RC:บทที่ 221 แดนเทพนิยายบนดิน

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 221 แดนเทพนิยายบนดิน


“ครับ พวกเราเป็นคนที่นี่ จะไม่ออกมาต้อนรับท่านผู้นำอาวุโสได้ยังไงล่ะครับ” หลิน เฟิงกล่าวขึ้นพลางยิ้มๆ


“ฮ่าๆ ป่ะ ไปดูข้างในกันเถอะ ฉันมีลางสังหรณ์บอกว่าเธอน่าจะสร้างชนบทได้ออกมาดีกว่าเดิมแน่ ใช่ไหม” ผู้นำซ่งว่าขึ้น


“ถ้าจะเข้าไปดูจริงๆล่ะก็ ผมว่าเอาไว้ทีหลังดีไหมครับ” หลิน เฟิงบอกอ้อมๆซึ่งนั่นยิ่งทำให้ความสนใจของผู้นำกลุ่มที่ถูกส่งมาเพิ่มสูงขึ้น


“ปู่คะ ที่ที่สวยงามแห่งนี้คือที่ที่คุณปู่บอกว่ามาจากแรงบันดาลใจของพวกคนรุ่นใหม่ๆมาต่อเติมชนบทใช่ไหมคะ”


หลังจากผู้นำซ่งพูดจบ เด็กสาวหน้าตาสวยก็เสริมขึ้น หลิน เฟิงมองไปที่เด็กสาวคนดังกล่าว ส่วนเธอเองก็จ้องตอบเขาด้วยความสงสัยใคร่รู้


“ใช่ ใช่แล้วล่ะ เขาคนนี้ล่ะ ชื่อหลิน เฟิง มาทำความรู้สักกับเขาสิ หลานมีเรื่องที่อยากจะเรียนรู้จากเขามากกว่านี้ไม่ใช่หรือ” ผู้นำซ่งว่า


“ท่านผู้เฒ่าชมมากเกินไปแล้ว ผมเป็นแค่นักธุรกิจคนหนึ่งที่กำลังเรียนรู้เองครับ” หลิน เฟิงว่าขึ้น


“งั้นก็ ท่านผู้เฒ่าครับ เข้าไปข้างในกันเร็วๆเถอะครับ เพราะยิ่งผมเข้าใกล้ที่นี่มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกสบายมากขึ้นเท่านั้น ผมล่ะอยากเข้าไปเร็วๆเต็มที” ในตอนนั้นเอง ชายคนที่อยู่ใกล้ๆก็พูดขึ้น


“เอาล่ะ งั้นเข้าไปดูกันเถอะ”


ทางที่เข้ามานี้ คนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งนี้ก็กำลังเดินตรงไปยังหมู่บ้านลั่วหยาง


เพียงแค่มาถึงหน้าประตูทางเข้าหมู่บ้าน พวกเขาก็ได้เห็นดอกไม้มากมายเรียงรายตามพื้นซึ่งทุกดอกมีหยดน้ำค้างและกลิ่นหอมชื่นใจ


“ว้าว ดอกไม้เยอะมากเลย ดูดอกนี้สิ แล้วดูนี้สิ ดอกไม้มีระดับทั้งนั้นเลย” เสียงหลายเสียงในนั้นว่าขึ้น


“ไม่ใช่แค่ดอกนี้นะ แต่ดอกนี้แล้วดอกนี้ก็ด้วย ว้าว ดูเหมือนว่าทุกดอกจะเป็นดอกไม้มีระดับทั้งนั้นเลยนะเนี่ย” ก่อนที่ชายคนนั้นจะพูดจบลงก็มีเสียงที่ร้องออกมาด้วยความแปลกใจมาจากข้างหลัง


“ดอกไม้ตั้งมากมายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงน่ะ ตรงนี้เป็นประตูเข้าหมู่บ้านแท้ๆ ยังมีดอกไม้คุณภาพดีๆตั้งมากมายแบบนี้ แล้วนี่ถ้าทุกที่มีแต่ดอกไม้พวกนี้ จะต้องใช้เงินเท่าไหร่กันนะ” หลานสาวของผู้นำซ่งว่าขึ้น


“จริงด้วย เอ่อนี่ ฉันเจอดอกไม้พิเศษๆด้วยล่ะ มาดูสิ” จากนั้นชายหนุ่มคนหนึ่งก็ว่าขึ้น


เมื่อผู้คนมองไปที่เขา แน่นอนล่ะว่าดอกไม้ที่ว่านั่นก็อยู่ตรงหน้าเขานี่เอง ช่างอัศจรรย์ใจจริงๆ ทุกอย่างล้วนเป็นสีชมพูไปหมด ทั้งกลีบดอกที่บานเพียงครึ่งเดียว น้ำค้างเต็มดอกในยามเช้า ช่างดูงดงามยิ่ง


ถัดจากดอกไม้ดอกนั้นเข้าไป ก็ยังมีดอกไม้อีกมากมายที่ดอกกำลังตูม ชูก้านสวยงาม ในกลุ่มดอกไม้พวกนี้ พวกมันล้วนโดดเด่นและแปลกกว่าที่เหลือ


“เอ่อ คุณภาพของดอกไม้ดอกนี้ดูจะไม่ใช่ธรรมดาๆนะ” ในตอนนั้นเอง ท่านผู้เฒ่าได้เดินเข้ามาทีละก้าวมายังทิศทางที่ดอกไม้พวกนั้นอยู่ ก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างอึ้งๆ


ในขณะที่เดินอยู่นั้นเอง เขาก็ถอดแว่นตาออก พลางหยิบผ้าจากในกระเป๋าของเขาออกมาเช็ดแว่น ราวกับกำลังกลัวว่าตนดูผิด


เมื่อได้ยินในสิ่งที่ชายชรากล่าว หลิน เฟิงก็มองไปที่ดอกไม้นั้น ก่อนจะเห็นว่ามันเป็นดอกไม้ที่สวยงามจริงๆ และคุณภาพที่อยู่ในระดับดีเยี่ยมอีกด้วย


แต่ในกระถางนี้มีดอกไม้อยู่สี่ดอก มีสามดอกที่กำลังเป็นดอกตูม อีกอย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อด้วย แต่นั่นก็เป็นอะไรที่ชวนอยากรู้เวลาได้เห็นดอกไม้พวกนี้ชูก้านยืนตระหง่านเหมือนหญิงสาวในชุดคลุม


ในตอนนั้นเอง ชายชราก็เดินไปที่ดอกไม้ดังกล่าว และผู้คนต่างก็หลีกทางให้เนื่องด้วยไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากนัก รู้แค่เพียงว่าดอกไม้ที่อยู่ในกระถางพวกนี้ก็ดูสวยดี


“ดอกไม้นี่ ดอกไม้ที่อยู่ในกระถางนี่ เป็นดอกไม้ชั้นเลิศ ถึงจะบานแค่ครึ่งเดียว แต่ก็เห็นถึงคุณภาพชั้นเลิศของมันได้แล้ว ส่วนดอกไม้อีกสามดอกที่กำลังเป็นดอกตูมอยู่ เวลาได้เห็นก็รู้สึกว่าสีและดอกมันสวยดี” ชายสูงวัยเอ่ยชม


หลิน เฟิงมองท่านผู้เฒ่าที่กำลังจะวางกระถางดอกไม้ลง เขาถือกระถางไว้ในมือก่อนจะมองมันด้วยความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความหลงใหล ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความรัก


“ท่านผู้เฒ่าชอบดอกไม้ในกระถางนี้มากเลยสินะครับ” หลิน เฟิงถามขึ้น


“ช...ใช่แล้ว คือ...” ท่านผู้นำชรามองไปที่ดอกไม้นั้นก่อนจะว่าขึ้น เขาถือกระถางไว้ในมือก่อนจะค่อยๆวางลงอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก


ชายชราผู้นี้เป็นผู้มีความรู้เกี่ยวกับดอกไม้เป็นอย่างดี ที่บ้านเขาล้วนแต่ปลูกไม้ดอกพันธุ์ดีและชั้นสูงในกระถาง แต่ยังห่างไกลจากที่หลิน เฟิงมีนัก


ทั้งนี้ เขายังรู้ด้วยว่าราคาของดอกไม้พวกนี้นั้นสูงลิ่ว เขามีดอกไม้ราคาไม่ถึงหมื่น แต่นี่ราคาดอกไม้น่าจะราคาแสนกว่า แต่ทว่าตอนนี้ที่ตัวเขาไม่มีเงินอยู่เลย ยิ่งไปกว่านั้น  นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนที่นี่สร้างขึ้นมาด้วยใจ การขออาจจะเป็นเรื่องที่น่าอาย


ชายชราเริ่มละล้าละลังไปชั่วครู่ ใจหนึ่งเขาก็ไม่ควรเอามันไปแถมเงินก็ไม่ได้พกมาด้วย ส่วนอีกใจ เขาก็รู้สึกชอบมันมากๆ


“ก็ถ้าท่านผู้เฒ่าชอบ ก็เอาไปเลยครับ ถือว่าเป็นของขวัญจากหมู่บ้านของเรา” หลิน เฟิงกล่าว


“ใช่ครับใช่ ทานผู้นำอาวุโส นี่ถือว่าเป็นของที่เรามอบให้จากใจ เอาไปได้เลยครับ” เมื่อผู้ใหญ่บ้านเห็นแบบนั้น เขาจึงรีบเร่งมาพูดชักชวนชายชราซึ่งนี่เป็นโอกาสที่เขาไม่ควรพลาด


“แต่นี่...” ชายชรารู้สึกละอายเล็กน้อย


 “ไม่เป็นไรเลย เอาไปเถอะครับ เสี่ยวเจียง มาเอากระถางไปตกแต่งใหม่ไป แล้วเดี๋ยวเอาไปให้ท่านผู้เฒ่าทีหลัง” ผู้ใหญ่บ้านเรียกชายคนหนึ่งมาอย่างไวก่อนจะส่งกระถางดอกไม้ไปให้เขา


“ได้เลยครับ รอสักครู่นะครับ” เมื่อกล่าวจบ ชายคนดังกล่าวก็เดินออกไป


“เอ่อ คือฉันต้องขอโทษจริงๆนะ พอมาปุ๊บก็มาเอาดอกไม้ที่ดีที่สุดไปปั๊บแบบนี้” ชายชราเอ่ย


กระถางดอกไม้นั้นมีค่าอย่างน้อย 100000 หยวนตามที่ชายชราประเมินไว้และนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงลังเลใจเป็นอย่างมาก


“ไม่เป็นไรครับ ผมยังอีกเยอะเลยครับที่นี่” หลิน เฟิงตอบกลับไปเป็นปกติ


“ว่าไงนะ เธอยังมีอีกเยอะเลยงั้นหรือ ไม่ได้โกหกกันใช่ไหม” ชายชรากล่าว


“จริงๆครับ ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวผมเอามาให้คุณดูทีหลังก็ได้ หรือแม้ว่าคุณเข้าไปในหมู่บ้านแล้ว ถ้าคุณมองดีๆ คุณก็จะเห็นดอกไม้ที่ดีที่สุดในบรรดาดอกไม้ทั้งหมดเองครับ” หลิน เฟิงชี้ไปยังดอกไม้ในหมู่บ้าน


“งั้น งั้นหรือ งั้นไปสิ เร็ว ฉันอยากเห็นว่ามีอย่างอื่นอีกไหม” เมื่อกล่าวจบ ชายสูงวัยจึงพากลุ่มคนมากมายเข้าไปในหมู่บ้านลั่วหยาง


ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในหมู่บ้าน พวกเขาต่างก็หันมองกันอย่างงุนงง พลางรู้สึกเหมือนว่าพวกตนเดินเข้ามาในดินแดนเทพนิยายของโลกใบนี้


คราวก่อนที่ชายชรามาที่หมู่บ้านลั่วหยางที่ตั้งอยู่ในเหลา กั๋ว เขาก็รู้สึกได้ว่าที่แห่งนี้เป็นเหมือนกับวิมาน แต่ทว่าตอนนี้กลับเป็นดินแดนเทพนิยายบนดิน


อากาศในวันนี้นั้นแปลกไปมาก มีหมอกเต็มไปหมด สภาพพื้นที่ของหมู่บ้านลั่วหยางเองก็ไม่ได้สูงมากนัก และนี่ยังเป็นครั้งแรกด้วยที่มีหมอก


ดอกไม้มากมายในที่นี้เบ่งบานไปทั่ว ก้อนเมฆปกคลุมทั่วฟ้า ก้อนกรวดเรียงรายอยู่บนดิน


แม้จะมีคนมากมาย แต่กลับดูเงียบสงบ เหมือนอยู่ในภูเขาลึก


พวกเขาก้าวไปทีละก้าวบนถนนในหมู่บ้านลั่วหยาง เสียงอันสดใสของบรรดานกที่ร้องเพลงดังเข้ามาที่หูของพวกเขา ไหนจะเสียงร้องของแมลง และสายลมที่พัดปลิวมา ก้อนเมฆมีทั้งแยกกลุ่มก้อนและรวมตัวกัน พลันกลิ่นหอมยวนใจก็กระทบเข้ากับจมูก


“สวยมากเลยจริงๆ นี่มันแดนเทพนิยายบนดินชัดๆ ดินแดนแห่งเทพนิยายบนโลกใบนี้” ชายชรามองทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเขา ดินแดนแห่งเทพนิยายแห่งนี้ไม่ใช่หรือที่ผู้คนต่างรอคอย


ผู้คนที่หลงใหลในตอนแรกต่างจำได้ว่าจะต้องมาดูดอกไม้ที่งามที่สุด พวกเขาเงยหน้ามองพลางรู้สึกถึงความสบายใจที่สายลมนั้นพัดพามาพลางดื่มด่ำไปกับสภาพแวดล้อมอันแสนสวยงามนี้สักพัก


“คุณปู่คะ คุณปู่ อย่าลืมสิ่งที่เราต้องทำกันในวันนี้สิคะ” หลังจากที่เวลาผ่านไปนาน หลานสาวของผู้เฒ่าชราก็เอ่ยขึ้น


“เออ ใช่ จริงด้วย ทุกคน ตื่นได้แล้ว รู้สึกอินเลยใช่ไหม ไว้เดี๋ยวฉันจะให้คะแนนทีหลัง” ชายชราปลุกให้ผู้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรในสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้าในหมู่บ้านลั่วหยางตื่นขึ้น


“นอกจากนี้ ทีมช่างภาพเองก็มากับฉันด้วย  เราต้องการให้ภาพออกมาดีที่สุด นี่ถ้าหมู่บ้านลั่วหยางไม่ชนะรางวัลที่หนึ่งล่ะก็ คุณต้องรับผิดชอบนะ


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น