CF:บทที่ 245 ระบบล่ม

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 245 ระบบล่ม


หลังจากที่ช่างของทั้งสองฝ่ายได้เห็นคำถามดังกล่าวแล้วนั้น หน้าของพวกเขาดูคล้ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นอย่างที่พิธีกรว่าไว้จริงๆว่ามันกระตุ้นให้พวกเขาอยากอัดคนตั้งคำถามนี้สักป้าบ


ถ้า ปัญญาประดิษฐ์ ต้องคาดการณ์คำตอบ คำถามเช่นนี้อาจมีแนวโน้มทำให้วงจรที่หมุนเวียนล่มได้


สีหน้าของเฉิน เจิ้นหนิงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เขาเข้าใจว่าการลบความสามารถของหมายเลข 0 ออกไป อาจจะทำให้วงจรของระบบเสียได้กับคำถามลักษณะนี้


และระบบของ ปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อแองเจิลจากกูเกิลอาจจะไม่เสียแต่คงจะตอบในรูปแบบของคำตอบเพียงครึ่งเดียว


ในตอนนี้ ชมิดท์ก็ได้เอ่ยถามช่างถึงวิธีที่จะจัดการตอบคำถามลักษณะนี้ในขณะที่ติดตั้งปัญญาประดิษฐ์


“ผู้บริหารครับ เราไม่ได้นึกถึงปัญหาแบบนี้มาก่อนเลย แต่ยังไงนี่ก็ไม่ควรเป็นปัญหาที่ใช้ถาม”


“ไม่เลย และคำถามนี่ดูจะก่อปัญหาเสียด้วย ผมเกรงว่าอุปกรณ์ของเราจะพังและลุกไหม้น่ะสิครับ”


ชมิดท์ได้ยินพวกช่างพูดกันก่อนจะถาม “ทำไมล่ะ”


“ตอนที่เราติดตั้ง ดูเหมือนว่า ปัญญาประดิษฐ์นี้จะไม่มีข้อจำกัด เมื่อแองเจิลค้นคำตอบไม่เจอ เขาก็ทำงานจนกระทั่งได้คำตอบมา อันที่จริงแล้ว  ฟิวเจอร์กรุ๊ปก็พูดอยู่บ่อยๆนะว่าแองเจิลของเราเป็นแค่ของที่ยังไม่สมบูรณ์ เป็นของที่ไม่น่าจะถึงขั้นที่ว่าเป็นปัญญาประดิษฐ์เสียด้วยซ้ำ”    


 “คำถามนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของการประมวลผลข้อมูลของปัญญาประดิษฐ์ ถ้า ปัญญาประดิษฐ์ตัวจริงหาคำตอบมาไม่ได้ โปรแกรมก็จะหยุดทำงานลงโดยอัตโนมัติ ผมรู้สึกว่าคำถามนี้สามารถทำให้เรารู้ได้ว่า ปัญญาประดิษฐ์ของ ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นพัฒนาไปมากแค่ไหนแล้ว”


ข้อเท็จจริงนั้น พวกเขาเริ่มคิดไปต่างๆนาๆ เฉิน เจิ้นหนิงได้รู้แล้วว่า หมายเลข 0 ของ ฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่มีวันตอบโจทย์ข้อนี้ได้


ระบบตรรกะที่อู๋ ฮ่าวเหรินได้วางไว้ จริงๆแล้วก็เป็นข้อมูลที่ไม่ได้เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ นี่เป็นแค่คอมพิวเตอร์โดยใช้สภาพเงื่อนไข, การวิเคราะห์ข้อมูลในฐานข้อมูลและจากนั้นก็กำจัดปัญหาทิ้ง


ดังนั้น ในอนาคต ฝ่ายคอมพิวเตอร์ของกลุ่มก็จะได้ศึกษาในรูปแบบความคิดเช่นนี้ นั่นก็เพื่อให้คอมพิวเตอร์มีความคิดเฉกเช่นมนุษย์ไม่ใช่เครื่องสร้างวิญญาณ


แต่อย่างไรก็ตาม จากโลกอนาคต อู๋ ฮ่าวเหรินเข้าใจดีว่าสิ่งนี้ไม่มีวันที่จะเกิดขึ้นรวมถึงการกลายพันธุ์แบบในหนัง แต่หุ่นยนต์ล้วนมีจิตวิญญาณ


ฉะนั้น อารยธรรมที่เจริญแล้วจะศึกษาจิตวิญญาณในแต่ละรุ่น


นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมนุษย์ถึงล้มเลิกการวิจัยของพวกเขาและเลือกอุปกรณ์ปัญญาประดิษฐ์


เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของเฉิน เจิ้นหนิง ช่างซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆกับเขาก็กล่าวขึ้น “หัวหน้าครับ ไม่ต้องกังวลเลย ถึงจะเกิดปัญหาขึ้นมาแบบนี้ แต่เราก็ชนะไปสองเกมแล้วนะครับ”


ส่วนผู้ชมเองก็ต่างเถียงกันถึงเรื่องนี้ และบนอินเทอร์เน็ตว่า “ไก่เกิดก่อน” บ้าง “ไข่เกิดก่อน”  บ้าง


ปัญหาที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้นี้สร้างความสับสนให้มนุษยชาติมาหลายร้อยปีและดูจะสร้งความสับสนต่อไป


พิธีกรเจ้าบ้านมองไปที่ชมก่อนจะเชิญไปทางนักวิชาการซึ่งกำลังถกเถียงกันอย่างรุนแรงนอกเหนือคำถามแล้ว เขาพูดขึ้น “สำหรับคำถามที่สร้างปัญหาให้กับคนหลายคนนี้ มาดูกันครับว่าปัญญาประดิษฐ์จะให้คำตอบที่น่าสนใจอะไรกับเรา”


 “เนื่องจากว่ากลัวโดนทำร้าย ท่านผู้ชมหมายเลข 1698 จึงไม่ยอมแสดงตัว ถ้างั้นผมจะเป็นคนกดปุ่มเองครับ”


พิธีกรกำหมัดแน่น ถ้าการแสดงนี้ยังต้องดำเนินต่อแล้วนั้นก็อาจจะไม่สามารถไปต่อได้เพราะติดปัญหานี้ แต่ว่านี่เป็นปัญหาที่น่าสนใจทีเดียว


เมื่อคำถามอยู่บนจอคอมพิวเตอร์ทั้งสองเครื่อง ปัญหาที่ช่างจากทั้งสองฝ่ายกังวลก็ปรากฏขึ้น


บนหน้าจอใหญ่ ผมเห็นข้อมูลแวบขึ้นมาบนคอมพิวเตอร์ทั้งสองเครื่องไม่หยุดเลย


ข้อมูลต่างๆหลั่งไหลเป็นข้อมูลถอยหลังในนั้นให้ความรู้สึกเหมือนคนที่จะต้องแก้ปัญหา รู้สึกเครียดแต่...


หนึ่งนาทีผ่านไป ระบบ ปัญญาประดิษฐ์จากทั้งสองฝ่ายล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าทางพิธีกรจะไม่หยุด ทุกคนต่างมองข้อมูลบนจอด้วยความอยากรู้ ต่างรอคอยสิ่งที่พวกตนคาดไม่ถึง


ยกเว้นช่างจากทั้งสองฝ่ายที่ดูกังวล และเรื่องนี้ก็เข้าไปขัดขวางได้ยากด้วย


“พี่เฉิน  โอเคแล้วครับ แม้ว่าการหมุนเวียนจะชะงัก แต่โปรแกรมก็ยังทำงานได้ลื่นไหลอยู่นะครับ หมายเลขศูนย์จะประมวลผลข้อมูลขยะพวกนั้นโดยอัตโนมัติ อาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่เราคิดก็ได้ครับ”


“แบบนั้นก็ดีสิ แต่จะให้ฉันรู้สึกอย่างไรกับพวกคนแปลกๆที่ข้ามถนนมา พวกเขาไม่อยากตอบปัญหานี้ใช่ไหม”


หลังจากที่เขาพูดเสร็จ ช่างจากกูเกิลจึงตัดการเชื่อมต่อลง


ความเปลี่ยนแปลงบนหน้าจอใหญ่สร้างความฉงนให้กับผู้ชมเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขายังคงคอยฟังคำตอบอยู่


พิธีกรเห็นสีหน้าช่างกูเกิลที่ดูเคร่งเครียดก่อนจะถามถึงสถานการณ์ พวกเขาตอบกลับมาด้วยความงุ่นง่าน “มีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ของกูเกิลนะครับ จึงทำให้ตอนนี้พวกเขาต้องตัดการเชื่อมต่อเพื่อเข้าจัดการครับ ในขณะที่พวกเราต่างเฝ้ารอดูคำตอบ แย่จังเลยน้า” เห็นได้ชัดว่าปัญญาประดิษฐ์ไม่สามารถตอบคำถามเช่นนี้ได้ ถ้าคุณต้องเผชิญกับคำถามลักษณะนี้ในชีวิตคุณ ก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับ”


“ผมขอประกาศว่าทั้งสองฝ่ายนั้นยังคงหาคำตอบในเรื่องนี้อยู่นะครับ”


เฉิน เจิ้นหนิงไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ แต่ก็ไม่มีทางเลือกแล้ว พวกเขาไม่ได้ตระหนักวงจรที่ไม่สิ้นสุดนี้และไม่สามารถหาคำตอบได้


อย่างน้อย พวกเขาก็พอใจกับการประมวลผลข้อมูลของหมายเลข 0 ซึ่งต่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นในกูเกิล


 “เกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันถึงไม่ได้เล่นเกมที่สี่ล่ะ ฉันได้คำถามมาทั้งหมดแล้ว และถ้าฉันคือผู้ถูกเลือกฉันจะเลือกถามคนที่หล่อที่สุดในโลก”


“ไม่ได้ถาม ไม่ใช่นาย ไม่ต้องกังวล”


ผู้ชมที่มองเหตุการณ์เบื้องหน้าสังเกตได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับกูเกิล พวกเขาเห็นเพียงแค่พิธีกรพูดกับเจ้าหน้าที่จากกูเกิล แต่ไม่ได้ยินอะไร


หลังจากนั้น ผมก็ได้ยินพิธีกรพูดขึ้นว่า “ขอแจ้งข่าวร้ายนะครับ ในตอนนี้ โปรแกรมของแองเจิลเราเกิดพังขึ้นมา สาเหตุมาจากปัญหาในการคำนวณ ดังนั้น ทางกูเกิลจึงตัดสินใจขอยอมแพ้ในคำถามรอบถัดไป และจะขอไปแข่งอีกทีในการแข่งรอบหน้าครับ”


ทันทีที่ข่าวนี้ประกาศออกมา ผู้ชมก็ถึงกับอึ้งไป เพียงเกมแรกก็จบแบบนี้แล้วงั้นหรือ


บางคนก็ไม่อยากจะเชื่อ เหตุเพราะแค่ไก่หรือไข่เกิดก่อนจะทำให้โปรแกรมถึงกับพัง


“ผมขอประกาศ ผู้ชนะในการแข่งรอบแรกคือ ฝั่งจีน  ปัญญาประดิษฐ์หมายเลข 0 ของ ฟิวเจอร์กรุ๊ปครับ”


หลังจากได้ฟังการประกาศผลจากพิธีกรแล้วนั้น ทุกคนก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก คิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากจับฉลากแล้วกลุ่มที่น่าจะชนะกลับแตกต่างจากความคิดของพวกเขาในตอนแรกอย่างสิ้นเชิง


“ตอนนี้ดูเหมือนว่าปัญญาประดิษฐ์จาก ฟิวเจอร์กรุ๊ปยังไปไหวอยู่นะครับ ถ้ากูเกิลยังไม่สามารถดึงเกมกลับมาได้ในการแข่งครั้งหน้า  ฟิวเจอร์กรุ๊ปก็จะได้รับชื่อเสียงในครั้งนี้ไปแทนนะครับ”


“ฮ่าๆ คนที่ตอนแรกบอกว่า ปัญญาประดิษฐ์จาก ฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่ได้ดีเท่าไหร่น่ะนั่งหน้าสลอนกันอยู่นี่ล่ะ และฉันขอบอกเลยนะว่าตราบใดที่พวก ฟิวเจอร์กรุ๊ปศึกษามาแล้ว สิ่งนั้นน่ะดีที่สุด”


ผลที่ออกมาทำให้คนหลายคนเริ่มหายใจคล่องขึ้น ซึ่งในตอนแรกจะกระโดดเข้าไปในกลุ่มเครือข่ายชาวจีนผู้กดขี่ ก็เริ่มระเบิดโพล่งขึ้น


กลุ่มเครือข่ายต่างชาติในตอนนี้อยู่ในสภาพนิ่งงัน มีเพียงคนที่คิดว่า ปัญญาประดิษฐ์จาก ฟิวเจอร์กรุ๊ปทรงพลังกว่าเท่านั้นที่ยังคงตั้งตาดูอย่างตื่นเต้น


คุณชมิดท์ ผู้บริหารกูเกิล สีหน้าไม่ดีเช่นกันเพราะข่าวที่ตีแผ่ไปก่อนหน้านี้พวกเขาต่างได้รับการกล่าวขวัญแต่ตอนนี้กลับไม่ต่างจากถูกตบหน้าจังๆ


ในขณะเดียวกัน สิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกดีในตอนนี้ก็คือการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์


ในตอนนี้ พิธีกรจึงได้กล่าวขึ้น “การแข่งในรอบหน้านั่นจะเป็นการแข่งเรื่องพลังด้านคอมพิวเตอร์ของ ปัญญาประดิษฐ์นะครับ”


โดยหลังจากนั้น นักคณิตศาสตร์อาจจะเจอความยากลำบากในคำถามนี้ก็เป็นได้ ผมก็ไม่รู้ว่าว่า ปัญญาประดิษฐ์ไปถึงจุดไหนแล้ว การคิดบัญชีงั้นหรือ


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น