CF:บทที่ 450 คอนเสิร์ตแห่งความฝัน
ในเวลานี้แม้ว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะอยู่ในช่วงวันหยุดแต่ก็ยังมีบางคนที่ยุ่งอยู่นั่นก็คือคือเหล่านักร้อง
คอนเสิร์ตของพวกเขาคือวันก่อนวันสิ้นปี หลายคนกำลังฝึกฝนอย่างเต็มที่ในช่วงนี้ พวกเขาตระหนักดีว่าโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ
"พี่เจิ้ง ตอนนี้เสียงของฉันเป็นยังไงบ้าง?"
“ยอดเยี่ยม หัวหน้าบอกไว้ว่าตราบใดที่รักษาเสียงไว้ได้เพลงต่อไปก็ยังเต็มไปด้วยความหวัง”
เจิ้ง หงกังมองดูเด็กสาวตรงหน้าเขา จากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันเสียงวิเศษทำให้พวกเขาเข้าใจว่าปาฏิหาริย์นั้นคืออะไร
นักร้องเหล่านี้เป็นดั่งปาฏิหาริย์ หัวหน้าคือคนที่ค้นพบปาฏิหาริย์และพวกเขาคือผู้ที่สร้างปาฏิหาริย์
“ฉันประหม่านิดหน่อย ฉันกลัวว่าฉันจะไม่สามารถร้องเพลงตอนที่ฉันขึ้นไปบนเวทีในวันพรุ่งนี้”
"มันปกติที่เธอจะประหม่า เธอแค่ไปที่เวทีคอนเสิร์ต แล้วเธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับคนอื่นเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้นเอง"
เจิ้ง หงกังเข้าใจชัดเจนว่าเธอไม่ได้ประหม่าอยู่คนเดียว นักร้องหลายคนก็ประหม่า แต่พวกเขาไม่กังวล ตามที่หัวหน้าบอก เมื่อพวกเขาขึ้นไปบนเวทีและร้องเพลงความตึงเครียดก็จะหายไป
เพราะพวกเขาเอาชนะความยากลำบากแบบนั้นได้ในตอนแรก และตอนนี้ความตึงเครียดก็เป็นเพียงความรู้สึกทางจิตวิทยาที่เกิดจากคนจำนวนมากเกินไป
เดิมทีในวันสิ้นปีเมื่อคอนเสิร์ตจัดขึ้นในช่วงเวลาพิเศษเช่นนี้ อู๋ ฮ่าวเหรินไม่คาดว่าจะมีคนมามากมาย
มันน่าจะมีเพียงผู้คนจากเมืองใกล้เคียงเท่านั้นที่จะมาร่วมคอนเสิร์ต
ทว่าเมื่อข่าวได้เผยแพร่ไปเมื่อสามวันที่ผ่านมา ตั๋วกว่า 8,000 ใบถูกซื้อภายในหนึ่งชั่วโมง
"ให้ตายเถอะ ฉันจะต้องซื้อตั๋วให้ได้ ถ้าใครสามารถขายตั๋วอีกใบให้ฉันได้ฉันจะเพิ่มราคาเป็นสองเท่า"
"เพิ่มราคาเป็นสองนี่พูดจริงรึ? ตอนนี้ราคาตั๋วต่ำสุดคือห้าเท่า ยิ่งกว่านั้นตอนนี้คงไม่มีใครคิดจะขายหรอก"
"ใครยอมขายตั๋วบ้าง? 30,000 สำหรับแถวหลังสุด 60,000 สำหรับแถวกลาง 80,000 สำหรับแถวหน้าและ 100,000 สำหรับตั๋วแถวพิเศษ แล้วถ้าฉันได้ตั๋วกับคุณอู๋ ฮ่าวเหรินฉันจะจ่ายให้ 200,000 หยวน"
“แต่ล่ะคน นี่มันไม่ใช่แค่ตั๋วคอนเสิร์ตนะ แล้วนี้นายไม่ดูเทศการปีใหม่กับครอบครัวของตัวเองในตอนเย็นหรือ?”
"ฉันมีลางสังหรณ์ว่าใครก็ตามที่ไปดูเทศกาลปีใหม่ คอนเสิร์ตของฟิวเจอร์กรุ๊ปนี้จะต้องไม่ใช่เล่น ๆ แน่นอน"
“มันน่าอิจฉาจริง ๆ เห็นบอกว่าถ้าเป็นพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะสามารถรับตั๋วได้ฟรีด้วย”
สำหรับตั๋วคอนเสิร์ตออนไลน์มันเป็นที่ฮือฮามาก โดยเฉพาะดาราใหญ่ในวงการเพลงพวกเขาก็ไม่ได้รับสิทธิพิเศษจากฟิวเจอร์กรุ๊ปเช่นกัน
ดังนั้นเหล่าคนที่ไม่ได้ซื้อตั๋ว ทำได้เพียงหาทางเพิ่มความสัมพันธ์เท่านั้น
ในตอนนี้มณฑลหยุนหลงไม่ได้เพียงเป็นเมืองเล็ก ๆ เหมือนปีก่อนอีกต่อไปแล้ว พื้นที่เขตเมืองใหม่สองแห่งปรากฏขึ้นซึ่งทำให้ความเจริญรุ่งเรืองของมณฑลหยุนหลงก้าวไปถึงระดับใหม่
การไหลเข้ามาของนักธุรกิจจำนวนมากได้เปลี่ยนเมืองเล็ก ๆ นี้
โอกาสทางธุรกิจที่นำมาโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ทำให้ทั้งมณฑลร่ำรวย
ในย่านธุรกิจใหม่ถัดจากฟิวเจอร์กรุ๊ป ร้านค้าที่นี่อาจจะเยอะกว่าร้านค้าในเมืองใหญ่บางแห่งเสียอีก เพราะถ้าเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงก็จะมาเปิดสาขาที่นี่
เพราะระดับการบริโภคของพนักงานในฟิวเจอร์กรุ๊ปจะสูงกว่าของเมืองใด ๆ แล้วพวกเขาก็รวยมากเสียด้วย
ในวันส่งท้ายปีเก่ามันเป็นวันแห่งการรวมตัวที่มีความสุขสำหรับทุกครอบครัว ในเวลานี้หอคอนเสิร์ตของฟิวเจอร์กรุ๊ปก็เต็มไปด้วยผู้คน
มีดาราและคนดังอยู่ในหมู่พวกเขาด้วย พวกเขาไม่ไปเดินงานเทศกาล แต่มาที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อดูคอนเสิร์ตพิเศษนี้
เมื่อมองหุ่นยนต์ที่คอยบริการอยู่รอบ ๆ คนเหล่านี้ก็ไม่เพียงแค่ตกใจ แต่ยังอิจฉาอีกด้วย
พวกเขาได้ยินว่าคนที่อาศัยอยู่ในเขตหอพักของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้เริ่มใช้หุ่นยนต์เหล่านี้เพื่อทำงานบ้านแล้ว
ตอนหนึ่งทุ่มหอประชุมก็เต็มไปด้วยผู้คน อุปกรณ์ต่าง ๆ ในหอประชุมทำให้คนเหล่านี้รู้สึกถึงพลังด้านเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป
การจัดที่นั่งแบบเกลียวทำให้ทุกคนในคอนเสิร์ตสามารถเพลิดเพลินไปกับการแสดงบนเวทีได้
"ต่อให้ฉันไม่ได้ฟังเพลงมันคุ้มค่าที่จะใช้เงินมากมายไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่"
"ฉันรู้สึกเหมือนเรากับฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่กันคนล่ะโลก ดูระดับของเทคโนโลยีที่นี่สิ มันเหมือนหลุดออกมาจากหนัง”
"ฉันได้ยินมาว่ามีเซอร์ไพร์สในคอนเสิร์ตคืนนี้ด้วย ฉันก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร"
"ถ้ามันเป็นเซอร์ไพร์สจากฟิวเจอร์กรุ๊ปล่ะก็ มันจะต้องสุดยอดแน่นอน"
"’’งานเริ่มแล้ว นี่คือ..."
"ภาพฉายเสมือนจริง มันก็ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป แต่ฉันไม่คิดเลยว่าเจ้าภาพจะเป็นคนฉายภาพเสมือนด้วย"
ช่วงจังหวะที่เจ้าภาพปรากฏตัวทั้งหอคอนเสิร์ตก็เปลี่ยนไป
ทุกคนมองไปรอบตัวพวกเขาด้วยความประหลาดใจ แล้วพวกเขาก็พบว่าพวกเขากำลังนั่งอยู่ในท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวล้อมรอบด้วยดาวระยิบระยับและเห็นโลกสีฟ้าอยู่ไกล ๆ
มีเสียงนุ่มนวลและไพเราะดังขึ้นว่า "ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรียินดีต้อนรับเข้าสู่คอนเสิร์ตแห่งความฝันนี้ ณ ตรงนี้ฉันขอประกาศว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะจัดคอนเสิร์ตแห่งความฝันทุกปี ตอนนี้มาต้อนรับนักร้องคนแรกของเราสู่เวที นี่คือคนงานอพยพ ที่มาถึงระดับรากหญ้า เสียงร้องของเขาจะทำให้คุณรู้สึกได้ว่าพลังคืออะไร"
หลังจากพิธีกรหายตัวไปการเต้นรำที่สวยงามก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าเวที แน่นอนในสายตาของพวกเขาตอนนี้มันไม่ได้เป็นเวทีแต่เป็นโลกเทพนิยายเหยา ฉีในตำนาน
สร้างฉากประแบบนี้ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงทำให้หลายคนรู้สึกเหลือเชื่อ หากไม่ใช่เพราะพวกเขายังรู้สึกถึงเก้าอี้ที่พวกเขานั่งอยู่ พวกเขาคงคิดว่าพวกเขาเข้ามาในแดนสวรรค์และชมการแสดงของเหยา ฉีที่จัดโดยเทพ
เมื่อเสียงอันทรงพลังนี้ดังขึ้น ในไม่ช้าเหล่าผู้ชมก็นึกถึงตัวละครในตำนานมากมาย
ดังที่อู๋ ฮ่าวเหรินกล่าวเมื่อนักร้องเหล่านี้ขึ้นสู่เวทีแล้วพวกเขาก็จะไม่ประหม่า
เสียงที่น่าตกใจเช่นนี้ทำให้ทั้งสถานที่เงียบสงบ เหลือเพียงทำนองที่ไพเราะและเสียงที่น่าตื่นเต้นกังวานไปทั่วหูของและกินใจทุกคน
อู๋ ฮ่าวเหรินนั่งอยู่ในห้องเดี่ยวบนชั้นสองมองผู้คนที่อยู่ด้านล่างกำลังเพลิดเพลินไปกับความตื่นเต้นที่นำพามาโดยเสียงเหล่านั้น แล้วเขาก็ส่ายหัว
แม้ว่าเสียงของคนที่เลือกมาจะคล้ายกับของคนในอนาคต แต่พวกเขายังห่างไกลจากคำว่าใช้ได้ในแง่ของการดึงดูดใจ
เมื่อเทียบกับผู้คนในอนาคตเหล่านั้น ผู้คนบนโลกปัจจุบันยังด้อยกว่ามาก
แต่แค่ระดับนี้สำหรับคนสมัยปัจจุบันที่ยังไม่ได้พัฒนา ความดึงดูดนั้นถือว่าแข็งแกร่งจริง
อย่างไรก็ตามเพลงก็ไม่มีที่ติด้วย เขาเชื่อว่ามันจะทำให้เกิดความอื้อฉาวในวันพรุ่งนี้แน่นอน
เมื่อเพลงจบลงทุกคนยังคงหลงอยู่ในเพลงเมื่อครู่ หากไม่ได้เจ้าภาพมาพูดพวกเขาอาจต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยกว่าจะตอบสนองได้
นักร้องและดาราที่มาดูคอนเสิร์ตขณะนี้กำลังตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าจะมีใครที่สามารถร้องเพลงที่สะเทือนไปถึงจิตวิญญาณได้
แน่นอนพวกเขาสังเกตุว่าผลของการร้องเพลงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมในสถานที่จัดงานเลย
ทำให้พวกเขามีความคาดหวัง ว่าเสียงของนักร้องคนที่สองจะเป็นที่น่าตกใจได้เหมือนกับนักร้องคนแรก
ด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในสถานที่ พวกเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ท่าอวกาศที่วุ่นวาย และยานอวกาศขนาดใหญ่กำลังบินเข้าออกจากที่นี่
0 ความคิดเห็น