RC:บทที่ 450 การขับไล่

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

ทันใดนั้นประสิทธิภาพการต่อสู้ของเอ้อโกวซือได้รับการปลดปล่อยในระดับสูงสุด แม้ในการเผชิญหน้ากับชายที่แข็งแกร่งระดับ S หกคน เขาก็สามารถจัดการพวกมันได้หลายคนโดยไม่พ่ายแพ้

ในทางตรงกันข้ามหลินเฟิงใช้ชิปสัตว์วิญญาณระดับที่บินได้ซึ่งเป็นชิปความสามารถในการบิน หลังจากได้รับการกระตุ้นปีกคู่หนึ่งก็โผล่ออกมาจากด้านหลังหลินเฟิง แม้ว่าประสิทธิภาพการต่อสู้ของหลินเฟิงจะไม่เพิ่มขึ้นมากมาย แต่ความเร็วของหลินเฟิงก็ไม่น้อยไปกว่าผู้หญิงระดับ SS

ผู้หญิงคนนั้นไล่ล่าหลินเฟิงอย่างบ้าคลั่ง แต่ถึงแม้จะอยู่ในรถคันเล็กมาก แต่ความเร็วของหลินเฟิงก็ยังเร็วมากอยู่ดีและปฏิกิริยาโต้ตอบก็น่าเหลือเชื่อ

ทุกครั้งที่หญิงสาวระดับ SS โจมตีดูเหมือนจะไม่มีทางแก้ปัญหา การโจมตีเหล่านั้นก็จะถูกแก้ไขโดยหลินเฟิง

การโจมตีของเธอทิ้งระเบิดไปรอบ ๆ หน้าต่างและหลังคาเหล่านั้นถูกฉีกขาดจากการโจมตีของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้ทำร้ายหลินเฟิงเลย

"คุณเป็นใคร? มันไม่ใช่เรื่องของคุณ คุณจะไปจากที่นี่ก็ได้!" ผู้หญิงระดับ SS นั้นเห็นการเคลื่อนไหวมากมายกลับไล่หลินเฟิงไม่ทันแม้แต่ปลายผม ก็เลยตัดสินใจหยุดพูด

อย่างไรก็ตามหลินเฟิงไม่สนใจเธอ เพียงแค่ยิ้มแล้วโจมตีผู้หญิงคนนั้น

“แหม บ้าจริง ฉันไม่คิดว่าฉันจะทำอะไรกับคุณไม่ได้” หญิงสาวพูด ไม่รู้ว่าอะไรเป็นวิธีลับในการฝึกฝน แต่เธอได้รับการส่งเสริมโดยตรงสู่ระดับสูงสุดของ SS

สิ่งนี้ทำให้หลินเฟิงประหลาดใจ แต่ลองคิดเกี่ยวกับมัน พวกเขามีวิธีการมากมาย คนอื่น ๆ ในระดับ SS ต่างก็แข็งแกร่งหมายความว่าเธอจะต้องไม่อ่อนแอ

คราวนี้ความเร็วของผู้หญิงคนนี้ก็เร็วขึ้นและความแข็งแกร่งของเธอมากขึ้น เธอไล่หลินเฟิงหลายต่อหลายครั้งและทำให้เกิดเสียงดังในรถ หลินเฟิงหลบครั้งแล้วครั้งเล่าและเธอก็บินออกมาพร้อมกับดาบจากด้านหลัง

หน้าอกของหลินเฟิงปรากฏรอยแผลขนาดเล็กขึ้น และมีเลือดซึมออกมาและเกล็ดมังกรสีขาว ถูกดาบของเธอเฉือนเข้า

"ฮึ่ม!" เมื่อเห็นอย่างนี้หลินเฟิงก็โกรธ เขาหยิบชิปตัวอื่นขึ้นมาแล้วติดที่กึ่งกลางคิ้วอีกครั้ง วินาทีต่อมาร่างกายของหลินเฟิงเปลี่ยนไปอีกครั้ง

ที่ไหล่ทั้งสองข้างของหลินเฟิง มือทั้งสี่ก็ใหญ่ขึ้นอีกครั้ง แรงกระตุ้นของร่างกายก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แรงกระตุ้นอันทรงพลังได้พุ่งเข้าใส่ผู้หญิงคลาส SS คนนั้นทันที

หลินเฟิงใช้ชิปพรสวรรค์ของเจ้าจ๋อ ชื่อสามหัวและหกแขน แม้ว่าหลินเฟิงจะไม่มีหัวทั้งสามใหญ่ขึ้นมา แต่เขามีแขนหกแขน

ในเวลานี้แรงกระตุ้นของหลินเฟิง ก็ทะลุระดับ SS เมื่อเห็นลักษณะของหลินเฟิง ผู้หญิงคนนั้นก็ดูตกใจและมีท่าทางหวาดกลัวเล็กน้อย เนื่องจากร่างของหลินเฟิงเต็มไปด้วยเกล็ดมังกรสีขาวในขณะนี้ การป้องกันของเขาจึงแข็งแกร่งและปีกของเขาที่อยู่ข้างหลังเขานั้นก็เสริมสร้างความเร็วอย่างหาที่เปรียบมิได้ ในเวลานี้มืออีกสี่มือช่วยให้ต้านทานได้ง่ายดาย

ผู้หญิงคนนั้นเห็นฉากนี้และรู้ว่าหลินเฟิงไม่ใช่จะจัดการได้ง่ายๆ แม้ว่าความแข็งแกร่งของเธอจะแข็งแกร่งขึ้น แต่ความเร็วของเธอก็ไม่สามารถทัดเทียมกับหลินเฟิงได้ มันช่างไร้ประโยชน์

ในเวลานี้หลินเฟิงไม่เพียงแต่ได้รับระดับ SS ในด้านความเร็ว การป้องกันก็ยังแข็งแกร่งขึ้น สามารถต่อสู้กับเธอเป็นเวลานาน ในเวลานี้เธอก็ขึ้นสู่ระดับ SS จากนั้นผลของการต่อสู้ของเขากับเธอก็ชัดเจน

ดังนั้นผู้หญิงคนนั้นก็หันศีรษะของเธอทันทีและมองไปที่ด้านข้างของเอ้อโกวซือ หน้าที่ของพวกเขาคือฆ่าเอ้อโกวซือให้ได้ เมื่อใดที่พวกฆ่าได้ ก็เป็นอันว่าพวกเขาก็ทำงานสำเร็จ ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับหลินเฟิงต่อไป

อย่างไรก็ตามเมื่อดูสถานการณ์ที่ผ่านมา เธอพบว่าชายทั้งหกได้ร่วมมือกันเพื่อโจมตีเอ้อโกวซือ ไม่คิดว่าจะมีคนสามคนนอนอยู่บนพื้นและนิ่งเฉยไปแล้ว แม้ว่าเอ้อโกวซือเองก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ยงคงกระพันในการจัดการกับคนที่เหลืออีกสามคน

ดังนั้นผู้หญิงระดับ SS ก็ตื่นตระหนกทันทีหากสิ่งนี้ยังคงอยู่ภารกิจของพวกเขาจะล้มเหลว

เมื่อเธอนึกถึงวิธีหนึ่งหลินเฟิงก็รีบเข้าไป ซึ่งหลินเฟิงไม่ได้ให้โอกาสเธอคิดมากขนาดนั้น การเข้าไปเป็นการโจมตีที่ดุเดือด

ความแข็งแรงของหลินเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อใช้หกมือ แม้ว่าผู้หญิงระดับ SS จะบล็อกหมัดสองหรือสามของหลินเฟิง แต่หมัดสองสามหมัดนั้นก็ดุร้ายมาก

"นังตัวดี!" ในท้ายที่สุดหลินเฟิงทุบตีเธอด้วยพละกำลังทั้งหมด แล้วเธอก็หนีออกไปชนเข้ากับทางเดินของรถ อีกทั้งอาเจียนเลือดออกมากกว่าหนึ่งครั้ง

ในที่สุดรถไฟก็วิ่งออกจากถ้ำและในเวลานี้มีผู้โดยสารหลายคนได้รับบาดเจ็บจนมุมห้อง

การต่อสู้ระหว่างเอ้อโกวซือ และชายสามคนหยุดลงเอ้อโกวซือ อ้าปากหอบ ชายอีกสามคนนั้นเต็มไปด้วยเลือด พวกเขายืนอยู่ตรงข้ามกับเอ้อโกวซือ เป็นเวลานานโดยไม่เคลื่อนไหว

ในเวลานี้ดูเหมือนว่าความสามารถในการกระหายเลือดของหมาป่านั้นอ่อนแอเกินกว่าที่จะใช้งาน

ตอนนี้เอ้อโกวซือได้เข้าสู่สถานะนั้นแล้วดังนั้นเขาจึงหยุดการต่อสู้และแรงกระตุ้นทั้งร่างกายของเขาก็ค่อยๆจางลง เขาไม่ได้ใช้ความสามารถพิเศษของหมาป่ากระหายเลือด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าเหตุการณ์จะเป็นไปแบบนี้

อีกสามคนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อเห็นว่าเอ้อโกวซือไม่ได้โจมตีอย่างดุเดือดเหมือนเมื่อก่อนพวกเขาหยุดและหายใจด้วยความโล่งอก แต่หากเอ้อโกวซือดำเนินการต่อไปครึ่งนาทีพวกเขาทั้งหมดจะตายลงที่นี่

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นว่าผู้หญิงระดับ SS ถูกโจมตีโดยหลินเฟิงพวกเขาต่างก็ตกใจ หญิงผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนของพวกเขา พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าหญิงผู้นั้นจะพ่ายแพ้

เมื่อพวกเขาหันหน้ามองหลินเฟิงพวกเขา รู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้เห็นพระเจ้า ในเวลานี้หลินเฟิงถูกปกคลุมด้วยเกล็ดสีขาวส่องแสงสว่างจ้า มีปีกที่หลังและมือทั้งหกบนร่างกายของเขา ลมหายใจแรงทำให้พวกเขาสั่นเทิ้ม

"ข้อผิดพลาดของหน่วยสืบราชการลับ ภารกิจล้มเหลว ถอยก่อน!" ผู้หญิงระดับ SS ที่ชนเข้ากับทางเดินมองดูสถานการณ์ตรงหน้าเธอและรู้สึกกระอักกระอ่วนมาก แต่เธอก็สั่งให้ถอนตัวทันที

ทันทีที่เสียงของเธอสะท้อนลงไปด้านล่าง ชายผู้แข็งแกร่งระดับ S ที่เหลืออีกสามคนก็ทุบกระจกข้างๆ พวกเขาทันทีจากนั้นก็หนีออกจากรถไฟอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นคนเหล่านี้จากไป เอ้อโกวซือหายใจโล่งอกจากนั้นก็ทรุดตัวลงบนพื้นพลางสูดอากาศเข้าหายใจให้เต็มปอด

ในเวลานี้ผู้โดยสารที่อยู่ตรงหัวมุมต่างรู้สึกกลัวและเสียสติ พวกเขาดูหลินเฟิงทีละคน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

แต่ดวงตาของพวกเขายังแสดงความขอบคุณ ท้ายที่สุดหลินเฟิงและเอ้อโกวซือช่วยผู้คนได้มากมายในตอนนี้ ถ้าไม่ใช่พวกเขา ไม่รู้ว่าจะมีคนบาดเจ็บอีกกี่คนที่นี่

หลินเฟิงช่วยเอ้อโกวซือไปยังตำแหน่งที่เสียหาย เขาออกจากการรวมร่างและชิปพรสวรรค์ออก แล้วหยิบผลไม้สดออกจากวงแหวนมิติและส่งมอบให้กับเอ้อโกวซือ

ผลไม้ของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากกว่ายาครอบจักรวาลทั่วไป หลังจากทานเสร็จในไม่ช้ามันก็บรรเทาผลข้างเคียงของเอ้อโกวซือที่เกิดจากการใช้ชิปพรสวรรค์ประเภทกระหายเลือดที่ใช้ไปก่อนหน้านี้