CF:บทที่ 333 ความเร็ว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 333 ความเร็ว


ในตอนเย็นวันนั้น อู๋ฮ่าวเหรินได้เข้าไปยังพื้นที่ซองแดง เขาพบว่าจ้าวแห่งรถบินได้กำลังให้ผลประโยชน์คืนให้แก่บริษัท


“เร็วเข้า ส่งมาอีก ฉันจะได้เอามารวมรุ่นกัน”


“ไปไกลๆ เลยนะ แกปล้นเร็วเกินไปแล้ว ให้โอกาสคนอื่นบ้าง!”


“หุบปากเถอะ ก็แกมันช้าเอง โทษฉันได้ไง อย่างไรก็ตามคนที่เจริญแล้วก็ทำได้แค่มองดูพวกเราปล้นซองแดงนี่แหละ ดีไหมล่ะ?”


แปดหนวดกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พวกเราไม่ต้องการรถบินได้แบบนี้หรอก”


“พวกเราไม่ต้องการมัน มันเล็กเกินไปสำหรับพวกเรา” หินปีศาจกล่าวเสริม


“จริงด้วย รถบินได้แบบนั้นไม่เหมาะกับหลายๆ อารยะธรรม พวกเราแคชการ์ก็บินได้เองอยู่แล้ว”


ทันใดนั้นก็มีใครบางคนสังเกตเห็นว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นกำลังออนไลน์อยู่ และซองแดงทุกใบก็เริ่มแจ้งเตือน


“มาแล้ว พ่อค้าของเก่า นี่ครับรถบินได้ที่คุณสั่ง ผมนำมาให้คุณแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ค่อยพอใจนักครับ”


อู๋ฮ่าวเหรินมองดูข้อมูลที่โพสต์ขึ้นโดยจ้าวแห่งรถบินได้ ซึ่งประสิทธิภาพไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อทำการบินขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ความเร็วของมันก็ยังมากกว่าเครื่องบินขับไล่


ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการปรับแต่งระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเพราะรถคันนี้นั้นสามารถ “เปลี่ยนรูป” ได้


“ดีมากเลยนะ”


ซองแดงของรถคันนี้ ไม่มีใครกล้าปล้นไปจากเขา เหตุผลหลักๆ ก็คือ มันไม่ได้มูลค่ากับคนอื่นๆ ที่ฉกฉวยเอารถบินได้ไปจากซองแดง


ด้วยโปรโมชั่นของรถประเภทนี้ ราคาภายนอกนั้นถูกกว่าที่คุณได้ไปจากพื้นที่ซองแดงเล็กน้อย แน่นอนว่า มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าที่จะได้รับรถถ้าซื้อจากภายนอก


เมื่อมองดูรถบินได้ที่อยู่ในพื้นที่ของซองแดง อู๋ฮ่าวเหรินก็คิดว่า พรุ่งนี้เขาควรจะนำรถไปที่ห้องทดลอง และจากนั้นเขาก็จะสามารถใช้รถบินได้ที่มีเทคโนโลยีสูงนี้ได้จริงๆ สักที


“คุณได้ยินไหมเรื่องที่ภูมิภาคอื่นๆ ถูกค้นพบเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ว่าภูมิภาคนั้นไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้ค้นพบของพันธมิตรแห่งจักรวาลสักเท่าไรล่ะ?”


“นี่คุณกำลังพูดถึงภูมิภาคดวงดาวที่ถูกค้นพบโดยอารยะธรรมที่ก้าวหน้าเมื่อเร็วๆ นี้อย่างนั้นหรือ? มันไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไรนะ กองทัพหุ่นยนต์ที่ไปสำรวจที่นั่นยังถูกทำลายจนหมดเลย ตอนนี้ภูมิภาคนั้นถูกประกาศว่าเป็นอันตรายอย่างสูงต่อพันธมิตรแห่งจักรวาล”


“ฉันก็ได้ยินมาอย่างนั้น ดูเหมือนว่าจะมีอารยะธรรมชั้นสูงแห่งหนึ่ง กำลังก่อตั้งทีมสำรวจที่แข็งแกร่ง เพื่อไปสำรวจที่นั่น มีข่าวมาว่าที่นั่นเป็นขุมทรัพย์ของชีวิต


“ถ้าข่าวนี้ได้รับการยืนยัน พวกคนที่อาศัยอยู่ตราบเท่าที่จะสามารถซ่อนตัวอยู่ได้ในพันธมิตรแห่งจักรวาลก็จะต้องเข้าร่วมด้วย”


การสำรวจในทางโหราศาสตร์ที่อันตรายเช่นนี้โดยปกติแล้วจะเป็นหน้าที่ของอารยะธรรมชั้นสูง หลังจากที่พวกเขาได้ทำการสำรวจแล้ว สิ่งของดีๆที่พวกเขาค้นพบนั้นก็จะถูกเก็บสะสมและขุดไปด้วย


อู๋ฮ่าวเหรินมองดูสิ่งที่พวกเขากำลังพูดถึงและถึงกับหาว ซึ่งมันทำให้เขาคิดเกี่ยวกับการขยายอายุขัยของเขาเอง


ถ้าพวกเราใช้อายุขัยปัจจุบันของมนุษย์ ถึงแม้ว่ามันจะยืนยาวได้ถึง 200 ปีเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะยืดอายุขัย พวกเราไม่เพียงแต่ต้องฟื้นฟูความสามารถของเซลส์ร่างกาย แต่ยังต้องแก้ไปปัญหาทางพันธุกรรมบางประการ


ด้วยการยืดอายุขัย ผู้คนยังมีเวลามากพอที่จะทำซึ่งมันเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับการพัฒนาของอารยะธรรมของมนุษย์


อู๋ฮ่าวเหรินไม่เห็นจ้าวแห่งเรดาร์มาปรากฏตัวเป็นเวลานานแล้ว เขาจึงถามขึ้นอย่างสงสัย “คุณรู้ไหมว่าจ้าวเรดาร์ทำอะไรอยู่ ทำไมเขาถึงไม่มาเสนอหน้าตั้งนานแล้ว?”


“ดูเหมือนว่าเขาจะไปทำงานเกี่ยวกับการวางเครือข่ายใยแก้วของอารยะธรรมพาลอสนะ ตั้งแต่เจ้าแห่งกองทัพของพันธมิตรแห่งจักรวาล ได้แบ่งแยกอาณานิคมดวงดาวดั้งเดิมของอารยะธรรมพาลอสออกเป็นอาณานิคมดวงดาวภายใต้การควบคุมของมนุษยชาติ”


“ตอนนี้ภูมิภาคนั้นได้กลายเป็นภูมิภาคที่ตายแล้ว มีคนพูดว่าแม้แต่ดวงดาวทั้งหลายก็พากันผุพัง เนื่องจากอารยะธรรมที่ก้าวหน้าพวกนั้น ฉันไม่รู้ว่าอารยะธรรมพาลอสใช้วิธีไหนที่ทำให้พลังงานในอวกาศแห่งนั้นหมดเกลี้ยง แต่มันเป็นผลดีที่ทำลายภูมิภาคที่ปราศจากพายุอวกาศแห่งนั้นไป”


อู๋ฮ่าวเหรินไม่คาดคิดว่าจะได้รับทราบข้อมูลเช่นนี้ ซึ่งมันมีอะไรที่ต้องทำกับอารยะธรรมพาลอส


ทุกวันนี้ หลิงเหมิงเสวี่ย อาการดีขึ้นมาแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ


ถ้ามันมีผลกระทบจริงๆ โดยหลิงหยิ่งที่หายตัวไป อู๋ฮ่าวเหรินกังวลว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีกครั้ง


หลังจากที่กลับมาจากกลุ่มซองแดง อู๋ฮ่าวเหรินถามจี้ว่า “หลิวเหมิงเสี่ยอยู่ที่ไหน มีอะไรผิดปกติหรือไม่?”


“ไม่นะครับ ไม่พบปัญหาอะไรในตอนนี้ ยกเว้นการฟื้นฟูทางด้านจิตใจ”


อู๋ฮ่าวเหรินถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ถ้าเธอจำอะไรเกี่ยวกับหลิงหยิ่งได้ นั่นคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด


แน่นอนว่าอู๋ฮ่าวเหรินก็ยังคงมีทางเลือกอื่น เพื่อขจัดความอันตรายนี้ที่อาจจะฆ่าคนได้


ยิ่งไปกว่านั้น การพัฒนาขอบเขตไปอย่างรวดเร็วถึงแม้ว่าข่าวนี้จะเกิดขึ้นเขาก็ไม่ต้องกังวลกับมันอีกต่อไป


...


เมื่อมาถึงบริษัทในวันต่อมา อู๋ฮ่าวเหรินเข้าไปที่ห้องทดลองและได้นำรถความเร็วสูงออกมา


เป็นเพราะการออกแบบของเขามันจึงดูเท่กว่ารถทั่วไป แต่มันก็ยังไม่เทียบได้กับรถสปอร์ต


แน่นอนว่า ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือไม่มีเบาะสำหรับคนขับบนรถคันนี้ มีเพียงโซฟาสองแถวที่ดูหรูหราและสะดวกสบายอยู่ภายในนั้น และมีฟังก์ชั่นที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงซ่อนอยู่มากมาย


บนหลังคารถคือสมองแสงซึ่งด้อยกว่าจี้ ใช้เพื่อควบคุมรถ ถ้านำรถคันนี้ออกไปวิ่งข้างนอกโดยไม่มองถึงการตกแต่งภายใน คนอื่นก็จะคิดแค่ว่ามันเป็นรถธรรมดาๆ คันหนึ่ง


อย่างไรก็ตามถ้ายานพาหนะคันนี้เปลี่ยนเป็นโหมดบินได้ มันต้องเท่อย่างแน่นอน เมื่อชั้นของเกราะอำพรางตัวหายไปมันจะแสดงรูปลักษณ์ที่เจ๋ง ด้วยการออกแบบที่ไร้ขอบเขต


มันไม่ได้ใช้เทคโนโลยีแรงโน้มถ่วง แต่มันเป็นเทคโนโลยีการลอยตัว เทคโนโลยีนี้ทำให้รถบินได้ลอยตัวอยู่กลางอากาศโดยใช้พลังงานน้อย ความเร็วสูงสุดของรถบินได้คันนี้แน่นอนว่าเหนือกว่าเครื่องบินขับไล่ทั้งหลาย ยิ่งไปกว่านี้เทคโนโลยีการผลิตแบบพิเศษทำให้รู้สึกได้ว่าไม่นำปัญหาใดๆ มาให้ด้วยความเร็วสูงนั้น


ยังไงซะอู๋ฮ่าวเหริน ทำได้แค่ชมรถบินได้อยู่ภายในห้องทดลอง ถ้ามีดาวเทียมจับภาพได้หรือมีใครเห็นเข้า รถคันนี้ก็คงจะถูกเข้าใจว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว


เมื่อนั่งอยู่บนรถบินได้ขณะที่อยู่ในโหมดรถยนต์ อู๋ฮ่าวเหรินทำตามที่ได้รับคำแนะนำมา โดยการเปิดใช้สมองแสงและทำการตรวจสอบตัวตน


“ยืนยัน นายจะต้องเรียกระบบพรางตัวออกมาก่อน”


“ครับ นายน้อย​  เงา​ (ชื่อสมองแสงอันใหม่)​พร้อมให้บริการแล้วครับ”


“เรียกว่าท่านสิ ไม่ใช่นายน้อย จี้ ป้อนข้อมูลแผนที่ลงไป แล้วเอารถคันนี้ไปทดสอบพลังกันดีกว่า”


“ผมป้อนข้อมูลไว้เรียบร้อยแล้วครับ ผมเพิ่งจะวิเคราะห์แกนอัจฉริยะของเงาแต่ไม่สามารถอัพเกรดได้ครับ”


เห็นได้ชัดว่า สมองแสงนี้ มีภูมิปัญญาที่ใช้เพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มากกว่าการใช้พลังในการพรางตัว ยิ่งไปกว่านั้น มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปในด้านความอัจฉริยะและความอัจฉริยะนั้นได้ถูกพัฒนา


แต่รถบินได้แบบนี้มีสมองแสง ซึ่งมันค่อนข้างที่จะยืดหยุ่นได้ซึ่งแตกต่างจากความรู้สึกของภูมิปัญญาอย่างสิ้นเชิง


อู๋ฮ่าวเหรินรู้ดีว่าเขาเองนั้นได้ติดต่อกับภูมิปัญญามากมาย และมีคุณสมบัติสูงสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้ ถ้ามีคนในแผนกคอมพิวเตอร์ได้เห็นเงา​ พวกเขาก็คงจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ


ปัญญาประดิษฐ์ที่พวกเขากำลังศึกษานั้นไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับเงา ข้อมูลทั้งหมดของหมายเลข 0 มาจากการค้นในเครือข่ายและไม่มีความสามารถในการตัดสินเฉพาะตัวของปัญญาประดิษฐ์


สำหรับของบางอย่าง ปัญญาประดิษฐ์อย่างเช่น จี้และเงาจะทำการตัดสินใจเลือกเช่นเดียวกับมนุษย์ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็จะเรียนรู้ที่จะปรับปรุงความสามารถของพวกเขา


แน่นอนว่าทิศทางการพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ซึ่งถูกจำกัดไว้ ภายใต้การควบคุมของเงา รถก็เคลื่อนไปอย่างช้าๆ สู่โลกภายนอกห้องทดลองนั้น


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น