TB:บทที่ 91 การนัดหมาย

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

TB:บทที่ 91 การนัดหมาย 


โรงรถของวิลล่าหลังเดิมที่เฉียนชานเจียทิ้งไว้ให้เฉินหลงยังมีรถมาเซราติ จีซีอีกคัน 


เฉินหลงนั่งบนโซฟาในวิลล่า จู่ๆเขารู้สึกไม่มีเป้าหมายในชีวิต พวกคนที่ทำร้ายตัวเองมักจะเป็นคนทำให้ตัวเองแย่ลงกว่าเดิม ตอนนี้เขาอาศัยในวิลล่าและขับรถหรูๆ ในตอนนั้นเฉินหลงรู้สึกว่าชีวิตเขาเพียบพร้อมไปหมดแล้ว


นิสัยของเฉินหลงคือเขาเป็นคนที่ค่อนข้างง่ายที่จะเติมเต็ม แต่ปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เขาไม่ใช่คนพวกที่ทนกับความโด่งดังของคนอื่นได้ หลังจากที่เขาจัดการกับธุระทั้งหมดที่ต้องทำไปแล้วตอนนี้ปัญหาเรื่องพอใจกับอะไรง่ายๆจึงปรากฎออกมา 


ครู่ต่อมาเฉินหลงหยุดความคิดไปในทันทีที่เขานึกขึ้นได้ว่าเขามีความบาดหมางกับตระกูลซ่ง หากมองเพียงผิวเผินตระกูลซ่งได้บอกว่าทั้งบุญคุณและปัญหาระหว่างพวกเขาได้จบลงไปแล้ว ทว่าตราบใดที่พลังของเขาไม่ได้พัฒนาไปไหน ตระกูลซ่งคงไม่ปล่อยเขาหลุดไปหรอก 


จะต้องแข็งแกร่งมากขึ้นและมากขึ้นไปอีกเพื่อที่จะพอให้จัดการกับเรื่องในอนาคต จะต้องแข็งกล้าขึ้นแต่ไม่ใช่เพียงพละกำลังของตนที่แข็งแกร่งแต่พลังก็เช่นกันที่ต้องแข็งแกร่งมากขึ้น ตอนนี้เขายังอ่อนแอเกินไป 


เมื่อเฉินหลงนึกถึงการพัฒนาความสามารถตัวเองเขาก็นึกถึงคุณเต๋าที่ยังคงซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ 


ขณะที่เฉินหลงกำลังจะเอาเครื่องตรวจสอบออกมาเพื่อหาที่อยู่ของเต๋ากวงหานเสียงโทรศัพท์เขาได้ดังขึ้น 


เฉินหลงหยิบโทรศัพท์ออกมา ฮ่าวฉางชิงที่ไม่ได้ติดต่อกันมาพักหนึ่งโทรมาหาเขา


หลังจากคุยกันแล้ว ต่อมาฮ่าวฉางชิงก็มายังเมืองหลวง


เมื่อเขารู้ว่าฮ่าวฉางชิงจะมาเมืองหลวง เฉินหลงจึงนัดพบกับเขา ฮ่าวฉางชิงเป็นคนที่มีความยอดเยี่ยมในแบบของตัวเอง เฉินหลงรู้สึกซาบซึ้งในตัวฮ่าวฉางชิงเสมอมา แม้ครั้งนี้เขาจะไม่มีของฝากมาให้จากโบลิเวียแต่เขาก็จะมอบเครื่องมือเล็กๆน้อยๆเป็นของขวัญขอบคุณ


ต่อจากที่เฉินหลงนัดหมายกับฮ่าวฉางชิงเรียบร้อยแล้ว เขาขับรถไปยังที่นัดพบ ที่นั้นเป็นร้านกาแฟหรู ดูเหมือนว่าฮ่าวฉางชิงจะคุ้นเคยกับเมืองหลวงพอสมควร


เฉินหลงจอดรถ เขาลงจากรถและเดินไปที่ร้านกาแฟชื่อ “ชางเต๋า” พร้อมด้วยสายตาอิจฉามากมายของผู้ที่มองเขา เป็นเรื่องช่วยไม่ได้เพราะรถแมคราเรนพีวันคันนี้ราคามากว่าสิบล้านหยวน ถ้าเขามีรถคันนี้ได้ เขาต้องมีทรัพย์สินมากกว่าร้อยล้านหยวน  อีกอย่างปกติเฉินหลงก็โดนอิจฉาอยู่แล้วเพราะเขาเป็นคนหนุ่มที่หน้าตาดี


จากนั้นเฉินหลงเดินเข้าไปในร้านกาแฟ เขาเห็นฮ่าวฉางชิงกำลังพูดคุยและหัวเราะกับเด็กสาวสวยคนหนึ่งอยู่


เนื่องจากฮ่าวฉางชิงหันหลังไปอีกทางเขาจึงไม่เห็นเฉินหลงที่เดินเข้ามาในร้าน แต่เด็กสาวคนนั้นเห็นเขา 


เฉินหลงไม่ได้สนใจเด็กสาวเขาเดินตรงไปหาฮ่าวฉางชิง


เด็กสาวมองเห็นคนหล่อแบบเฉินหลงกำลังเดินมาทางเธอ เธอจึงมองเฉินหลงและผงกหัว เธอตักไอศกรีมในถ้วยขึ้นมาด้วยช้อนเล็กๆด้วยท่าทางคล้ายกับเด็กหญิงที่ทำอะไรผิด 


“ลุงฮ่าว สวัสดีครับ” เฉินหลงเดินเข้าไปหาฮ่าวฉางชิงและเรียกเขา


“อ้าว เสี่ยวเฉิน มาแล้วหรือ นั่งก่อนสินั่งก่อน” ฮ่าวฉางชิงบอกให้เฉินหลงนั่งลงแล้วไปสั่งกาแฟให้เฉินหลงด้วยตัวเอง


ตอนที่เธอได้ยินเรื่องราวของเฉินหลงว่าเป็นคนหนุ่มคนจากปากพ่อ ฮ่าวฉิเหวินมองเฉินหลงด้วยตาที่เบิกว้างในทันที และพอได้รู้ว่าเฉินหลงเป็นคนจัดการเรื่องที่ผ่านมาเธอรู้ว่านี่คือคนที่เธออยากเจอมาตลอด เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆที่ได้เจอเขาวันนี้ แล้วเขายังเป็นคนหน้าตาดีอีกด้วย นี่มันสเป็คของเธอเลย


“คุณฮ่าว ทางนี้คือ...” เฉินหลงมองฮ่าวฉิเหวิน


“นี่ลูกสาวผมเอง เธออยากเจอนายมาตลอดเลยนะหลังเรื่องที่ผ่านมา วันนี้เลยพาเธอมามองหน้านายให้เต็มที่” ฮ่าวฉางชิงพูดขำๆ 


สำหรับลูกสาวเขาแล้ว ฮ่าวฉางชิงรักและเอ็นดูเธอมากเหลือเกิน ถึงแม้เขาจะตามใจเธอมาก แต่ฮ่าวฉิเหวินก็ไม่ได้โตมามีนิสัยเหมือน เจ้าหญิงตัวน้อยๆที่เอาแต่ใจ


เสี่ยวฮ่าว ทักทายเฉินหลงที่ตอนแรกจะเรียกเธอว่าคุณผู้หญิง แต่จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าไม่ควรจะเรียกแบบนั้นเขาจึงพูดต่อไม่ออก เฉินหลงไม่รู้จะเรียกฮ่าวฉิเหวินว่าอย่างไรดี


“พี่หลง พี่เรียกฉันว่าเสี่ยวฉิหรือเสี่ยวเหวินก็ได้นะ ทุกคนเรียกฉันแบบนั้น” ฮ่าวฉิเหวินไม่อยากทำให้เฉินหลงอับอาย เธอจึงเรียกเขาว่าพี่เฉินหลงก่อน


ใจจริงแล้วฮ่าวฉิเหวินประทับใจเฉินหลงแบบที่เธอเคยได้ยินจากปากคนอื่นมามากว่า  พอได้เจอเขาจริงๆเขากลับดูเป็นชายหนุ่มปกติ 


“งั้นจะเรียกว่าเสี่ยวเหวินนะ” เฉินหลงตอบกลับฮ่าวฉิเหวิน


หลังจากนั้นเฉินหลงและฮ่าวฉิเหวินสนิทกันเพราะสุดท้ายแล้วพวกเขาที่เป็นคนหนุ่มสาวก็เข้าใจกันเพราะคุยภาษาเดียวกัน


“เสี่ยวเฉิน มาทำอะไรที่ปักกิ่งหรือ” จู่ๆฮ่าวฉางชิงถามเฉินหลง


“ผมอยากเปิดบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีน่ะครับ แล้วการค้นคว้าหลักๆก็คือแก้ปัญหาที่มีอยู่ตอนนี้ เมื่อสองสามวันก่อน ผมเพิ่งจดสิทธิบัตรหน้ากากป้องกันฝุ่นไป(หมอกควัน)​” เฉินหลงบอกไปทั้งหมด เขาไม่ได้หลบซ่อนอะไร อย่างไรเสียบริษัทของเขาจะเป็นที่รู้จักหลังจากจัดการแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นได้ ทุกๆคนจะต้องได้รู้จัก


“บริษัทเทคโนโลยีงั้นหรือ” ฮ่าวฉางชิงมองเฉินหลงด้วยสายตาที่แปลกไป ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นนักคิดโฆษณามาก่อนหรือ แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะมาทำเกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูง แต่เมื่อฮ่าวฉางชิงนึกถึงการตรวจสอบของเก่าอย่างน่ามหัศจรรย์แล้ว ทันใดนั้นฮ่าวฉางชิงไม่รู้สึกแปลกใจอีกแล้ว


“โอ้โห้ พี่หลง จะจัดการกับฝุ่นนั้นงั้นหรือ” เฉินหลงดูเป็นคนสมบูรณ์แบบที่สุดแล้วในสายตาฮ่าวฉิเหวิน เธอมองเฉินหลงด้วยสายตาหยาดเยิ้ม


“หมอดูหลอกเธอได้แค่แปดหรือสิบปีแต่ฉันหลอกเธอนานขนาดนั้นไม่ได้หรอกนะ” เฉินหลงยกยิ้ม


จริงๆแล้วเจ้า “เครื่องกำจัดฝุ่น” เป็นของที่แลกมาจากระบบ ปกติแล้วเฉินหลงเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ 


“เสี่ยวเฉิน ถ้านายมีวิธีแก้ปัญหาฝุ่นที่ใช้ได้ ฉันก็อยากนัดให้นายเจอใครสักคน” ฮ่าวฉางชิงมองเฉินหลงด้วยสีหน้าจริงจัง


การกำจัดฝุ่นถือเป็นเรื่องเร่งด่วนของเมืองหลวง หากคนในเมืองหลวงต้องอาศัยในสิ่งแวดล้อมแย่ๆความเสียหายจะต้องน่ากลัวอย่างมาก และหากเฉินหลงมีทางออกของปัญหานี้จริงๆ ฮ่าวฉางชิงก็มีหน้าที่ที่ควรเร่งให้เกิดการแก้ปัญหานี้ให้ไว


“ถ้ามีอะไรที่ผมทำได้ ผมไม่คิดมากที่จะกำจัดฝุ่นที่น่ารำคาญนี้ไปให้พ้นๆหรอกครับ แสงอาทิตย์จะได้ส่องบนแผ่นดินนี้อีกครั้งเสียที” คำพูดของเฉินหลงช่างสร้างแรงบันดาลใจ


ฮ่าวฉิเหวินมองเฉินหลงด้วยสายตาที่หยาดเยิ้มมากขึ้น


“เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้นฉันจะไปหาคนที่ว่าล่ะนะ เสี่ยวเหวิน จะไปกับพ่อไหม” แม้ฮ่าวฉางชิงจะไม่ทำอะไรรุนแรงกับลูกเขาทว่า อะไรที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับอนาคตควรแก้ไขให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้


“ไม่ล่ะ หนูไปไม่กับพ่อหรอกถ้าพ่อจะไปหาสหายเก่า” ฮ่าวฉางชิง ไม่อยากจะพลาดโอกาสนี้ เธอคงไม่ได้เจอคนที่ถูกใจบ่อยๆ การได้ทำอะไรตามหัวใจแบบนี้เป็นเรื่องที่เธอใส่ใจ


“นี่ เสี่ยวเฉิน ช่วยดูแลเสี่ยวเหวินไม่ให้เล่นเรื่อยเปื่อยด้วยนะ” เมื่อได้ยินว่าลูกสาวของเขาไม่อยากไปกับเขา ฮ่าวฉางชิงก็ไม่อยากจะบังคับ


“พ่อคะ หนูเป็นเด็กมหาลัยแล้วนะ ไม่ใช่เด็กแล้ว พ่อไปเถอะแล้วก็รีบๆด้วย” คำพูดของฮ่าวฉางชิง ทำให้ฮ่าวฉิเหวินต้องยื่นคำขาด


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น