CF:บทที่ 443 จุดเริ่มต้นของฝันร้าย

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 443 จุดเริ่มต้นของฝันร้าย

อู๋ ฮ่าวเหรินต้องประหลาดใจเมื่อเขามาถึงบริษัทในวันถัดมา เขาได้ยินพนักงานคุยกันถึงข่าวใหญ่อีกข่าว

เมื่อเขาตรวจสอบข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเขาก็สับสน เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะหลอกคนเหล่านั้นได้ แล้วพวกเขาก็ทำมันจริง ๆ ด้วย

สหรัฐอเมริกา รัสเซีย ยุโรป และประเทศอื่น ๆ ประกาศว่าพวกเขาได้สร้างสถานีอวกาศขนาดใหญ่ในอวกาศซึ่งจะกลายเป็นจุดสำหรับจอดยานอวกาศในอนาคต

แล้วก็ประกาศว่าพวกเขาเริ่มศึกษายานอวกาศของจริงแล้ว และมันจะกลายเป็นความจริงที่จะได้เดินสู่อวกาศในอนาคต

ในขณะเดียวกันพวกเขายังเรียกร้องให้ทุกประเทศทำลายอาวุธนิวเคลียร์ที่อาจทำลายโลกได้ มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานอวกาศและมุ่งมั่นที่จะได้สำรวจดวงดาวและตระหนักถึงการอพยศไปยังดาวอื่น

พวกเขายังปล่อยชุดข้อมูล ซึ่งยืนยันการทำลายอาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขา พวกเขาหวังว่าประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์เหล่านั้นจะสามารถทำลายอาวุธที่อาจคุกคามความปลอดภัยของโลกเหล่านี้ได้เช่นเดียวกับพวกเขา

“คนพวกนี้ทำมันจริง ๆ ด้วย แล้วอย่างไรก็ตามนี่ก็เห็นได้ชัดแล้วสำหรับการแกล้งเป็นมนุษย์ต่างดาว ซึ่งดูจากจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ที่ถูกทำลายแล้ว มันก็น่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ”

ตอนนี้พวกเขาเชื่อสนิทใจแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินก็เลยรู้สึกว่าเขาสามารถหลอกพวกเขาต่อไปได้ เขาหวังว่าประเทศเหล่านี้จะไม่ต่อสู้ด้วยตัวเองเนื่องด้วยเพราะวิทยาการและเทคโนโลยี

จี้ส่งข้อความถึงอู๋ ฮ่าวเหรินซึ่งเป็นข้อมูลการเจรจาโดยหลายประเทศในโทรศัทพ์

เมื่อดูเนื้อหาที่อยู่ในข้อมูลนั่นแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินก็ส่ายหัว ถ้าประเทศเหล่านี้ต้องการที่จะฆ่าใคร คนแรกคงต้องเป็นคนของตัวเองแน่

ต่อไปพวกเขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน อู๋ ฮ่าวเหรินก็จะเล่นกับพวกเขาหากเขาต้องการ

"จี้ ช่วยติดต่อพวกเขาและรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน เราจะได้มีข้ออ้าง บางอย่างดูเหมือนว่าจะต้องไว้ทำทีหลัง"

ไม่ว่าในกรณีใดในอนาคตมันเป็นไปไม่ได้ที่โลกจะเป็นเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมกันแล้วก็เป็นแนวโน้มที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ต้องการใช้กำลังในการปราบปรามและแก้ไขปัญหาดังกล่าว สิ่งที่คนเหล่านี้กำลังทำอยู่ตอนนี้ทำให้เขามีเหตุผลที่สมเหตุสมผลในการจะทำอะไรบางอย่างในอนาคต

วันนี้ก็ยังมีเรื่องใหญ่อีกเรื่อง นั่นคือโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ที่ผลิตโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปจะขายในร้านค้าพิเศษของบริษัท

สำหรับโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ที่ผลิตโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปนั่น ทุกคนต่างอยากรู้อยากเห็นและหลายคนก็อดใจรอไม่ได้

ณ เวลาประมาณเก้าโมง มีคนโพสต์รูปมือถือและคอมพิวเตอร์ใหม่บนฟอรั่มเว็บไซต์ทางการ

"ผมแน่ใจว่าคุณจะต้องไม่เชื่อแน่ ผมจะแสดงให้คุณเห็นว่ามือถือและคอมพิวเตอร์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นมีประสิทธิภาพมากขนาดไหน ผมมีลางสังหรณ์ว่าบริษัทที่ผลิตโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์นั้นอยู่ไม่ไกลการที่ต้องปิดกิจการแล้ว"

ชายคนนี้เปิดวิดีโอและแสดงให้เห็นถึงระบบอัจฉริยะของโทรศัพท์มือถือบนอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากการฉายภาพเสมือนซึ่งทำให้หลาย ๆ คนต้องประหลาดใจ

"คอมพิวเตอร์นี้ ฟังก์ชั่นที่ทรงพลังทำให้ฉันตกใจเลย ฉันคิดว่ามันดีกว่าโฆษณาชวนเชื่อของฟิวเจอร์กรุ๊ปเสียอีก"

"ตอนที่ฉันดูวิดีโอเมื่อครู่แล้ว ฉันก็ได้ลงวิดีโอเปรียบเทียบฟังก์ชั่นโทรศัพท์มือถือไว้ด้วย ดูสิ แบรนด์โทรศัพท์มือถือที่รู้จักกันดี ราคาก็เกือบจะเท่ากับมือถือที่ผลิตโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว แต่ความเร็วในการเปิดซอฟต์แวร์และความเร็วในการตอบสนองของมือถือนั้นไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย”

"นอกจากนี้ฟังก์ชั่นที่ทรงพลังที่สุดของโทรศัพท์มือถือนี่ก็น่าจะเป็นอุปกรณ์ฉายภาพ ดูสิมันเป็นเอฟเฟ็คเวลาโทรมันสามารถฉายภาพคนออกมาตรงหน้าได้เหมือนกับได้พูดคุยกับแบบเห็นหน้ากันเลยทีเดียว"

"มันไม่จำเป็นที่จะต้องบอกเลยจริง ๆ ว่าผลิตภัณฑ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นตัวแทนของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงสุดในโลกอย่างแน่นอน โชคไม่ดีที่มันสายเกินไปที่จะซื้อมือถือและคอมพิวเตอร์เพราะมันถูกกวาดไปหมดแล้ว"

"ฉันจะบอกข่าวล่าสุดให้ เมื่อเช้ามือถือและคอมพิวเตอร์จำนวน 2 ล้านเครื่องที่ขายบริษัทนี้ขายหมดไปแล้ว ฉันอยู่ในเมืองที่พัฒนาแล้วและมีร้านค้าพิเศษสามแห่ง แต่พอฉันไปที่นั่นก็มีกลุ่มคนที่มาซื้อสินค้าทั้งสองนี้ไม่ทันอยู่"

“น่าเสียดายที่ฉันซื้อมันไม่ทัน ฉันไม่คิดว่าคนจะซื้อมันเยอะขนาดนี้ ฉันไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะรุมซื้อมันหมดภายในหนึ่งชั่วโมง”

"..."

ขณะนี้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์จำนวนมากก็กำลังประเมินโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่ ทว่าในไม่ช้าพวกเขาก็รู้สึกสิ้นหวัง เพราะผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาผลิตนั้นเทียบกับของฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่ได้เลย

ในกรณีนี้ ถ้าพวกไม่ลดราคาของโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ทั้งหมดให้ต่ำกว่าของฟิวเจอร์กรุ๊ปล่ะก็ สินค้าของพวกเขาอาจจะขายไม่ออกเลย

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ บริษัทใหญ่หลายแห่งเกือบจะร้องไห้ พวกเขาได้เข้าใจความรู้สึกของบริษัทรถยนต์เหล่านั้นในตอนนี้นี่เอง

เหล่าประเทศในยุโรปและอเมริกายังไม่ได้รับผลกระทบอย่างมาก ณ ปัจจุบัน เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปยังไม่ได้เข้าสู่ตลาดต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาทดสอบผลิตภัณฑ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว พวกเขารู้สึกถึงวิกฤตใหญ่เหมือนกับผู้ผลิตในประเทศจีน

แอปเปิลนั้นนั่งไม่ติดโต๊ะเลย พวกเขาไม่ได้คิดว่าจะเป็นแบบนั้น ตอนนี้พวกเขาพบว่าบริษัทมีแนวโน้มที่จะล้มละลายเลยทีเดียว

เพียงวันเดียวราคาหุ้นของแอปเปิลตกลงไป 3% และยังคงตกลงไปอย่างต่อเนื่อง

เหล่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ก็ไม่สามารถนั่งเฉยได้อีกต่อไป ปล่อยไว้แบบนี้แอปเปิลจะต้องล้มละลายแน่

"สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง สามารถถอดรหัสเทคโนโลยีของพวกเขาได้รึเปล่า?"

“ไม่เลย เราพยายามแล้ว เราไม่สามารถถอดรหัสมันได้ ยิ่งกว่านั้นต่อให้ถอดรหัสได้มันไร้ประโยชน์ เพราะเราไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้ได้เลย” ช่างเทคนิคตอบ

แม้ว่าพวกเขาไม่อยากยอมรับ แต่ระดับเทคโนโลยีมันต่างชั้นกันเกินไป นี่จึงไม่ใช่ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้โดยการถอดหรัสเทคโนโลยีแล้วทำลอกเลียนแบบ

“หากเราไม่สามารถหาวิธีแก้ไขปัญหานี้ได้ล่ะก็ พอโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ ฉันคิดว่าเราประกาศล้มละลายและปิดกิจการไปได้เลย”

“มันไม่มีทางเลย เว้นเสียแต่ว่าเราจะมีเทคโนโลยีขั้นสูงยิ่งกว่าพวกเขาซึ่งพวกเราไม่มี ตอนนี้วิธีเดียวที่เราสามารถทำได้คือขอความร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ปและหวังว่าพวกเขาจะไม่ฆ่าพวกเราทั้งหมด”

ผู้ที่ซื้อหุ้นในแอปเปิลกำลังขายพวกมันทิ้ง เพราะตอนที่รถยนต์ออกมาวางขายครั้งล่าสุด พวกที่ไม่ได้ขายหุ้นของบริษัทรถยนต์ในตอนนั้น สุดท้ายก็ไม่มีใครต้องการซื้อหุ้นเลยและพวกมันก็ทำได้เพียงเน่าอยู่ในมือของพวกเขาเท่านั้น

แล้วตอนนี้บริษัทรถยนต์เหล่านั้นกำลังเจรจากับบริษัทรถยนต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ป

ขณะนี้บริษัทมือถือและคอมพิวเตอร์ก็กำลังประสบปัญหาแบบเดียวกัน

อาจกล่าวได้ว่าการพัฒนาของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นท้ายที่สุดจะมีแนวโน้มที่จะผูกขาดอุตสาหกรรม

อู๋ ฮ่าวเหรินก็เข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์นี้เป็นอย่างดี แต่เขาไม่หยุดเพราะเขาแค่อยากจะบอกทุกคนว่าเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นทรงพลังมาก และเฉพาะผู้ที่ได้สัมผัสกับความสิ้นหวังเท่านั้นที่จะเชื่อความจริงข้อนี้

แล้วจากนั้นพวกเขาจะต้องการเรียนรู้เทคโนโลยีขั้นสูงของกลุ่มในอนาคต ถึงตอนนั้นเมื่อเขาต้องการส่งเสริมอะไรสักอย่างเขาเชื่อว่าจะไม่มีประเทศใดหยุดเขา

โรงเรียนของฟิวเจอร์กรุ๊ปทำให้อู๋ ฮ่าวเหรินเข้าใจถึงบางสิ่ง นั่นคือพวกเขาจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น

ในตอนเย็นเมื่อเขากลับมาถึงบ้านและกินอาหารไปได้เพียงครึ่งมื้อ อู๋ ฮ่าวเหรินก็ได้รับข้อความและกลับไปที่บริษัทอีกครั้ง

ยานอวกาศของสหรัฐฯ ได้มาถึงห้องปฏิบัติการใต้ทะเลแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินจึงต้องไปที่นั่น

เขาต้องตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับยานอวกาศนั่น เพื่อให้เขาสามารถมั่นใจได้ว่าหากยานอวกาศนั้นเกี่ยวข้องกับอารยธรรมของยุคมืดที่โจมตีมนุษย์ เขาก็จะต้องเตรียมการล่วงหน้า


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น