CF:บทที่ 386 หารือกันเรื่องสงคราม

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 386 หารือกันเรื่องสงคราม

 

อู๋ฮ่าวเหรินมาดูการก่อสร้างฐานทัพลับบนภูเขา, ในปัจจุบันการดำเนินการเป็นไปได้อย่างราบลื่นดี, ถ้าเป็นไปตามนี้ต่อไป สถาบันวิจัยบนภูเขานี้คงจะแล้วเสร็จใน 1 เดือน

 

ถนนบนเขานี้ไม่ค่อยเป็นเส้นตรงเท่าไรนัก, อาจเป็นเพราะบนเขานี้มีบ่อน้ำผุดมากบนเขา, ทำให้ถนนที่นี่คดเคี้ยวมาก

 

ด้วยเหตุนี้จึงได้มีเส้นทางน้ำไหลเวียนอยู่สองฝั่งถนน, ทำให้เกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงามนี้

 

ในห้องแล็บ, มีกองชิ้นส่วนมากมายที่เขาสร้างขึ้นมาและบรรจุเก็บเอาไว้ในกล่อง, ถ้ามีใครได้เห็นบันทึกที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของเขา, คงได้เกิดเรื่องที่น่ากลัวแน่

 

เมื่อใดที่ชิ้นส่วนทั้งหมดนี้สร้างเสร็จหมดแล้ว, แล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกันก็จะกลายเป็นอาวุธที่สุดยอดขึ้นมาได้

 

แน่นอนว่าในปัจจุบัน, อู๋ฮ่าวเหรินยังไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนทั้งหมดให้สำเร็จได้ ดังนั้นเขาจึงผลิตชิ้นส่วนที่เขาพอจะผลิตขึ้นมาเองได้ก่อน

 

-----------------------------------------------------------------

 

ในออฟฟิศของท่านผู้นำในปักกิ่ง, เลขาณุการได้เขามารายงานเรื่องของสถานการณ์ในปัจจุบัน

 

พอเมื่อพูดถึงเรื่องของอเมริกาแล้ว, ท่านผู้นำก็คิ้วขมวดขึ้นมาทันทีและถามกลับไป "เจ้าหนูนั่นยังไม่ได้ตอบกลับมาอีกเหรอ?"

 

"ยังครับ, เราควรที่จะส่งใครไปเร่งเขาหน่อยดีไหมครับ?"

 

"อืม, ในเมื่อเขาไม่ได้ตอบอะไรมา, ก็แสดงว่าองค์กรที่อยู่เบื้องหลังเขานั้นไม่ได้ตอบอะไรเขากลับมาเช่นกัน, ทางสหรัฐเองก็เริ่มคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆช่วงนี้ด้วย"

 

มองดูรูปภาพที่ถ่ายมาโดยดาวเทียม, ก็พบเรือรบอเมริกาเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆน่านน้ำจีนทุกวัน, ซึ่งทำให้ท่านผู้นำรู้สึกไม่ค่อยดียิ่งนัก

 

ยิ่งไปกว่านั้น, สหรัฐอเมริกาที่ค้นพบเทคโนโลยีนิวเคลียร์ขนาดย่อมนั้นก็เริ่มอวดเบ่งใส่ในกลุ่มระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆมากกว่าแต่ก่อนเสียอีก

 

ถ้าพวกเราปล่อยให้พวกเขามีอาวุธจู่โจมหรือการป้องกันที่ล้ำสมัยแล้ว, บางทีพวกเขาอาจจะเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3 แล้วบางทีพวกเขาอาจจะยึดครองโลกได้เลยก็ได้

 

ในขณะเดียวกัน, ผู้คนในเพนตาก้อนต่างก็กำลังหารือถึงเรื่องนี้

 

"ท่านประธานาธิบดีครับ, ถ้าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นเป็นไปตามที่พวกเราสงสัยไว้จริงๆล่ะก็, เขานั้นสมควรที่จะต้องถูกเก็บนะครับ, มิเช่นนั้นแล้ว ตัวตนของเขาจะต้องเป็นปัญหากับแผนการของพวกเราแน่นอนครับ"

 

"ผมเองก็เห็นด้วยครับ, ในเมื่อเขาไม่ต้องการที่จะมาเข้าร่วมกับการพัฒนาสหรัฐ แล้วยังข่มขวัญกองทหารของเราอีก, ผมคิดว่าจะเป็นการดีกว่าที่จะกำจัดเขาครับ"

 

เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับกลางแม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมา, แต่พวกเขาต่างก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้

 

ท่านประธานาธิบดีจึงนิ่งคิดอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้นมา "ถึงแม้พวกเราอยากจะฆ่าเขา, แต่มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น, เพราะพวกเราก็ได้ปฏิบัติการไปหลายๆอย่างไปแล้ว แต่ก็จบลงด้วยความล้มเหลว"

 

"ท่านประธานาธิบดีครับ, ให้เป็นหน้าที่ของทางกองทัพของพวกเราจัดการเรื่องนี้เถอะครับ"

 

ในที่สุดประธานาธิบดีก็ตกลงที่จะใช้แผนลอบสังหารอู๋ฮ่าวเหริน, ซึ่งภารกิจนี้จะดำเนินการโดยทางกองทัพ

 

ในเวลานี้, อู๋ฮ่าวเหรินที่กำลังอยู่ในระบบซองแดง, กำลังคุยกันถึงเรื่องประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติกับคนในนั้นอยู่

 

"จากข้อมูลประวัติศาสตร์พวกนี้, มันไม่ง่ายเลยสำหรับพวกเราที่จะพัฒนาให้มาถึงระดับเดียวกับในปัจจุบันได้"

 

"ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเนี่ยมันน่าแปลกจริงๆเลยนะ" หินปีศาจพูดขึ้นมาบ้าง "โดนอารยธรรมนั้นรุกรานแล้วยังรอดมาและเข้าสู่สหพันธ์จักรวาลได้อีกเนี่ย"

 

"จริงๆแล้ว, ผมเองก็สงสัยเกี่ยวกับตัวร้ายที่มารุกรานอารยธรรมของพวกคุณเหมือนกัน, พวกคุณพบอะไรบ้างไหม?" คนจากอารยธรรมอื่นถามขึ้นมาบ้าง

 

"ไม่พบอะไรเลย, พวกเราได้ทำการตรวจสอบยุคมืดแล้ว แต่ก็ยังไม่พบคำตอบอะไร, แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่าคือในตอนที่พวกเราได้ทำการค้นหาข้อมูลของอารยธรรมทั้งหมดในสหพันธ์จักรวาลดู พวกเรากลับไม่พบอารยธรรมนั้นเลย"

 

"ยิ่งไปกว่านั้น, จากสถานการณ์ในตอนนั้น, อารยธรรมนี้ก็ตั้งใจที่จะทำลายอารยธรรมมนุษย์ให้สิ้นซากด้วย"

 

"จริงๆแล้ว, พวกเราเคยสงสัยว่าน่าจะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับอารยธรรมพาลอส, แต่พวกเราก็ยังไม่พบหลักฐานอะไร"

 

มนุษยชาติเองไม่เคยรู้เลยว่ามีความเกลียดชังอะไรระหว่างอารยธรรมมนุษย์กับอารยธรรมพาลอส, อย่างไรก็ตาม พวกเราจะพบว่ามีเงาของอารยธรรมชั้นสูงที่อยู่เบื้องหลังสงครามทั้งหมดที่มนุษย์ได้พบเจอ ตั้งแต่เข้ามาสู่สหพันธ์จักรวาล

 

อู๋ฮ่าวเหรินที่มองดูข้อมูลที่พวกเขาได้แสดงออกมาให้ดู หัวใจของเขานั้นก็ตกใจมากขึ้นเรื่อย, เขาไม่รู้เลยว่าโลกในยุคนี้จะต้องพบเจอกับการรุนรานของอารยธรรมนี้หรือไม่

 

แล้วถ้ามันเกิดขึ้นมา, เขาจะแก้ไขมันได้อย่างไร?

 

จากข้อมูล, เรื่องของการรุกรานของอารยธรรม ด้วยระดับของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของโลกเพิ่งจะเข้าสู่ระดับอารยธรรมชั้นต่ำเท่านั้นเอง, มิเช่นนั้นแล้ว อารยธรรมมนุษย์คงจะได้ไม่มีตัวตนในอนาคตแน่

 

"ผมอยากจะถามหน่อยว่า, ถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง, อารยธรรมมนุษย์ต้องมียุทโธปกรณ์มากขนาดไหนถึงจะหลีกเลี่ยงการถูกกวาดล้างของอารยธรรมนั้นได้?"

 

"ถ้าพวกเราย้อนกลับไปได้, มียานรบรุ่นล่าสุดของอารยธรรมมนุษย์ซัก 2 ลำ, ก็เพียงพอที่พวกเราจะสามารถต่อต้านได้โดยปราศจากการสูญเสียล่ะนะ, มีบางข้อมูลที่หลงเหลือเอาไว้จากยุคมืดบอกว่าตอนนั้นเรามีเพียงยานรบไม่กี่ลำที่ใช้สู้บนอวกาศในตอนที่มนุษยชาติเพิ่งเริ่มเข้าสู่จักรวาล

 

"และเทคโนโลยีของอารยธรรมที่มารุกรานเราในตอนนั้นก็ไม่ได้ทรงพลังมากด้วย, เพราะเพิ่งจะเข้าสู่ยุคท่องอวกาศเท่านั้น, นั่นคือเหตุผลที่ผู้คนสงสัยกันว่าจะต้องมีอารยธรรมที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังอารยธรรมที่มารุกรานแน่"

 

"ณ เวลานั้น, มนุษยชาติเพิ่งจะออกสำรวจดวงดาวรอบๆและยังไม่เคยพบอารยธรรมนี้มาก่อนเลย, หรือก็คือ พวกเขามายังอารยธรรมมนุษย์ผ่านทางรูหนอนนั่นเอง"

 

อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับพูดอะไรไม่ออก, เขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อ, เขาทำได้แต่คิดถึงยานรบรุ่นล่าสุดเท่านั้น แต่ทว่า, มันก็ทำให้เขารู้แล้วว่าเขาควรจะทำอะไรต่อไป, การรุนรานของอารยธรรมนี้มันจะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งแน่

 

เขานั้นคิดที่จะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของโลก, ถ้าอารยธรรมนั้นยังจะมาที่อารยธรรมมนุษย์เมื่อถึงเวลานั้น, อู๋ฮ่าวเหรินจะทำให้พวกนั้นต้องเสียใจ

 

แต่คำถามคือเขายังไม่รู้แน่ชัดว่าการปรากฏขึ้นมาของระบบซองแดงนั้นจะทำให้การรุกรานของอารยธรรมนั้นเกิดไวขึ้นหรือไม่

 

หลังจากที่ออกมาจากระบบซองแดง, อู๋ฮ่าวเหรินคิดถึงเรื่องนั้นและตัดสินใจที่จะทำอะไรอย่างหนึ่ง

 

เขาจำเป็นที่จะต้องพัฒนาเกมขึ้นมาสำหรับใช้ฝึกฝนขับยานอวกาศ, มิเช่นนั้นแล้ว, มันจะเป็นการเสียเวลาไปอย่างมากถ้าต้องมาฝึกฝนหลังจากที่ได้ยานอวกาศมาแล้ว

 

เพื่อที่จะยืนยันในเรื่องนี้, เขาจึงกลับเข้าไปในระบบซองแดงอีกครั้ง, และก็พบกับนักวิจัยและจึงได้ถามเขาถึงเรื่องที่เกี่ยวข้อง

 

แน่นอนว่า, ในอนาคตนั้นมีระบบจำลองการขับยานอวกาศอยู่แถมสมบูรณ์แบบมากด้วย, เพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับโรงเรียนฝึกนักบินที่จะปล่อยให้นักเรียนนั้นขึ้นขับยานจริงๆทันที

 

"คุณต้องการเทคโนโลยีจำลองเสมือนจริงมากมาย, เดี๋ยวฉันจะส่งข้อมูลไปให้ก่อน, ส่วนเรื่องเกมที่คุณบอกเดี๋ยวฉันจะลองหาแบบที่แจกมาให้แล้วส่งไปให้คุณทีหลังละกัน

 

อู๋ฮ่าวเหริน, ผู้ซึ่งได้ข้อมูลมา, ก็เริ่มทำการศึกษาข้อมูลอย่างตั้งใจและไม่นานนักเขาก็พูดอะไรไม่ออก

 

เขาจะต้องสร้างห้องสำหรับจำลองภาพขึ้นมา, แต่มีปัญหาคือเขาไม่รู้ว่าบนโลกนั้นจะมีวัสดุเพียงพอให้เขาใช้หรือไม่

 

หลังจากที่ล้มเลิกความคิดนี้ไป,  เขาจึงได้ย้อนกลับไปใช้แผน 2 และเตรียมตัวพัฒนาเกมอย่างง่ายๆขึ้นมาก่อน

 

มันไม่ยุ่งยากอะไร, เพราะช่วงที่ผ่านมานี้ ด้วยความนิยมของระบบVRนั้น มีความสามารถเทียบเท่าได้กับห้องจำลองเกมส์

 

แต่ทว่าถ้าจะให้เครื่องเกมชนิดนี้เป็นที่นิยมขึ้นมาได้นั้น มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย และค่าใช้จ่ายก็จะสูงมากขึ้นด้วย

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้จะต้องทำให้ประเทศต่างๆเกิดความอิจฉาแน่

 

"จี้, เร่งความเร็วการก่อสร้างกองกำลังติดอาวุธบนเกาะ, ถ้าปราศจากกองกำลังป้องกันแล้ว, จะได้เอาของในซองแดงออกมา, แล้วยังมีเรื่องของประเทศต่างๆอีก, มันทำให้รู้สึกแย่จริงๆน้า"

 

"ถ้าเร่งความเร็วการก่อสร้างไปมากกว่านี้, มันจะกลายเป็นที่สังเกตได้ค่ะ"

 

ตราบเท่าที่กองกำลังติดอาวุธถูกสร้างออกมาได้ก่อน ก็เพียงพอที่จะมั่นใจเรื่องความปลอดภัยของพวกเราได้แล้ว, มันก็ไม่สำคัญแล้วว่าพวกเราจะถูกรู้หรือไม่"

 

อู๋ฮ่าวเหรินคิดที่จะอัพเกรดระบบซองแดงให้ถึงเลเวล เพื่อที่เขาได้เอายานอวกาศที่เจ้าแห่งรถบินได้ได้เตรียมเอาไว้ให้เขา

 

ด้วยสิ่งนั้น, มันเป็นไปไม่ได้อีกที่จะมีคนมาขู่เขาได้อีก, ถึงแม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะทำลายโลก, อู๋ฮ่าวเหรินก็จะพาใครบางคนหนีออกไปจากโลกและเข้าสู่จักรวาล

 

แต่ทว่าพวกเขานั้นไม่สามารถที่จะทำลายโลกได้จริงๆหรอก, ต่อให้ทั้งโลกโดนถล่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์ก็ตาม เพราะอู๋ฮ่าวเหรินสามารถแก้ปัญหาเรื่องของกัมมันตภาพรังสีได้

---------------------


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น