CF:บทที่ 565 ใฝ่หาเมืองใหม่

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

เหล่าคนที่ยืนอยู่ข้างถนน, มองดูการแนะนำของเมืองอย่างตกตะลึง, ซึ่งอย่างแรกเลย คือสถานที่ที่พวกเขาจะไปอาศัยอยู่

เดิมที, บ้านฟรีที่ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปจัดหาให้นั้น, พวกเขาคิดว่าคงจะออกมาไม่ดีไม่เลวมากนัก

แต่พอได้เห็นข้อมูลของบ้านแล้ว, มีบางคนที่รู้สึกไม่เชื่อสายตา

ประเภทของบ้านนั้นจะถูกสรรหาให้ตามจำนวนคนในครอบครัว, รวมถึงข้าวของเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จัดหาให้โดยฟิวเจอร์กรุ๊ป

เรื่องของการตกแต่งภายใน, ฟิวเจอร์กรุ๊ปเองก็ได้จัดหามาให้หลายรูปแบบ, และจะทำการเลือกให้ตรงตามความพึงพอใจของพวกเขา

สิ่งที่ทำให้พวกเขาตื่นเต้นที่สุดก็คือข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน, ทุกชิ้นล้วนผลิตขึ้นมาโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป, เพราะพวกเขามีเทคโนโลยีมากมายทั้งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ยิ่งไปกว่านั้น, พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะให้หุ่นยนต์พ่อบ้านให้กับพวกเขา เช่นเดียวกับหุ่นยนต์ทำงานในบ้านต่างๆอีกด้วย

ในอีกความหมายหนึ่ง, การอาศัยอยู่ในบ้านเหล่านี้ หลายสิ่งหลายอย่างจะถูกจัดการโดยหุ่นยนต์ โดยปราศจากการลงมือเอง

"มันน่าทึ่งจริงๆ, งั้นจะรีบจัดการเรื่องเอกสารเดี๋ยวนี้และ, ฮ่าๆ จะได้เข้าไปอยู่เป็นคนแรก"

มีบางคนที่เริ่มอดใจรอไม่ไหวที่จะไปดูบ้าน จึงรีบลงทะเบียนทันที, เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วก็เริ่มเลือกบ้านได้ทันที

ภายใน 10 วินาที, เขาก็พบบ้านที่เหมาะสมกับเขา

"น่าเสียดาย, ที่ไม่มีบ้านแบบในเมืองลอยฟ้าแฮะ"

ตัวเมืองจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน, ส่วนด้านบนนั้นจะมีขนาดเล็กกว่าส่วนด้านล่าง

ยิ่งพอมีผู้คนเข้ามาในเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ, ข้อมูลต่างๆในเมืองก็ได้ถูกเผยแพร่ออกไป

เมืองนี้ทั้งเมืองให้ความรู้สึกล้ำยุคและล้ำสมัยมาก, ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ใช้ของไฮเทค

ยิ่งไปกว่านั้น, สิ่งอำนวยความสะดวกนั้นก็เรียกได้ว่าหรูหรามาก, ซึ่งทำให้ผู้คนต่างรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในความฝัน

สิ่งที่แย่อยู่อย่างเดียวคือไม่มีรถให้, ถ้าหากต้องการที่จะมีรถลอยฟ้าเป็นของตัวเองแล้วล่ะก็, จำเป็นที่ต้องหาแต้มเครดิตมาซื้อมัน

แต่รถลอยฟ้านั้นราคาไม่ถูก, ในทางกลับกันมันราคาแพงมาก, จากที่พวกเขารู้มาจากเมืองทะเลทราย, ถ้าอยากที่จะซื้อรถลอยฟ้า, พวกเขาจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักตลอด 1 ปีโดยไม่มีปัญหาอะไร

แน่นอนว่า, นี่คือราคาของรถลอยฟ้าแบบธรรมดาๆ, ถ้ารถลอยฟ้าแบบที่หรูหราหน่อยก็ราคาแพงมาก

แต่ทว่า, จริงแล้วการจราจรในเมืองนี้นั้นได้พัฒนามาดีมาก, ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องบินได้ด้วยซ้ำ

ในเวลานี้, บนอินเตอร์เน็ทข้อมูลจำนวนมากมายของเมืองใหม่นั้นได้ถูกเผยแพร่ออกมา, คนจำนวนมากต่างก็ดูสิ่งอำนวยความสะดวกในเมืองใหม่นี้, ด้วยสายตาที่อิจฉาตาร้อน

"บ้าเอ๊ย, เมืองนั้นมันอะไรกันแน่ฟระ! แม่เจ้าโว้ย, ข้าจ่ายไปตั้งสองล้านถึงจะได้บ้านซักหลัง, ซึ่งไม่ต่างอะไรไปจากคอกหมู"

"ว้าว! ฉันเองก็อยากไปอยู่เมืองอย่างนั้นบ้างจัง, แต่ประเทศของเรายังไม่เข้าร่วมสหภาพมนุษย์นี่สิ, ฉันสามารถเข้าร่วมสหภาพมนุษย์ในนามแยกตัวเป็นอิสระจากประเทศได้มั๊ยนะ?"

"ใช่ๆ, ใครจะรู้ พวกเราอาจจะเข้าร่วมสหภาพมนุษย์ในนามของแยกตัวเป็นอิสระก็ได้นะ?"

เมื่อได้เห็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปว่าเป็นเช่นนี้แล้ว, คนจำนวนมากต่างก็ใฝ่ฝันอยากที่จะไปอยู่มาก

"ผมเองก็ไม่รู้สถานการณ์ในปัจจุบันหรอกนะ, แต่ว่าไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้, ถ้าคุณอยากที่จะไปเข้าร่วมสหภาพมนุษย์คนเดียว ก็แค่คุณไปยังประเทศที่เขาร่วมสหภาพมนุษย์ไปแล้วและก็ลงทะเบียนขอบ้านซักหลังก็น่าจะได้นะ"

"ทุกอย่างล้วนเต็มไปด้วยหุ่นยนต์แฮะ, พูดไม่ออกเลยจริงๆ"

ในโลกนี้, มีเพียงคนที่รวยเป็นส่วนน้อย, แล้วที่เหลือก็จะเป็นคนที่หาเช้ากินค่ำ

ในเวลานี้พวกเขามีโอกาสแล้ว, นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของพวกเขาได้อีกด้วย, ทำให้หลายคนต่างก็ใฝ่หาชีวิตและสิ่งแวดล้อมของฟิวเจอร์กรุ๊ปเช่นนี้

ดังนั้นผู้คนในอินเตอร์เนทต่างก็เริ่มเรียกร้องขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ, หวังให้ทางรัฐเข้าร่วมกับสหภาพมนุษย์

แรงกดดันเช่นนี้ไม่มีทางที่จะให้ทางรัฐออกมายอมทำตามได้, และในอินเตอร์เนทเอง ก็ได้มีคนที่ออกมาทำการวิเคราะห์และพบว่าทางรัฐนั้นคงจะไม่เข้าร่วมสหภาพมนุษย์

จากข้อสรุปพบว่าเหตุผลหลักที่ทำให้เหล่าผู้นำในประเทศต่างๆที่ตัดสินใจไม่เข้าร่วมนั้น เพราะพวกเขาไม่ได้ต้องการประเทศและรัฐบาลหายไปแบบนี้, และรวมถึงผลประโยชน์ที่เหล่าผู้นำจะได้รับด้วย

หลังจากที่เข้าร่วมสหภาพมนุษย์แล้ว, รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องยุบตัวลง, รวมถึงสูญสิ้นสถานะดั้งเดิมที่มีมาด้วย

เพราะสิทธิต่างๆของพวกเขาจะหายไป, สวัสดิการและสิทธิพิเศษต่างๆก็จะใช้การไม่ได้ด้วย, พวกเขาทำได้เพียงเข้าแข่งขันแบบยุติธรรมกับคนอื่นๆจำนวนมากเท่านั้น

แน่นอนว่า, นี่ย่อมไม่ใช่ผลลัพธ์ที่พวกเขาต้องการแน่, ดังนั้นพวกเขาคงได้แต่หวังร่วมมือกับ ฟิวเจอร์กรุ๊ป, เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่สูญเสียสถานะในปัจจุบันของพวกเขาไป

จริงๆแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินนั้นรู้ดีว่าการปฏิวัติที่ปราศจากเลือดเช่นนี้, จะดีมากถ้าเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วทั้งโลก, ทำลายระบบชนชั้นและให้ทุกคนมาตั้งต้นที่จุดสตาร์ทใหม่เพื่อแข่งขันกัน

เขารู้ดีว่าถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขามีกองกำลังที่แข็งแกร่งมากอยู่ในมือของเขา, เหล่าผู้มีอำนาจต่างๆคงจะมาฆ่าเขาไปนานแล้ว

การปฏิวัติเช่นนี้, สำหรับพวกเขาแล้วมันคือหายนะดีๆนี่เอง, ทำลายความมั่งคั่งและสิทธิทั้งหมดที่พวกเขาเคยมีให้หมดไป

ณ ฟิวเจอร์กรุ๊ป, อู๋ฮ่าวเหรินนั่งอยู่ในออฟฟิศและยิ้มให้กับข่าวสารและข้อมูลที่จี้ได้รวบรวมมา

เขานั้นรู้ดีมากว่าไม่ใครที่จะหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้แล้ว, และการหลอมรวมของมนุษย์นั้นก็ได้มาถึงบทสรุปไปนานแล้ว

"จี้, เหล่าหุ่นยนต์วิศวกรรมเป็นอย่างไรบ้าง?"

"จะต้องใช้เวลาอีก 3 วันในการขนส่งมายังโลกด้วยยานขนส่ง เพื่อนำพาเหล่าหุ่นยนต์วิศวกรรมมาเพิ่มค่ะ"

"ดีมาก, การขนส่งวัตถุดิบก็คงจะเหมือนกัน, ตอนนี้พวกเราคงทำได้แค่รอให้ประเทศเหล่านี้ยอมอ่อนข้อล่ะนะ"

อู๋ฮ่าวเหรินคลิกบนจอแสงที่อยู่ตรงหน้าเขา, แล้วก็มีภาพขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาบนจอแสง

นี่คือโลก, หรือถ้าจะให้พูดให้ถูกคือโลกในอนาคต, โดยมีเมืองใหม่วางทับลงไปแทนที่เมืองเก่า

นี่คือแผนการก่อสร้างโลกขึ้นมาให้ที่เขาได้วางแผนขึ้นมาตามสถานการณ์ของโลกในยุคอนาคต แล้วจากนั้นก็อ้างอิงตามสถานการณ์ในปัจจุบันของโลก

แน่นอนว่า, เมื่อให้ที่การอพยพข้ามดวงดาวได้เริ่มต้นขึ้น, ประชากรของโลกก็จะลดลงไป, และเมื่อถึงเวลานั้น, สิ่งก่อสร้างต่างๆมากมายก็จะถูกทำลายโดยเขาเพื่อที่จะปรับเปลี่ยนอีกครั้ง

"จะว่าไป, การเตรียมการของลู่เผิงเฟยเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?"

"คุณคงจะต้องไปถามพวกเขาเอาเองค่ะ"

อู๋ฮ่าวเหรินได้สั่งให้ลู่เผิงเฟยและพรรคพวกทำการศึกษาเทคโนโลยียานอวกาศเพื่อที่จะขับยานขนส่งช่วงระยะเวลาหนึ่งเพื่อฝึกฝน

ในเวลานี้, ที่ๆใช้ฝึกฝนเรื่องยานอวกาศ, ลู่เผิงเฟยได้ทำการคัดเลือกนักบินยานอวกาศของเขาอยู่

ในเมื่อยานรบได้ถูกเปิดเผยสู่สาธารณชนแล้ว, ก็ได้มีผู้คนมากมายที่แห่กันมาเพื่อศึกษาเทคโนโลยียานอวกาศที่นี่, รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เกี่ยวข้องกับยานอวกาศก็กลายมาเป็นสาขายอดนิยมขึ้นมา

พวกเขานั้นรู้ว่าถ้าอยากที่จะได้สัมผัสกับยานอวกาศได้เร็วที่สุด, พวกเขาก็จะต้องเรียนรู้เทคโนโลยีเกี่ยวกับยานอวกาศเหล่านี้

เมื่อว่าลู่เผิงเฟยจะมาเฟ้นหานักบินยานอวกาศ, กลุ่มคนเหล่านี้ต่างก็มองเขาอย่างใจจดใจจ่อ, เพื่อหวังให้เขาเลือกตัวเองไป

ลู่เผิงเฟยนั้นรู้ความสำคัญของภารกิจนี้ดี, ก่อนที่เขาจะมา เขาก็ได้ทำความรู้จักและตรวจสอบคนเหล่านี้มาบ้างแล้วและเขาก็มีตัวเลือกไว้ในใจอยู่

ในเวลานี้เขามาที่นี่เพื่อทดสอบคนเหล่านี้ด้วยตาตัวเองเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขานั้นมีความสามารถตามต้องการจริง

เพราะเขานั้นไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างนอกกาแล็คซี่ทางช้างเผือกในเวลานี้, ซึ่งคอยขัดขวางแผนการของอู๋ฮ่าวเหรินอยู่ตลอด, และทำให้ภารกิจอวกาศของเขานั้นไม่ไปไหนเสียที

ในเวลานี้, มียานอวกาศมากมายมุ่งหน้ามาทางกาแล็คซี่ทางช้างเผือก

ยานอวกาศเหล่านี้เดินทางมาจากสหพันธรัฐจักรวาล, พวกเขาคืออารยธรรมที่ค้นพบดาวเทียมสอดแนมของอู๋ฮ่าวเหริน

พวกเขานั้นได้เข้ามาที่กาแล็คซี่ทางช้างเผือกนี้เพื่อที่จะค้นหาอารยธรรมที่ปล่อยดาวเทียมสอดแนมนี้ออกมา

แต่ทว่า, ไม่นานมานี้ ยานรบของสหพันธรัฐจักรวาลได้ถูกโจมตี, ซึ่งทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวอย่างหุนหันพลันแล่น, ทำให้ภารกิจค้นหานี้ต้องชะลอออกไปจนกระทั่งถึงตอนนี้

ด้วยการมาถึงของกองยานที่สองของสหพันธรัฐจักรวาล, พวกเขาจึงได้ใช้โอกาสนี้ในการทำภารกิจค้นหาต่อ