CF:บทที่ 454 ไม่มีทางเลือก
วันแรกของปีใหม่ ควรจะเป็นวันที่สนุกสุดเหวี่ยง เสียงอึกทึก และงานรื่นเริง อย่างไรก็ตามมีหลายคนที่อารมณ์ไม่คอยดี
ในห้องประชุมที่หรูหรา กลุ่มคนที่สามารถตัดสินชะตากรรมของประเทศจีนกำลังดูภาพบนหน้าจอขนาดใหญ่
"นี่คือภาพที่เราส่งคนไปดู ดูเหมือนว่าเมืองที่เขาสร้างนั้นทันสมัยกว่าเทคโนโลยียานอวกาศที่เราได้รับมา"
"นี่คือเมืองแห่งที่สอง ซึ่งก็คือ เมืองในทะเลทราย เราได้ส่งคนไปดู แต่น่าเสียดายที่บริเวณโดยรอบถูกปิดกั้นด้วยกำแพงสูงและเราไม่สามารถมองเห็นภาพภายในได้ อย่างไรก็ตามจากสิ่งเหล่านี้สามารถสรุปได้ว่ามีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากขึ้น "
"ยิ่งไปกว่านี้คือข้อมูลที่ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปเปิดตัวในวันนั้น คนจากสถาบันวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถวิเคราะห์ได้เลยว่าข้อมูลพวกนี้ใช้เทคโนโลยีอะไรบ้าง?"
"มีอะไรอีกไหม?" ท่านนายพลถาม
"ไม่มีครับ ทั้งหมดนี่เป็นคือข้อมูลที่เรามี"
"ถ้าผมรู้ว่าจะมีเรื่องแบบนี้ในวันนี้ ตอนนั้นเราน่าใช้วิธีของเราจับกุมเขาและซักถามกองกำลังที่หนุนหลังเขา ถึงตอนนี้เขาน่าจะมีกำลังพอที่จะต่อสู้กับเราได้"
"ผมก็บอกไม่ได้ว่าถ้าเราจับเขาในเวลานั้น และตอนนี้เรามีเทคโนโลยีเหล่านี้ในมือ คุณคุณคิดว่าเราจะจับพวกเขาอย่างได้นั้นหรือ ไม่ว่าในกรณีใดๆ เขามีส่วนร่วมอย่างมากในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ"
"แต่ตอนนี้พฤติกรรมของเขาขัดต่อกฎหมายของรัฐอย่างสิ้นเชิง ... "
"ก่อนที่จะมีความชัดเจน อย่าเพิ่งด่วนตัดสินจนเกินไป เราอนุมัติการก่อสร้างเมืองแล้ว เราจะส่งคนไปคุยกับเขาเกี่ยวกับประชากรของเมือง เราค่อยมาอภิปรายกันหลังจากที่เราทราบแล้วว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร"พอพูดจบท่านผู้นำก็ลุกขึ้นและเดินออกไป
เป็นเรื่องคาดไม่ถึง และเขาก็สงสัยว่าทำไมชายหนุ่มคนนั้นถึงทำอย่างนั้น เป็นเพราะกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังทำให้เขาทำอย่างนั้นเหรอ?
อู๋ ฮ่าวเหริน ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาประกาศทำให้คนเหล่านี้รู้สึกไม่มั่นคง
ตอนนี้สถานการณ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปและการต่อสู้ของหุ่นยนต์กับกองกำลังผู้ก่อการร้ายทำให้คนข้างต้นไม่กล้าเบามือกับเขา
ข่าวที่ประกาศโดยอู๋ ฮ่าวเหริน ทำให้เกิดความปั่นป่วนในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่คิดว่าอู๋ ฮ่าวเหริน อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนมนุษย์ต่างดาวในขณะนี้
หากเป็นไปได้พวกเขาหวังว่าจะได้รับเทคโนโลยีจากอู๋ ฮ่าวเหริน
จากการต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาวในอดีต
ทำให้พวกเขาเพิ่มปมขัดแย้งกับพวกมนุษย์ต่างดาว และคิดว่าเมื่อใดที่มนุษย์ต่างดาวย้อนกลับมายังโลก ก็เป็นเวลาที่พวกมันแข็งแกร่งขึ้น
เนื่องจากมียานอวกาศออกจากโลกไป คนเหล่านี้จึงคิดว่ามนุษย์ต่างดาวที่สนับสนุนอู๋ ฮ่าวเหริน เดินทางออกจากโลกไป
ที่น่าตื่นเต้นที่สุดไม่ใช่ประเทศเหล่านี้ แต่เป็นผู้คนทั่วโลกซึ่งตอนนี้มีโอกาสได้เข้าสู่ฟิวเจอร์กรุ๊ป
ในเวลานี้ไม่มีข้อจำกัด เรื่องสัญชาติสำหรับเมืองในกลุ่มที่จะใช้สำหรับสถานที่ต่างๆ กล่าวคือตราบใดที่เรามีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ประกาศโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป เราสามารถนำไปใช้เมื่อมีการเปิดโควต้า
อย่างไรก็ตามหลังจากเห็นข้อมูลทางเทคนิคที่ออกโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปทุกคนก็แทบเป็นลม พวกเขาไม่เข้าใจความรู้เหล่านั้น และพวกเขาก็ไม่รู้ว่าการใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นคืออะไร
เทคโนโลยีเหล่านั้น มีความรู้มากมายที่พวกเขาไม่เคยได้ยิน
อู๋ ฮ่าวเหริน หยิบยกเทคโนโลยีที่เป็นงานทั้งหมดที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นเขาจึงต้องการคนที่จะเข้าไปในเมืองเพื่อช่วยเหลือหุ่นยนต์ในการสร้างเมืองต่อไป
แต่นักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการติดต่อจากอู๋ ฮ่าวเหริน และได้รับเชิญจากอู๋ ฮ่าเหริน กลับมีความรู้สึกอีกอย่างเมื่อพวกเขาเห็นความรู้นี้
"เห็นไหม อาจารย์ซุวี่ บอกแล้วว่าความรู้นั่นไม่ใช่เรื่องหลอกลวง ฟิวเจอร์กรุ๊ปมีความรู้นั้นอยู่จริงๆ คุณไม่เชื่อหรือ ตอนที่เห็นความรู้นี้นะ"
"ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากไป ผมทำงานในสถาบันวิจัยแห่งชาติ พวกเขาไม่ยอมให้ผมไปเท่านั้นเอง"
"แต่ผมได้ยินมาว่าโครงการวิจัยของคุณ ทางสถาบันไม่ได้ให้ความสำคัญ และคุณไม่สามารถสมัครขอรับทุนได้ แต่ถ้าคุณเข้าสู่ฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วละก็ คุณก็น่าจะรู้ว่ามันง่ายมากสำหรับฟิวเจอร์กรุ๊ปที่จะขอรับทุนสนับสนุนการวิจัย "
พอเห็นอาจารย์ซุวี่ ลังเล เขากล่าวว่า "ได้เห็นทั้งสองเมืองของฟิวเจอร์กรุ๊ปเมื่อคืนนี้ คุณยังไม่เข้าใจอีกหรือว่าเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ปน่าจะมาจากอารยธรรมมนุษย์ต่างดาว"
"ตราบใดที่ประเทศเต็มใจให้ผมไป ผมก็สัญญาว่าจะไปฟิวเจอร์กรุ๊ปกับคุณ"
เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลกในวันแรกของปีใหม่ นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้รับเชิญจากอู๋ ฮ่าวเหริน เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาตัดสินใจที่จะไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ป ก็จะเป็นการโน้มน้าวใจบรรดาเพื่อนๆ ให้ติดตามพวกเขาไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ป
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ พวกเขายังลังเลที่จะไปฟิวเจอร์กรุ๊ป เพราะเกรงว่าจะมีปัญหา
ในตอนนี้ เมืองทั้งสองที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปประกาศออกมา ทำให้ผู้คนทั่วโลกถึงจุดเดือด โดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์
สำหรับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีชั้นสูงด้วยแล้ว พวกนักวิทยาศาสตร์ต้องการมันมากกว่าใคร หลังจากนั้นพวกเขาก็ทำการค้นคว้าหาข้อมูล
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีรายงานว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปมียานอวกาศ
ตอนนี้ ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจกับข้อมูลของฟิวเจอร์กรุ๊ป และต้องการรู้ข้อมูลเพิ่มเติม
โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับเมืองซึ่งเป็นโอกาสสำหรับคนจำนวนมากที่จะเปลี่ยนชะตากรรมของพวกเขา
เห็นได้ว่าชีวิตของพนักงานของกลุ่มและคนอื่นๆ ในฟิวเจอร์กรุ๊ปจะมีความสนุกสนานเพลิดเพลินจริงๆ
ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้กลายเป็นจุดสนใจตามความคิดเห็นของมหาชน และบางคนเริ่มเรียนรู้ความรู้ด้านเทคนิคที่เผยแพร่โดยฟิวเจอร์กรุ๊ป
ทางกลุ่มให้กำหนดเวลาให้พวกเขาศึกษาไม่นานนัก มิหนำซ้ำเทคโนโลยีที่ประกาศโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปจะต้องมีพื้นฐานความรู้บางอย่างจึงจะเรียนรู้ได้
เวลาสามเดือนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเรียนรู้ความรู้เหล่านี้ แม้ว่าจะพูดไม่ได้ว่าเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่เก่งกาจ
มิฉะนั้นใครๆสามารถสมัครเข้าสู่เมืองในฟิวเจอร์กรุ๊ปกันได้หมดนะสิ
แม้ว่าขณะนี้ที่ฟิวเจอร์กรุ๊ป จะเป็นช่วงปีใหม่ซึ่งไม่ได้ทำงาน แต่ที่บริเวณสันทนาการของหอพักในฟิวเจอร์กรุ๊ปมีกลุ่มคนมารวมตัวกัน
"พี่เหมยหรู สมัครได้ไหม?" หลิว หมิงเยว่ เอ่ยถาม
พอมองไปที่กลุ่มคนที่จ้องมองเพื่อฟังคำตอบ หลิว เหมยหรู ก็พูดว่า "ฉันถามว่าสามารถสมัครให้ตัวเองไปที่เมืองนั่นได้ไหม แล้วเจ้านายก็บอกว่าเจ้านายจะสร้างเมืองในทะเล และฉันก็สามารถสมัครได้"
กลุ่มคนเหล่านั้นอุทาน "จะสร้างเมืองในทะเลได้ด้วยเหรอ"
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? พวกคุณไม่เห็นความมหัศจรรย์ของเมืองในทะเลทรายนั่นเหรอ"
ถึงตอนนี้ลู่ เผิงเฟยพูดว่า: "ผมคิดว่ามันจะเป็นการดีสำหรับคุณในการเตรียมใจนะ บางทีสักวันนึงเราอาจจะนั่งยานอวกาศไปที่ดาวเคราะห์ดวงอื่นก็ได้"
แม้ว่าความรู้ที่เจ้านายขอให้เราเรียนนั้นแปลกมาก โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับยานอวกาศที่สอนในโรงเรียน แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฉันก็ยังคิดว่ามันไม่น่าจะจริงที่เราจะขับยานอวกาศไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่น
"อย่างไรก็ตามเราควรศึกษาความรู้ที่สอนในโรงเรียนอย่างตั้งใจดีกว่า มิฉะนั้นในอนาคตเราอาจจะตามการพัฒนาของบริษัทไม่ทันก็เป็นได้"
หลายคนพยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดนี้ พวกเขาพบว่าพัฒนาการของบริษัทกำลังเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้พวกเขาเข้าใจว่าหากพวกเขาไม่สามารถปรับตัวให้ทันบริษัท พวกเขาอาจถูกกำจัดได้เช่นกัน
แม้ว่าจะไม่มีการไล่ออก แต่ก็จะไม่มีโอกาสในการพัฒนา และอาจจะเป็นแบบนั้นไปตลอดชีวิต
เหตุการณ์ของเมืองทั้งสองเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนจำนวนมากแสวงหาความรู้ใหม่ๆ พวกเขาไม่ต้องการใช้ชีวิตแบบนี้ไปทั้งชีวิต
ในเช้าของวันแรกของปีใหม่ อู๋ ฮ่าวเหรินพูดกับพ่อแม่ของเขาว่าเขาจะไปที่เมืองทะเลทรายและผู้บุกเบิกกำลังจะกลับมา
0 ความคิดเห็น