CF:บทที่ 422 ฐานบนโลก

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 422 ฐานบนโลก

ณ ห้องประชุมในเมืองจงหนานไห่ สีหน้าของกลุ่มคนในนั้นรวมถึงเจ้าหน้าที่ต่างดูย่ำแย่

“ในตอนนี้ พวกคุณก็น่าจะได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้ว เห็นได้ชัดว่านี่มีผลกับเรา และนี่คือสาเหตุว่าทำไม และดูเหมือนคราวก่อนเราจะยุติเรื่องนี้ได้ทันเวลา แต่ก็ยังก่อให้เกิดผลไม่ดีอยู่”

“ผมรู้ว่ามันต้องเกิดขึ้น แต่ก็โชคดีที่ยุติลงได้สักที ไม่อย่างงั้นผลที่ตามมาคงหนักพอดู”

ท่านนายพลที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้กล่าวขึ้น “ต้องเครียดอะไรกัน ฉันคิดว่าเขาต่างหากที่กำลังกลัวเรา เราจะจับคนมาและตรวจสอบฟิวเจอร์กรุ๊ป บางทีเราอาจจะเผยองค์กรลับที่อยู่เบื้องหลังเราที่ไม่กล้าเผยตัวเองออกมาก็ได้”

“อย่าพูดแบบนั่นเลยครับ ท่านนายพล เพราะในท้ายที่สุด แม้เราจะไม่รู้ว่าองค์กรลับที่อยู่เบื้องหลังเขาคือองค์กรไหน การที่จะทำให้ประเทศจีนวุ่นวายด้วยเทคโนโลยีที่พวกเขามีก็ไม่ใช่เรื่องยาก”

“ความวุ่นวายงั้นหรือ ถ้าองค์กรนั่นแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ ก็ต้องเข้มแข็งได้เองและต้องไม่ปิดเป็นความลับมากขนาดนี้สิ”

“ก็แค่นั้นล่ะครับ แล้วก็ ผมยังไม่ได้เอาวิดีโอออกมาให้ดูกันเลย เดี๋ยวเรามาดูกันนะครับ”

ทันทีที่หัวหน้าพูดจบ ห้องประชุมก็เงียบลง เว้นแต่บางคนที่ยังมีสีหน้าไม่พอใจนัก

ในมุมมองของพวกเขา ตราบใดที่พวกเราจับตัวอู๋ ฮ่าวเหรินมาได้ เราก็จะสามารถควบคุมฟิวเจอร์กรุ๊ปและค้นหาองค์กรลับที่ว่านั่นผ่านทางตัวอู๋ ฮ่าวเหริน

สถานการณ์ในตอนนี้ของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้แบ่งกลุ่มที่เป็นทางการสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งต้องการคงสถานการณ์แบบในปัจจุบันไว้ ส่วนอีกกลุ่มต้องการจับตัวอู๋ ฮ่าวเหรินมาเพื่อเอาเทคโนโลยีขั้นสูงขึ้นไปและตามหาองค์กรที่อยู่เบื้องหลัง

ตอนนี้ คนส่วนใหญ่คือพวกอนุรักษ์นิยมและส่วนน้อยคือพวกหัวรุนแรง ครั้งที่แล้ว พวกหัวรุนแรงเป็นคนวางแผนลงมือ

วิดีโอสั้นมาก แค่หนึ่งนาที แต่ในห้องประชุมนั้นกลับไม่มีใครพูดคุยอะไรกันเลย

เนื้อหาในวิดีโอนั้นก็ง่ายๆ เป็นรูปอาวุธที่ใช้โจมตีดาว ดาวทุกดวงถูกทำลายเป็นชิ้นๆ

“จะเป็นยังไงนะ ถ้าเขามีอาวุธแบบนี้จริงๆ แล้วยานอวกาศเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”

“อาวุธตัวนี้ช่างคล้ายกับปืนยิงลำแสงที่เขาเคยใช้ยิงโจมตียานรบของอเมริกาเอามากๆ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือว่าในตอนนี้ พลังงานนั่นแข็งแกร่งมากกว่าเดิม ถ้ามีอาวุธแบบนั้นโจมตีมาจากนอกอวกาศ ก็จะไม่สามารถกันไว้ได้เลย”

“วิดีโอนี้แปลกมาก คุณเห็นหรือยัง ดูไม่น่าจะเกิดขึ้นบนโลกเลยนะหรือจะให้พูดก็คือ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า

แล้ววิดีโอนี้ไปถ่ายมาได้ยังไง”

 “ยานอวกาศ นี่คือแหล่งของเทคโนโลยีที่หนุนหลังเขาอยู่ ยานอวกาศที่ชนแล้ว นี่เป็นวิดีโอเหนือจากยานอวกาศขึ้นไป”

“ถ้าอย่างงั้น อาวุธตัวนี้ก็ไม่ควรตกไปอยู่ในมือของเขา แต่อยู่ในมือของกองกำลังเบื้องหลังเขาแทนสินะ”

ในตอนนั้นเอง หัวหน้าก็ได้กล่าวขึ้น “ไม่ว่าคนที่ควบคุมอาวุธนี้จะเป็นใคร การที่ไม่เกิดเหตุการณ์อย่างล่าสุดนี้จะยังดีซะกว่า”

หลังจากประชุมกันแล้ว วิดีโอดังกล่าวก็ถูกส่งไปยังสถาบันการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์ระดับชาติเพื่อดูว่าวิดีโอนี้เป็นของจริงหรือไม่

ในตอนนั้นเอง อู๋ ฮ่าวเหรินจากฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่รู้ว่าเขาได้สร้างผลกระทบอะไรต่อวิดีโอนี้

และไม่สนใจแม้กระทั่งเรื่องการขายรถด้วยซ้ำ เขานั่งอยู่ในห้องทดลองพลางมองรูปภาพจากยานอวกาศ

“ดาวเคราะห์นี้ก็ไม่ใหญ่นัก ขนาดพอๆกับดวงจันทร์”

“ขนาดของดาวเป็น 60 เท่าของโลก แต่มวลสารของทั้งดาวเคราะห์เป็น 20 เท่าของโลก ดูได้จากข้อมูลที่ดาวเคราะห์ดวงนี้ระเบิดที่ศูนย์กลางของกาแล็คซีก่อนจะถูกโยนออกไป”

อู๋ ฮ่าวเหรินพยักหน้าก่อนจะถามขึ้น “ยังมีทรัพยากรที่เราต้องเอามาใช้บนดาวนี้อีกบ้างไหม”

“มีค่ะ ยังมีวัสดุอีกหลายตัวเลยในการสร้างยานอวกาศ”

อู๋ ฮ่าวเหรินลูบคาง คิดไปสักครู่ก่อนจะเอ่ยขึ้น “งั้นก็สร้างฐานหุ่นยนต์บนนั้น แล้วให้ขุดทรัพยากรมา หลังจากสร้างเรือขนส่งขึ้นมาแล้ว เราก็จะส่งขึ้นไปเอาทรัพยากรพวกนั้นมา”

“ฉันได้ส่งข้อความนี้ไปให้ผู้บุกเบิกที่สร้างฐานขุดเหมืองขึ้นบนดาวเคราะห์ดวงนี้ ด้วยวิธีนี้ เวลาของนักสำรวจที่จะกลับไปยังโลกอาจยืดไปอีกสองเดือน”

“งั้นก็ยืดไปอีกสองเดือน ตอนนี้ เราจะต้องสะสมทรัพยากร เวลาไม่ใช่ปัญหา”

อู๋ ฮ่าวเหรินดูข้อบ่งชี้ของดาวเคราะห์ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการมนุษย์จะอยู่อย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเห็นดวงดาวที่ล้อมรอบ อู๋ ฮ่าวเหรินจึงปรับแผนที่ดาวที่เขาได้มาอย่างรวดเร็วก่อนจะตรวจทรัพยากรของดาวที่อยู่แวดล้อม

“จี้ เธอบอกว่าถ้าเราเอาดาวเคราะห์นี้เป็นจุดศูนย์กลาง เราก็จะขยายไปถึงดาวดวงนอกๆได้ แล้วถ้าจะสร้างฐานขุดเหมืองบนดาวเคราะห์ทั้งหมดและเก็บทรัพยากรมันมาล่ะ”

 “ใช่ค่ะ เราสามารถสร้างฐานการผลิตยานอวกาศบนดาวนี้ได้ในอนาคต และเก็บเกี่ยวทรัพยากรของดาวที่ล้อมรอบ จากนั้นก็ส่งทรัพยากรเหล่านี้ไปยังดาวที่อยู่ถัดจากทางเชื่อมรูหนอน”

อู๋ ฮ่าวเหรินปรับเปลี่ยนแผนที่ดาวของทั้งพันธมิตรจักรวาลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพบดวงดาวที่ใกล้ที่สุดในกาแล็กซีและพันธมิตรจักรวาลแล้วทำเครื่องหมายบนนั้น

จากนั้นก็เริ่มคำนวณสถานที่ที่จะวางกองกำลังป้องกันเพื่อป้องกันสงครามอนาคต

แต่โชคร้าย เขาไม่มีประวัติของอารยธรรมอื่นๆในพันธมิตรจักรวาลเลยน่ะสิ

ไม่อย่างงั้นแล้ว เขาอาจจะได้เจอของดีๆบ้างก็ได้

อย่างเช่น ถ้าเขาหาของโบราณมาได้ เทคโนโลยีก็จะก้าวหน้าขึ้นไปอีก

“จี้ ในสองเดือนนี้ ปล่อยให้นักสำรวจไปดูดวงดาวพวกนี้ซะ แล้วเอาหุ่นยนต์ติดไปกับพวกเขาเพื่อให้ไปสร้างฐานการผลิตหุ่นยนต์และทำการขุดเหมืองแร่บนดาวดวงนั้น”

“ได้ค่ะ”

ตอนนี้ ไม่มีใครมาแย่งดวงดาวไปจากเขาได้ อู๋ ฮ่าวเหรินเข้าครอบครองทุกดวงโดยสมบูรณ์

เมื่อต้องคอยมองแผนที่ดวงดาวตลอดทั้งเช้า อู๋ ฮ่าวเหรินก็เริ่มรู้สึกเบื่อขึ้นมาเล็กน้อย

“จี้ เลือกเอาสำเนาข้อมูลยานรุ่นแรกสุดขึ้นมาชุดหนึ่งทีซิ”

อู๋ ฮ่าวเหรินกำลังจะทำงานใหญ่ เพราะมันทั้งน่าสนใจและไม่น่าสนใจ มีคนบอกว่าดนตรีที่เล่นเพียงชิ้นเดียวไม่เพราะเท่ากับเล่นเป็นวง

แน่นอน ก่อนหน้านั้น เขามีสิ่งหนึ่งที่ต้องทำซึ่งจะเป็นสิ่งที่อัพเกรดการใช้งานของเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดและปรับปรุงชีวิตทั้งหมดของมวลมนุษย์

เมื่อเขาได้ประกาศข้อมูลนี้ออกไปแล้ว ปัญหาที่กวนใจมนุษยชาติอย่างการอยู่อาศัยและทรัพยากรก็จะได้รับการแก้ไข

“จี้ มีหุ่นยนต์ติดอาวุธกี่ตัวที่อยู่ในฐานลับใต้น้ำ”

“สองร้อยตัวค่ะ แล้วเราก็ได้เริ่มขุดเหมืองที่ใต้ดินกันแล้ว โดยที่หุ่นยนต์ทุกตัวสามารถเปลี่ยนพลังงานเป็นพลังงานฟิวชันได้”

 “สองร้อยตัวหรือ น้อยไปนะ คงต้องผลิตมาเพิ่ม เอาล่ะ ผลิตเพิ่มอีกพันหนึ่ง และหลังจากนั้น ส่งหุ่นยนต์ทุกตัวไปยังที่แห่งนี้”

อู๋ ฮ่าวเหรินชี้ไปบนแผนที่โลก โดยชี้ไปที่ตะวันออกกลาง

สงครามที่นี่น่าจะจบลงแล้ว ในช่วงหลังจากนี้ เขาไม่ต้องการให้คนบนโลกต้องตายมากนัก

เพราะพวกเราต้องการให้ยุคของการสำรวจจักรวาลอันยิ่งใหญ่ก้าวไปข้างหน้า และในตอนนี้ผู้คนบนโลกก็เหลือน้อยเต็มที

ในตอนนี้ เขต 51 ในสหรัฐอเมริกา กลุ่มคนต่างมองหลุมที่เผยอออกมา สีหน้าตื่นเต้น

ในที่สุด พวกเขาก็ได้เปิดชั้นแรกขึ้นมาอีกครั้ง แล้วพวกเขาทั้งหมดก็เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ข้อมูลอีกหนึ่งอย่างถูกปล่อยออกมาในช่วงที่ประตูเปิดพอดี

แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เข้าไปนอกอวกาศ ข้อมูลก็ถูกตัดด้วยดาวเทียมที่อู๋ ฮ่าวเหรินเป็นคนปล่อยออกไป