CF:บทที่ 610 สิ้นสุดสงคราม
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่คิดเลยว่ามิสต์จะรีบขนาดนี้ เขาเพิ่งกลับมายังยานเสบียงได้ไม่ถึง 13 ชั่วโมงและจดหมายข้อตกลงก็ส่งมาถึง
ยิ่งกว่านั้นข้อตกลงนี้ไม่รู้ว่ามิสต์ทำยังไง แต่มันถูกยื่นมาในนามพันธมิตรจักรวาล
กล่าวคือเมื่อใดที่เซ็นข้อตกลงนี้ มันก็จะมีผลทางกฎหมายในพันธมิตรจักรวาลทันที
หลังจากการศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เขาได้เปลี่ยนแปลงบางแง่มุมของข้อตกลงนี้และขอคำแนะนำกับคนกลุ่มซองแดง หลังจากพบว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินก็ได้เซ็นข้อตกลงนี้ในไม่ช้า
แน่นอนว่าด้วยการลงนามข้อตกลงนี้ความสำเร็จทางทหารของอู๋ ฮ่าวเหรินในการปราบปรามอารยธรรมชั่วร้ายก็ได้ถูกโอนไปยังกองยานที่3
และเพราะเรื่องนี้นายพลมิสต์ถึงรู้สึกเสียใจ เขายังรับหน้าที่โยกย้ายและสร้างสถาบันใหม่และอุปกรณ์ทั้งหมดของสถาบันก็ยกให้กับอู๋ ฮ่าวเหริน
ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายรู้สึกว่าพวกเขาทำเงินได้ ข้อตกลงที่มีอิทธิพลอย่างมากในอนาคตนี้ได้รับการลงนามโดยอู๋ ฮ่าวเหริน
ขณะนี้ ซึ่งป้อมปราการได้ถูกทำลายไปแล้ว กองยานที่2และกองยานที่3ก็กลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง
นายพลโมรอนเดสเชิญอู๋ ฮ่าวเหรินมาหาที่ยานแม่ของเขา และถามอู๋ ฮ่าวเหรินว่าเขาจะมาพร้อมกับชุดอุปกรณ์ตรวจสอบได้รึเปล่า
ในที่สุดอู๋ ฮ่าวเหรินก็แสดงให้เห็นว่ามีอุปกรณ์เพียงชุดเดียว ในกรณีของกองยานที่3พวกเขาสามารถโจมตีได้ตามแผนที่ของอู๋ ฮ่าวเหรินเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าแผนที่ไม่อยู่ในสภาพที่ดีสำหรับการตรวจสอบโดยตรง แม้ว่ากองยานที่2จะไม่ได้เผชิญหน้ากับป้อมปราการ แต่ก็ยังสูญเสียอย่างมากในการต่อสู้
ในทางตรงกันข้ามกองยานที่3มีการสูญเสียเพียงบางส่วนเนื่องจากอุปกรณ์ตรวจสอบ แต่การสูญเสียเหล่านี้ไม่กระทบอะไรกับที่กองยานที่3เลย
ด้วยเหตุนี้การปฏิบัติกับอู๋ ฮ่าวเหรินในกองยานที่3จึงดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อาจเป็นเพราะนายพลมิสต์คิดว่าเขาใช้ประโยชน์จากข้อตกลงมากเกินไปและต้องการส่งยานรบสองลำให้อู๋ ฮ่าวเหรินหลังจากเขาวางมือ
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่อยากได้ยานรบเหล่านั้น แต่ด้วยยานรบทั้งสองนี้มันจะสะดวกกว่าสำหรับเขาที่จะทำอะไรบางอย่างเมื่อเขาไปถึงพันธมิตรจักรวาล
เพราะกองกำลังที่สามารถได้รับยานรบทางทหารในพันธมิตรจักรวาลนั้นล้วนเป็นกองกำลังที่ทรงอำนาจ ยิ่งไปกว่านั้นเหล่าโจรสลัดอวกาศก็มักจะซ่อนตัวอยู่ห่าง ๆ เมื่อเห็นยานรบของทหาร
เพราะพวกเขาเข้าใจชัดเจนว่าหากพวกเขาไปปล้นยานแบบนี้เข้า พวกเขาคงไม่สามารถทนผลที่ตามมาได้
ไม่ต้องพูดถึงยานลาดตระเวนของพันธมิตรจักรวาล พวกเขาไม่สนใจพวกมันในเวลาปกติ บางครั้งพวกเขาก็ลงมือ แต่นั่นก็เป็นการยั่วยุทหาร แล้วพวกเขาจะไม่สามารถหนีไปได้ต่อให้พวกเขาต้องการ
เป็นเวลาครึ่งเดือน อู๋ ฮ่าวเหรินมองไปยังแถบอุกกาบาตข้างนอกและรู้ว่าการต่อสู้กำลังจะจบลง
ในช่วงนี้เขาถามมิสต์ว่าในอนาคตเขาจะทำอะไร
ตามที่นายพลมิสต์ว่าแล้ว มันอยู่ไกลจากพันธมิตรจักรวาลมากเกินไป แม้ว่าจะมีรูหนอน แต่มันก็ไม่เหมาะสำหรับการพัฒนาเพราะขาดทรัพยากร
ในอนาคตบางคนอาจประจำการที่นี่เพื่อตรวจสอบอารยธรรมอันชั่วร้ายที่นี่ต่อ
แต่เดิมอู๋ ฮ่าวเหรินก็กังวลว่าคนที่อยู่ที่นี่จะพบโลกหรือไม่ ภายหลังเขาก็ได้รู้จากนายพลมิสต์ว่าทุกคนที่ประจำที่นี่ถูกส่งไปคุ้มกันรูหนอน
ยิ่งกว่านั้นจะไม่มีคนประจำการมากเกินไปและคนเหล่านี้จะเท่ากับผู้ที่ได้รับมอบหมายอยู่แล้ว
อู๋ ฮ่าวเหรินโล่งใจ เขากำลังคิดว่าเขาสามารถใช้วิธีการใด ๆ เพื่อแทนที่ผู้ที่คอยดูแลรูหนอนด้วยคนของเขาได้หรือไม่
"ท่านครับ ท่านนายพลสั่งให้ผมบอกให้ท่านไปที่ยานแม่ของเขาและดูการต่อสู้ครั้งสุดท้าย"
“โอ้ มันเป็นรังของอารยธรรมชั่วร้ายเหรอ?”
“ใช่ครับ เราไม่เจออุปสรรคมากนักระหว่างทาง นายพลบอกว่าที่รังของอารยธรรมชั่วร้ายอาจเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก”
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ตอบ ในความคิดของเขาหากผู้นำของอารยธรรมชั่วร้ายไม่ใช่คนโง่เขาก็คงหนีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายนั้นเทียบกับไม่ได้เลย
หากพบว่าอุปกรณ์ป้องกันและกับดักของตัวเองถูกตรวจจับได้อย่างง่ายดาย ก็คงจะโง่มากหากยังไม่รีบหนีไป
เมื่อเขาไปถึงยานแม่อู๋ อ่าวเหรินก็ดูมิสต์และโมรอนเดสนั่งด้วยกันเหมือนเป็นเพื่อนอีกครั้ง กำลังศึกษารังเก่าของอารยธรรมชั่วร้ายบนแผนที่
ตามสถานการณ์แล้วการป้องกันของรังเก่านั้นแข็งแกร่งแน่นอน อู๋ ฮ่าวเหรินสับสนเล็กน้อย ผู้นำของอารยธรรมชั่วร้ายเป็นพวกโง่จริงหรือ
"คุณอู๋มาแล้ว คุณคิดว่าเราควรโจมตีที่นี่ในสถานการณ์เช่นนี้อย่างไร?"
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่คิดเลยว่าโมรอนเดสจะถามด้วยตัวเอง หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ตอบว่า "ท่านนายพลทั้งสอง ผมไม่เคยสัมผัสกับสงครามอวกาศมาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับอะไรแบบนี้"
"ผมคิดว่าคุณอู๋มีพรสวรรค์อย่างมากในด้านสงครามอวกาศ ถ้าคุณศึกษาสงครามอวกาศอย่างจริงจัง คุณอาจได้เป็นผู้บัญชาการสงครามอวกาศที่ยอดเยี่ยมก็ได้"
เมื่อได้ยินคำพูดของมิสต์ อู๋ ฮ่าวเหรินก็รู้ว่านี่เป็นเพราะแผนการง่าย ๆ สองแผนที่เขาหยิบยกมาเมื่อครั้งล่าสุด น่าเสียดายที่ทั้งสองไม่รู้เลยว่านั่นคือสิ่งที่กลุ่มผู้บัญชาการสงครามอวกาศที่มีความสามารถตัวจริงในอนาคตเป็นคนคิดขึ้นมา
"ท่านนายพลต้องพูดเล่นแน่ ผมไม่มีพรสวรรค์หรอก จากแผนที่มันเป็นที่ชัดเจนว่าอารยธรรมชั่วร้ายได้สร้างรังเก่าให้เป็นป้อมปราการ ถ้าคุณต้องการทำลายป้อมปราการแบบนี้คุณต้องทำลายแค่เพียงจุดเดียว แล้วป้อมปราการก็จะพังลงไปเอง"
"นั่นคือสิ่งที่ผมคิดไว้หัวหน้ากองยานที่3 แต่ปัญหาคือเราพบว่าไม่ว่าเราจะโจมตีจากที่ไหนเราก็จะถูกโจมตีตอบโต้อย่างรุนแรง"
"ในกรณีนี้ ท่านนายพลทั้งสองก็โยนเหยื่อล่อเพื่อล่อทัพของพวกเขาออกไป จากนั้นจึงทำการโจมตีส่วนหน้าโดยตรง ผมได้ยินมาจากนายพลว่าศัตรูนั้นอ่อนแอกว่าพวกเรามาก"
"ดูเหมือนว่าผมจะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ครั้งก่อนและผมก็คิดว่าจะไม่สูญเสียมากเกินไป"
“ฮ่า ๆ ผมก็ได้รับผลกระทบด้วยเหมือนกัน ดูเหมือนว่าการต่อสู้ข้างหน้านั้นจะชนะง่ายเกินไป อย่างที่คุณอู๋เห็น เราแข็งแกร่งกว่าพวกเขาตราบใดที่เราโจมตีกันซึ่ง ๆ หน้า”
"ฮ่า ๆ พวกเขากำลังคำนวณจำนวนชีวิตของทหาร ที่บ้านเกิดของผมมีคำพูดที่ว่า "คนที่ยืนหยัดเท่านั้นจะได้เห็น"
"นั่นสินะ ถ้าเช่นนั้นเรามาเริ่มกันเถอะ"
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่รบกวนนายพลทั้งสอง มองดูพวกเขาออกคำสั่งแล้ว เขาก็ต้องชื่นชมในความสามารถการบังคับบัญชาที่แข็งแกร่งของพวกเขา
ตามที่อู๋ ฮ่าวเหรินคิดช่องว่างระหว่างทั้งสองฝั่งนั้นห่างกันเกินไป แม้ว่าอารยธรรมชั่วร้ายจะมีความได้เปรียบในดินแดน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีร่วมกันของทั้งกองยานที่2และ3ภายใต้ช่องว่างขนาดใหญ่นั้นได้
สามชั่วโมงแห่งการกระหน่ำยิง อุกกาบาตหลายลูกได้กลายเป็นฝุ่นในอวกาศ
เศษของยานรบสามารถเห็นได้ทุกที่ในแถบอุกกาบาตซึ่งส่วนใหญ่เป็นของอารยธรรมชั่วร้าย ในบางครั้งก็สามารถเห็นยานรบพันธมิตรที่เสียหายหนึ่งหรือสองลำและยานขนส่งที่ถูกขับไปรับเพื่อส่งมันกลับมาซ่อม
ทว่าชัยชนะครั้งใหญ่นี้ก็ไม่ได้ทำให้นายพลทั้งสองพอใจ เพราะพวกเขาพบว่าผู้นำของอารยธรรมชั่วร้ายดูเหมือนจะหนีไปก่อนที่จะเริ่มการโจมตี
"ให้ตายเถอะ ที่นี่ไม่มีรูหนอนเลยแท้ ๆ"
"ท่านนายพลนี่ไม่ใช่รูหนอนตามธรรมชาติ แต่รูหนอนขนาดเล็กที่สร้างด้วยเครื่องมือพิเศษตามสภาพที่พิเศษของแถบอุกกาบาตนี้ ยิ่งกว่านั้นมันสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นและภายในรูหนอนจะยุบตัวลง"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นายพลทั้งสองก็ยิ่งหน้าเสียลงไปอีก พวกเขาคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะไล่ตามพวกเขาไปในรูหนอน
อู๋ ฮ่าวเหรินมองไปที่รูหนอนเล็ก ๆ แววตาของเขาเปลี่ยนไป เขาไม่ได้พูดอะไรเพราะเขากำลังตกใจอยู่
0 ความคิดเห็น