CF:บทที่ 425 แผนการเกษตรกรรม

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 425 แผนการเกษตรกรรม

หลังจากที่อู๋ ฮ่าวเหรินคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็เห็นว่าหลังฟังก์ชันเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดนี้เปิดใช้งานแล้วนั้น เขาก็ยังมีอีกอย่างที่ต้องทำ

ไม่อย่างงั้นแล้ว มันก็จะเป็นแค่การอัพเกรด เพราะหลังจากที่ร่างกายผู้คนแข็งแกร่งขึ้นแล้วนั้น พวกเขาก็จะเจอปัญหาเดียวกับที่ในกองทัพเจอ

ปัญหาที่ว่าก็คือ ร่างกายจะกินพลังงานเร็วเกินไป ทำให้รู้สึกหิว แม้จะกินไปแล้วห้ามื้อก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้

แล้วในอนาคตผู้คนก็จะแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้แคปซูลพลังงานเพราะมีการพบพืชที่ให้พลังงานสูงบนดาวดวงนั้น และด้วยเหตุนี้พืชพลังงานสูงพวกนั้นจึงถูกนำเอามาใช้สำหรับเรื่องนี้ในที่สุด

ร่างกายของมนุษย์จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆด้วยการที่ยีนจะมีการปรับเปลี่ยนจากรุ่นสู่รุ่นให้เหมาะกับการอยู่รอดในสถานการณ์ที่น่ากลัวมากมาย และนี่คือเหตุผลที่คาดเดาไว้แล้วอย่างแม่นยำ

และนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมนุษย์ถึงได้แข็งแกร่ง เพราะถ้าไม่มีร่างกายที่แข็งแรงแล้วนั้น อุปกรณ์ต่อสู้บางอย่างก็จะไม่สามารถใช้งานได้เลย

“จี้ ดูแล้วเราต้องสร้างฐานการเกษตรกรรมขึ้นเพื่อเปิดในส่วนของเกษตรกรรมบนเว็บไซท์ทางการนะ”

อู๋ ฮ่าวเหรินคิดถึงสถาบันวิจัยการเกษตรใกล้ๆกับฟาร์มที่ได้จัดตั้งขึ้น ดูแล้วเขาคงจะต้องออกไปหาตัวพวกเขามาแก้ปัญหาเรื่องนี้

เขาดูเมล็ดพืชที่เก็บไว้ในช่องซองแดง ซึ่งมีอยู่เป็นแสนเมล็ด บางส่วนอู๋ ฮ่าวเหรินก็ได้มาจากชาวไร่ ดังนั้นเรื่องที่จะแจกจ่ายของพวกนี้ไปทั่วโลกจึงไม่ใช่ปัญหา

เมล็ดพืชพวกนี้มนุษย์เป็นคนเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้เหมาะกับการดูดซึมของร่างกายมนุษย์ยิ่งขึ้น ซึ่งจะดีกว่าการออกไปหาพืชพลังงานสูงด้วยตนเอง

เมื่ออู๋ ฮ่าวเหรินกลับมายังสถาบันวิจัยที่ฝั่งของฟาร์มนั้นก็เห็นว่าทางสถาบันกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ สถานที่ที่พวกเขาใช้กันอยู่ตอนนี้จึงเป็นบ้านของฟิวเจอร์กรุ๊ปแทน

หลังจากเข้ามาในฟาร์ม อู๋ ฮ่าวเหรินกลับพบตู้ ซิ่นถิงในชุดคลุมสีขาวนั่งอยู่ในเรือนพัก

เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา เธอจึงลุกขึ้นก่อนจะเดินออกมา

“ทำไมถึงไม่กล้ามาเจอหน้าฉันล่ะ” เธอถามขึ้น

อู๋ ฮ่าวเหรินมองกลับไปด้วยสีหน้างุนงง พลางรู้สึกว่าคงมีอะไรผิดปกติกับหัวของผู้หญิงคนนี้แน่ๆ

“แล้วทำไมผมต้องอยากเจอคุณด้วย มีคนอีกมากมายบนโลกนี้ต่างหากที่อยากจะเจอผม  แล้วถ้าผมได้เจอกับทุกคน ก็ไม่รู้สึกเหนื่อยอะไรนะ แต่สิ่งที่คุณพูดออกมาเนี่ย มีอะไรผิดปกติกับหัวคุณหรือเปล่า”

“นาย!”

แต่เมื่อตู้ ซิ่นถิงกำลังจะเริ่ม เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่สามารถกับสู้คนอื่นๆได้เลย

“อืม กล้าพูดนะว่าเป็นคนประดิษฐ์ของทุกอย่างเอง คุณต้องไปขโมยสิ่งประดิษฐ์ของคนอื่นมาแน่ๆ”

อู๋ ฮ่าวเหรินจ้องไปที่เธอก่อนจะส่ายหัว “เฮ้อ ผมไม่อยากเสียเวลากับคุณอีกแล้ว ใครที่ดูแลสถาบันของคุณ ขอผมไปพบหน่อย”

“ซิ่นถิง อย่าพูดกับคุณอู๋แบบนั้น”

ศาสตราจารย์เกาเดินมาแต่ไกลก่อนจะว่าขึ้น “ผมเป็นคนดูแลสถาบันวิจัยแห่งนี้ ที่ผมมานี่ก็เพื่อจะขอโทษคุณอู๋ในเรื่องนี้ เรื่องที่ซินถิงเข้าใจคุณผิดไป”

อู๋ ฮ่าวเหรินมองชายสูงวัย คนที่เขาได้ยินมาว่าพืชจำนวนกว่าครึ่งของงานวิจัยของเขาคนนี้กลายเป็นงานล้าสมัย

 “ท่านผู้เฒ่า ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ เป็นเพราะพืชของผมจริงๆที่ทำให้งานวิจัยของคุณต้องยกเลิกไป”

“ก็เป็นการยกเลิกที่ดีนะ ผมหวังว่ามันจะเกิดขึ้นในอีกหลายๆครั้ง พืชที่นี่ทำให้ผมประหลาดใจมากเลยล่ะ”

“ลมอะไรหอบคุณอู๋มาที่นี่ในตอนนี้กันล่ะเนี่ย เพราะยังไงก็ต้องใช้มันในสถาบันวิจัยอยู่แล้ว ก็แค่ถามน่ะ”

“มีบางเรื่องที่ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณครับ  คุณคิดว่าทางสถาบันของคุณจะรู้เรื่องเกี่ยวกับการใช้เครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดในกองทัพไหมครับ”

อาจารย์เกาถามขึ้น “หมายถึงว่า อาหารแบบไหนที่ไม่สามารถชดเชยการฝึกฝนที่กินพลังงานนั้นได้ใช่ไหม”

“ใช่ครับ นั่นละปัญหา ตอนนี้การใช้งานที่เพิ่มเข้ามาของเครื่องอาจก่อใหเกิดปัญหานี้กับคนทั้งหมด”

หลังจากได้ฟังที่อู๋ ฮ่าวเหรินพูดแล้วนั้น ศาสตราจารย์เกาก็นึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะเขาเคยเข้าร่วมงานวิจัยในกองทัพครั้งหนึ่งพลางหวังว่าผลลัพธ์จากการวิจัยของตนจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ในเบื้องต้น

แต่เมื่อตอนนี้ได้ฟังอู๋ ฮ่าวเหรินแล้วนั้น ก็ดูไม่น่าเชื่อเลยจริงๆว่าการใช้งานเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดจะประสบความสำเร็จกับการฝึกกองทหาร

“เมื่อเพิ่มการใช้งาน เครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดของคุณก็ทรงพลังมากแล้วนี่”

“แม้ผลที่ได้จะไม่ดีเท่ากับการฝึกฝนในกองทัพ แต่นั่นก็ถือว่าไม่เลว การเพิ่มขึ้นมาแบบนี้ผ่านไฟฟ้าชีวภาพ จะกระตุ้นวิวัฒนาการของมนุษย์และจะใช้พลังงานมากขึ้นกว่าการฝึกในกองทัพอีก”

 “คุณกำลังจะเผยแพร่พืชพวกนี้ออกไปเพื่อแก้ปัญหานี้ใช่ไหมครับ”

“ใช่แล้วครับ มีเพียงแค่วิธีนี้วิธีเดียวที่จะแก้ปัญหาได้”

“แล้วทางสถาบันเราจะต้องทำอะไร” เกาถามขึ้น

“นี่คือข้อมูลส่วนหนึ่งที่ทางสถาบันของคุณจะต้องตรวจสอบ แล้วยังเหมาะกับการปลูกพืชพวกนี้ด้วย และถ้าเป็นไปได้ ผมก็หวังว่าคุณจะหาใครสักคนมาช่วยเกษตรกรแก้ไขปัญหาเรื่องการลงพืชพวกนี้นะครับ”

จริงๆแล้ว สำหรับอู๋ ฮ่าวเหริน นี่ก็ดีแล้วที่เขามอบขั้นตอนนี้ให้กับทางรัฐบาลโดยตรง และอาจจะเร็วกว่าด้วย แต่เพราะครั้งก่อน อู๋ไม่ต้องการติดต่อมาหาพวกเขาในขั้นตอนนี้เอง

“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวผมจะเปิดรายวิชาพิเศษในโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนมาเรียนเรื่องพืชพวกนี้ครับ”

อู๋ ฮ่าวเหรินคิดว่านั่นเป็นความคิดที่ดีทีเดียว เพราะการลงพืชพวกนี้ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญจริงๆ

 “นี่เป็นข้อมูล สำหรับขั้นตอนปัจจุบัน พืชหลักๆที่เราจะลงมีอยู่ห้าชนิด นอกจากนี้ ผมจะจัดตั้งแผนกเกษตรกรรมภายใต้ชื่อฟิวเตอร์กรุ๊ป ถ้ามีใครในสถาบันของคุณสนใจอยากมาร่วมกับเรา”

“ไม่รังเกียจเลยครับ ซิ่นถิง เห็นเธอบอกว่ายังไม่ได้งานนี่ ทำไมถึงไม่ไปร่วมงานกับคุณอู๋ในแผนกเกษตรกรรมล่ะ”

ตู้ ซิ่นถิงที่ฟังการสนทนามาโดยตลอดจ้องไปที่อู่ ฮ่าวเหรินพลางคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วจึงตอบไปว่า “ได้ค่ะ หนูจะเข้าไปทำงานแผนกเกษตรกรรมของเขาด้วย”

อู๋ ฮ่าวเหรินมองเธอทั้งยังคาดไม่ถึงว่าเธอจะตอบตกลง แต่นั่นก็เป็นเพราะเธอคือนักเรียนที่ศาสตราจารย์สูงวัยผู้นี้พามาด้วยตัวเอง ความรู้ในสาขานี้ไม่น่าจะขี้เหร่นัก

หลังจากกลับมาจากฟาร์ม อู๋ ฮ่าวเหรินก็ประกาศว่าพืชทุกชนิดจะได้รับการโปรโมตในแผนกเกษตรกรรมที่กำลังจะเปิดตัวขึ้นเป็นแผนกใหม่

นอกจากนี้ ในเอกสารยังมีอธิบายปัญหาของเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดหลังจากใช้ฟังก์ชันเสริมสร้างความแข็งแรง ไม่อย่างงั้น คนที่ต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนั้น ผมไม่อยากคิดเลยว่าจะมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเครื่องแน่ๆ

ข่าวนี้ทำเอาหลายคนประหลาดใจ

 “ฉันเพิ่งได้เห็นแผนกเกษตรกรรมที่เปิดใหม่ แล้วก็พืชที่เขาว่าจะใช้แก้ปัญหาที่มาจากเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัด”

“นายอาจไม่รู้ว่าคนของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้เริ่มกินพืชพวกนั้นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เห็นมีคนบอกว่าจำนวนพืชในฟาร์มของฟิวเจอร์กรุ๊ปน่ะมีมากกว่าที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้อีกนะ”

“แล้วฉันสามารถซื้ออาหารพวกนั้นได้ไหม”

“ฉันยังซื้อไม่ได้เลย และฉันก็ได้ยินมาว่ามีซุปเปอร์มาเก็ตของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่มีไว้ให้กับพนักงานของกลุ่มเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นนะ พอได้ฟังที่พวกเขาพูด พืชพวกนั้นกลับมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าพืชพวกโน้นอีก ในฟิวเจอร์กรุ๊ปเขาเรียกอาหารตัวนี้ว่าโสมผัก”

“จริงๆแล้ว เครื่องตัวนี้ได้เปิดใช้ฟังก์ชันให้พนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วงั้นหรือ”

“ก็เห็นได้ชัดว่าเครื่องที่พวกเขาใช้เหมือนกับของกองทหารเลย ได้ยินมาว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นในกองทัพ การแก้ปัญหาคือการลงพืชที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นผู้จัดให้”

ไม่มีใครคาดคิดว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะเก่งในเรื่องเกษตรกรรมด้วย

เมื่อได้เห็นข่าวที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปปล่อยออกมา หลายประเทศก็รู้สึกอึ้ง ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ได้เริ่มติดต่อกับฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อที่จะสอบถามเรื่องการลงพืช


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น