TB:บทที่ 126 การประมูลการกุศล

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

TB:บทที่ 126 การประมูลการกุศล


เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ได้ผ่านไปสามวันแล้วที่เฉินหลงและจี้โม่ซีได้พบกับจางกวงหนาน


วันถัดมาหลังจากที่จางกวงหนานได้ช่วยเฉินหลงให้ได้เข้าร่วมการประมูล เขาก็ได้ส่งบัตรเชิญมาให้ ในไม่ช้าจางกวงหนานและเฉินหลงได้มาถึงถนนปินจีที่ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ยาวจนไปถึงภูเขาไทปิง ที่นี่มีคฤหาสน์ที่มีพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ทุกคนควรรู้ว่าภูเขาไทปิงไม่ได้เป็นเพียงจุดที่สูงที่สุดของเซียงเจียง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจของเมืองเซียงด้วย โดยทั่วไปแล้วคนที่สามารถขึ้นไปบนเขาได้พวกเขาจะต้องร่ำรวยหรือไม่ก็เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในเซียงเจียง และการที่สามารถมีคฤหาสน์บนยอดเขาไทปิงได้นั้นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคนคนนั้นไม่ธรรมดาแน่นอน


เวลานี้ได้มีรถหรูหลายคันจอดอยู่ด้านนอกของตัวคฤหาสน์ จางกวงหนานได้หยุดรถเพื่อมองรถที่เข้าไปในคฤหาสน์


เฉินหลงจูงมือจี้โม่ซีเข้าไปในคฤหาสน์ ข้างนอกประตูของคฤหาสน์มีชายวัย 50 ปียืนอยู่ เขาแต่งตัวเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า


จางกวงหนานเดินไปหาชายคนนั้นแล้วยื่นบัตรเชิญให้ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า


"คุณพ่อบ้านโจว สบายดีรึเปล่า?"


เขาก็เป็นพ่อบ้าน ดูเหมือนว่าพวกคนรวยจะชอบมีพ่อบ้านจริงๆ 


แมนเชียสหรือเม่งจื๊อได้กล่าวไว้ว่า’ไม่มีอะไรดีไปกว่าแสดงความกรุณาต่อผู้อื่น' การทำความดีบ่อยๆไม่เพียงแต่สามารถช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ยังสร้างความสุขให้กับพวกเขาได้ด้วย แต่ทำไมใบหน้าของพ่อบ้านโจวถึงไม่มีรอยยิ้มและความสดใสเลยละ


"งั้นผมคงต้องช่วยตาแก่ซูวันนี้" จางกวงหนาน


การประมูลจัดขึ้นโดยเจ้าของคฤหาสน์ เขาต้องการบริจาคเงินทั้งหมดที่ได้จากการประมูลเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการ จางกวงหนานที่เข้าร่วมการประมูลนี้ก็ได้ช่วยเจ้าของของที่นี่ด้วย


"ใช่ ฉันต้องขอบคุณนายสำหรับเรื่องลูกค้าเหล่านี้  แต่ยังไงพวกเขาก็มาที่นี่แล้ว  มันไม่ง่ายเลยที่จะชักจูงพวกเขา" พ่อบ้านโจวพูดด้วยรอยยิ้ม


"ผมรู้ ตอนที่ผมเห็นรถของพวกเขา ผมก็รู้ว่าพวกเขามาที่นี่กันแล้ว เอาละ ผมไปก่อนนะ" จางกวงหนานพยักหน้า


หลังจากที่จางกวงหนานเข้ามาในคฤหาสน์แล้ว เฉินหลงก็เดินตามเข้ามาและยื่นบัตรเชิญให้กับพ่อบ้านโจว แต่เมื่อเข้าเข้าใกล้พ่อบ้านโจว เฉินหลงก็พบกับบางอย่างที่น่ามหัศจรรย์ นั้นก็คือ พ่อบ้านโจวจริงๆแล้วเป็นปรมาจารย์ระดับขอบเขตกำเนิด


มันแปลกที่ปรมาจารย์ขอบเขตกำเนิดจะมาเป็นพ่อบ้านให้กับคน และเมื่อเฉินหลงพบว่าพ่อบ้านโจวเป็นปรมาจารย์ระดับขอบเขตกำเนิด พ่อบ้านโจวก็รู้เช่นกันว่าเฉินหลงอยู่ในระดับขอบเขตกำเนิด


หลังจากที่รู้แล้ว ใบหน้าที่มีรอยยิ้มของพ่อบ้านโจวก็หายไป ร่างกายของเขาก็ค่อยๆคอยระวังเฉินหลง


"คุณเป็นใครและมาทำอะไรที่นี่?" พ่อบ้านโจวถามด้วยสีหน้าที่เย็นชาและเสียงที่ทุ่มต่ำ


"พ่อบ้านโจวครับ ไม่ต้องกังวลไป ผมไม่ได้มาสร้างปัญหาที่นี่ ผมมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการประมูลครับ" เฉินหลงยิ้มให้เขามั่นใจ


"ผมก็หวังอย่างนั้น เข้ามาเถอะครับ แล้วผมจะจับตาดูคุณเอง" พ่อบ้านโจวคิดไปด้วยพูดไปด้วยเฉินหลงยิ้มให้พ่อบ้านโจวแล้วก็จูงมือจี้โม่ซีเข้าคฤหาสน์ไป


เมื่อเขามาในคฤหาสน์แล้ว เฉินหลงก็เห็นว่าจางกวงหนานกำลังพูดคุยอยู่กับชายสี่คนที่อายุราว 30 ปี เมื่อเห็นท่าทีของจางกวงหนานแล้วเขาก็ดูจะไม่พอใจเท่าไหร่


"ผู้จัดการจาง"เวลานี้ เฉินหลงได้เรียกเขาด้วยรอยยิ้ม


เสียงของเฉินหลงไม่เพียงแต่จะทำให้จางกวงหนานหันหน้ามา แต่กลับทำให้ชายทั้งสี่คนที่เขาคุยอยู่ด้วยก็หันมามองเฉินหลงเช่นกัน


เมื่อเห็นจี้โม่ซีอยู่ข้างกายเฉินหลง สายตาของชายสามคนที่หันมาก็แสดงออกอย่างชอบพอและชายอีกคนก็มองเฉินหลงอย่างสนใจเขามาก


เมื่อเห็นสายของชายคนนั้น เฉินหลงก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัวและคิดว่าเขาคงไม่ได้เป็นเกย์หรอกนะ


ตอนนี้ ได้มีชายคนนึงถามกับจางกวงหนานว่า "พี่จาง คนคนนี้คือ..."


เสียงของเขาเป็นเสียงกลางที่ออกไปทางผู้หญิงเล็กน้อย แต่ก็ยังออกไปทางตุ้งติ้งจนทำให้รู้สึกอึดอัดมาก


"ผมเป็นแค่คนไม่มีตัวตนครับ" เฉินหลงไม่ต้องการให้ชายคนนั้นรู้ชื่อของเขา ดังนั้นเขาจึงรีบพูดขึ้นก่อนจางกวงหนานจะเปิดปาก


ชายคนนั้นหัวเราะและมองไปที่เฉินหลง


"คุณนี่ถ่อมตัวจังนะครับ คุณซู การประมูลของที่นี่ไม่ใช่ว่าใครที่ไม่มีตัวตนเข้าร่วมได้ใช่ไหมครับ"


เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ดูยั่วยวนของชายคนนั้นแล้ว เฉินหลงก็รู้สึกไม่สบายใจและทำได้เพียงแค่ฝืนยิ้ม "ผมไม่เป็นคนที่มีชื่อเสียงอะไรหรอกครับ คุณไม่รู้จักชื่อของผมหรอก ลืมมันไปเถอะครับ"


พูดจบ เฉินหลงก็ดึงจี้โม่ซีมาอีกฝั่งเนื่องจากเขาไม่อยากที่นะจะอยู่ตรงนี้แล้ว


ส่วนจางหนานก็แยกออกมาจากกลุ่มชายสี่คนนั้นและเดินมาพร้อมกับเฉินหลง


"เมื่อกี้ คนพวกนี้เป็นใคร? ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นมิตรกับคุณเท่าไหร่นะ" เฉินหลงถาม


จางกวงหนานพูดด้วยรอยยิ้มว่า"ชายทั้งสี่คนเมื่อกี้เป็นตัวแทนของสี่กลุ่มจิวเวลรี่ในเซียงเจียงและเป็นคู่แข่งของโจวจิวเวลรี่ของพวกเรา เพื่อนร่วมงานของผมเป็นเหมือนศัตรูทางการแข่งขัน แต่พวกเขาจะไม่ต่อต้านผมแน่นอน" จากนั้นจางกวงหนานก็แนะนำชายทั้งสี่ให้เฉินหลงฟัง พวกเขาทั้งสี่ชื่อจินเหลียงหยวน อวี่จินหรู ลู่เหลียงยู่และหยินหลง


ชายที่ดูคล้ายกับหญิงคนนั้นมีชื่อว่าอวี่จินหรูแห่งตระกูลอวี่


ในบรรดาทั้งสี่คน อวี่จินหรูเป็นคนที่ทรยศเก่งที่สุดและพูดได้ว่าเขาเก่งเรื่องหลงหยาง(‘龙阳’


เป็นคำที่ใช้เรียกชายรักชาย)ซึ่งทำให้น่าปวดหัว"เขาเป็นเกย์จริงๆด้วย อย่ามายุ่งกับผมก็พอหรือไม่งั้นได้เจอดีแน่"


เมื่อได้ยินจางกวงหนานพูดถึงอวี่จินหรูเป็นเกย์คนนั้น ในหัวของเฉินหลงก็เกิดความคิดขึ้นมาทันที


ไม่นานนัก ทุกคนที่ถูกเชิญมาเข้าร่วมการประมูลก็ได้อยู่ที่นี่กันหมดแล้ว ตอนนี้เจ้าของคฤหาสน์ คุณซูก็ได้ออกมาแล้ว


คุณซูเป็นชายวัย 70 ปี ถึงผมของเขาเป็นสีเทาแต่ยังมีสปิริตดีอยู่และยังยืนหลังตรงอีกด้วย


"ยินดีต้อนรับเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ทุกท่านที่มาเข้าร่วมการประมูลการกุศลในครั้งนี้ การประมูลนี้จัดขึ้นโดยเพื่อนเก่าของผมซึ่งมันเป็นการประมูลหินหยก 10 ชิ้นที่ผมได้ไปซื้อมาจากประเทศพม่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผมไม่สามารถการันตีได้ว่ามีแร่หินหยกเจไดต์หายากอยู่ในนี้หรือไม่แต่ผมการันตีได้ว่าได้คัดสรรหยกเหล่านี้มาอย่างดี ไม่ว่าผมจะได้เงินจากการประมูลครั้งเท่าไหร่ ผมก็จะบริจาคเงินทั้งหมดให้กับคนยากไร้ที่อยู่ในพื้นที่ภูเขาบนแผ่นดินใหญ่เพื่อช่วยให้พวกเขาได้มีอาหารและมีการศึกษาพวกเขา เอาละ ผมรู้ว่าพวกคุณร้อนใจอยากจะให้เริ่มประมูลแล้ว ผมจะเลิกพูดจาเพ้อเจ้อแล้ว งั้นขอเริ่มการประมูล ณ บัดนี้" พูดจบ คุณซูก็นั่งลงเฉยๆ


ขณะที่เสียงของคุณซูค่อยๆลดลงไป หยกที่มีเครื่องหมายสีเขียวชิ้นแรกได้ถูกเคลื่อนย้ายออกมา และได้มีชายวัย 40 ปี เดินไปยังตำแหน่งที่คุณซูอยู่ คนคนนี้น่าจะเป็นผู้ขายการประมูลในครั้งนี้


"หินหยกดิบชิ้นนี้มีน้ำหนักถึง 66 ชั่ง ซึ่งเป็นของที่เป็นมงคลอย่างยิ่ง ผมเชื่อว่ามันจะทำให้การประมูลเริ่มต้นได้ด้วยดี ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 6.66 ล้านหยวน และการประมูลครั้งแรกสามารถเพิ่มได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านหยวน" ผู้ขายการประมูลได้แนะนำหินหยกและทำการเริ่มการประมูล


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น