CF:บทที่ 374 อีเมล์ที่นำมาซึ่งความตาย

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 374 อีเมล์ที่นำมาซึ่งความตาย

 

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ, หลิวหมิงเยว่ก็ใส่ชุดนอนสีม่วง และเข้ามาที่ห้องนอนด้วยเท้าเปล่าก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียง ก่อนจะเปิดโน้ตบุ๊ค แล้วก็เห็นข้อความของโจ้วหลานที่ส่งมาให้เธอ

 

"เดี๋ยวเถอะ, อยากตายรึไง, ถึงได้ส่งรูปแบบนี้มา, ระวังเอาไว้เถอะ ฉันแอบเข้าไปหาเธอคืนนี้แน่"

 

"ใครกันแน่ยะ, ใครกันน้อที่ร้องขอให้ช่วยเมื่อคืนนั้น จนทำให้พี่เม่ยหรูตกใจ, แต่ก็ได้, ฉันเลิกล้อเล่นกับคุณและ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า"

 

"มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?" หลิวหมิงเยว่ถามขึ้นแบบเลือดสูบฉีด

 

"เธอลองล็อคอินเข้าไปด้วยIDในบริษัทดูสิ แล้วไปดูว่าพวกคนที่โดนแบล็คลิสต์ไปนั้นได้ส่งอีเมล์มามากมายมายังบริษัทของเรา, ตอนนี้คนพวกนี้ต่างก็เข้ามาขอร้องขอให้เมตตาและเล่นบทน่าสงสารหวังให้พวกเรายกเลิกแบล็คลิสต์แน่ะ"

 

หลิวหมิงเยว่รีบล็อคอินเข้าไปในเว็บไซต์ของบริษัทด้วยIDของเธอและมองดูเมล์บ็อคของบริษัท, ซึ่งมีอีเมล์เข้ามามากมายอย่างที่ว่าไว้จริงๆ

 

"ตอนนี้คนพวกนี้คงสำนึกผิดกันแล้ว แต่จะไม่ช้าไปหน่อยเหรอ? ผู้คนที่เคยถูกบริษัทเราแบล็คลิสต์มาก่อนนั้น ก็ไม่เคยมีใครถูกยกเลิกแบล็คลิสต์มาก่อนด้วย, พวกเขาทำอย่างไหนไว้ก็ต้องได้รับผลอย่างนั้นล่ะนะ"

 

เธอเปิดอ่านบางอีเมล์และมองดูข้อความ, ซึ่งมีบางอีเมล์ที่ทำให้เธอต้องหัวเราะออกมา

 

เป็นจดหมายที่เขียนด้วยวาจาแบบขู่กรรโชก, ท่าทางคนที่ส่งอีเมล์นี้มาจะต้องเป็นคนที่มีความแค้นกับบริษัทแน่ๆ

 

"เธอเคยเจอจดหมายขู่มาก่อนไหม? ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับจดหมายนี้ดี"

 

"นั่นสินะ, แต่ถ้าเป็นบริษัทนี้ก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก, หรือถ้ามีปัญหาจริง เดี๋ยวก็คงจะจบลงโดยไว, เรื่องพวกนี้นะมันเป็นปัญหาของพวกรปภ.ต่างหาก, ซึ่งก็เหมือนจะไม่ใช่ความลับแล้วนะว่า ทำไมรปภ.ของบริษัทเอกชนถึงได้ติดอาวุธครบมือได้ขนาดนั้น"

 

เพราะว่ารปภ.ของบริษัทนั้นบางคนคือทหารที่ถูกส่งมาโดยทางรัฐเพื่อที่จะปกป้องฟิวเจอร์กรุ๊ป, พนักงานมากมายในบริษัทต่างก็รู้เรื่องนี้ดี, บางทีเวลาพวกเขาออกไปข้างนอก พวกเขาก็จะรู้สึกได้ว่ามีทหารคอยเดินตามคุ้มครองพวกเขาอยู่

 

ซึ่งเกรงว่าเรื่องของอีเมล์ขู่ที่ชัดเจนแบบนี้จะถูกรู้โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

 

และทางหน่วยข่าวกรองก็จะแจ้งข่าวไปยังเบื้องบน, ซึ่งเบื้องบนก็จะสั่งการลงมาโดยเร็ว ให้ทำการเข้าตรวจสอบบริษัทนั้นเพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของบุคลากรในฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

ดังนั้น, จึงได้มีกองทหารออกไปจับเหล่าผู้จัดการของบริษัทนั้นในคืนนี้, มีบางคนที่เคยถูกจับมาก่อนด้วยและรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

 

"ฉันได้รับอีเมล์ที่ส่งมาเป็นการส่วนตัวด้วยล่ะ, บอกว่าทันทีที่ฉันถอนเขาออกจากรายชื่อแบล็คลิสต์ พวกเขาจะจ่ายให้ฉัน 5 ล้านหยวนล่ะ"

 

โจ้วหลานส่งข้อความในอีเมล์ให้หลิวหมิงเยว่ดู

 

มันช่างน่าตลก, แค่ 5 ล้านหยวน ประธานค่ายเพลงพวกนี้ช่างน่าขันกันเสียจริง, จ่ายเงินแค่นี้เพื่อซื้อตัวเธอ

 

"ฮะๆ, ฉันก็ได้มาเหมือนกันล่ะ, พวกเขาคิดว่าพวกเราไม่เคยเห็นเงินรึยังไงกันนะ"

 

อีเมล์พวกนี้ของทั้งคู่นั้นขี้เกียจที่จะตอบกลับเหลือเกิน, จึงเปลี่ยนเรื่องและคุยกันถึงเรื่องของที่จะไปที่หมู่บ้านซุยฉุยในวันพรุ่งนี้

 

ในคืนนั้น, มีค่ายเพลงมากมายที่โดนเข้าตรวจสอบและพบว่าไม่มีปัญหาอะไรร้ายแรงมาก, ซึ่งถ้าพบว่ามีปัญหาร้ายแรงขึ้นมา ทางหน่วยข่าวกรองก็จะไม่ซักถามอะไรพวกเขา แต่จะส่งต่อค่ายเพลงที่มีปัญหาเหล่านี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที

 

เมื่อเผชิญเข้ากับเรื่องของเนื้อความของอีเมล์พวกนี้ที่ถูกส่งต่อมายังกระทรวงIT, หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างก็จัดการกับคนพวกนี้ไปตามกฏหมายขั้นรุนแรงสุด, เพราะพวกเขานั้นรู้ดีว่าหากปล่อยผ่านปัญหานี้ไปล่ะก็ พวกเขาคงจะได้ถูกสอบและโดนย้ายอย่างแน่นอน

 

ดังนั้น, เหล่าเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งหลังจากที่ได้ทราบข่าวนี้ในวันต่อมา ก็ได้ลงมือทำงานและตั้งทีมสอบสวนขึ้นมาในทันที และได้แจ้งไปยังหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะให้เข้าจับกุมผู้กระทำผิดทันที

 

มีผู้คนในวงการบันเทิงที่โดนเข้าจับกุมโดยตำรวจก่อนที่จะรู้ตัวเสียอีกว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ปฏิบัติการเข้าจับกุมครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทำให้ผู้คนในวงการบันเทิงเกิดความแตกตื่น และมีบางคนที่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะกลัวว่าตัวเองจะถูกจับด้วยเช่นกัน

 

"เกิดอะไรขึ้น? CEOของเทียนหยูมีเดียถูกจับไปแล้ววันนี้, ฉันได้ยินมาว่า CEOของค่ายเพลงอื่นๆก็โดนพาตัวไปโดยตำรวจเช่นกันนะ"

 

"ไม่ใช่แค่พวกCEOเท่านั้นนะ, มีผู้คนมากมายที่โดนจับกุมไปด้วยล่ะ, ฉันไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"

 

"แต่ไม่น่าจะใช่เรื่องดีแน่นอน, ดูเหมือนว่าพวกคนที่ถูกจับนั้นคิดว่าจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับพวกCEOแน่นอนเลย, ระวังอย่าให้ถูกจับล่ะ, ไม่รู้เลยว่าจะต้องโดนอะไรบ้างแน่"

 

เรื่องที่เกิดขึ้นในวงการบันเทิงนี้ กลายมาเป็นเป้าความสนใจของพวกสื่ออย่างรวดเร็ว, แต่ทว่าก็ยังไม่มีใครที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับการจับกุมครั้งใหญ่นี้เลย"

 

ถึงแม้ว่าบางคนจะมีคนคอยหนุนหลังอยู่ แต่ก็ไม่อาจรอดชะตาการโดนจับกุมได้, ซึ่งแม้แต่คนที่คอยหนุนหลังนั้นก็พลอยติดร่างแหและโดนตรวจสอบไปด้วย

 

ซึ่งทำให้สื่อต่างๆเข้าใจว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ, และเริ่มระมัดระวังในการรายงานข่าว

 

การสืบสวนและการเก็บหลักฐาน ถูกนำไปรวบรวมโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็วมาก และในวันแรกของการจับกุม, ก็ได้มีการนำหลักฐานของบางคนออกมาเผยแพร่ในวันนั้น

 

ซึ่งเมื่อหลักฐานพวกนี้ถูกเปิดเผยออกมา โดยเฉพาะบางคนที่ขู่กรรโชกพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น ทำให้ใครหลายคนต่างรู้สึกตกใจและคิดว่าต้องเป็นการเข้าใจผิดแน่ๆ

 

แต่ทว่า, เมื่อพวกเขาเห็นทางการได้เผยแพร่อีเมล์ข่มขู่, พวกเขาก็รู้สึกได้ว่าคนที่ส่งอีเมล์นี้ไปนั้นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ

 

"จากที่เห็น น่าจะเป็นอีเมล์ที่ส่งให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปโดยมีเนื้อความที่เป็นปัญหาก็เลยถูกสอบโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องล่ะนะ, เพียงแต่ดูเหมือนจะมีหลายเรื่องพ่วงเข้าไปด้วย"

 

"คนพวกนี้ก็นะทำตัวเหมือนเอาหัวไปให้ลาเตะเสียจริง โดยเฉพาะการเขียนอีเมล์ขู่กรรโชกไปยังบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปเนี่ย, ไม่มีใครเขากล้าเข้าไปแหยมฟิวเจอร์กรุ๊ปหลังจากที่เห็นพวกเขาทำเงินมากมายขนาดนั้น, แน่นอนว่า ทางรัฐเองจะต้องคอยปกป้องบริษัทนี้อยู่แล้ว, และยิ่งมีความสัมพันธ์ดีกับทางกองทัพอีกด้วย"

 

"ผมจำได้ว่าคนพวกนี้คือคนที่ถูกฟิวเจอร์กรุ๊ปแบล็คลิสต์ไว้ล่ะนะ, ดูเหมือนว่าพวกเขาคงคิดจะที่จะใช้วิธีการแบบนี้เพราะต้องการที่จะให้พวกเขายกเลิกแบล็คลิสต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปให้แหงๆ, คนพวกนี้ลนหาที่ตายชัดๆ"

 

"สมควรแล้ว, หัวของคนพวกนี้จะต้องมีปัญหาแน่ๆ, ไปคว่ำบาตรเขาก็เลยโดนแบล็คลิสต์, ยังไม่พอ ยังไปใช้วิธีขู่กรรโชกเขาอีก, ไม่ได้ตายดีหรอกคนแบบนี้"

 

"............."

 

ทุกคนในวงการบันเทิงต่างก็รู้สึกเสี่ยงและกลัวกับการเข้าจับกุมในครั้งนี้

 

แต่ทว่า, เรื่องนี้ไม่ได้ขยายผลออกไปมากนัก, เพราะทางเบื้องบนเหมือนจะแค่ต้องการเตือนพวกเขาเท่านั้น

 

จากผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้, ทำให้บางบริษัทที่เกี่ยวข้องกับดนตรีก็ได้มาขอติดต่อกับฟิวเจอร์กรุ๊ปและต้องการร่วมงานด้วยเพื่อจะนำอุปกรณ์เครื่องเสียงไปใช้

 

ส่วนผู้คนและบริษัทที่ร่วมคว่ำบาตรนั้น ที่เคยคิดที่จะเตรียมตัวสู้กับฟิวเจอร์กรุ๊ปให้ถึงที่สุดนั้น, เมื่อเห็นเหตุการณ์ในครั้งนี้แล้ว, ต่างก็ยอมแพ้และยกเลิกแผนการทั้งหมดไป

 

ในเว็บบอร์ดของฟิวเจอร์กรุ๊ป, ก็มีการพูดคุยเรื่องนี้เข้มข้นขึ้นไปอีก, อย่างเรื่องของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น ทุกคนก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นบริษัทที่ดีกว่าบริษัทอื่นๆ

 

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องของไฟฟ้าชีวภาพบำบัดหรือเครื่องรักษามะเร็งเลย, พวกเขายังให้การดูแลและสวัสดิการดีกว่าบริษัทต่างประเทศเสียอีก

 

แล้วองค์กรเพื่อการกุศลที่จัดตั้งโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นก็ยังโปร่งใสกว่าองค์กรเพื่อการกุศลอื่นๆเสียอีก, ซึ่งจำนวนเงินที่ใช้ไปนั้นสามารถดูได้เว็บไซต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปเอง

 

ยิ่งไปกว่านั้น, เงินขององค์กรการกุศลนี้ก็ยังมาจากบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปเองด้วย

 

เมื่อหลักฐานจำนวนมากถูกปล่อยออกมา, ซึ่งเป็นหลักฐานที่ใช้จำกุมพวกคนที่ก่อปัญหานี้อย่างแน่นหนา, พวกเขาสวมหนังคนจีน, หาเงินจากคนจีน แล้วยังกลับมาทำร้ายคนจีนด้วยกันเองอีก

 

สำหรับคนพวกนี้, โดนจับนี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้ว

 

จากเรื่องที่เกิดขึ้น, เมื่อจี้ได้เล่าเรื่องนี้ให้อู๋ฮ่าวเหรินฟัง อู๋ฮ่าวเหรินก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก, เขาไม่คิดว่าคนพวกนั้นจะกล้าใช้วิธีการแบบนี้เพื่อสู้กับฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

อาจเป็นเพราะเขาออกทะเลไปช่วงนั้น, ทางรัฐจึงจับตาดูสิ่งต่างๆของฟิวเจอร์กรุ๊ปมากกว่าเดิม, และแน่นอน คนพวกนี้ก็ดันไปขวางทางปืนเข้าพอดี, เรียกได้ว่าซวยของแท้เลย

 

หลังจากนั้นก็ทราบว่าหลิวหมิงเยว่ได้เข้ามาหาในตอนเช้า, อู๋ฮ่าวเหรินจึงยังรู้สึกสับสนอยู่หน่อยๆ, แต่หลังจากที่ได้ฟังพวกเขาซุบซิบคุยกับน้องสาวก็พอจะเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องของหลิงเมิ่งเสวี่ย, เขาจึงพอจะเข้าถึงจุดประสงค์ของคนพวกนี้ที่มาที่หมู่บ้านซุยฉุยในวันนี้่แล้ว

-------------------


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น