกาศออกมา มีตึกแบบเดียวกันเลยกำลังก่อสร้างอยู่ นั่นไง ตึกนั้นนั่นแหละ"

"คุณแน่ใจหรือเปล่า ว่าตึกนั่นดูเหมือนกับในภาพยนตร์?"

คำถามนี้คือสิ่งที่พวกเขาสนใจ เพราะถ้าเป็นเรื่องจริงก็ไม่จำเป็นต้องถามอะไรอีก

ทันทีที่หน้าจอขนาดใหญ่เปลี่ยนไป ข้อมูลที่เกี่ยวกับฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ปรากฏขึ้น และเจ้าหน้าที่กำลังจับตาสถานการณ์ก็พูดว่า: "โปรดดูที่หน้าจอครับ นี่เป็นข้อมูลที่เผยแพร่โดยฟิวเจอร์กรุ๊ป พวกคุณควรศึกษาข้อมูล เทคโนโลยีเหล่านี้สอดคล้องอย่างมากกับเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้"

"มีอุปกรณ์พวกนี้อยู่จริงๆ หรือ?"

"ฟิวเจอร์กรุ๊ปคงไม่ล้อเล่นกับชาวโลกหรอกน่า"

ณ จุดนี้สีหน้าของทุกคนไม่สู้ดีนัก หากฟิวเจอร์กรุ๊ปมีเทคโนโลยีเหล่านี้จริงๆ พวกเขานึกไม่ออกว่าโลกจะกลายเป็นอย่างไร

"ยังมีอีกนะ ให้ลองดูนี่ แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ลอยคว้างอยู่บนท้องฟ้าได้อย่างไร แต่เราควรเห็นผลกระทบของเทคโนโลยีนี้"

“คุณเคสเทล ไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้บ้างหรือ” เจ้าหน้าที่อังกฤษกล่าว

ทุกคนมองไปที่เคสเทล เนื่องจากพวกเขาได้ข่าวว่าสหรัฐฯ มีข้อตกลงกับนายอู๋ ฮ่าวเหริน

และเป้าหมายของการทำธุรกรรมคือยานอวกาศสำหรับเอเรีย 51 ของสหรัฐอเมริกา นี่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับพวกเขา

เคสเทล มองไปที่ตึกที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าในวิดีโอแล้วพูดว่า: "นี่น่าจะเป็นอุปกรณ์ต่อต้านแรงโน้มถ่วง แม้ว่าทางเราได้ลองศึกษาอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่มีความคืบ หน้าเทคโนโลยีนี้สำหรับการผลิตยานอวกาศ ไม่ได้ช่วยอะไรมาก

"ดีล่ะ,

ทำไมเทคโนโลยีนี่ถึงช่วยไม่ได้ "

"อุปกรณ์ต้านแรงโน้มถ่วงเหมาะสำหรับใช้กับดาวเคราะห์เท่านั้น และต้องมีการปรับค่าอุปกรณ์สำหรับดาวเคราะห์แต่ละดวง พอเข้าสู่จักรวาลได้แล้ว อุปกรณ์นี้ก็มีประโยชน์น้อย"

แม้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่นักฟิสิกส์ แต่พวกเขาก็ยังเข้าใจความรู้พื้นฐานนี้ และเริ่มสงสัยว่าทำไมมันถึงไร้ประโยชน์

ในจักรวาลไม่มีแรงโน้มถ่วง สำหรับอุปกรณ์ต่อต้านแรงโน้มถ่วง ไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อจักรวาล

หลังจากการอภิปรายเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ทุกคนในห้องประชุมก็กังวลมาก

"ที่ยังดีหน่อยเพียงเรื่องเดียวก็คือ บริษัทนั่นดูเหมือนจะไม่ได้ทำงานให้กับรัฐบาลจีน กล่าวคือปัจจุบันเทคโนโลยีพวกนั้นมีบริษัทเดียวเท่านั้นเป็นเจ้าของ"

"เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ถ้าเป็นแบบนี้ก็มีแนวโน้มว่าชนชั้นสูงจำนวนมากจะหายไป และพวกเขาทั้งหมดก็จะไปประเทศจีน"

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีวิธีจัดการกับเรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นบริษัทอื่น พวกเขาก็อาจกำหนดบทลงโทษไปแล้ว แต่สำหรับฟิวเจอร์กรุ๊ป พวกเขาไม่กล้าทำอะไรเพื่อบีบบังคับบริษัทนี้

เมื่อใดที่บริษัทไม่พอใจ ไม่ใช้ว่าพวกเขาจะเป็นฝ่ายคว่ำบาตรฟิวเจอร์กรุ๊ป แต่เป็นฟิวเจอร์กรุ๊ปต่างหากที่จะตอบโต้พวกเขา

การอภิปรายก่อไม่ให้เกิดผลลัพธ์ใดๆ สำหรับฟิวเจอร์กรุ๊ปพวกเขาไม่มีวิธีใดเลย แน่นอนว่าบางคนกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่

ประเทศเหล่านี้เชื่อว่าตราบใดที่พวกเขาได้รับการยอมรับจากมนุษย์ต่างดาว พวกเขาก็จะได้รับเทคโนโลยีแบบเดียวกับฟิวเจอร์กรุ๊ป

ดูเหมือนว่าการที่อู๋ ฮ่าวเหริน ใช้ตัวตนของคนต่างดาวเพื่อหลอกคนเหล่านี้ยังได้ผล

ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริการู้สึกว่าตราบใดที่พวกเขาสร้างยานอวกาศได้ก่อนกำหนด ทำให้แน่ใจว่าพวกเขาเก่งกว่าฟิวเจอร์กรุ๊ป

ต่อให้พวกเขาหวังว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะทุ่มพลังงานทั้งหมดไปกับการก่อสร้างบนโลก

กลุ่มคนที่มีความคิดเห็นต่าง พากันเดินออกจากห้องประชุมไป

...

อู๋ ฮ่าวเหริน แห่งฟิวเจอร์กรุ๊ป ไม่รู้ว่าประเทศเหล่านั้นมีการประชุมพิเศษเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้

ในเวลานี้ เขากำลังสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการกลางส่งมา

หลิวเหล่ มองไปที่อู๋ ฮ่าวเหริน ซึ่งกำลังนั่งอยู่ตรงข้ามเขา คราวนี้เขาถูกส่งตัวขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับเมือง

เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องนี้ง่ายมาก แต่พอมาถึงที่นี่ก็พบว่าปัญหาไม่ง่ายอย่างที่คิด

"คุณอู๋ ไม่จำเป็นต้องใช้คนเพื่อจัดการเมืองหรอกหรือ"

"เอ่อ ไม่จำเป็นครับ การจัดการของเมืองนี้แตกต่างจากเมืองทั้งหมดในโลกในปัจจุบัน"

อู๋ชี้ไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วพูดว่า "ดูสิครับ เราใช้หุ่นยนต์ในการดูแลเมืองนี้ นอกจากนี้ผู้คนในเมืองทั้งหมดจะพกพาอุปกรณ์ชนิดหนึ่งซึ่งจะถูกควบคุมโดยปัญญาประดิษฐ์ที่ผมเรียกว่าอุปกรณ์สมองนำแสงส่วนกลาง"

“นอกจากนี้ ในเมืองนี้ไม่ต้องใช้เงิน ค่าแรงงานของทุกคนจะถูกชำระด้วยคะแนนเครดิต..."

ยิ่งได้รับฟังการแนะนำเมืองทั้งหมดจากอู๋ ฮ่าวเหริน ก็ยิ่งทำให้หลิวเหล่ หวาดหวั่นมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกว่าสิ่งที่ชายคนนี้ทำอยู่เป็นเรื่องของพวกอัจฉริยะสติเฟื่อง

"อย่างไรก็ตาม ผมหวังว่าคุณจะส่งข้อความถึงท่านผู้นำ ย่อมเป็นการดีกว่าที่จะไม่ควบคุมการเติบโตของประชากรของจีน อันที่จริงประชากรเองก็เป็นทรัพยากรประเภทหนึ่ง และอาจกลายเป็นทรัพยากรที่ขาดแคลนในอนาคต"

"ประชากรเป็นทรัพยากรงั้นหรือ?"

หลิวเหล่รู้สึกว่าสมองของเขาไม่สามารถคิดตามได้ทัน เขาไม่เข้าใจอู๋ ฮ่าวเหริน

“ดูสิครับ เห็นไหมว่า นี่เป็นอีกโครงการหนึ่งของฟิวเจอร์กรุ๊ปของเรา อีกหนึ่งปีผมจะสร้างเมืองบนดาวอังคารเพื่อความอยู่รอดของมนุษย์ ที่นั่นจะเป็นฐานสำหรับการอพยพระหว่างดวงดาวในอนาคต "

หลิวเหล่เบิกตากว้างและมองภาพบนคอมพิวเตอร์ด้วยท่าทางแปลกๆ ถ้าคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไม่ใช่อัจฉริยะที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง เขาต้องคิดว่าคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั่นบ้าไปแล้ว

อู๋ ฮ่าวเหรินมองท่าทีประหลาดใจของหลิวเหล่แล้วพูดต่อว่า: "ผมหวังว่าประเทศจะสามารถทำให้สื่อการสอนชุดนี้เป็นที่แพร่หลายได้”

พูดจบอู๋ ฮ่าวเหรินก็นั่งรอคนตรงข้ามย่อยข้อมูลเหล่านี้

เพียงไม่กี่นาที หลิวเหล่ก็พูดว่า "ผมทำเรื่องพวกนี้ไม่ได้หรอก ผมต้องรายงาน"

"ข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้วนะครับ คุณสามารถส่งไปให้พวกเขาได้ อ้อ เกือบลืม ยังมีสำเนาของการก่อสร้างประเทศจีนในอนาคตที่ผมออกแบบด้วย กรุณานำเสนอให้คนเบื้องบนถ้าพวกเขาสนใจ"

หลิวเหล่จากไปพร้อมกับข้อมูลที่อู๋ ฮ่าวเหรินมอบให้เขา เขารู้สึกว่าถ้าปล่อยข้อมูลนี้ออกไป คนอื่นจะไม่เชื่อ

อย่างไรก็ตามเมื่อเขามีความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับเมืองที่จะสร้างโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป เขาพบว่าข้อมูลข้างต้นบางอย่างมีความสำคัญต่อประเทศ

แม้แต่ตัวเขาเองในเวลานี้ก็มีแรงกระตุ้นที่จะละทิ้งตำแหน่งปัจจุบันของเขาเพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ปและมุ่งมั่นที่จะเข้าเมืองที่กำลังจะก่อสร้าง

นี่คือเมืองที่ควรมีอยู่ในภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์เท่านั้น ตอนนี้เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่น่าเชื่อและไม่ใช้เรื่องจริง

เขาไม่รู้ว่าจะเกิดผลกระทบอะไรเมื่อส่งข้อมูลไปยังรัฐบาลกลาง

---------------------