TB:บทที่ 120 เดินท่ามกลางสายฝน

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

TB:บทที่ 120 เดินท่ามกลางสายฝน


เมื่อเห็นเฉินหลงตกลง ฮั่วหมิงเหรินก็เรียกเฉินหลงว่า "อาจารย์"


อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเรียนรู้อะไรจากอาจารย์ ฮั่วหมิงเหรินได้ให้เบอร์ของเขากับฮั่วหมิงเหรินและจากนั้นฮั่วหมิงเหรินก็กลับไปอย่างมีความสุขเพื่อรอวันเหมาะๆที่เขาจะได้ฝึกทักษะการแพทย์จากเฉินหลง


หลังจากที่ฮั่วหมิงเหรินกลับไป เฉินหลงก็ได้ขับรถพาลู่เซียงกลับบ้าน ลู่เซียงที่ปกติจะเป็นคนที่ดูร่าเริงตลอดแต่วันนี้ตอนนี้เมื่อเธอถูกพามาส่งที่บ้านเธอกลับค่อนข้างเงียบ เฉินหลงคิดว่าเธอดูแปลกไปเล็กน้อยแต่เขาก็เดาว่าเธอน่าจะคิดเรื่องแฟนของเธออยู่และเขาคงไม่จำเป็นต้องคิดมากเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าพลังของเฉินหลงจะมาถึงระดับขอบเขตกำเนิดแล้วแต่เขาก็ยังคงเป็นหนุ่มเวอร์จิ้นและไม่ได้รู้ของผู้หญิงมากนัก


เมื่อลู่เซียงเห็นว่าเฉินหลงไม่มีทีท่าจะพูดอะไรเลยตลอดทางนั้นจึงทำให้เธอยิ่งโกรธเข้าไปอีก เธอก็ไม่ได้พูดอะไรกับเฉินหลงด้วยซึ่งมันทำให้บรรยากาศในรถดูแปลกๆไป


หลังจากที่ได้ส่งลู่เซียงถึงหน้าบ้านแล้ว เธอก็เข้าไปบ้านโดยที่ไม่ได้พูดอะไร


หลังจากที่ลู่เซียงลงจากรถไปแล้ว เฉินหลงก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที เขาเกาหัวพร้อมกับขับรถกลับ


เมื่อเห็นว่าเฉินหลงขับรถออกไปแล้ว ลู่เซียงก็ร้องกรี๊ดออกมาทันทีและเธอก็สบถด่าเขาว่า 'คนโง่' อยู่ในใจ จากนั้นเธอก็กลับมามีอาการปวดหัวและจะหาแฟนที่เหมาะสมให้กับตัวเอง


วันถัดมา การประชุมแลกเปลี่ยนไม่ได้ถูกเผยแพร่สาธารณะในอินเตอร์เน็ตอย่างกว้างขวางนัก และชื่อของเฉินหลงก็ไม่ได้ถูกกล่าวถึงแม้สักนิดเดียว ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะใช้อำนาจของพวกเขาปกปิดถึงเรื่องนี้ด้วย และพวกชาวอเมริกาก็ไม่มีหน้าที่จะพูดอะไรกับความอับอายและการพ่ายแพ้ของการแข่งขันครั้งนี้


หลังจากที่เมื่อวานนี้กุเรื่องแฟน ลู่เซียงเธอก็กำลังมองหาคนที่จะมาเป็นแฟนเธอ เพราะเธอไม่อยากรู้สึกอับอายเมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินหลง แล้วเธอก็ไม่ได้มีเวลาที่จะตามตื้อเฉินหลง นอกจากนี้ ตอนนี้มหาลัยก็ใกล้จะเปิดแล้ว ส่วนฮ่าวซือเหวินก็ไม่ได้มาหาเฉินหลงเลย เฉินหลงจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องกิจการของบริษัท ในที่สุดเฉินหลงก็รู้สึกเบาสมองสักที


เมื่อเฉินหลงรู้สึกผ่อนคลายแล้ว จี้โม่ซีก็เพิ่งได้ให้ตัวหยุดพักผ่อนจากงาน เธอจึงเข้าเมืองมาหาเฉินหลง สุดท้ายแม้เฉินหลงจะเป็นผู้ชายที่เก่งมาก แต่เขากลับรู้สึกโดดเดี่ยวในเมืองหลวงนี้ และแม้ว่าทั้งสองคนจะแชทคุยกันทุกวัน พวกเขาก็ต่างรู้สึกไม่เหมือนกับตอนที่อยู่ด้วยกัน ดังนั้นจี้โม่ซีจึงเข้าเมืองมาหาเฉินหลง


เป็นครั้งแรกที่จี้โม่ซีเข้ามาที่เมืองหลวง เฉินหลงจึงอยากที่จะพาเธอมาที่นี่อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน แต่เขาก็ได้ไปเยี่ยมชมจุดชมวิวหรือชมเมืองของเมืองหลวงนี้มาบ้างแล้ว


จี้โม่ซีตั้งใจจะมาอยู่ในเมืองประมาณอาทิตย์นึง นอกจากจะอยู่เที่ยวเล่นทุกวันแล้ว สถานที่นี้ยังเป็นที่ที่โรแมนติกสำหรับคู่รัก ทั้งจี้โม่ซีและเฉินหลงทั้งคู่ยังคงมีความมั่นใจในกันและกันอยู่มาก หากพวกเขาทั้งคู่ไม่มีความมั่นใจในกันและกัน มันอาจเกิดช่องว่างระหว่างพวกเขาได้ แต่ตอนนี้ช่องว่างพวกนี้มันไม่อีกต่อไปแล้วและความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นยังดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนหลายเท่าด้วย พูดได้ว่าเหมือนกับกาวที่ติดกันหนึบ


"ที่รัก ถ้าเป็นแบบนี้ตลอดไปได้ก็ดีเนอะ" จี้โม่ซีซบไปที่แขนเฉินหลงพร้อมพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน หลังจากที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เปลี่ยนไป เธอก็ได้เปลี่ยนชื่อเรียกเฉินหลง


คู่รักหนุ่มสาวที่ได้ลิ้มรสผลไม้ต้องห้ามเป็นครั้งแรกก็ย่อมหวังว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาและตลอดไป


เฉินหลงมองไปที่จี้โม่ซีและพูดอย่างจริงจังว่า "ที่รัก พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป"


จี้โม่ซีไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่กอดตอบเฉินหลงเท่านั้น


ตั้งแต่ที่พวกเขาคบกัน พวกเขาก็ไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์ เวลานี้พวกเขาจึงไม่รับโทรศัพท์จากใครเลยยกเว้นเบอร์จากคนในครอบครัวโทรมา เดิมทีพวกเขาต้องการที่จะอยู่ในรังรักของพวกเขาต่อ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีอาหารเหลืออยู่ในบ้านเลย พวกเขาจึงต้องออกไปซื้อของข้างนอกและออกไปรับลมด้วย พวกเขาใส่ชุดลำลองออกไปเพื่อที่จะสะดวกต่อการไปเดินเล่นรับลม ครั้งนี้เฉินหลงไม่ได้เป็นคนขับรถ


หลังจากที่ถึงซุปเปอร์มาเก็ตจี้โม่ซีจับแขนเฉินหลงแล้วเดินเล่นไปด้วยกันซึ่งมันทำให้รู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมาก  หลังจากที่ช็อปปิ้งในซุปเปอร์มาเก็ตและซื้ออาหารเสร็จ เฉินหลงและจี้โม่ซีก็กลับ ตอนที่พวกเขาซื้อของในซุปเปอร์มาเก็ต ด้านนอกตอนนี้ฝนกำลังตก เฉินหลงจึงต้องซื้อร่มมาด้วย หลังจากที่ออกมาจากซุปเปอร์มาเก็ต เฉินหลงก็กางร่มและโอบจี้โม่ซีเข้ามาในร่มเดินไปที่รถด้วยกัน


"ที่รัก พวกเราไม่ได้เดินตากฝนด้วยกันนานแล้วนะคะ " จี้โม่ซีมองเฉินหลงและพูด


"เดินตากฝนมันดีตรงไหนกัน? ถ้าคุณไม่สบาย ผมจะรู้สึกไม่ดีเอานะ " เฉินหลงจุ๊บจี้โม่ซีและพูดกับเธอ


"ที่รักเป็นคนดีจังเลย" จี้โม่ซีมองเฉินหลงด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก


"สามีควรจะทำดีกับภรรยา นั้นมันก็ถูกต้องแล้ว" ใบหน้าของเฉินหลงก็แสดงออกอย่างไม่แสแสร้ง


หนุ่มสาวที่กำลังอยู่ภายใต้ร่มกำลังเดินท่ามกลางสายฝนอย่างช้าๆ ฝนที่ตกลงมาก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เฉินหลงกลัวว่าจี้โม่ซีจะเปียก เขาจึงเอียงร่มไปฝั่งเธอซึ่งมันทำให้ไหล่ของเฉินหลงเปียกน้ำฝน ดวงตาของจี้โม่ซีเริ่มแดงก่ำเมื่อเธอเห็นเช่นนั้น


ความรักในหญิงสาวนั้น เวลาที่อยู่ในห้วงความรักความรู้สึกของพวกเธอจะเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรักและไวต่อความรู้สึกด้วย


เมื่อทั้งสองคนเดินมาถึงร้านเสื้อผ้าหลุยส์วิตตอง ก็ได้มีรถเฟอร์รารี่ รุ่น458 ได้มาจอดอยู่หน้าร้านด้วยความเร็ว


อย่างไรก็ตาม น้ำที่นองอยู่บนถนนด้วยน้ำฝน ด้วยความเร็วของรถเฟอร์รารี่นั้นเร็วมาก น้ำที่อยู่บนถนนก็สาดมาโดนเฉินหลงและจี้โม่ซี


สิ่งแรกที่เฉินหลงตอบสนองคือบังไม่ให้ร่างของจี้โม่ซีโดนน้ำที่กระเซ็นมาโดยการที่เขากอดเธอและใช้ร่างกายของตัวเองบังไม่ให้น้ำมาโดนเธอ


ตอนนี้ได้มีชายหญิงได้ออกมาจากรถคันนั้นโดยที่ไม่หันไปมองเฉินหลงเลย พวกเขาเดินตรงไปที่ร้านค้าและแสดงออกเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ขับรถจนน้ำกระเซ็นไปโดน


เมื่อเห็นว่าทั้งผู้หญิงและผู้ชายไม่ได้แม้แต่จะกล่าวคำขอโทษ เฉินก็โกรธขึ้นมาทันที


"พวกคุณควรขอโทษรึเปล่า?"


"โทษนะ ผมต้องขอโทษคุณด้วยหรอ?"หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเฉินหลง ชายหนุ่มคนนั้นก็หันมามองเฉินหลงด้วยสีหน้าที่เหยียดหยาม


ชายคนนี้อายุราว 25-26 ปี รูปร่างหน้าตาก็ดูไม่แย่นัก เขาใช้ของแบรนด์เนมและดูมีกลิ่นผู้ดีด้วย


"ไม่ควรหรอ?" เฉินหลงตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น


"เหอะ เหอะ เขาพูดว่าไม่ควรหรอ? นั้นเป็นมุกตลกที่ขำที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาของวันนี้เลย"ชายคคนั้นไม่สนใจเฉินหลงและทำเพียงยิ้มให้กับเพื่อนผู้หญิงที่อยู่ข้างเขา


"พี่เต๋า ชายที่น่าสงสารคนนี้ อย่าไปสนใจเขาเลย" เพื่อนสาวก็พูดดูถูกเช่นเดียวกับเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้สนใจเฉินหลงเท่าไหร่ เฉินหลงและแฟนที่สวมเสื้อผ้าธรรมดาๆที่ราคาน่าจะประมาณร้อยกว่าหยวน พวกเขาจึงไม่มีทางที่จะสนใจคนพวกนี้อยู่แล้ว กลับเป็นห่วงรถหรูของพวกเขาแทน


"ไม่ได้ยินรึไง? ออกไปจากตรงนี้ซะ ถ้าพวกคุณอยากจะเอาเรื่องจริงๆ ก็ไปที่รถผมสิ มันเป็นตัวที่ทำให้น้ำกระเซ็นหนิ" ชายคนนั้นมองเฉินหลงอย่างดูถูก


ในความคิดเขา เฉินหลงเป็นคนประเภทที่ไม่สามารถจะมีรถเป็นของตัวเองได้นอกจากต้องทำงานตลอดชีวิต นั้นจึงทำให้เขามั่นใจมากว่าเฉินหลงคงไม่กล้าทำอะไรรถของ แต่ครั้งนี้เขาคงคิดผิด เฉินหลงไม่ได้เป็นคนประเภทที่จะโดนรังแกได้ง่ายๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ต่อสู้กับพวกตระกูลชนชั้นสูงหรอก


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น