RC:บทที่ 113 ตงฟางเสี่ยง

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 113 ตงฟางเสี่ยง


“เขาว่ากันว่า มีญาติของนักการเมืองชั้นผู้ใหญ่ในระดับจังหวัดอยู่ในตระกูลของเขา และมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่!” หวังฮ่าวหมิงเดินมาหาหลินเฟิงและบอกข้อมูล


“ฉันไม่เชื่อว่าจะมีคนธรรมดามาในวันนี้นะ และเบื้องหลังของพี่หวังก็แข็งแกร่งมาก ไม่เช่นนั้นแล้วพี่คงไม่รู้ข้อมูลมากเช่นนี้เป็นแน่!” หลินเฟิงมองดูหวังฮ่าวหมิงและกล่าวด้วยรอยยิ้ม


เถ้าแก่หวังมองดูเหมือนจะเป็นเจ้าของร้านอาหารมิตรภาพธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่หลินเฟิงไม่เชื่ออย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะมีร้านอาหารที่ใหญ่โตเช่นนี้ได้อย่างไร?


ร้านอาหารของเขาไม่เพียงแต่จะเป็นร้านหลักอยู่ตรงหน้าของเขา แต่ยังใช้คำว่า “จ้วง” แทนที่คำว่า “ร้าน”


นั่นแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของร้านอาหารแห่งนี้ ที่นี่เป็นเพียงร้านหลัก แต่ยังมีร้านค้าในเครือและสาขาอื่นๆ ไปทั่วมณฑลฉิงเฟิง หลินเฟิงรู้มาอย่างลับๆ ดังนั้นอัตลักษณ์ของเถ้าแก่หวังต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่


ยิ่งไปกว่านั้น เขามีเพื่อนฝูงมากมายที่ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อนเท่านั้น


ความสัมพันธ์ที่เป็นชั้นๆ แบบนี้ทำให้หลินเฟิงเดาได้มาตั้งนานแล้ว เมื่อเขาได้ยินเถ้าแก่หวังพูดถึงเกี่ยวกับผู้มีพลัง


จะต้องมีคนที่มีพลังอยู่เบื้องหลังเถ้าแก่หวัง และหลินเฟิงเองก็สงสัยว่าเถ้าแก่หวังเองก็เป็นผู้มีพลังเช่นกัน


ก่อนนี้ ผู้ที่มีพลังตราบใดที่ช่องว่างไม่ใหญ่จนเกินไปและถ้าซ่อนไว้ลึกพอ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นว่าเป็นผู้ที่มีพลัง


และมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่สามารถจำแนกอัตลักษณ์ของพวกเขาได้ ดังนั้นคนอื่นจะไม่มีทางตระหนักได้เลยว่าพวกเขาเป็นผู้ที่มีพลัง


เพราะว่าโลกนี้และธรรมชาติของมนุษย์นั้นช่างซับซ้อน ซึ่งไม่สามารถปล่อยวางได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นหลินเฟิงก็ตระหนักได้ว่าเขามีอะไรในใจ


ถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรในตอนนี้ แต่มันต้องเป็นตัวตนของเถ้าแก่หวังทีแตกต่างออกไปอย่างแน่นอน


“ฮ่าฮ่า เสี่ยวเฟิง นายนี่มันช่างตลกเสียจริง ฉันก็เป็นแค่คนธรรมดา แต่ฉันก็ถูกสังคมสงสัยมาตั้งนานแล้วล่ะ!” พี่หวังกล่าวด้วยรอยยิ้ม


เมื่อเห็นว่าหวังฮ่าวหมิงไม่ยินดีที่จะยอมรับมัน หลินเฟิงจึงไม่ได้พูดอะไร และรีบเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา


“ถ้างั้น พี่ชาย หยางฉิงชานเป็นใคร? ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าคนรวยและคนหนุ่มสาวพวกนี้มองออกได้ยากเสียจริง!” หลินเฟิงถาม


“หยางฉิงชาน ภูมิหลังของเขานั้นเลวร้ายมาก เรียกได้ว่าเขาเป็นผู้สืบทอดของกลุ่มเฉิงฮุ่ย นายรู้จักกลุ่มเฉิงฮุ่ยไหม?” เถ้าแก่หวังถาม


“กลุ่มเฉิงฮุ่ย ก็คุ้นๆ อยู่นะ เหมือนผมจะเคยได้ยิน!” หลินเฟิงคิดและจำไม่ได้ แต่เขารู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้


“เฉิงฮุ่ยกรุ๊ป เป็นกลุ่มที่มีอำนาจมากที่สุดในมณฑลฉิงเฟิงในรอบสิบปีที่ผ่านมา เคยเป็นผู้นำของมณฑลฉิงเฟิงในเวลานั้น นายจำได้หรือยัง?” เถ้าแก่หวังกล่าว


“อ้อ ผมจำได้แล้ว กลุ่มนี้เกิดล้มละลายในข้ามคืนและก็หายไปเลย!” หลินเฟิงกล่าวขึ้นทันที


ในเวลานั้น มีเพียงพวกกลุ่มวัยรุ่นที่จะไม่รู้จักกลุ่มนี้ แต่มันทำให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ดังนั้นพวกเขาจึงจำได้เพียงเล็กน้อย


“ไม่ใช่การล้มละลายนะ แต่เป็นการปกปิดซ่อนเร้น!” เถ้าแก่หวังกระซิบ


“ซ่อนเร้น?” หลินเฟิงไม่เข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร


“ว้าว คุณอยู่ที่นี่เอง!” ทันใดนั้นหญิงสาวสองคนก็เดินเข้ามา หยางเจียนซื่อกับหยางเจียนหลิง


ทั้งสองคนนี้เป็นพี่น้องตระกูลหยาง ไข่มุกอันสดใสของผู้พิพากษาของมณฑลฉิงเฟิง หยางเจียนซื่อและหยางเจียนหลิง


เดิมทีแล้วหลินเฟิงต้องการที่จะรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิหลังอัตลักษณ์ของหยางฉิงชาน แต่เขาก็ถูกขัดจังหวะโดยหญิงสาวสองคนที่เข้ามาอย่างกะทันหัน


“ในที่สุดก็มาแล้ว มาสิแล้วนั่งลงก่อน มานั่งก่อน!” ซูหว่านเอ๋อรีบรับรองให้พวกเขานั่งลง


“เอ พี่หลินเฟิง ก็อยู่ที่นี่ด้วยนี่นา! ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้เจอพี่มาตั้งนาน ซื่อเอ๋อคิดถึงพี่มากเลย!”


ทันทีที่หยางเจียนซื่อตะโกนออกมา และวิ่งตรงไปที่โต๊ะกลางไปทางหลินเฟิงทำให้พวกเขากลัว


“ซื่อเอ๋อ?” เมื่อหลินเฟิงเห็นเธอกำลังตรงเข้ามา และรีบกระโดดขึ้นบนหลังเขา


หยางเจียนซื่อขี่อยู่บนหลังของหลินเฟิงเช่นนั้น และฉากนั้นก็ทำให้เกิดความอับอาย แต่หยางเจียนซื่อก็ไม่ได้แคร์สายตาใครเลย เธอตื่นเต้นและกระโดดขึ้น


เป็นเวลานานโขกว่าหลินเฟิงจะวางหญิงสาวตัวน้อยลงกับพื้น


“หลินเฟิง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน โตขึ้นและหล่อขึ้นนะเนี่ย!” หยางเจียนหลิงกล่าวกับหลินเฟิง


“อ่อ ใช่ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!” หลินเฟิง ตอบกลับอย่างสุภาพ


“เสี่ยวเฟิง นายนี่เริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ นี่นายรู้จักกับหยางเจียนซื่อ และความสัมพันธ์ก็ดูเหมือนจะดีมากด้วย!” หวังฮ่าวหมิงยิ่งรู้สึกเขาไม่รู้เบื้องลึกของหลินเฟิงเลย


เพราะคนธรรมดาไม่สามารถเข้าถึงคนทั้งสองคนนี้ได้


“อ้อ ซื่อเอ๋อ หลิงเอ๋อ นี่เธอทั้งสองคนลืมพี่ชายของเธอไปแล้วตั้งแต่เห็นหลินเฟิงสินะ?” หยางฉิงชานกล่าว


“หยางฉิงชาน พี่ชายที่แสนดี!” หยางเจียนหลิงตอบด้วยรอยยิ้ม


“ก็นิดหน่อย ฉันชอบพี่หลินเฟิงมากกว่า!” หยางเจียนซื่อพูดพร้อมกับแลบลิ้นออกมา


“ทำไมล่ะ?”


“ก็เพราะว่าพี่หลินเฟิงหล่อกว่าน่ะสิ!”


“ฮ่าฮ่า” สิ่งนี้ทำให้ทุกคนหัวเราะออกมา


“โอเค ซื่อเอ๋อ หยุดได้แล้ว ไปหาที่นั่งได้แล้ว!” ซูหว่านเอ๋อเคาะหัวเล็กๆ ของเธอและพูดออกมา


“ฉันจะนั่งข้างๆ พี่หลินเฟิง!” จากนั้นเธอก็ผลักหวังฮ่าวหมิงไปข้างๆ และนั่งลงตรงกลางระหว่างหลินเฟิงและหวังฮ่าวหมิง


หลินเฟิงและหวังฮ่าวหมิงรู้สึกเก้อเขิน


ในเวลาเดียวกัน หลินเฟิงก็รู้ว่าหยางฉิงชานและหยางเจียนหลิงเป็นพี่น้องนามสกุลเดียวกัน


คนร่ำรวยและคนหนุ่มสาวคนอื่นๆ พากันจ้องมาที่หลินเฟิงด้วยสายตาอาฆาต เพราะดูเหมือนว่าผู้หญิงทุกคนที่มาในงานนี้จะรู้จักกับหลินเฟิงอย่างคาดไม่ถึง


ดูเหมือนว่าหลินเฟิงจะกลายมาเป็นตัวละครสำคัญเสียแล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้ หลินเฟิงไม่เคยคิดและมันก็เป็นเรื่องบังเอิญสำหรับตัวเขาเอง


เขารู้จักผู้คนมากมาย ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาจะมาปรากฏกายที่นี่ในเวลาเดียวกัน


“ใครช้าที่สุดในตอนนี้?” มู่หรงหลานถาม


“ดูเหมือนว่าจะเป็นพี่ชายจากตระกูลตงฟาง!” ซูหว่านเอ๋อกล่าว


“ตงฟางเสี่ยง? ชายคนนี้ มาช้าตลอดเลย ไม่ต้องรอเขาหรอก!” มู่หรงหลานกล่าวเสียงดัง


“ใครคือตงฟางเสี่ยง?” หลินเฟิงถามเสียงเบา


“เป็นสมาชิกหนุ่มจากสิบตระกูลนั่นล่ะ!” เถ้าแก่หวังกล่าว


“อ้อ ใครนะช่างกล้าเป็นศัตรูกับคุณมู่หรง!” เสียงที่ดังขึ้นมานั้นและจากนั้นชายหนุ่มก็เดินเข้ามาจากภายนอกตามมาด้วยชายวัยกลางคน


“นายใช่ไหม? นาย? หรือว่านาย?” ตงฟางเสี่ยงชี้มือไปที่คนแถวนั้น


“ไม่ ไม่นะ!” จ้าวหลงรีบตอบ


“ฉันก็ไม่นะ!” เจียงเสี่ยวไป่เองก็รีบสั่นศรีษะ


...


ในที่สุดมือของเขาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของหลินเฟิง


“คุณใช่ไหม? โอเค? คุณเป็นใคร?” ตงฟางเสี่ยงถาม และชี้มือมาที่หลินเฟิง


หลินเฟิงถูกชี้นิ้วใส่อยู่อย่างนั้น และเขาก็รู้สึกหงุดหงิด และเกือบจะโมโห ทันใดนั้นมู่หรงหลานที่อยู่ข้างๆ ก็ตีมือของตงฟางเสี่ยง


“ตงฟางเสี่ยง นี่เพื่อนของฉันเอง ช่วยเคารพฉันด้วย!” มู่หรงหลานตะโกนใส่อย่างหยาบคาย


หลินเฟิงไม่คิดว่ามู่หรงหลานจะลุกขึ้นมาช่วยเขา เขาจึงรู้สึกขอบคุณเธอขึ้นมาอีกนิด


“นายนี่มันน่ารำคาญเสียจริง นายกล้าดียังไงถึงได้มาชี้หน้าพี่หลินเฟิงของฉัน ฉันเกลียดนาย!” หยางเจียนซื่อเป็นคนที่ไม่เคยกลัวใครในโลกนี้ ถ้าเธอไม่ชอบพวกเขาก็จะตะโกนด่าตรงๆ เช่นนี


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น