CF:บทที่ 347 การคว่ำบาตรเพลง

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 347 การคว่ำบาตรเพลง


ภายในเวลาสองชั่วโมง เพลงนั้นมียอดวิวมากกว่าห้าล้านครั้งโดยไม่มีการประชาสัมพันธ์ใดๆ เลย


ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งหลายต่อหลายคนรู้เกี่ยวกับมัน การแพร่กระจายของเพลงก็ยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ


บนหน้าเพจในตอนนี้ นักร้องหลายคนต่างพากันอิจฉา และพวกเขาก็เข้าใจถึงพลังของฟิวเจอร์กรุ๊ป ตราบใดที่คุณอยู่บนรถม้าของฟิวเจอร์กรุ๊ป คุณก็จะไม่แย่เกินไป มันจะเป็นจังหวะที่ราวกับการบินอย่างแน่นอน


น่าเสียดายที่ไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกอิจฉาเพียงใดก็ตาม ฟิวเจอร์กรุ๊ปก็จะยังไม่เปิดรับสมัครคนที่เกี่ยวข้องในตอนนี้ และพวกเขาก็ไม่มีโอกาสที่จะเข้าร่วมงานกับฟิวเจอร์กรุ๊ปเลย


นักร้องหญิงเพียงคนเดียวที่ได้เข้าร่วมบริษัทกับฟิวเจอร์กรุ๊ปกลายเป็นหัวข้อซุบซิบ


มีการคาดคะเนบนอินเตอร์เน็ตอย่างมากมาย บางคนอ้างว่ามีข้อมูลภายใน แต่ในท้ายที่สุดไม่มีใครรู้ว่าใครคือนักร้องคนนั้น


แม้แต่พนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ออกมาอธิบายว่า พวกเขาไม่ทราบข้อมูลของนักร้อง มีเพียงเจ้านายคนเดียวเท่านั้นที่รู้


ใครคือนักร้องคนนั้น?


ผู้คนบนกระดานข่าวต่างก็พากันมองหาคำตอบ และบางคนก็วิเคราะห์ไปทุกอย่าง จนในที่สุด อู๋เสี่ยวชาน น้องสาวของอู๋ฮ่าวเหรินก็เป็นตกเป้าหมายของความสงสัยนี้


จนกระทั่งการคาดคะเนอีกประเภทหนึ่งได้ปรากฏบนอินเตอร์เน็ตและกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่นิยมอย่างรวดเร็ว และมันยุติสถานการณ์การคาดคะเนแบบสุ่ม


ที่จุดเริ่มต้นของกระดานข่าวมีโพสต์ว่า "นักร้องคือปัญญาประดิษฐ์" และการวิเคราะห์จำนวนมากได้ถูกเขียนขึ้นที่ด้านล่างโพสต์นี้


ยกตัวอย่างเช่น เนื้อเพลงและการแต่งเพลงหากพวกเขาไม่ใช่มืออาชีพพวกเขาก็ไม่สามารถไปถึงระดับนี้ได้ และฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่เคยได้ยินว่ามีความสามารถทางด้านนี้


และครั้งสุดท้ายในการแข่งขันปัญญาประดิษฐ์กับกูเกิล  การเติมคำศัพท์ของปัญญาประดิษฐ์นั้นดีมาก


จากการวิเคราะห์ข้างต้นสรุปได้ว่า ปัญญาประดิษฐ์สามารถเขียนคำได้ดังนั้นเพลงก็คงจะไม่เป็นเรื่องยากสำหรับปัญญาประดิษฐ์


แล้วไหนจะเรื่องของเสียง มีความเป็นไปได้ที่ปัญญาประดิษฐ์จะรวบรวมและสังเคราะห์เสียงของผู้คนทุกประเภท ดังนั้นมันจึงฮิตติดหู และนี่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับปัญญาประดิษฐ์


 


หากเพลงนี้สร้างขึ้นจากปัญญาประดิษฐ์จริงๆ แล้ว วงการเพลงจะต้องนำมาสู่การเปลี่ยนแปลง


ทันทีที่โพสต์นี้ปรากฏขึ้นก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ในทันที และจากนั้นการวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องทุกประเภทในพื้นที่นี้ปรากฏบนกระดานข่าวเป็นจำนวนมาก


จนในท้ายที่สุดเราก็พบว่า


ดูเหมือนว่าปัญญาประดิษฐ์จะเป็นผู้สร้างเพลงนี้ ซึ่งมันสมเหตุสมผลจริงๆ


ซึ่งมันเป็นเรื่องแปลกที่บริษัทเพลงของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะไม่รับพนักงานในสาขานี้ หากฟิวเจอร์กรุ๊ปจะใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อพัฒนาดนตรี ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้นหากจะไม่มีบุคลากรทางด้านดนตรี


“มันไม่ได้สร้างขึ้นด้วยปัญญาประดิษฐ์จริงๆหรอ เพลงนี้มันเพราะมาก”


“ใช่ ฉันก็คิดว่ามันไพเราะและติดหูมาก อย่างไรก็ตามการคาดคะเนที่ว่าปัญญาประดิษฐ์นั้นสอดคล้องกับสถานการณ์ในฟิวเจอร์กรุ๊ป”


“ฮ่าฮ่า ถ้ามันเป็นเพลงที่สร้างโดยปัญญาประดิษฐ์จริงๆ มันก็น่าตลก ฉันเองก็ไม่รู้ว่านักดนตรีพวกนั้นจะรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”


“พวกเขากลัวซะจนร้องไห้แล้วตอนนี้ ถ้ามันเป็นเพลงที่สร้างโดยปัญญาประดิษฐ์จริงๆ มันเพราะกว่าที่นักร้องดังๆ บางคนร้องซะอีก ซึ่งทำให้สถานการณ์ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องทางด้านดนตรีอึดอัดใจเป็นอย่างมาก”


เพลงของปัญญาประดิษฐ์ คนส่วนใหญ่รู้สึกเหลือเชื่อเมื่อพวกเขาได้รับฟัง ว่าปัญญาประดิษฐ์สามารถที่จะสร้างเพลงนี้ได้อย่างไร


เมื่อคิดถึงสถานการณ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปกับการคาดคะเนปัจจุบันแล้วมันก็ช่างลงตัวกันจริงๆ


บนหน้าเพจบนโลกอินเตอร์เน็ตความคิดเห็นได้ถูกแบ่งเป็นสองฝ่าย


บางคนก็สนับสนุนเพลงแบบนี้ พวกเขาคิดว่าตราบใดที่เพลงนั้นเพราะ ก็ไม่มีปัญหาอะไรถ้ามันจะถูกสร้างขึ้นมาด้วยปัญญาประดิษฐ์ เพราะปัญญาประดิษฐ์เองก็ถูกค้นคว้าวิจัยขึ้นมาโดยมนุษย์


บางคนได้แสดงการคัดค้านอย่างรุนแรงต่อเพลงนี้ พวกเขาคิดว่าการปรากฎตัวของเพลงนี้เป็นการดูถูกวงการเพลง ดังนั้นคนพวกนี้จึงเริ่มที่จะคว่ำบาตรเพลงนี้


ตัวอู๋ฮ่าวเหรินเองก็ไม่คิดว่าเขาเพิ่งจะอัพโหลดเพลงขึ้นไป ซึ่งมันกลับนำไปสู่สงครามบนโลกอินเตอร์เน็ต


ในตอนแรก ผู้คนจากมุมมองทั้งสองฝ่ายยังคงโต้เถียงกันอย่างสงบและพยายามที่โน้มน้าวฝ่ายตรงข้าม


กลายเป็นว่า เมื่อมีการโต้เถียงกันมากขึ้น ความตื่นเต้นของทั้งสองฝ่ายก็เริ่มเกิด ซึ่งนำไปสู่สถานการณ์บานปลาย และทั้งสองฝ่ายได้เริ่มที่จะโจมตีกันและกัน การทะเลาะวิวาทเริ่มแผ่ขยายออก


เช่นเดียวกับการต่อสู้ระหว่างซงซีหวานและซงซีเค็ม พวกเราทุกคนต่างก็ต้องการที่จะโน้มน้าวซึ่งกันและกัน


ในขั้นต้น นี่เป็นเพียงข้อโต้แย้งระหว่างชาวเน็ตธรรมดา เมื่อผู้คนเริ่มทะเลาะกันบนอินเตอร์เน็ตและเมื่อปิดคอมพิวเตอร์หรือมือถือ เรื่องก็ควรจบ


อย่างไรก็ตามมีกลุ่มคนที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้และรู้สึกถึงวิกฤติ ถ้าปัญญาประดิษฐ์นั้นทรงพลังจริงๆ ทันทีที่ดนตรีของปัญญาประดิษฐ์พัฒนาขึ้น ผู้ที่เกี่ยวข้องกับดนตรีเหล่านี้น่าจะเผชิญกับวิกฤติการว่างงาน


ดังนั้นหลังจากคนเหล่านี้เชื่อมโยงถึงกันและกัน พวกเขาสุมไฟเข้ากับเรื่องนี้โดยตรง


พวกเขาออกแถลงการณ์เรียกร้องให้แฟนๆ คว่ำบาตรเพลงที่สร้างขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์ และคว่ำบาตรบริษัทเพลงของฟิวเจอร์กรุ๊ป


การคว่ำบาตรเริ่มต้นด้วยคนเพียงไม่กี่คน และต่อมาผู้คนจำนวนมากเริ่มเข้าร่วม คนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับดนตรี บางคนเป็นนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียง บางคนเป็นนักแต่งเนื้อร้อง บางคนเป็นนักร้องยอดนิยม และบุคลากรที่เกี่ยวข้องทางด้านดนตรีทุกประเภท


เมื่อมีคนที่เกี่ยวข้องกับทางด้านดนตรีเริ่มคว่ำบาตรมากขึ้นเรื่อยๆ และแม้แต่ บริษัทเพลงบางแห่งก็เริ่มออกแถลงการณ์คว่ำบาตร


สถานการณ์เริ่มนำไปสู่การโต้เถียงระหว่างคนทั่วไปและกลายเป็นสงครามการคว่ำบาตรในอุตสาหกรรมเพลง


ในท้ายที่สุด พวกเขาก็ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรคว่ำบาตรเพลงจากปัญญาประดิษฐ์ และเริ่มที่จะสุมไฟใส่ฟิวเจอร์กรุ๊ป


การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันทำให้ชาวเน็ตบางคนไม่ตอบโต้ เริ่มแรกมันเป็นการถกเถียงระหว่างสองฝ่ายที่สนับสนุนและไม่สนับสนุน แล้วมันกลายเป็นการเผชิญหน้าระหว่างคนและปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างไรกัน


บางคนก็ใช้โอกาสนี้ในการโวยวายต่อรัฐบาลว่าควรจะห้ามไม่ให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปทำการศึกษาเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์และเพื่อป้องกันสงครามระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์เช่นในหนังแนววิทยาศาสตร์


ยิ่งหลายต่อหลายคนกระพือเปลวไฟมากเท่าไร บางประเทศก็กำลังใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้และเริ่มต่อสู้ แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าการห้ามใช้ปัญญาประดิษฐ์เป็นสิ่งที่คนโง่เท่านั้นที่จะทำ


พวกเขาเพียงแต่หวังว่า พายุแห่งความคิดเห็นสาธารณะนี้ จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของฟิวเจอร์กรุ๊ป


มันคงจะดีกว่านี้ถ้ามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เพื่อที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปจะได้รับข่าวเชิงลบบ้าง


เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินได้รับโทรศัพท์จากโจ้วหลาน และได้รับการบอกเล่าเกี่ยวกับสถานการณ์บนอินเตอร์เน็ตและพันธมิตรต่อต้านที่เกิดขึ้นจากวงการเพลง เขาถึงกับตกตะลึง


เขารู้สึกว่าคนเหล่านี้บ้า แม้ว่าเพลงดังกล่าวจะถูกสร้างขึ้นด้วยปัญญาประดิษฐ์ แต่ก็ไม่ได้เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย


มันเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะก้าวล่วงความสนใจของพวกเขา แต่นี่ก็ไม่ใช่การกระทำที่หลอกลวง


“คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเขาหรอก หากพวกเขาชอบที่จะต่อต้านก็ปล่อยให้พวกเขาต่อต้าน ฟิวเจอร์กรุ๊ปของเรากลัวว่าคนอื่นจะไม่สามารถต้านทานได้”


“โอเค แต่พวกเราต้องจัดการกับมันนะ”


“เอาล่ะ ฉันจะดูแลเรื่องนี้เอง ดังนั้นคุณไม่ต้องถามอะไรแล้ว”


เมื่อวางสายโทรศัพท์ อู๋ฮ่าวเหรินก็เข้าไปในกระดานข่าวบนเว็บไซต์หลักของบริษัท การดึงดูดความสนใจของคนพวกนี้ช่างเห็นผลนัก ในตอนนี้นั้นบนกระดานข่าวเต็มไปด้วยโพสต์การคว่ำบาตรอยู่ทุกหนทุกแห่ง


“จี้ ลองเลือกเพลงที่มีจังหวะเร็วๆ ที่มีความเข้มข้นและเป็นที่นิยม พวกเขาต้องการที่จะต่อต้าน ดังนั้นก็ต่อต้านให้ดีแล้วกัน”


อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าควรใช้วิธีการใดเพื่อให้คนเหล่านี้เข้าใจว่าการคว่ำบาตรของพวกเขาใช้ไม่ได้กับฟิวเจอร์กรุ๊ป และจากนั้นพวกเขาสามารถที่จะโกรธจนตายได้


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น