RC:บทที่ 360 ผู้บูชาอสูร

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

ในขณะที่เขาเอื้อมมือออกไป ฝ่ามือเปื้อนเลือดตรงหน้าเขารีบรวมตัวกันและขยาย...ในพริบตาเดียวฝ่ามือของมันก็กลายเป็นฝ่ามือเปื้อนเลือดที่ใหญ่กว่าสิบเมตร มันเต็มไปด้วยแม่น้ำเลือด, มีเสน่ห์และคมชัดและคว้าหลินเฟิง

พร้อมกันนั้นหลินเฟิงรู้สึกว่ามีแรงดูดอย่างมากดึงร่างเขาเข้ามาใกล้

เมื่อคนอื่นเห็นสิ่งนี้พวกเขาทั้งหมดต่างก็ตกตะลึง เห็นได้ชัดเลยว่าทุกคนคิดว่ามันไม่ฉลาดเลยที่จะมีคนกล้าที่จะต่อสู้กับองค์กรโครงกระดูกเหล่านี้

"มังกรดำ!" เมื่อหลินเฟิงไม่สามารถทนได้ ทันใดนั้นหลินเฟิงก็ตะโกน

เริ่มเลย!!!

วินาทีต่อมาเสียงอึกทึกของมังกรดำก็ดังขึ้นในหูของทุกคนแล้วหลินเฟิงก็กำจัดห่วงอันทรงพลังแล้วกระโดดไปด้านข้าง

จากนั้นมังกรดำตัวใหญ่ก็พุ่งออกมาจากคิ้วของหลินเฟิงด้วยร่างใหญ่, กรงเล็บแหลมและดวงตาสีทอง มันส่องแสงสีดำและดูน่ากลัวอย่างมาก

เขาเห็นมังกรดำออกมาและคำรามอีกครั้ง จากนั้นหางมังกรขนาดใหญ่ก็ถูกดึงออกมาและดึงเข้าไปที่มือใหญ่

ปัง! ด้วยเสียงอันดัง ร่างของมังกรดำถอยกลับและมืออันใหญ่นั้นก็ถูกดึงออกไปทันทีและแสงเลือดก็หายไป

เมื่อผู้คนเห็นฉากนี้พวกเขาทั้งหมดตกใจ หลินเฟิงถึงขนาดสู้ผู้บูชาอสูร(ชายอสูร)เพื่อที่จะรับรู้ว่ามันคืออะไร

แม้แต่อีกด้านของผู้บูชากระดูก(ชายกระดูก)ก็ประหลาดใจมากในเวลานี้ เขาหันหัวและมองไปทั่ว สีหน้าเขาไม่อยากจะเชื่อ

สำหรับพวกที่ยังลอยอยู่ในอากาศ พวกเขาต่างก็ประหลาดใจกับเหตุการณ์นี้ แต่พวกเขาไม่ได้ทำอะไร พวกเขาก็แค่ประหลาดใจ

แม้ว่าจะผู้บูชาอสูรจะไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ แต่ผู้ที่ลอยอยู่ในอากาศและสวมเสื้อคลุมสีแดงทุกคนต่างก็รู้ถึงความน่าสยองขวัญของชายผู้นี้ การจัดการกับผู้มีพลังสำหรับเขานั้นเป็นเรื่องง่ายๆ

คนอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุรู้สึกตกใจเมื่อเห็นท่าทางของหลินเฟิงในตอนนี้ โดยเฉพาะผู้ที่ลอยอยู่ในอากาศพร้อมเสื้อคลุมสีแดง เพราะหลินเฟิงเป็นเพียงระดับ A แต่เขาสามารถกำจัดล็อคลมหายใจของผู้บูชาอสูรและยังหลบหลีกจากการโจมตีของเขาได้ซึ่งไม่ง่ายเลย

"มังกรดำ จัดการเลย!"

โฮก!!!

วินาทีต่อมา มังกรดำก็คำรามออกมา ร่างใหญ่เปล่งประกายแสงสีดำและบินตรงเข้าไปในร่างของหลินเฟิง

จากนั้นร่างของหลินเฟิงก็เปลี่ยนไปอย่างมากในสายตาของทุกคน สิ่งที่เห็นมีเพียงร่างกายของหลินเฟิงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและทันใดนั้นร่างกายของเขาก็ถูกปกคลุมด้วยแสงสีดำซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากมากที่ผู้คนจะมองเขาตรงๆ

มีเพียงเกล็ดสีดำชิ้นหนึ่งที่ค่อยๆโผล่ขึ้นมาอย่างช้าๆออกมาจากร่างกายของเขา มันหนาแน่นสูงและดำมาก เพียงชั่วครู่เท่านั้นเกล็ดเหล่านั้นก็ครอบคลุมทั้งร่างกายของหลินเฟิง

มือของหลินเฟิงก็ถูกคลุมด้วยเกล็ดมังกรสีดำและกรงเล็บก็เริ่มเปลี่ยนไปใหญ่ขึ้น, ยาวขึ้นและคมชัดขึ้น

ในช่วงเวลาสั้น ๆ กรงเล็บของหลินเฟิงถูกล้อมรอบด้วยแสงสีดำและกลายเป็นกรงเล็บมังกรคู่หนึ่งที่มีความแวววาวของโลหะสีดำ ในเวลานี้ใบหน้าของหลินเฟิงก็เต็มไปด้วยเกล็ดมังกรสีดำและเขามังกรดำสองอันกำลังงอกบนหน้าผากของเขา

ในเวลานี้ความรู้สึกของหลินเฟิงแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ดูเหมือนว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคนเหล่านั้นไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นมังกรที่ทรงพลังเหมือนสิ่งมีชีวิต

และด้วยขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องทำให้ลมหายใจของหลินเฟิงมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และในไม่ช้าก็มาถึงระดับเดียวกับมังกรดำซึ่งเป็นระดับเริ่มต้นของระดับ SS

เมื่อเห็นฉากนี้ บางคนก็มีความอยากรู้อยากเห็น, บางคนก็ตกใจและบางคนไม่มีท่าทีอะไรแสดงออกมา เห็นได้ชัดว่าความสามารถในการรวมร่วงกับสัตว์วิญญาณไม่ใช่สิ่งแปลก

ผู้บูชาอสูรนั้นมองเห็นฉากนี้ แต่ก็ไม่ประหม่า เพียงแค่พูดออกมา "แปลงร่างเป็นสัตว์งั้นเหรอ!"

ทันทีที่ดวงตาของเขาจับจ้อง เขาก็เกิดแรงผลักดันที่แข็งแกร่งขึ้นมาทันที ทุกคนสามารถรู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่ไม่ธรรมดานี่ได้ เห็นได้ชัดว่าผู้บูชาอสูรในชุดเสื้อคลุมสีแดงถือเป็นเรื่องจริงจังมาก

เพียงแค่ได้เห็นคนที่สวมเสื้อคลุมเลือดที่ลอยอยู่ตรงกลางกลับมาจากไกลๆ ดูเหมือนกลัวว่าจะได้รับผลกระทบโดยทั่วไป

วินาทีต่อมาหลินเฟิงเห็นร่างอ้วนของมันหายไปในทันที และจากนั้นก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา พร้อมทั้งล็อคคอเขาไว้

มันเร็วมาก ใครจะคิดว่าร่างกายที่หนักกว่า 200 จินจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาทั้งๆที่อยู่ห่างไปกว่าสิบเมตร

อย่างไรก็ตาม หลินเฟิงหลังจากที่รวมร่างกับสัตว์วิญญาณมีความสามารถทั้งหมดเท่ากับมังกรดำ รวมถึงการรับรู้ของเขาด้วย!

ดังนั้นเมื่อผู้บูชาอสูรเคลื่อนไหวหลินเฟิงจึงสังเกตเห็น เขาเปิดปากอย่างรวดเร็วและจากนั้นคลื่นแสงสีดำที่น่ากลัวก็พุ่งออกมาจากปากของหลินเฟิงและพุ่งตรงเข้าหามือของผู้บูชาอสูร

แต่ด้วยความตกใจของหลินเฟิง มือที่ไร้อำนาจดูเหมือนจะเพิกเฉยต่อคลื่นแสงและปล่อยให้มันระเบิดมือของเขาและพุ่งเข้าหาโดยตรง

ดังเสียงอันดัง หลินเฟิงกระเด็นไปตามเสียง เขาเลือดออก หลังจากร่อนลงบนพื้น เขาเสียเลือดมาเป็นระยะทางไกล

"นี่คือความแข็งแกร่งระดับ SSS ใช่ไหม?" หลินเฟิงถูกมันโจมตีเพียงเล็กน้อยแต่กลับรู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายทั้งหมดของเขาเหมือนจะแตกสลาย

"ฉันไม่แนะนำให้นายต่อต้าน ความแข็งแกร่งของนายแข็งแกร่งมากในหมู่เพื่อนของนายเอง แต่มันไม่มีความหมายเลยในสายตาของฉัน!" ผู้บูชาอสูรกล่าวและเดินไปที่หบินเฟิงทีละก้าว

"บ้าเอ๊ย แบบนี้ถ้าข้าอยู่ในสมัยที่รุ่งเรือง การจะฆ่ามันสิบหรือแปดคนก็คงเป็นไปได้ในทันที!" เสียงมังกรดำพูดออกมาจากร่างของหลินเฟิงอย่างไม่พอใจนัก

หลินเฟิงกระเด็นเข้าไปในฝูงชนและชนเข้ากับคนหลายคน จากนั้นเขาก็หยุด ในเวลานี้เกล็ดมังกรดำบนร่างกายของเขาแตกหัก จะเห็นได้ว่าพลังของการโจมตีนั้นแย่ขนาดไหน

เมื่อได้เห็นผู้บูชาอสูรพูดดูถูกเหยียดหยาม และทันใดนั้นก็ตามมาจนทัน และดูเหมือนว่ามันต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากอาการบาดเจ็บสาหัสของหลินเฟิงในตอนนี้ โดยการที่จะจัดการเขาซะให้สิ้นซาก

อย่างไรก็ตามก่อนที่หลินเฟิงจะมีโอกาสได้พูด ผู้บูชาอสูรก็รีบวิ่งด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

"หยุดเขา!"

ในเวลานี้ทันใดนั้น ไม้เท้าแห่วเซนก็ลงมาจากท้องฟ้า แทรกอยู่ตรงหน้า

ในเวลาเดียวกัน ร่างของมนุษย์ก็รีบพุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็วเบื้องหลังผู้บูชาอสูร และพระพุทธรูปที่ดุร้ายก็ปรากฏอยู่ด้านหลังชายคนนั้นและโจมตีเขาด้วยหมัดกำปั้นซึ่งมีพลังมากจนดูเหมือนจะฉีกกองกำลังทั้งหมดได้

ทางด้านขวาชายคนหนึ่งเหมือนหมียักษ์ที่มีความสูงสามเมตร กำลังถล่มพื้นด้วยกำปั้นเดียวและก่อกำแพงหินขนาดใหญ่ด้านหน้าผู้บูชาอสูรทันที

ก่อนที่ผู้บูชาอสูรจะตอบสนองได้ทัน ไฟดาบขนาดใหญ่ก็มาทางด้านซ้ายซึ่งมีพลังมาก

ผู้บูชาอสูรมองที่การโจมตีของหลาย ๆ คน แล้วยิ้มราวกับว่าเขากำลังดูมด เขาหันหน้าไปทางกำแพงและโจมตีจากสี่ทิศทาง

ในการเผชิญหน้ากับพระพุทธรูปที่ดุร้ายที่อยู่ข้างหลังเขา เขาไม่ได้ขยับหรือหลบหลีก แต่กลับทิ้งกำปั้นไว้เพื่อระดมยิงเขา

เขาเห็นว่ากำปั้นนั้นเป็นการโจมตีที่แม่นยำมากสำหรับเขา