CF:บทที่ 371 ทุกคนช่วยกันผลักกำแพงให้ล้ม

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 371 ทุกคนช่วยกันผลักกำแพงให้ล้ม (สำนวน: การที่หลายๆคนช่วยกันถล่มหรือซ้ำเติมใส่คนที่แข็งแกร่งมาตลอดในตอนที่กำลังล้มหรือสั่นครอน)

 

เมื่อเผชิญเข้ากับการแทรกแซงแบบกะทันหันของฟิวเจอร์กรุ๊ป, วงการดนตรีก็ตกอยู่ในความสับสนทันที

 

ค่ายเพลงบางค่ายก็รู้สึกได้ว่าโอกาสของเพลงจีนมาถึงแล้ว, และบางค่ายก็กังวลว่าการเข้ามาร่วมของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น จะทำให้การแข่งขันของวงการเพลงในจีนนั้นยากขึ้นไปอีก

 

จริงๆแล้ว, หากพูดกันถึงเรื่องของผลประโยชน์, การปรากฏตัวของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, โดยเฉพาะสองบทเพลงนั้น ทำให้ค่ายเพลงจำนวนมากต่างพากันรู้สึกถึงวิกฤตที่กำลังมาเยือน

 

ค่ายเพลงพวกนี้จึงต้องเตรียมตัวรับมือกับการก้าวเข้าสู่วงการดนตรีของฟิวเจอร์กรุ๊ป, และมีนักร้องนักดนตรีชื่อดังบางคนที่ได้เริ่มติดต่อมายังบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

พวกเขานั้นไม่ได้อยู่ในสภาวะวิกฤตเหมือนอย่างค่ายเพลง, พวกเขาแค่รู้สึกว่าการเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะทำให้งานดนตรีออกมาดีกว่า, และยังนำพาโอกาสและการท้าทายที่มากกว่าอีกด้วย

 

ณ ฟิวเจอร์กรุ๊ป, หลิวหมิงเย่วที่อยู่ในชุดเดรสสีขาว, ในมือถือปากกา, นั่งลงบนเก้าอี้และกำลังเอียงคอคิดถึงอะไรบางอย่างอยู่

 

โจ้วหลานที่อยู่ไม่ไกล, เดินถือแก้วชามาแล้ววางลงบนโต๊ะตรงหน้าของหมิงเยว่ แล้วพูดขึ้น "อย่าไปคิดมากเลยน่า พวกเราจัดการดูแลเรื่องนี้แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ, เดี๋ยวพอมืออาชีพเขามาแล้ว ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเขาไป"

 

หลิวหมิงเยว่ได้ยินที่โจ้วหลานพูด, ก็วางปากกาลง และมองดูเธอ ก่อนจะตอบกลับไป "ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องของงานของคนพวกนั้นหรอก, แต่ฉันกำลังคิดถึงเรื่องที่ว่าหัวหน้าต้องการที่จะทำอะไรกันแน่ต่างหากล่ะ? คราวนี้มันไม่เหมือนคราวก่อนๆเลยนะ"

 

โจ้วหลานมองที่ประตูห้องและพูดด้วยเสียงที่เบาลง "ฉันเคยถามหัวหน้าเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อหลิงเมิ่งเสวี่ยที่พวกเราเคยเจอที่หมู่บ้านซุยฉุย, ฉันคิดว่าเธอนี่แหละคือปัญหาล่ะ"

 

"อ๊ะ! หรือว่า, เธอสามารถร้องเพลงด้วยเสียงที่สุดยอดได้"

 

"อย่าดังไปสิ, ตอนแรกฉันก็ไม่คิดแบบนั้นหรอก, แต่หลังจากนั้นสักพักฉันคิดว่าเสียงของเธอคนนั้นมันพิเศษมากและยังฟังดูคล้ายกับเพลงนั้นมากด้วย, ยิ่งไปกว่านั้นะ หัวหน้าจะขอให้พวกเรามองหาผู้หญิงที่อายุประมาณ 23 ปี โดยยึดเป็นมาตรฐาน, เห็นได้ชัดว่าต้องเกี่ยวข้องกับเธอแน่, ฉันคิดว่าพวกเราควรจะไปที่หมู่บ้านซุยฉุยสุดสัปดาห์นี้เพื่อตามหาความจริงกันเถอะ"

 

จากการซุบซิบนินทาของทั้งสองสาวนั้น, พวกเธอนั้นสงสัยในตัวของหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่หมั้่นของหัวหน้าของพวกเธอ

 

"เอาตามนั้น, ไปหมู่บ้านซุยฉุยวันอาทิตย์นี้กัน, เรียกพี่เม่ยหรูไปด้วยนะ"

 

ในขณะนั้นเอง, ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา, โจ้วหลานจึงรีบหยิบแก้วชาและเดินกลับไปประจำที่ของเธอ ทั้งสองคนจึงกลับเข้าสู่สภาวะพร้อมทำงานอีกครั้ง

 

"เข้ามาได้ค่ะ"

 

เมื่อประตูเปิดเข้ามา, ก็พบว่าเป็นพนักงานซึ่งรับหน้าที่ตอบรับโทรศัพท์ของฝ่ายบริษัทเพลงชั่วคราว ได้เข้ามาและพูดขึ้น "ผู้จัดการหลิว, ผู้จัดการโจ้วคะ นี่คือบันทึกรายชื่อโทรเข้าที่โทรเข้ามาจากโปรดิวเซอร์ของค่ายเพลงต่างๆค่ะ,

พวกเขาต้องการที่จะทดลองอุปกรณ์สตูดิโอของฟิวเจอร์กรุ๊ปเราค่ะ"

 

หลิวหมิงเยี่ยหยิบเอาเอกสารขึ้นมาและดูรายชื่อของโปรดิวเซอร์เพลงที่บันทึกเอาไว้, ซึ่งเธอก็ตกใจมากที่มีชื่อที่ดูคุ้นๆอยู่ในรายชื่อด้วย

 

หลังจากที่คิดอยู่สักพัก เธอก็ตอบกลับมา "แจ้งไปยังพวกเขาว่า บริษัทของพวกเราตกลงที่จะให้เขาเข้ามาทดลองอุปกรณ์สตูดิโอของบริษัทเราได้"

 

หลังจากที่เธอคนนั้นออกไป, หมิงเยี่ยก็หยิบโทรมือถือของเธอขึ้นมาและโทรไปหาอู๋ฮ่าวเหริน

 

"ฮัลโหล, หัวหน้าคะ, มีคนที่อยากจะขอเข้ามาทดลองใช้สตูดิโอค่ะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินที่อยู่ในห้องแล็บในเวลานั้น, และกำลังศึกษาข้อมูลเรื่องของวัสดุฟิวชั่นอยู่

 

"หืม, สตูดิโอเหรอ? คุณให้พวกเขาเข้ามาในบริษัทของเราเลย, อุปกรณ์จะอยู่ในห้องที่อยู่ใกล้ๆกับห้องจัดแสดงนะ"

 

ฟังจากน้ำเสียงของอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว, หลิวหมิงเยว่ก็ได้แต่ส่ายหัว, เธอรู้ดีว่าหัวหน้านั้นต้องวางแผนจะทำอะไรสักอย่างแน่

 

"ถ้าพวกเขามาแล้ว, ฉันจะพาพวกเขาไปเองค่ะ"

 

หลังจากที่วางหูไป โจ้วหลานก็พูดขึ้น, "ดูนี่สิ, คนพวกนี้ก็ตลกดีนะ, พวกเขาต้องการจะคุยกับพวกเราเรื่องขอยกเลิกแบล็คลิสต์แน่ะ"

 

"ถ้าไม่ใช่เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดขายออกไปแล้ว, พวกเขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดด้วยซ้ำ, ปล่อยพวกเขาไปเถอะ, พวกเราไปดูสตูดิโอกันดีกว่า"

 

ณ ค่ายเพลงแห่งหนึ่ง, มีชายชราที่สวยเสื้อลายสก็อตที่นั่งและรอการตอบกลับมาจากฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่ด้วยสีหน้าสิ้นหวัง

 

หลังจากนั้นสักพักเขาก็หมุนเลขโทรศัพท์และพูดขึ้น "ตาเฒ่าหลี่, สถานการณ์ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง? ของข้าไม่มีตอบกลับมาเลย, เหมือนพวกเขาจะเมินเฉยพวกเราไปแล้ว"

 

"เช่นเดียวกัน, เฮ้อ, ข้าไม่คิดเลยว่าจะต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้, นักร้องที่สังกัดอยู่ค่ายของข้าคงไม่คิดจะต่อสัญญาแน่เมื่อสัญญาหมดอายุแล้ว"

 

"เจ้าฟิวเจอร์กรุ๊ปนี่มันช่างหยิ่งยโสซะจริง, คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าแห่งวงการเพลงรึยังไง! ตาเฒ่าหลี่ พวกเราไปติดต่อหาคนพวกอื่นกันเถอะ, ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว, พวกเราก็มาต่อต้านกันให้ถึงที่สุดกันเถอะ"

 

"ข้าคิดว่าข้าพอแล้วล่ะ, เฮ้อ การต่อสู้ครั้งนี้ก็เริ่มด้วยพวกเรา, ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าก็ไม่อยากที่จะไปข้องเกี่ยวอีก, ไว้ค่อยคุยกันทีหลังละกัน ข้ามีประชุมต่อจากนี้"

 

มองดูโทรศัพท์ที่วางลงไป, ชายชราคนนั้นก็คว้าเอาแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วขว้างลงไปที่พื้นด้วยความโมโห

 

ในตอนนั้นเอง, มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก

 

"เข้ามาได้!"

 

"ท่านประธานหลิวคะ...."

 

"อย่างเพิ่งพูดอะไร, ทำความสะอาดตรงนี้ที แล้วให้หยูเฟิงเข้ามาพบข้าหน่อย, ข้ามีอะไรบางอย่างจะพูดกับเธอหน่อย" ชายชราคนนั้นปลดกระดุมเสื้อบนสุดของเขาออก

 

หญิงสาวมองดูเขาด้วยสายตาน่ารังเกียจ, เธอวางจดหมายลาออกที่อยู่ในมือของเธอไว้บนโต๊ะ

 

"คุณหลิวคะ, พี่หยูเฟิงจะไม่มาทำงานแล้วค่ะ, นี่คือจดหมายลาออกของเธอ, ส่วนอันนี้คือจดหมายลาออกของฉันค่ะ, มันไม่สำคัญว่าคุณจะอนุมัติหรือไม่, แต่สัญญาของพวกเราก็หมดอายุแล้วค่ะ, ลาก่อน"

 

"แก...."

 

คุณหลิวชี้มาที่เธอและเตรียมพร้อมที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา, แต่ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาแทนและพูดขึ้น "คุณหลิวครับ, นี่คือจดหมายลาออกของผมครับ"

 

ในสองนาทีถัดมา, มีคน 5 คนที่เดินเข้ามา, พร้อมกับขอยื่นใบลาออก

 

ค่ายเพลงนี้ไม่มีอะไรดีอีกแล้ว, นอกจากนี้, วิธีการของคุณหลิวเองก็เป็นปัญหาด้วย, ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกไม่ดีอย่างมาก, แล้วตอนนี้มีสถานการณ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปเข้ามาร่วมด้วยแล้ว, พวกเขายิ่งไม่ต้องการที่จะจมหัวจมท้ายไปพร้อมกับค่ายเพลงแบบนี้อีก

 

เลขาก็เดินเข้ามาจากข้างนอกพร้อมด้วยถุงน่องสุดเซ็กซี่, และรูปร่างที่เย้ายวน และกระเป๋าถือในมือของเธอ

 

"เข้ามาสิ, ล็อคประตูด้วย"

 

แต่เลขาคนนั้นทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยิน เธอบิดตัวเดินเข้ามาหาเขา ก่อนที่จะตัวลงบนโต๊ะเล็กน้อยและจ้องมองเขา ก่อนที่จะหยิบเอกสารบางอย่างออกมาจากกระเป๋าถือและโยนลงบนโต๊ะ

 

"ฉันขอลาออกค่ะ, ฉันคิดว่าคุณควรจะกลับไปหายายแก่หน้าเหลืองที่บ้านนะคะ"

 

เมื่อพูดจบ, เธอก็บิดตัวและเดินออกไป, ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา และโทรหาผู้ชาย คุยและหัวเราะเรื่องของงานใหม่

 

สีหน้าของชายชรานั้นมืดลงไปอีกและตัวของเขาก็สั่น, ทันใดนั้นเขาก็กวาดของทุกอย่างลงจากโต๊ะ, ไปอยู่ที่พื้นจนหมด

 

แน่นอนว่า, มีค่ายเพลงมากกว่าหนึ่งที่มีสถานการณ์เช่นเดียวกันนี้, และการที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ทำการแบล็คลิสต์ค่ายเพลงต่างๆนั้น, ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องของพนักงานเลย

 

เมื่อดูจากสถานการณ์ในปัจจุบัน, พวกเขาคงจะติดไปร่างแหไปด้วยแน่หากพวกเขาไม่รีบทำอะไรซักอย่าง

 

มีบางคนที่เป็นกังวล, และเริ่มที่จะพากันลาออกเพื่อให้ตัวเองรอด, แล้วก็ลองไปสมัครเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

การสมัครเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นกลายเป็นสนใจอย่างมาก และสวัสดิการก็เป็นอะไรที่ทำให้ผู้คนยิ้มออกด้วย

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ข่าวเรื่องอำเภออวิ๋นหลงวางแผนที่จะสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นมาก็แพร่สะพัดไปทั่วอินเตอร์เน็ตแล้วด้วย

 

เพราะอิทธิพลของฟิวเจอร์กรุ๊ป ทำให้ทางรัฐให้การดูแลเป็นพิเศษ, ซึ่งทำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

มีโปรดิวเซอร์เพลงมากมายที่ได้เริ่มแจ้งติดต่อไปยังนักร้องในสังกัดหลังจากที่ได้เห็นคำตอบของฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

ในเมื่อต้องการที่จะทดสอบอุปกรณ์, ก็แน่นอนว่าต้องอัพเพลงไปพร้อมกันเลยเพื่อทดสอบคุณภาพของอุปกรณ์

 

โปรดิวเซอร์เพลงพวกนี้ ดูเหมือนกำลังพยายามสร้างความยากลำบากให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปกันอยู่ หลังจากที่คิดอย่างรอบคอบแล้วก็ได้มองหานักร้องที่มีเสียงที่ไพเราะมา, ถ้าหากอุปกรณ์พวกนั้นไม่ได้ดีจริงตามที่อธิบายเอาไว้, นักร้องพวกนี้ก็จะไม่ยอมไปร่วมกับฟิวเจอร์กรุ๊ปง่ายๆแน่

 

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เข้าร่วมคว่ำบาตรฟิวเจอร์กรุ๊ปก็จริง, แต่พวกเขาก็รู้สึกไม่ค่อยดีกับการที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปยั่วโมโหด้วยแบล็คลิสต์วงการเพลงแบบนี้

--------------------


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น