CF:บทที่ 229 แก้ปัญหาด้วยการยิงปืนนัดเดียว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

 CF:บทที่ 229 แก้ปัญหาด้วยการยิงปืนนัดเดียว


อู๋ฮ่าวเหรินรับรู้ถึงพลังของมันจากแขนและไหล่ทั้งสองข้างของเขา ลำกล้องปืนสไนเปอร์ประเภทนี้คนธรรมดาไม่สามารถที่จะใช้ได้เลย


อย่างไรก็ตามด้วยสภาพร่างกายของเขาตอนนี้ จึงไม่มีปัญหาในการใช้งานแบบนี้และมันก็ไม่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บด้วย


เขาไม่รู้ว่าผู้คนทางด้านหลังของเขานั้นต่างพากันกลัวที่จะต้องเป็นคนโง่ด้วยปืนของเขา พวกเขาไม่เคยเจอใครที่ใช้ปืนสไนเปอร์ประเภทนี้มาก่อน


แม้แต่ทหารที่แข็งแรงที่สุดในค่ายก็ไม่กล้าที่จะยื่นอยู่ตรงนั้นและยิงปืนสไนเปอร์ออกไปด้วยแขนทั้งสองข้าง


มันจะทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ง่ายๆ เลย


แต่หลังจากที่อู๋ฮ่าวเหรินยิงปืนออกไป พวกเขาไม่ได้เคลื่อนไหวเลยพวกเขารู้สึกว่าปืนสไนเปอร์เป็นเหมือนกับปืนเด็กเล่น


“กัปตันครับ คุณทำได้อย่างไร?”


“ร่างกายคุณทำไมแข็งแรงขนาดนี้ ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย!”


“ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นจริงนะ ร่างกายของเขาเหนือกว่าทุกคนด้วยการออกกำลังกายด้วยเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัด”


เกาเจียนจุ้นมองดูปฏิกิริยาของอู๋ฮ่าวเหรินและรู้ว่าการที่เขาเพิ่งยิงปืนไปนั้นไม่ได้ทำอันตรายแก่เขาได้เลย


หลงเองก็ประหลาดใจที่เห็นอู๋ฮ่าวเหรินเป็นเช่นนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเห็นจากรายงานแล้ว ข้อมูลร่างกายของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นแข็งแรงมาก วันนี้เขาก็ได้ประจักษ์แล้วว่าเขาแข็งแรงเพียงใด


เจ้าหน้าที่เทคนิคพวกนั้นไม่มีความรู้สึกใดๆพวกเขาอาจจะรู้ถึงการหดตัวของปืนสไนเปอร์แต่พวกเขาไม่คิดถึงปัญหาเหล่านี้


โจ้ว เซว่หองทำลายบรรยากาศที่ประหลาดด้วยการถามขึ้นมาว่า “คุณอู๋ คุณช่วยทดลองตอนนี้เลยได้ไหม? ผมอยากจะเห็นว่าเกิดความผิดปกติอะไรขึ้นกับหุ่นยนต์?”


“งั้น คุณปล่อยให้หุ่นยนต์วิ่งออกมา ผมจะขึ้นไปที่เนินนั้นก่อน”


อู๋ฮ่าวเหรินวิ่งไปที่ยอดเนิน พวกทหารพากันพูดไม่ออก ชายคนนี้เป็นนักวิทยาศาสตร์หรือนักสู้กันแน่นะ


“ท่านหลง ผมจะถามคุณอู๋ทีหลังได้ไหมว่าเขาพัฒนาร่างกายให้แข็งแรงเช่นนี้ได้อย่างไร? ถ้าทหารของเรามีคุณภาพร่างกายแบบนี้นะ พวกเขาก็ไม่ต้องกลัวศัตรูคนไหนในสนามรบเลย” หัวหน้าหม่ากล่าวอย่างตื่นเต้น


“วิธีการฝึกฝนของเขา เขตทหารอยู่ในระหว่างการทดลอง ผมเชื่อว่าคุณจะทราบในไม่ช้า อย่างไรก็ตามคุณไม่ต้องการที่จะฝึกฝนเขาเช่นนี้หรอก ชายหนุ่มคนนี้ต้องมีบางอย่างซ่อนอยู่เป็นแน่“ เมื่อมองไปที่อู๋ฮ่าวเหรินที่เพิ่งจากไปเขาก็รู้สึกครุ่นคิด


เขาหันไปหาเหล่าทหารที่ยืนอยู่ถัดจากเขาไปและถามว่า “คุณคิดว่าเขาเป็นอย่างไร?


ชายที่ยืนอยู่ตรงนั้น


“แข็งแรงมาก ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่ถ้าไม่มีอาวุธ ถ้าเขาได้รับการฝึกฝนอย่างชำนาญแล้วเขาจะเป็นตัวอันตรายอย่างแน่นอน”


“ฮ่าฮ่า อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นตัวอันตรายสิ และเขาก็ไม่ได้รับการฝึกฝนอะไรเลย สมองของเขาแข็งแกร่งกว่าร่างกายเขาซะอีก ซึ่งมีความรู้ที่ทำให้ประเทศของเราร่ำรวยและแข็งแกร่ง”


อู๋ฮ่าวเหรินหยุด ทุกคนจ้องไปที่หน้าจอใหญ่ ฉันอยากจะรู้ว่าเขาจะแก้ปัญหาหุ่นยนต์เคลื่อนที่สูงได้ยังไง


“จี้ นายทำมันได้ไหม?”


“ได้ ไม่ยากเลย”


อู๋ฮ่าวเหรินเปลี่ยนท่าทางและมองไปที่หุ่นยนต์ในระยะไกล ถ้าเขาใช้อาวุธหนักมันก็คงจะสะดวกกว่าใช้ปืนสไนเปอร์


อย่างไรก็ตามก็ยังมีปัญหาในการใช้อาวุธประเภทนี้และเขาก็ไม่ต้องการที่จะทำลายมัน


จริงๆ แล้ว ข้อบกพร่องที่ใหญ่ที่สุดของหุ่นยนต์พวกนี้คือวัสดุ ความแข็งแกร่งของวัสดุนี้คือไม่สามารถต้านทานระเบิดได้


ถ้าอาวุธสามารถแทนที่ได้ด้วยอาวุธพลังงาน บางทีปัญหาเรื่องวัสดุก็อาจจะแก้ไขได้ เห็นได้ชัดว่าในขั้นตอนนี้ประเทศไม่ได้มีอาวุธพลังงานขนาดย่อม


ถึงแม้ว่าจะมี พลังงานก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ มันไร้ประโยชน์ที่จะแก้ปัญหาอื่นๆ โดยไม่แก้ปัญหาพลังงาน


เหวินจื่อให้สัญญาณของเขา อู๋ฮ่าวเหรินสับไกปืนอย่างไม่ลังเล กระสุนพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว และหุ่นยนต์ตัวหนึ่งก็ล้มลงทันที


อู๋ฮ่าวเหรินส่องดูหุ่นยนต์ผ่านกล้องส่องทางไกลและส่ายหัว เท่าที่เขาเดา ถ้าวัสดุไม่ผ่านมาตรฐานถ้ามีส่วนใดส่วนหนึ่งพังเสียหายหุ่นยนต์ทั้งตัวก็จะเป็นอัมพาต


ผู้คนที่ดูอยู่บนจอใหญ่ต่างพากันตะลึงที่เห็นว่าหุ่นยนต์ที่วิ่งอย่างเร็วนั้นล้มลงบนพื้น


ไม่นานนักพวกเขาก็เห็นในจอ ถึงแม้ว่าหุ่นยนต์ตัวนั้นที่กำลังวิ่งอยู่ แต่มันก็มีประกายไฟฟ้าเกิดขึ้นที่ข้อต่อขา


“อาจารย์ เกราะแม่เหล็กที่ขาซ้ายของหุ่นถูกทำลายและไม่สามารถซ่อมได้ เป็นผลให้สูญเสียพลังงานที่ส่งไปที่ขา ทำให้หุ่นยนต์หมายเลข 2 ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้”


โจวซิ่งหงมองดูหุ่นยนต์นั้นบนหน้าจอ โดยเฉพาะตำแหน่งที่เสียหายโดยฝีมือของอู๋ฮ่าวเหรินราวกับว่าเขาเข้าใจ


เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินกลับมา กลุ่มทหารมองเขาอย่างแปลกประหลาด ทันทีที่เขาเรียนรู้การใช้ปืนสไนเปอร์เขาก็สามารถที่จะทำลายข้อต่อขาของหุ่นยนต์เคลื่อนที่สูงได้ ถ้าเขาไม่ใช่ทหารนั่นก็หมายความว่าความสามารถในการเรียนรู้ของเขาช่างมหัศจรรย์นัก


โจ้ว เซว่หองก้าวเข้ามาและกล่าวว่า “ในตอนนี้เทคโนโลยีของพวกเรา ซึ่งเป็นวัสดุสร้างหุ่นยนต์ที่ดีที่สุดดูเหมือนว่าจะล้มเหลวอีกแล้วในครั้งนี้”


“นี่ไม่ใช่ความล้มเหลวหรอก อย่างน้อยหุ่นยนต์นี้ก็ใช้งานได้กับสถานการณ์พิเศษบางอย่าง”


“เสี่ยวอู๋ มีทางที่จะแก้ปัญหาข้อบกพร่องนี้บ้างไหม?” เขากล่าว


“ท่านหลง มีวิธีตั้งมากมายที่จะแก้ไขข้อบกพร่องนี้ ด้วยการวิจัยวัสดุใหม่ เพิ่มพลังงานให้กับหุ่นยนต์มากขึ้น เพิ่มความเร็วการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ เพิ่มอาวุธป้องกัน และอื่นๆ”


เขามองโจ้ว เซว่หองอยู่นาน ฉันต้องรู้ว่าวิธีเหล่านี้มันจะเป็นไปได้ไหม


“ท่านหลง ในตอนนี้ ระบบพลังงานของพวกเราต้องได้รับการปรับปรุง และพวกเราก็ไม่ค่อยคืบหน้าสักเท่าไร วัสดุใหม่และอาวุธป้องกันสามารถนำกลับมาศึกษาต่อไปได้”


เห็นได้ชัดว่าพวกเขาผิดหวังที่อู๋ฮ่าวเหรินยิงหุ่นยนต์ในการทดลอง


สำหรับเรื่องนี้ อู๋ฮ่าวเหรินทำได้เพียงกล่าวคำขอโทษ เขาจำเป็นต้องให้คนพวกนี้เข้าใจว่าหุ่นยนต์พวกนี้ยังไม่ดีพอ อย่าได้เสียเงินผลิตเลย ต่อไปเขาจะช่วยคนพวกนี้เร่งการวิจัย ถ้ามันไม่ปลอดภัยพอ อู๋ฮ่าวเหรินจะไม่นำเอาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ทั้งระบบออกมาใช้เลย


ในดวงตาของกลุ่มทหาร ดีที่อู๋ฮ่าวเหรินออกจากค่ายไปแล้ว ไม่เช่นนั้นแล้วพวกทหารทั้งหลายคงต้องมารุมล้อมเขาและถามเกี่ยวกับการฝึกฝนร่างกายเป็นแน่


ระหว่างการเดินทางกลับ อู๋ฮ่าวเหรินครุ่นคิดว่ามันยังคงมีสิ่งที่น่ารำคาญที่จะต้องนำวัสดุประเภทใหม่ออกมาใช้


บางทีพวกเราก็สามารถศึกษาพลังงาน อย่างเช่นเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชั่นที่บางประเทศกำลังศึกษาอยู่ ซึ่งมันทำได้อย่างช้าๆ


เทคโนโลยีแรงจูงใจก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน เทคโนโลยีนี้ไม่ได้ล้ำหน้านัก ปัญหาเดียวคือการหาข้อกล่าวอ้างมาเพื่อศึกษาแรงจูงใจ


อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าหุ่นยนต์กังฟูที่เขาวิจัยอาจจะเป็นการฝ่าฟันอุปสรรค เพื่อที่ว่าจะปรับปรุงการใช้เวลาของหุ่นยนต์กังฟูและพัฒนาหุ่นยนต์ให้สามารถนำไปใช้ได้ในงานอุตสาหกรรม เขาจึงได้ศึกษาแรงจูงใจเพื่อเพิ่มพลังให้แก่หุ่นยนต์ และในที่สุดก็เพิ่มพลังได้สำเร็จ เพียงเท่านั้นอู๋ฮ่าวเหรินตัดสินใจว่าโครงกาต่อไปคือแรงจูงใจ เทคโนโลยีนี้สามารถพัฒนาได้หลายอุตสาหกรรมในจีน


เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินกลับมาถึงบริษัท ก่อนที่จะถึงเวลาพัก เขาได้ยินเก๋าเล่อ หัวหน้าของกลุ่มการ์ตูน และเหยายู่ค่าย หัวหน้าของกลุ่มการ์ตูนมารอพบเขาอยู่ในห้องประชุม


ตั้งแต่การ์ตูนเรื่องสุดท้ายถูกปฏิเสธดูเหมือนว่าพวกเขาก็กำลังศึกษา และดูเหมือนว่าจะทำได้สำเร็จแล้ว เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาจะทำได้สำเร็จไหมในครั้งนี้?


เมื่อเข้าไปในห้องประชุม มันดูน่าตื่นเต้นมากที่เห็นเก๋าเล่อและเหยายู่ค่ายกำลังหารือกันอยู่


“พวกคุณสองคนกำลังหาหารืออะไรกัน?”


“เจ้านายมาแล้ว ดูสิ นี่คือการ์ตูนที่พวกเราคิดขึ้นมา เหยายู่ค่ายและฝ่ายอนิเมชั่นได้ร่วมกันสร้างการ์ตูนอนิเมชั่นออกมา 1 เรื่องครับ”


อู๋ฮ่าวเหรินประหลาดใจเล็กน้อย ด้วยไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะสร้างการ์ตูนอนิเมชั่น นี่คงเป็นการเตรียมสำหรับการ์ตูนและอนิเมชั่นไปพร้อมกัน


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น