TB : ตอนที่ 10 คนที่แอบชอบ
"ช้าๆก็ได้ครับ ไม่ต้องรีบ ต่อไปก็ถึงตาของคุณฉางกวงหนาน"
เมื่อเห็นท่าทางของเฮอชิงชิง เฉินหลงพุ่งเป้าไปที่ฉางกวงหนานในทันที
"ผู้จัดการจาง ขอบคุณสำหรับวันนี้ครับ มาครับ ผมอยากดื่มให้กับคุณ"
เฉินหลงรินไวน์ใส่ในแก้วของอีกฝ่ายแล้วส่งแก้วไวน์ให้กับฉางกวงหนาน
"ได้เลยครับ" ฉางกวงหนานหยิบแก้วขึ้นมาโดยเร็วแล้วชนแก้วกับเขา
"เราพักเรื่องไร้สาระเอาไว้แล้วมาดื่มฉลองกันดีกว่าครับ"
เฉินหลงกล่าวก่อนที่จะจิบไวน์จนหมดแก้ว
เมื่อเฉินหลงดื่ม ฉางกวงหนานก็ทำได้เพียงแค่ดื่มไวน์ในแก้วของตนเช่นกัน
......
ในไม่ช้า ฉางกวงหนานกับเฮอชิงชิงก็ล้มพับไปจากการกระทำของเฉินเหลิง
"ฮาฮ่า พวกคุณกล้ามากนะที่จะมอมผม"
เฉินหลงมองดูคนทั้งสองที่กล่าวคำสบประมาทเขานั้นสลบไป
อย่างไรก็ตาม โต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารจะไปมีความหมายอะไรหากเราไม่ได้กินมัน
เพราะฉะนั้นเฉินหลงคนนี้จะจัดการกินมันเงียบๆช้าๆคนเดียวให้ก็แล้วกัน
หลังจากที่เฉินหลงอิ่มแล้วเรียบร้อย
เขาเดินไปหากระเป๋าเงินของฉางกวงหนานแล้วนำเงินไปจ่ายค่าอาหาร
หลังจากนั้น เฉินหลงได้เปิดห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง
ทิ้งพวกเขาไว้ที่นั่นแล้วก็จากไป
"เราเดาไม่ออกเลยแหะว่าพวกเขาจะเป็นยังไงบ้างหลังจากที่ตื่นนอนแล้วเห็นสภาพแบบนั้นของตัวเอง"
หลังจากที่ออกมาจากโรงแรม เฉินหลงได้แต่หัวเราะอยู่ในใจ
ก่อนที่เฉินหลงจะออกมาจากห้อง
เขาถอดเสื้อผ้าของฉางกวงหนานกับเฮอชิงชิงแล้วพาเขาไปนอนบนเตียง
แน่นอนว่าเฉินหลงเองก็อยากสำรวจสิ่งที่ซ่อนอยู่ร่างกายของผู้หญิงอย่างเฮอชิงชิงเช่นกัน
แค่นั้นแหละ ไม่ได้เป็นคนลามกนะ
หลังจากออกจากโรงแรม เฉินหลงก็กลับไปที่ห้องเช่าของตน
ในตอนนี้ เฉินหลงเห็นว่าหวู่จวนกำลังยืนรออยู่ข้างนอกห้องเขา
เมื่อเห็นเฉินหลงกลับมา ใบหน้าของหวู่จวนก็เกิดรอยยิ้ม
"เสี่ยวเฉินกลับมาแล้ว" หวู่จวนตื่นเต้น
"ครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ? " เฉินหลงมองไปทางหวู่จวน
"ไม่มี นี่ เธอรู้ไหมว่าฉันยังมองเพชรนั่นไม่ชัดเลย
แต่ฉันรู้นะว่ามันเม็ดใหญ่แค่ไหน เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าฉันอยากเห็นมันอีกครั้ง"
หวู่จวนมีท่าทางเขินอาย
"อ้อ ถ้าคุณอยากเห็นมันอีก ผมว่ายากอ่ะ เพราะผมเพิ่งเอาเพชรไปขาย
ถ้าคุณบอกผมเร็วกว่านี้ผมคงเอามันมาให้คุณดูก่อน" เฉินหลงแบมือออกอย่างช่วยไม่ได้
จากนั้นเฉินหลงก็เดินผ่านหวู่จวนและตรงไปที่ห้องของตน
"เสี่ยวเฉิน เธอขายมันไปแล้วจริงๆเหรอ?" หวู่จวนฉุดรั้งเฉินหลงเอาไว้
"ผมขายมันไปแล้วจริงๆ แล้วก็กรุณาปล่อยมือจากผมด้วยครับ
ถ้าพี่ชายมาเห็นเข้าแล้วถ้าเขาเข้าใจผิด จะเกิดอะไรขึ้น คุณก็รู้นี่ครับ"
เฉินหลงจนปัญญา
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินหลง หวู่จวนทำได้เพียงปล่อยเขาไป
"ดูสิ ข้อความที่ส่งมาว่ามีเงินโอนเข้าในบัญชีตอนที่ผมขายเพชรครับ"
เฉินหลงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาให้ดู
"ย ยี่สิบล้าน ยี่สิบล้านสำหรับเพชร?"
เมื่อหวู่จวนเห็นข้อความในโทรศัพท์มือถือของเฉินหลง เธอก็จองไปที่เจ้าของของมัน
"ไม่ใช่แค่เม็ดเดียว แต่เป็นเพชรสองเม็ดครับ" เฉินหลงแก้มันให้ถูกต้องแล้วยิ้ม
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินหลง หวู่จวนก็ตัวแข็งทื่อในทันที
แสดงว่าเฉินหลงไม่ได้มีเพชรแค่เม็ดเดียวแต่เป็นสองเม็ด
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ผมจะเข้าห้องแล้ว แล้วก็ผมจะย้ายออกภายในสองวันนี้ครับ"
เฉินหลงส่งยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วเดินเข้าไปในห้องของตน
หวู่จวนที่ยืนอยู่ด้านนอกของประตู อึ้งไปสักพัก ก่อนจะกลับไป
ดูเหมือนว่าเธอจะเตะมันแรงๆหนึ่งที
ตั้งแต่เห็นเพชรของเฉินหลง หัวใจของหวู่จวนก็รู้สึกกระสับกระส่าย
เพชรนั่นล่อตาล่อใจเธอเกินไปแล้ว
หลังจากที่คิดเกี่ยวกับมันมานาน ในที่สุดหวู่จวนก็จำเป็นต้องทำตามที่คิด
คราวนี้ หวู่จวนได้มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเฉินหลง
เธอต้องการพิสูจน์ว่าเพชรยังอยู่กับเฉินหลงรึป่าว ถ้าเพชรยังอยู่
หวู่จวนจะหาคนมาขโมยมันตอนฟ้ามืด
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้คาดหวังว่าเฉินหลงจะขายเพชร1เม็ดแต่เป็น
2เม็ดแทนและขายได้เงิน 20 ล้านหยวน แต่ตอนนี้เพชรไม่ได้อยู่กับเฉินหลงแล้ว
ดังนั้นเธอก็คงต้องล้มเลิกความคิดนี้ไป
หวู่จวนเองก็หัวใจสลายไปโดยปริยายเมื่อเธอหมดโอกาสที่จะได้ครอบครองเพชร
ว่ากันตามกฎหมายแล้ว
ถึงหวู่จวนจะมีความกล้าหาญมากมายเพียงใดแต่เธอก็ไม่กล้าทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายอย่างเช่นการปล้นทรัพหรืออะไรทำนองนั้นอยู่ดี
เธอทำได้เพียงแค่กลับไปที่ของตนแล้วก็รักษาความเจ็บปวดของตัวเองต่อไป
ในตอนนี้ เธอรู้สึกเหมือนสมบัติล้ำค่าในการเดินทางไปตะวันตก คือเงิน 20
ล้านที่อยู่ตรงหน้าเธอ แต่เธอไม่สามารถครอบครัองพวกมันได้
เมื่อเธอเสียมันไปเธอรู้สึกเสียใจ
ในโลกนี้คงจะไม่มีอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดไปกว่านี้อีกแล้ว
ถ้าพระเจ้าสามารถให้โอกาสเธออีกครั้ง เธอจะเข้มแข็งมากขึ้น
"20 ล้าน เรามีเงิน 20 ล้านแล้วจริง ๆ สุดยอด
พรุ่งนี้เราจะไปซื้อบ้านสักหลังกับรถหรูสักคันก็แล้วกัน
เราจะบอกลาชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายแบบนี้สักที
เราจะจัดการกับคนที่เคยดูถูกเราให้มาอยู่แทบเท้าของเราให้ได้ "
เฉินหลงไม่ได้สนใจว่าหวู่จวนจะคิดอะไรอยู่ เขาสนแค่แผนการใช้จ่ายกับเงิน 20
ล้านหยวนอยู่ในห้องของเขา
หลังจากนั้น
เฉินหลงหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาเพื่อค้นหาสถานที่ที่เหมาะสมผ่านอินเทอร์เน็ต
เฉินหลงกำลังค้นหาบ้านพัก ตอนนี้เขามีเงินแล้ว
เขาสามารถอยู่ได้ทุกที่ที่เขาต้องการ
น้องสาวของเขา เฉินอี้ กำลังจะสอบเข้าเรียน
ถ้าเธอสามารถเรียนที่โรงเรียนมัธยมในซิงเฉิงได้ เธอจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องที่พัก
และถ้าพ่อแม่ของเขาต้องการมาอยู่ที่นี่ด้วย นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเช่นกัน
หลังจากหาบ้านในอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาพักผ่อน
วันต่อมา ความตื่นเต้นได้ปลุกให้เฉินหลงตื่นขึ้นมา ในเช้านี้เขาตื่นนอนตอนเจ็ดโมง
หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จเรียบร้อย เฉินหลงก็ออกไปวิ่งในช่วงเช้า
เฉินหลงได้ปฏิญาณตนว่าเขาจะออกไปวิ่งในตอนเช้าของทุกวันตอนที่เขายังเรียนอยู่
แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากที่เขาเรียนจบและต้องทำงาน
เฉินหลงไม่เคยไปวิ่งในตอนเช้าอีกเลย ตอนนี้เขามีโอกาสที่จะทำมันแล้ว
เขาก็จะไปออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเอง
หลังจากวิ่งมาได้ระยะหนึ่ง
เฉินหลงเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรเลยนอกเสียจากเขาจะหายใจไม่ทัน
ผลลูกไฟไม่ใช่แค่ทำให้เขาควบคุมไฟได้เท่านั้น
มันยังเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายเฉินหลงอีกด้วย
หลังจากที่เขาวิ่งเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงในตอนเช้า
สีหน้าของเฉินหลงดูเหมือนจะหายใจลำบาก
แต่กลับกันจิตใจของเขานั้นรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากวิ่งในตอนเช้าเสร็จเรียบร้อย เฉินหลงแวะไปที่ร้านอาหารเช้า กินหมี่สักชาม
หลังจากนั้นก็ออกเดินทางไปดูบ้าน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวออกไป
ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีเพื่อนร่วมชั้นที่ทำงานเกี่ยวกับด้านนี้
เธอจะยังทำงานอยู่ที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์อยู่รึป่าวนะ? แวะไปหาเธอดีกว่า
หลังจากหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า
เฉินหลงรู้สึกลังเลขึ้นมาเนื่องจากตอนที่เพื่อนร่วมชั้นคนนั้นเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยม
เขาแอบชอบเธอ ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่รู้ตัวเลยว่าเขาแอบชอบเธออยู่ก็ตาม
แต่เฉินหลงก็ยังคงรู้สึกอึดอัดเพราะเธออยู่
"ก็แค่อย่าไปมองหน้าเธอก็พอละมั้ง" หลังจากที่คิดถึงความหลัง เฉินหลงรู้สึกลังเล
“ ว่าแต่นายจะกลัวอะไรเล่า? ตอนนี้เราไปหาเธอก็เพื่อคุยเรื่องธุรกิจ
นอกจากนี้เราต้องการคนเก่ง เรามีเงินแล้วแต่ก็ยังกลัว...”
หลังจากคิดได้ เฉินหลงก็ตั้งมั่นว่าเขาจะไปหาคนที่เขาแอบชอบ
ในสมุดบันทึกที่อยู่ เฉินหลงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาหมายเลยโทรศัพท์ของอีกฝ่าย
ชื่อที่ถูกบันทึกเอาไว้เป็นชื่อที่เพราะมาก ‘จี้โม่ซี’
หลังจากที่เห็นชื่อของจี้โม่ซีแล้วเฉินหลงรู้สึกตื่นเต้น
เขาทำใจอยู่สักพักก่อนที่จะกดโทรออก
หลังจากฟังเสียงรอสาย ไม่นานปลายสายก็ได้รับการเชื่อมต่อ
0 ความคิดเห็น