TB : ตอนที่ 34 การรวมตัวของศิษย์เก่า
วันถัดมา เฉินหลงได้ขับมาถึงมาถึงซิงเฉิง เขามองไปที่ครอบครัว
เสี่ยวเจี่ยและเสี่ยวฮุยที่ได้มีช่วงเวลาดีๆร่วมกันในซิงเฉิง
เฉินหลงได้พาครอบครัวของเขาไปยังจุดชมวิวของซิงเฉิงที่ละจุด
ในวันที่สองเฉินหลงได้พาครอบครัวของเขาไปเดินเล่นในเมือง
ซึ่งชั่วโมงต่อมาเขากับจี้โม่ซีได้ไปร่วมงานปาร์ตี้ที่โรงเรียนมัธยมของพวกเขาจัดขึ้นและปาร์ตี้ร่วมศิษย์เก่านั้นจัดอยู่ที่คฤหาสน์วิลเลี่ยมซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดงานเลี้ยงอันโด่งดังของซิงเฉิง
เมื่อพูดถึงคฤหาสน์วิลเลี่ยมในซิงเฉิง
ที่นี่มีคฤหาสน์สำหรับจัดเลี้ยงที่มีรูปแบบไม่ซ้ำใครมากมาย เช่น
หนึ่งในคฤหาสน์แห่งนี้เป็นแห่งเดียวที่มีสนามหญ้าส่วนตัวขนาด 1,200
ตารางเมตรกับสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่และห้องโถงที่มีเนื้อที่มากกว่า 100
ตารางเมตรพร้อมกับอุปกรณ์สร้างแสง สี เสียงให้กับเวที
คฤหาสน์วิลเลี่ยมยังรับจัดงานเลี้ยงสำหรับบุคคลสำคัญ เช่น งานประชุมบริษัทประจำปี
งานแต่งงาน งานสังคมต่างๆเป็นต้น ยังมีวิลล่าปาร์ตี้ที่มาพร้อมกับห้องนอนธีมพิเศษ
ไม่ว่าจะเป็นห้องพักแบบเพรสซิเด้นท์เชลสวีท ห้องแบบทาทามิสไตล์เกาหลี
ห้องเตียงสองชั้นแบบพิเศษและห้องพักแบบแคปซูลซึ่งสามารถรับแขกได้เกือบ 100
คนเป็นต้น
ยังมีวิลล่าปาร์ตี้ที่มาพร้อมกับลานปิ้งบาร์บีคิวขนาดใหญ่ที่สามารถจุคนได้ถึง 100
ชีวิต ดังนั้นแขกที่มาพักจึงคลายเครียดได้โดยง่าย
อีกทั้งปาร์ตี้วิลล่าที่มีทะเลสาบตกปลากลางแจ้งที่สามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ของธรรมชาติ
พร้อมในตัวบ้านยังมีระเบียบชั้นบนสุดขนาดประมาณ
100 ตารางเมตรที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบได้กับห้องมิกเซอร์คาราโอเกะขนาด 40
ตารางเมตรพร้อมตกแต่ง
มีการติดตั้งฮาร์ดแวร์พิเศษในห้องคาราโอเกะของวิลล่านี้ซึ่งระบบมีซาวด์เอ็ฟเฟ็คของเพลงทุกประเภทและมีคุณภาพเสียงในระดับที่ยอดเยี่ยม
ถึงจะร้องพร้อมกัน 30 คนก็ไม่มีสะดุด
"ไม่เลวเลยที่เผิงตงจะสามารถหาที่ดีดีได้ในเวลาแบบนี้
เธออย่าบอกนะว่าเขาเป็นคนเสียค่าใช้จ่ายงานเลี้ยงนี้? เดี๋ยวนะ
เราคงต้องตอบแทนเขาดีๆหน่อยละ ด้วยการให้เขาเสียเลือดนิดๆหน่อยๆ"
เฉินหลงพูดพร้อมมรอยยิ้ม
"ฉันไม่สนใจหรอก" เมื่อเห็นเฉินหลงยิ้ม จี้โม่ซีก็โล่งอก
หลังจากที่จอดรถ
เฉินหลงและจี้โม่ซีก็เดินมาที่สนามหญ้าส่วนตัวที่อยู่ข้างหน้าคฤหาสน์ ในเวลานี้
สถานที่แห่งนี้ได้มีหนุ่มสาวที่ต่างกำลังนั่งและยืนพูดคุยกันบนสนามหญ้า
ผู้หญิงเหล่านี้ล้วนแต่งตัวด้วยชุดแฟนซี
ส่วนฝ่ายชายก็พยายามแต่งตัวให้ออกมาหล่อที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซึ่งเฉินหลงคิดว่างานรวมศิษย์เก่าคงไม่ได้เป็นแค่งานเลี้ยงธรรมดาๆ
เฉินหลงได้เห็นเผิงตงยืนอยู่ที่กลางสนามหญ้าด้วย
ล้อมตัวของเผิงตงรายล้อมไปด้วยหนุ่มสาวเพื่อนนักเรียนที่กำลังยิ้มและพูดบางอย่าง
การมาของเฉินหลงและจี้โม่ซีก็กลายมาเป็นประเด็นบทสนทนาในกลุ่มเพื่อนนักเรียนบนสนามหญ้าในไม่ช้า
วันนี้ทั้งเฉินหลงและจี้โม่ซีต่างแต่งกายดูประณีตสวยงามจนทำให้พวกเขาดึงดูดสายตาจากเพื่อนทุกคน
"อ้า คณะกรรมการนักเรียนของพวกเราอยู่นี่เอง ยินดีต้อนรับ"
เมื่อเผิงตงได้พบเฉินหลงและจี้โม้ซี
แต่เขากลับให้ความสนใจไปที่จี้โม้ซีโดยที่ไม่ได้สนเฉินหลงที่เดินมาด้วย
"ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ" เมื่อเผิงตงพูดจบ
เพื่อนนักเรียนททุกคนก็ต่างพากันปรบมือ
"เผิงตงเนี่ยปากหวานจริงนะ" เฉินหลงตั้งใจกระซิบข้างๆหูจี้โม่ซีให้ได้ยิน
"ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด นายต้องหัดควบคุมอารมณ์นะ" จี้โม่ซีเตือนเฉินหลงอีกครั้ง
"ไม่ต้องกังวลหรอก ตราบใดที่เขาไม่มายั่วฉัน
ฉันก็จะมองเขาเป็นเหมือนอากาศแล้วกัน"
เฉินหลงไม่ได้สนใจในสิ่งที่จี้โม่ซีเตือนเลย
ตอนนี้เฉินหลงและจี้โม่ซีกำลังกระซิบข้างหูกันไปมา
และทุกคนก็ต่างเห็นว่าเผิงตงดูเหมือนจะอิจฉา
"เพื่อนเก่า ใช่ไหม?"
เฉินหลงตอนนี้เขาดูกลายเป็นคนหล่อเหลาที่ทั้งมีอารมณ์ขันและมีน้ำใจ
แต่กลับเป็นเรื่องยากสำหรับเผิงตงที่ต้องพูดคุยกับขี้แพ้ในโรงเรียนอย่างเฉินหลงในตอนนั้น
"ตงตง นายลืมเพื่อนเก่าของนายไปหมดแล้วหรอ นายดูจะลืมอะไรหลายๆอย่างนะ"
เฉินหลงยิ้มให้กับเผิงตง
ในสมัยมัธยม เผิงตงมีชื่อเล่นนั้นก็คือตงตงซึ่งหากไม่ใช่เพื่อนร่วมชั้นของเขา
คนอื่นคงไม่มีทางรู้ชื่อเล่นของเขา หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเฉินหลง
เผิงตงก็รอบมองเฉินหลงและจากนั้นก็เริ่มนึกชื่อเพื่อนเก่าๆของเขา ในไม่ช้า
เผิงตงก็จ้องไปที่เฉินหลงและมองอย่างไม่เชื่อสายตา
"นายคือ นายคือเฉินหลงหรอ?"
ใบหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อของเผิงตงปรากฏออกมาราวกับว่าเขากำลังเห็นผี
หลังจากที่เฉินหลงได้รับพลังจาผลไม้เพลิงแดง
เฉินหลงก็ดูแตกต่างออกไปจากเมื่อก่อนจริงๆ เขาดูเหมือนเป็นเฉินหลงคนใหม่
"ใช่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ" เฉินหลงยิ้มให้เผิงตง
"ว้าว เขาคือเฉินหลง
เขาดูสูงขึ้นและดูหล่อมากแล้วเขายังเข้าร่วมกับกลุ่มพวกระดับเทพๆด้วย "
"ใช่ เขาหล่อมาก เขาเปลี่ยนไปเยอะเลย"
"เขากับจี้โม่ซีมาด้วยกันด้วย พวกเขาคงไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกนะ"
……
เมื่อได้ยินว่าพวกระดับเทพว่าเป็นเด็กเฉินหลงคนนั้น
คนที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นแถมยังเป็นพวกขี้แพ้ประจำโรงเรียนอีก
นักเรียนศิษย์เก่าทุกคนก็ต่างพากันพูดถึงเรื่องนี้ด้วยเสียงทุ่มต่ำ
"ฉันไม่ได้เจอนายมานานมากเลยนะ แล้วตอนนี้ทำไมถึงรวยแล้วละ?"
หลังจากที่เผิงตงสงบสติลง เขาก็เผยรอยยิ้มออกมา
เผิงตงไม่ได้มีความสุขนักที่เห็นเฉินหลงขโมยออร่าตัวเด่นจากเขาไป
แต่ยังไงก็ตามเขาก็เป็นคนจัดปาร์ตี้นี้ขึ้นมาถึงแม้ว่าเฉินหลงจะกลายเป็นตัวเด่นของงานไปและถูกออร่าของเฉินหลงกลบ
ไปแล้วก็ตาม แต่เผิงตงก็ยังคงรักษาอาการท่าทีไว้ได้
ในเวลาเดียวกัน เผิงตงก็อยากเริ่มสู้กลับ
ถ้ามันกลายเป็นคนหล่อแล้ว งั้นก็พูดถึงเรื่องเงินของมันแล้วกัน
ใครก็ตามที่มีเงินจะกลายเป็นจุดสนใจและใครก็ตามที่ไม่มีเงินก็ดูน่าสงสารและโดนดูถูกเอาได้
"อยู่ตรงหน้านาย ใครจะกล้าอวดรวยกันล่ะ? ก็แค่ต้องขยันเก็บเงินเล็กน้อย
มันคงไม่ทำให้อดตายหรอก" เฉินหลงพูดพร้อมรอยยิ้ม
สำหรับงานเลี้ยงวันนี้ เฉินหลงได้สวมสูทแบรนด์ดัง ซึ่งราคาคงไม่ต่ำกว่า
100,000 หยวน นักเรียนศิษย์เก่าหลายคนที่นี่ฉลาด จึงดูออกได้ในทันที
เมื่อเฉินหลงพูดจบ เพื่อนนักเรียนก็ต่างคิดว่าเขาเป็นคนถ่อมตัว
"นายก็ถ่อมตัวเกินไป เหมือนกับตอนที่เราเพิ่งเจอกันสมัยมัธยมเลยนะ"
เผิงตงยิ้มแต่เขาก็รู้สึกหนามทิ่มอยู่ในอกกับคำพูดที่เขาพูดไป
เฉินหลงที่ได้คว้าเอาสปอร์ตไลท์สาดมาที่ตัวแล้ว
แล้วทำไมเขาต้องคืนไปให้เผิงตงด้วยล่ะ
ทุกคนรู้ว่าเฉินหลงเป็นไอ้ขี้แพ้และมักจะถูกเผิงตงข่มเหงอยู่บ่อยๆ
คำพูดของเผิงตงจึงย้ำเตือนเพื่อนนักเรียนในงานเลี้ยงศิษย์เก่านี้
"ฉันรู้ด้วยว่ามีการนัดรวมตัวศิษย์เก่ากันจากโม่ซี เผิงตง นายควรจะพอได้แล้วนะ
นายไม่สังเกตคนในงานนี้บ้างหรอ นี่นายยังคงดูถูกคนอื่นอยู่อีกหรอ?"
เฉินหลงสู้กลับอย่างนิ่งๆ
เมื่อเห็นว่าเผิงตงยังคงคิดเกี่ยวกับเรื่องจี้โม่ซี
นี้เป็นทางที่ดีที่สุดที่เฉินหลงจะตอบโต้กลับไป
'ไม่บอกฉันว่าเป็นขี้แพ้ละ?
ตอนนี้ฉันเป็นไอ้ขี้แพ้ที่กำลังอยู่กับผู้หญิงที่แกไล่ตามแต่ไม่มีวันได้
ครอง แกคงจะรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง' เฉินหลงคิดในใจ
"พวกเธอสองคนคบกันหรอ?" เด็กชายร่างอ้วนข้างเผิงตงถาม
เด็กชายคนนี้ชื่อโจวฮ่าว เป็นน้องชายของเผิงตง
เขารู้ว่าเผิงตงชอบจี้โม่ซีและมักพยายามจะเปลี่ยนใจจี้โม่ซีให้มารักตน
แต่จี้โม่ซีกลับไม่ให้โอกาสเขาเลย
และตอนนี้เขาได้ยินเฉินหลงพูดว่าเขากับจี้โม่ซีคบกัน
เขาอึดอัดใจที่ต้องยืนยันกับตนเอง
ดังนั้นโจวฮ่าวจึงต้องทำหน้าที่น้องชายให้เต็มที่
"เออใช่ เราคบกัน" เฉินหลงยิ้มและพยายามเอาชนะเผิงตง
หลังจากที่เฉินหลงพูดจบ
จี้โม่ซีก็ให้ความร่วมมือโดยการพยักหน้าด้วยใบหน้าที่แดงเล็กน้อย
0 ความคิดเห็น