CF:บทที่ 390 การสอบเข้าที่ยากลำบาก

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 390 การสอบเข้าที่ยากลำบาก

 

แน่นอนว่า, เรื่องของการสร้างเมืองของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น ได้สร้างความฉงนให้กับพวกเขาอย่างมาก, และจำนวนผู้สมัครก็ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

ถึงแม้ว่าสัญญาแปลกๆของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะทำให้รู้สึกไม่ค่อยดี, แต่ทว่า หลังจากที่ได้ทราบข่าว คนจำนวนมากก็ได้เริ่มพากันแห่เข้าไปสมัคร

 

การได้เข้าทำงานที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, เป็นอะไรที่หลายคนต้องการอย่างมาก, ไม่ว่าจะดูที่พนักงาน, เงินเดือนและสวัสดิการของฟิวเจอร์กรุ๊ป, ล้วนแล้วแต่น่าอิจฉาทั้งสิ้น

 

"บ้าจริง, เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ทำไมถึงสมัครไม่ได้นะ?"

 

"ฉันด้วย, พวกว่าฉันมีปัญหาด้านความน่าเชื่อถือ, ฉันยังไม่รู้ตัวฉันเองเลย, ว่าฉันมีปัญหาด้านความน่าเชื่อถือตรงไหน?"

 

"พวกคุณไม่ต้องบ่นหรอก, ในเมื่อพวกคุณไม่สามารถสมัครเข้าไปได้, ก็หมายความว่าพวกคุณมีปัญหาจริงๆนั่นแหละ, จนถึงตอนนี้, มีคนมากมายที่บอกว่าตัวเองนั้นไม่มีปัญหาอะไร, แต่ระบบตรวจสอบของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นกลับปฏิเสธพวกเขา, แล้วผลก็เป็นอย่างพวกคุณนี่แหละที่ออกมาโวยวาย"

 

"ฮ่าๆ, พวกคุณต้องเคยทำอะไรมาก่อนแน่ๆถึงได้พูดจัดให้พวก "ระดับล่าง" บนโลกอินเตอร์เน็ท, ระบบAI.ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นสุดยอดมาก สามารถสืบตามรอยที่พวกคุณเคยทำไว้บนอินเตอร์เน็ทได้, คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไมถึงได้ให้กรอกข้อมูลโดยละเอียดมากถึงขนาดนั้น"

 

"ระบบ AI. ของฟิวเจอร์กรุ๊ปสามารถค้นหาข้อมูลของพวกเราทั้งหมดได้จากข้อมูลพวกนั้นอย่างงั้นเหรอ?"

 

"ถูกต้องนะคร้าบ, สามารถพูดได้เลยว่าด้วยประสิทธิภาพของAI.ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, ข้อมูลจำนวนมากบนอินเตอร์เน็ทไม่สามารถป้องกันฟิวเจอร์กรุ๊ปได้, คุณลืมเรื่องของสงครามแฮคเกอร์ไปแล้วเหรอ? ในเวลานั้นเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นได้ก้าวล้ำกว่าโลกไปไกลมากแล้ว"

 

เรื่องในครั้งนี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากเสียหน้าเป็นจำนวนมาก, เพราะพวกเขาได้ซ่อนความลับมากมายเอาไว้

 

อาจพูดได้ว่าอินเตอร์เน็ทนั้นไม่มีความลับสำหรับคนบางคน, เมื่อใดที่ความลับถูกเก็บไว้บนอินเตอร์เน็ทแล้ว, ก็อาจที่จะถูกพบได้

 

จริงๆแล้ว, ในบางประเทศได้ทราบถึงสถานการณ์ครั้งนี้มานานแล้ว, แต่พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องจัดการอะไร, เพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเขาที่จะใช้คอมพิวเตอร์

 

โชคดีที่, ฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่ได้ใช้สุดยอดเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการตามหาความลับทุกที่ในโลก, มิเช่นนั้นแล้วโลกนี้คงได้วุ่นวายเพราะฟิวเจอร์กรุ๊ปแน่, และทุกคนก็จะต้องใช้คอมพิวเตอร์ด้วยความระมัดระวังแน่

 

"หลังจากที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว, ขอบ่นหน่อยเถอะว่า พวกคุณตอบคำถามแบบนี้กันได้ยังไงเนี่ย? อยากจะเป็นลม รู้สึกท้อแท้มากมาย"

 

"ดูเหมือนว่าผมจะไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกพ่ายแพ้แล้วล่ะ, ในที่สุดก็ได้ก็ตั้งกลุ่มได้ซักที, ผมน่ะนะพ่ายแพ้ตั้งแต่ข้อแรกแล้ว"

 

"ฉันด้วย,           ฉันยอมแพ้ตั้งแต่ข้อสาม, แล้วก็คนข้างบนนะ, อย่าได้ถามเลย, ดูเหมือนคำถามของแต่ละคนจะไม่เหมือนกันด้วย"

 

"อยากจะเป็นลม, มีคนที่พ่ายแพ้มากขนาดไหนเนี่ย, ผมเองก็เพิ่งยอมแพ้มา, ผมเองก็เพิ่งพ่ายแพ้มา, แล้วก็ได้ตั้งโพสท์เอาไว้, สำหรับให้คนที่พ่ายแพ้เข้ามารายงานตัว, และสำหรับคนที่ไม่ได้พ่ายแพ้มารายงานตัวด้วย"

 

ในหมวดสมัครเข้าเรียนนั้น, มีอยู่ 2 โพสท์ที่เกี่ยวกับคนพ่ายแพ้และคนที่ทำได้

 

10 นาทีให้หลัง, ทุกคนต่างก็พูดอะไรไม่ออก เพราะจำนวนคนที่พ่ายแพ้นั้นมีสูงมากเกินไป, จาก 1 หมื่นคน, ไม่มีใครที่ทำข้อสอบได้เลย

 

เมื่อรวมถึงการสมัครเข้าสอบแล้ว, เหล่าคนที่ไม่ผ่านนั้น ต่างก็พากันตกใจถึงเกณฑ์มาตรฐานของฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

"อยากจะบ้าตาย, ในปัจจุบัน, มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่มารายงานตัวว่าทำได้, มันจะยากอะไรขนาดนั้น!"

 

"เอาน่า, เอาน่า ยังมีโอกาสรอบสองอีกน่า, แต่ว่านะได้ยินมาว่าการสอบรอบสองและรอบแรกนั้น, ดูเหมือนว่าจะได้เรียนต่างกันนะ"

 

"รู้สึกเหมือนกันว่าทางฟิวเจอร์กรุ๊ปกำลังทดสอบ IQ ยังไงอย่างงั้น"

 

"ไม่หรอก, เป็นการทดสอบกระบวนการคิดและการเรียนรู้, ซึ่งคำถามแปลกๆพวกนี้อาจจะดูเหมือนง่าย, แต่มันยากมากในการที่จะหาคำตอบออกมา"

 

"จะบอกให้, จงเป็นตัวของตัวเอง, แล้วตอบไปตามที่ตัวเองคิด, อย่าไปคิดมากเกินไป, ไม่อย่างนั้นแล้ว คำตอบของคุณจะไม่ผ่าน"

 

"เมียจ๋าออกมานี่เร็ว, มาดูพระเจ้ามาปรากฏตัวแล้ว! ไอ้น้องชาย, ถ้าทุกคนสมัครเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปได้นะ, พวกนายอย่าลืมมาดึงฉันเข้าไปบ้างนะ!"

 

"ฟิวเจอร์กรุ๊ปน่ะไม่ได้มีระบบแบบนั้นหรอกนะ, ดังนั้นคุณอย่าหวังให้ใครมาช่วยดึงคุณเข้าบริษัทหรอก, ตราบเท่าที่คุณมีความสามารถจริงๆ, คุณก็สามารถเข้าไปในบริษัทได้, แต่ถ้าไม่มีความสามารถจริงๆก็คงช่วยอะไรไม่ได้"

 

"อยากจะเป็นลม, ผมลองคำนวนดูแล้ว จากผู้สอบรอบแรกไม่ผ่าน 10,000 คน, จะมีผู้สอบผ่านแค่คนเดียวเท่านั้น"

 

"พี่ชาย, คุณคำนวนพลาดรึเปล่า? ผมคิดว่า 1 ใน 1 แสนคนมากกว่าที่จะสอบผ่านน่ะ"

 

โอกาสของการสอบผ่านในครั้งนี้ทำให้หลายคนถึงกับพูดอะไรไม่ออก

 

สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือผู้ที่สอบผ่านในรอบแรกนั้นจะได้กลายมาเป็นนักวิจัยหลักที่สำคัญของฟิวเจอร์กรุ๊ป, การทำงานในอนาคตของพวกเขาจะเกี่ยวของกับการวิจัยและพัฒนาทั้งหมดในอนาคต

 

แต่น่าเสียดายที่, มีอัจฉริยะมากมายต่างได้เข้าเรียนโดยโรงเรียนเหล่านั้นแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินจึงทำได้แต่คัดเลือกคนที่ยังไม่ได้เข้าโรงเรียนเหล่านั้นเท่านั้น

 

ณ ฟิวเจอร์กรุ๊ป, จื่อหยงได้นั่งอยู่กับห้องออฟฟิศของอู๋ฮ่าวเหริน, จิบชาและนั่งมองอู๋ฮ่าวเหริน

 

"ผมบอกแล้วไงว่า, ขอให้ผมซัก 5 ที่ได้ไหม, จะให้พวกเราจ่ายให้ก็ได้?"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูชายคนนี้อย่างตกตะลึงแล้วตอบกลับมา "ไม่ได้หรอก, ผมบอกคุณตามตรงเลยนะ, คนที่ถูกสอนในโรงเรียนแห่งนี้จะไร้ประโยชน์เมื่อต้องไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่บริษัทของฟิวเจอร์กรุ๊ป"

 

"มันไม่สำคัญหรอกว่าจะไร้ประโยชน์รึเปล่า, ขอที่ให้ผมแค่ 5 ที่เท่านั้น, แล้วคุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นเลย"

 

"คุณมั่นใจนะ?, ผมไม่ได้เป็นคนที่ทำหน้าที่เป็นคนสอนนะ?"

 

"ไม่เป็นไร"

 

"ก็ได้, คุณสามารถส่งคนมา 5 คนมาเข้าเรียนได้"

 

เนื้อหาในการสอนในครั้งนี้นั้นจะพิเศษมาก, ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ที่ล้ำสมัยในอนาคต

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นรู้ดีว่ามันจะต้องมีผลกระทบต่อโลกแน่ถ้าเนื้อหาพวกนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เขาต้องการที่จะซ่อนมัน แต่บางอย่างก็ไม่สามารถที่จะปิดบังเอาไว้ได้   

 

แต่ทว่า, เขามีอาวุธสำหรับใช้ป้องกันตัวอยู่ในช่องเก็บของ, เป็นอาวุธที่เขาได้มาจากพ่อค้าอาวุธ, เขาจึงมีความกล้ามากพอที่จะสู้กับทุกคน

 

แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ดี, คือเขาไม่รู้ว่ามีผู้คนมากมายขนาดไหนที่จะสามารถยอมรับการเรียนรู้ที่ก้าวกระโดดระดับนี้ได้, นั้นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้ตั้งค่าให้การสอบที่ยากมากถึงระดับนั้น, ซึ่งป้องกันไม่ให้มีคนที่รับไม่ไหว, จนนำไปสู่ปัญหาทางด้านจิตใจได้

 

แน่นอนว่า, หนทางที่ดีที่สุดคือต้องเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่ยังอยู่ในวัยเด็ก ซึ่งเป็นช่วงที่สามารถรับรู้ได้มากที่สุด

 

ดังนั้น, ในอนาคต, หลักสูตรของโรงเรียนประถมที่จะก่อตั้งโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น ก็จะแตกต่างจากข้างนอกด้วย

 

ถ้ายานอวกาศถูกสร้างขึ้นมา, ปัญหาเหล่านี้ก็จะถูกแก้ไข เชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้น, ทุกคนก็จะสามารถยอมรับการศึกษาของที่นี่ได้

 

แล้วคนจำนวนมากมายต่างก็จะพากันชักชวน และต้องการที่จะมาเข้าเรียนโรงเรียนนี้

 

เมื่อจื่อหยงกลับไป, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้แจ้งเขาไปว่าข้อมูลด้านเทคนิคของนิวเคลียร์นั้นพร้อมที่จะส่งมอบให้กับทางรัฐแล้ว, และบอกให้พวกเขาส่งคนมารับเอาไปที

 

วัสดุที่ส่งมาไว้กลางทะเลนั้นก็ได้ถูกขนย้ายมาไว้ที่ฐานทัพบนเกาะแล้ว, หลังจากที่หุ่นยนต์นาโนสร้างเสร็จแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินก็จะเป็นที่จะต้องออกทะเลอีกครั้ง เพื่อสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นขึ้นที่ฐานทัพบนเกาะ

 

แน่นอนว่า, สำหรับข้อมูลนี้, ทางกระทรวงกลาโหมได้เข้มงวดมาก ในตอนเย็น มีทหารเต็มสองคันรถพร้อมด้วยกระสุนจริง

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ข้อมูลถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน, และแบ่งคนออกเป็น 3 กลุ่มเพื่อนำข้อมูลกลับไป

 

และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำส่งกลับไปโดยเครื่องบินขับไล่, ซึ่งทำให้อู๋ฮ่าวเหรินนั้นถึงพูดไม่ออก

 

เขารู้ดีว่าหากคนพวกนั้นได้ข้อมูลนี้ไป, พวกเขาจะต้องพัฒนาและสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นจากข้อมูลนี้แน่

 

เรื่องของผลกระทบนั้น, มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาอยู่แล้ว, อย่างไรก็ตาม, มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิชชั่นของอเมริกาอยู่แล้ว

 

"นายท่าน, ฉันได้เจอภาพแปลกๆมา, ซึ่งน่าจะเกี่ยวอะไรกับฐานทัพลับของญี่ปุ่นค่ะ, อยากจะดูมั๊ยคะ?"

 

"ฐานทัพลับของญี่ปุ่นงั้นเหรอจี้? เอามาดูหน่อยซิว่าคนพวกนี้กำลังแอบพัฒนาอะไรกันอยู่นะ”

------------------------------


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น