CF:บทที่ 469 ข้อสงสัยของเจ้าแห่งกองทัพ

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

วิธีรับรหัสปลดล็อค

CF:บทที่ 469 ข้อสงสัยของเจ้าแห่งกองทัพ

สถานการณ์ในกลุ่มซองแดงทำให้อู๋ ฮ่าวเหริน เกิดความคิดใหม่

เราไม่อาจต่อสู้ได้อย่างแน่นอน สิ่งที่แย่มากในยามสงบคือการแลกเปลี่ยนทรัพยากรเพื่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แผนที่ของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวซึ่งเรามีอยู่ในมือตอนนี้คือสิ่งที่โลกในอนาคตและอารยธรรมเหล่านี้ต้องการ

แผนที่ดวงดาวเหล่านี้จะช่วยให้เขาได้ในสิ่งที่ต้องการอย่างแน่นอน แต่ปัญหาก็คือจะต่อรองกับอารยธรรมเหล่านี้อย่างไร

ภายในกลุ่มซองแดงมีคนถามว่า "พ่อค้าของเก่า คุณมีแผนที่ขุมทรัพย์ดวงดาวอื่นๆ อีกไหม? เราคืออารยธรรมวงกลม เรายินดีที่จะแลกเปลี่ยนกับคุณ"

"พ่อค้าของเก่า อารยธรรมแลงดอนของเรายินดีแลกเปลี่ยนแผนที่ดวงดาวกับคุณ"

"พวกคุณคิดว่าแผนที่ดวงดาวคืออะไร? คุณจะเสนออะไรเพื่อแลกเปลี่ยนแผนที่ดวงดาว?"

ชายคนหนึ่งชื่อโมลิค กล่าวว่า: "อารยธรรมของเราเสนอให้ดาวเคราะห์สามดวงเพื่อแลกเปลี่ยนแผนที่ท้องฟ้ากับพ่อค้าของเก่า ดาวเคราะห์ทั้งสามนี้ล้วนเป็นเส้นเลือดแห่งแร่พลังงาน"

"ไม่ใช่แค่ดาวเส้นเลือดแห่งแร่สามดวงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแลกเปลี่ยนแผนที่ดวงดาว เรายินดีที่จะแลกเปลี่ยนแผนที่ดวงดาวอีกครึ่งหนึ่งกับคุณ "

"ที่นั่นเหมือนกับเขตแดนดวงดาวที่คุณเพิ่งโจมตีไป ดาวนั่นไม่เสถียรและสงครามอาจทำให้ดาวพังทลายลงได้ทุกเมื่อ คุณขุดหลุมพลางชัดๆ"

"เราจะช่วยพ่อค้าของเก่า ในการขจัดปัจจัยที่ไม่แน่นอนหากพวกเขาถูกโกง"

"เราไม่ต้องการแผนที่ดวงดาว เรายินดีที่จะร่วมมือกับคุณในการพัฒนาแผนที่ดวงดาว"

"..."

อู๋ ฮ่าวเหริน จับตาดูการโต้แย้งของคนพวกนี้และส่วนลึกในใจของพวกเขา ดูเหมือนว่ามูลค่าของแผนที่ดวงดาวนั้นสูงกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก

ยิ่งไปกว่านั้น แผนที่ดวงดาวและท้องฟ้านี่สามารถทำให้สงครามสิ้นสุดลงได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นสิ่งมีค่าจริงๆ

สถานการณ์นี้ทำให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย ถ้าพวกเขารู้เรื่องแผนที่ดวงดาวนี่ พวกเขาอาจจะไม่แลกเปลี่ยนก็ได้

จากมุมมองของอารยธรรมขั้นสูง การค้นพบภูมิภาคดวงดาวแห่งใหม่ดูเหมือนจะมีความยิ่งใหญ่มาก

ถ้าพวกเขาต้องการขุดแผนที่ดวงดาวขึ้นมาอีก พวกเขาจะต้องเปิดเส้นทางที่ปลอดภัยในทุ่งดวงดาวแห่งใหม่

เป็นไปไม่ได้ที่อารยธรรมหนึ่งใดจะมีความแข็งแกร่งพอในการเปิดเส้นทางเช่นนั้น กล่าวคือแม้ว่าอารยธรรมจะได้รับแผนที่ดาวดวงใหม่

ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ประโยชน์จากแผนที่นี้เพียงลำพัง

"หยุดก่อน ทุกท่าน ผมมีแผนที่ดาวที่นี่ แต่การทำธุรกรรมนี้ไม่สามารถทำได้ในปัจจุบัน"

"ครับ ดีแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไร คุณบอกมาได้เลย เราจะช่วยคุณแก้ปัญหา"

"ใช่ๆ เราสามารถช่วยคุณแก้ปัญหาได้นะ หากคุณมีเงื่อนไขอะไร โปรดแจ้งให้เราทราบ"

ดูเหมือนว่าบัญชีของคนเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลง พวกเขาต้องโดนริบคืนจากอารยธรรมของพวกเขา

ที่อยู่ในกลุ่มทั้งหมดมีคนมากกว่าหนึ่งโหลจากอารยธรรมอื่นๆ และที่เหลือมาจากอารยธรรมมนุษย์

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคนจากอารยธรรมมนุษย์สักคนเอ่ยปากเรื่องการซื้อขายแผนที่ดวงดาวกับเขา แม้แต่คนที่คุ้นเคยกับเขาก็ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งทำให้เขาสับสนเล็กน้อย

อู๋ ฮ่าวเหริน คิดว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ใช้ชื่อบัญชีของตนเอง

อย่างไรตามจากสถานการณ์ แผนที่ดวงดาวนั้นค่อนข้างพิเศษ อู๋ ฮ่าวเหรินไม่กล้าค้าขายกับคนเหล่านี้ในตอนนี้ เมื่อพวกเขารู้เกี่ยวกับแผนที่แล้ว มันก็ไม่ใช่ทัศนคติแบบนั้น

วิธีที่ดีที่สุดคือพับแผ่นที่เก็บและทำให้เป็นเรื่องง่ายๆ ถึงแม้จะทำบางอย่างหายไป แต่เขาก็ได้ใช้ประโยชน์จากแผนที่แล้ว

นอกจากนี้คนเหล่านี้จะต้องได้รับอนุญาตให้สำรวจเส้นทางของเขา วิธีนี้หากเขาเปิดสมบัติด้วยตัวเองจะไม่มีปัญหา

"เรากำลังพูดถึงธุรกรรมแผนที่ดวงดาว หลังจากเปิดแผนที่ดวงดาวที่ค้นพบแล้ว ผมจะออฟไลน์ก่อน"

การเดินทางจากไปของอู๋ ฮ่าวเหริน ปล่อยให้กลุ่มที่อยู่ข้างในเงียบสงบลงชั่วขณะ

อารยธรรมจำนวนมากกำลังพยายามหาวิธีในการตรวจสอบตัวตนของบัญชีนี้ แม้แต่อารยธรรมขั้นสูงเหล่านั้นก็มีส่วนเกี่ยวข้อง

ในเวลานี้ยานอวกาศเข้ามาในสำนักงานใหญ่ของกลุ่มเทียนหยู ที่ด้านบนของยานอวกาศมีเทพแห่งสงครามที่สูญหายมาด้วย

สองผู้ก่อตั้งกลุ่มเทียนหยู นั่งอยู่ในห้องแห่งหนึ่ง ท่าทางของพวกเขาจริงจัง ขณะมองดูเจ้าแห่งกองทัพ

"คุณน่าจะได้ยินข่าวแล้วระหว่างทาง"

"ผมได้ยินมาว่า เขาเป็นคนแปลกหน้า ผมนึกไม่ถึงว่าสงครามจะจบลงเพราะแผนที่ดวงดาว"

หนึ่งในนั้น ใช้นิ้วคลิ้ก มีหน้าจอพลังงานปรากฏขึ้นตรงกลาง

"นี่คือข้อมูลที่เราตรวจสอบ ไม่มีข้อมูลของเขา นอกจากนี้เราไม่สามารถติดตามตำแหน่งของเขา แม้จะด้วยอำนาจสูงสุด"

พิจารณาจากข้อมูล เจ้าแห่งสงครามดูเหมือนจะไม่แปลกใจ เขาพูดว่า: "ดูเหมือนว่าชายผู้นี้ไม่ได้อยู่ในสหภาพมนุษย์ แต่เวลา ที่บัญชีนี้ปรากฏขึ้นแปลกมาก"

"มันแปลกที่ในเวลานี้ ทุกคนที่ใช้ระบบนี้ควรอยู่ในสหพันธรัฐมนุษย์ ในเวลานั้นเราไม่ได้เปิดผู้ใช้นอกสหพันธ์มนุษย์ จากโบราณวัตถุที่เขานำออกมาเราตัดสินว่าเขาเป็นมนุษย์และเชี่ยวชาญความรู้เกี่ยวกับอารยธรรมของมนุษย์โบราณ"

ทันใดนั้นมีชายอีกคนหนึ่งถามว่า "ตอนที่คุณมอบวัตถุนั่น คุณบอกว่ามันเป็นวัตถุจากอารยธรรมพาลอส มันเกี่ยวข้องกันหรือไม่?”

เจ้าแห่งสงครามตอบว่า "น่าจะไม่เป็นไร วัตถุนี่นำมาจากซากปรักหักพัง จากนั้นข้าก็ปล้นมันมา จะว่าไปอารยธรรมพาลอสไม่มีทางวางกับดักได้เลย"

"เป็นไปได้ไหมว่ามีการเชื่อมโยงระหว่างวัตถุชิ้นใดชิ้นหนึ่งกับซากโบราณและวัตถุชิ้นนี้ แล้วก็เกิดเป็นผู้ใช้พิเศษขึ้นมา?"

"ก็จริงที่มีความเป็นไปได้อย่างนั้น วัตถุทุกชิ้นในซากโบราณนั่นพิเศษมาก คุณน่าจะจำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบปีก่อนได้"

แน่นอนว่าพวกเขาจำได้ว่าเพราะเหตุนี้เจ้าแห่งสงครามจึงยอมให้พวกเขาศึกษา

"เดี๋ยวก่อน ชายคนนี้ดูเหมือนจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับหลานสาวคนพิเศษของคุณ ผมจะตรวจสอบดูว่าสามารถหาเบาะแสได้ไหม"

ในไม่ช้า การแลกเปลี่ยนข้อมูลของอู๋ ฮ่าวเหรินกับหลินหยิ่ง ก็ถูกโอนถ่ายจากเขา

เมื่อทั้งสามคนเห็นข้อมูล ทันใดนั้นสีหน้าของเทพสงครามก็เปลี่ยนไป พวกเขาดูข้อมูลอย่างสงสัย

"นี่มันเรื่องอะไรกัน จุนเฉิน? ทำไมหลานสาวของคุณถึงตรวจสอบเรื่องนี้?"

เทพสงครามไม่ได้พูดอะไร แต่ดูข้อมูลอีกครั้ง เขารู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย เนื่องจากข้อมูลข้างต้นไม่ควรปรากฏขึ้น จึงไม่มีใครควรรู้ประวัติการเปลี่ยนแปลง

เกิดอะไรขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว มีเพียงเขาและคนที่ตายไปแล้วเท่านั้นที่รู้ว่าประวัติศาสตร์ได้เปลี่ยนแปลงไป แล้วมันมาปรากฏที่นี่ได้อย่างไร

ตอนแรกเขาสงสัยว่าทำไมหลานสาวของเขาจึงเปลี่ยนไป ดูเหมือนว่าเหตุผลทั้งหมดอยู่ที่นี่

เราต้องหาผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม บางทีเขาจะสามารถไขปริศนาบางอย่างในหัวใจของเขาก็ได้

“มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับชายคนนี้ เราต้องหาเขาให้เจอ บางทีเราอาจจะไขความลับบางอย่างได้ การหายตัวไปของหลิงหยิ่งและอารยธรรมพาลอส จะต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา”

"จากวิธีทั้งหมด เราไม่สามารถหาข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเขาได้เลย แต่ว่ามีร่องรอยที่หลงเหลืออยู่ในอารยธรรม พาลอสหรือไม่?"

"ไม่มี พวกเขาลบร่องรอยทั้งหมดแล้ว"

ในที่สุดทั้งสามตัดสินใจติดต่ออู๋ ฮ่าวเหริน ในระบบซองแดงเผื่อว่าพวกเขาจะได้รับข้อมูลบางอย่าง

ในเวลานี้อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ทราบเลยว่าเขาจะต้องติดต่อกับเทพสงครามเป็นครั้งแรก หลังจากออกจากระบบซองแดง เขาเริ่มมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของดาวอังคาร